พระอาจารย์พุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
...
แผนการแห่งละความชั่วแห่งความหมายแห่งภาษิตว่า "สพฺพปาปสฺส อกรณํ"
การไม่กระทำบาปทั้งปวง เบื้องต้นหมายถึง "ศีล ๕"
ถ้าใครสงสัยว่าจะละบาป ละกันที่ตรงไหน ละตามศีล ๕ นั้นเอง
"ไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน ไม่ข่มเหง ไม่รังแก ไม่อิจฉาพยาบาท"
นี่คือ แผนการแห่งการละความชั่ว
ส่วนกิเลสที่มีอยู่ในจิตในใจ..ไม่ต้องกังวล ป้องกันเพียงแค่ว่า
เราไม่ยอมทำตามอำนาจและคำสั่งของกิเลสเท่านั้น
เมื่อเรามีความมั่นใจในการที่จะประพฤติปฏิบัติอย่างนี้
บาปกรรมที่เรามีอยู่ก่อน มันก็ยุติลงเพียงแค่นั้น ผลเพิ่มไม่มี
เมื่อเรามีเจตนางดเว้นจากความชั่วตามกฏเกณฑ์แห่งศีล ๕
จนคล่องตัว จนชำนิชำนาญ "เจตนาที่จะทำบาปกรรม" ของเราย่อมไม่มี
เพราะศีลมันจะกลายเป็นตัว "ปุญญาภิสังขาร" คอยปรุงแต่งจิตของเรา
ให้มี "เจตนาดี" มีจิตใจเมตตาปราณี มีจิตใจซื่อสัตย์สุจริต
มีความรักอันมั่นคงโดยปราศจากกิเลสราคะ มีความซื่อสัตย์
ตรงไปตรงมาต่อหน้าที่ กลายเป็น "ธมฺมกาโม - ผู้ใคร่ในธรรม"
การละบาป...ละตามศีล ๕ นั้นเอง : หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
พระอาจารย์พุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
...
แผนการแห่งละความชั่วแห่งความหมายแห่งภาษิตว่า "สพฺพปาปสฺส อกรณํ"
การไม่กระทำบาปทั้งปวง เบื้องต้นหมายถึง "ศีล ๕"
ถ้าใครสงสัยว่าจะละบาป ละกันที่ตรงไหน ละตามศีล ๕ นั้นเอง
"ไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน ไม่ข่มเหง ไม่รังแก ไม่อิจฉาพยาบาท"
นี่คือ แผนการแห่งการละความชั่ว
ส่วนกิเลสที่มีอยู่ในจิตในใจ..ไม่ต้องกังวล ป้องกันเพียงแค่ว่า
เราไม่ยอมทำตามอำนาจและคำสั่งของกิเลสเท่านั้น
เมื่อเรามีความมั่นใจในการที่จะประพฤติปฏิบัติอย่างนี้
บาปกรรมที่เรามีอยู่ก่อน มันก็ยุติลงเพียงแค่นั้น ผลเพิ่มไม่มี
เมื่อเรามีเจตนางดเว้นจากความชั่วตามกฏเกณฑ์แห่งศีล ๕
จนคล่องตัว จนชำนิชำนาญ "เจตนาที่จะทำบาปกรรม" ของเราย่อมไม่มี
เพราะศีลมันจะกลายเป็นตัว "ปุญญาภิสังขาร" คอยปรุงแต่งจิตของเรา
ให้มี "เจตนาดี" มีจิตใจเมตตาปราณี มีจิตใจซื่อสัตย์สุจริต
มีความรักอันมั่นคงโดยปราศจากกิเลสราคะ มีความซื่อสัตย์
ตรงไปตรงมาต่อหน้าที่ กลายเป็น "ธมฺมกาโม - ผู้ใคร่ในธรรม"