มอง-น้ำโขง

กระทู้สนทนา
"มอง-น้ำโขง"
โดย รางรถไฟ

หลังสงกรานต์มีพิธีแห่ขอขมากราบไหว้เทพเจ้ากันคึกคัก แต่ก็ไม่พบเจอพวกเขาที่ท่าน้ำ พาเอาผู้คนที่แห่แหนกันมาผิดหวังกันอีกปี  
“น้ำแบบนี้พวกเขาจะมาไหมลุง” จ้อยหนุ่มรุ่นกระทงเอ่ยถามเฒ่าสม
“มาสิ ว่าแต่เราจะได้พบเขาหรือเปล่าเท่านั้น” ผู้เฒ่ามวนใบยาแล้วจุดขึ้นสูบ ตาของชายวัยหกสิบแปดมองลงไปที่ผืนน้ำด้านหน้า เสียงน้ำยังหลากดัง กองหินในแม่น้ำเป็นมันวาวสะท้อนแสงจันทร์มันทั้งสวยและดูลึกลับ

“เขาว่าเขื่อนที่เมืองจีนสร้างขึ้น มันทำให้พวกเขาหายไป”
“ไม่ใช่แต่สิ่งก่อสร้างใหญ่ ๆ หรอกจ้อย แค่เรือ ผู้คน ฝน ฟ้า แม้แต่คนหาปลาอย่างเราก็ทำให้พวกเขาหายไป”
“ฝั่งโน้นมีข่าวว่าจับได้ตัวโตเมื่อวันพระที่แล้วนะลุง”
“เอ็งเห็นกับตาไหมล่ะ” เฒ่าสมถามกลับยิ้ม ๆ
“ลุงว่าเขาโกหกกันเหรอ” จ้อยขยับไส้ตะเกียงให้โชนแสงมากขึ้น
“บางทีเรื่องแบบนี้ มันก็ชูใจผู้คนทั้งสองฟากฝั่งนั่นแหละ ถ้าเราเชื่อเราก็จะได้พบเจอสิ่งนั้น”

เด็กหนุ่มคิดว่าข่าวแบบนี้ลองสืบหาความจริงมันไม่ยากเลย ถ้ามันลองเกิดขึ้นในชุมชนที่นี่ เพราะนั่นมันยิ่งกว่าข่าวดี ข่าวมงคลของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำเสียอีก แต่มันเกิดทางฝั่งโน้น เรื่องเหนือจริง เรื่องโคมลอยก็ป่วยการที่จะสืบหาความจริงได้
คนสองวัยนั่งมองทุ่นข่ายสีสะท้อนแสงที่ไหวต้านสายน้ำอยู่พักใหญ่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะชวนคุยต่อ
“เทศบาลมาสอบถามชาวบ้านเรื่องจะสร้างรูปปั้นให้ผู้คนต่างถิ่นมาเที่ยวชม”
เฒ่าสมหัวเราะในลำคอ



“ข้าว่ามันยังอีกไกล กว่าจะมีใครยอมรับให้สร้างรูปปั้นพวกเขาขึ้นที่บ้านเรา ข้าไม่เห็นด้วยหรอก อย่างน้อยก็ให้ข้าตายไปเสียก่อน”
เด็กหนุ่มคิดตามคำที่ผู้เฒ่าว่า ลุงเขาไม่เคยคล้อยตามอะไรกับใครง่ายๆ ลุงสมหรือเฒ่าสมเป็นตัวของตัวเองมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม
“ลุง นอกจากมองแล้ว ลุงว่าจะใช้อะไรจับพวกเขาได้อีก”
“ชีวิตไงล่ะ ลำพังการไปวางมองในวังน้ำที่ไม่คุ้นเคย เท่ากับการเดิมพันด้วยชีวิต”

“เอ็งจำครั้งแรกที่ข้าพาเอ็งลงไปได้ไหม”
เด็กหนุ่มพยักหน้า ภาพในน้ำที่ดำลงไปวางมองกับลุง แม้จะเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่ก็รับรู้ว่าวังน้ำลึกลับเพียงไหน ไมว่าจะในถ้าหินก้อนใหญ่ใต้น้ำ สายน้ำหลากทิศที่เลาะผ่านช่องหินมาปะทะตัว คุ้นชินเพียงใดก็ยังคงความลึกลับไม่เคยเปลี่ยน
ภาพแห่งความตื่นเต้นมากที่สุด เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่เห็นลุงจับปลาหนังที่มีขนาดใหญ่เท่าวัวหนุ่มได้

“แล้วลุงเคยไปวางมองที่อื่นไหม นอกจากที่นี่”
“ครั้งเดียว ตอนข้าอายุเท่าเอง ข้าไปฝั่งโน้น พี่น้องฝั่งโน้นคนทางโน้นรู้จักกันดี วังที่โน่น กว้างและลึกกว่าที่นี่มากนัก ข้าจับได้แต่ข้าเอาขึ้นน้ำไม่ได้ มองใหญ่ขาดกระจุยหมด”

“แล้วไงลุง” จ้อยซักต่อ
“ตัวยาวใหญ่ เกล็ดสีเขียวสะท้อนแสงโดดขึ้นผิวน้ำ คนเรือทางโน้นเห็นกันหลายลำ”
จ้อยอ้าปากค้าง กับเรื่องราวที่ลุงไม่เคยเล่าให้ฟังมาก่อน
“ข้ากลัวมาก เหมือนข้าจะต้องแลกชีวิตไว้ตรงนั้น แต่ก็ยังโชคดี”
เฒ่าสมเปิดกระป๋องยาเส้น บรรจงมวนยาสูบ เสียงปลาโจนน้ำดังเป็นระยะเมื่อเข้าเช้าวันใหม่

ปล. พูดคุย ติชมกันได้เช่นเคยครับ

ภาพจาก board.palungjit.org638
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่