อยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่อยากลดน้ำหนักค่ะ เห็นส่วนใหญ่มีแต่กระทู้แนะนำว่าต้องออกกำลังกาย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากกกกกกก
ขอเกริ่นก่อนนะคะ
เราอายุ 23 เดิมน้ำหนัก 66 สูง 168 ถือว่าสมส่วนนะคะ น้ำหนักนี้คือเมื่อ 1 ปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบมหาลัย ช่วงเวลามหาลัย 1-4 ปี ทำให้น้ำหนักเราขึ้นมา 10 โล จาก 55
เรียนจบเราก็ได้งานทำเลยค่ะ ปกติเราเป็นคนติดกินขนมมาก หลังมื้ออาหารจะต้องมีขนมตบท้าย ไม่ว่าจะเป็นขนมถุงตามเซเว่น เค้ก และตกกลางคืนจะต้องไปนั่งร้านนมกับเพื่อนๆ แทบทุกวัน (เด็กม.บูรพา จะทราบกันดีค่ะ ร้านนมเต็มรอบมหาลัยไปหมด) น้ำหนักเราคงที่อยู่ที่ 64-65 ไม่เกินนี้ในช่วงเรียนมหาลัย จนเข้าทำงานก็นิสัยเดิมค่ะ ต้องมีขนมติดไว้ในลิ้นชัก และทานขนมตลอดในช่วงบ่าย พี่ที่ทำงานทุกคนจะทราบดี ใครหิวๆ ลงมาโต๊ะเรามีขนมให้ทานตลอด และจะติดทานนมเย็นเป็นถุงๆ ที่เป็นถุงกระดาษเก็บความเย็นที่ทานได้นานๆ ติดมาก ทานทุกวันหลังทานข้าว ชาเชียวนมบ้าง นมเย็นบ้าง ไมโลบ้าง ทุกวันค่ะ และที่สำคัญสั่งแบบหวานๆ ด้วย จนกระทั่งน้ำหนักเราขึ้นมาเป็น 66 ที่ผ่านมาไม่เคยเกิน 65 นะ จาก 55 ตอนปี 1 ขึ้นมา 10 โล นี่สุดๆจริงๆ
ถามว่าเครียดไหม เราไม่เครียดนะคะ เสื้อผ้าที่ใส่อึดอัดไหม ก็ซื้อใหม่ค่ะ จากปี 1 ใส่เกงเกงเอว 25 ตอนนี้ 30 แล้วค่ะ ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะเราสูง พี่ๆที่ทำงานก็บอกไม่อ้วนหรอก เพราะเขาเจอเราครั้งแรกก็หนักเท่านั้นแล้ว แต่ที่ตกใจจะเป็นเพื่อนที่มหาลัยโดนเฉพาะเพื่อนตอนปี 1 ค่ะ
จุดเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือ แฟนเรา เรากับแฟนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ ปี 2 อยู่หอเดียวกันค่ะ (พ่อแม่รับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย) อ้วนมาด้วยกัน ขึ้นกันมาคนละ 10 โล ด้วยความที่อยู่ด้วยกันทุกวัน และตัวเขาเองก็อ้วนเช่นกัน พอเขาว่าเรา เราก็ว่าเขากลับค่ะ 555 เราบอกเขาว่า "แกไม่มีสิทธิ์ว่าเค้าอ้วน ถ้าตราบใดที่แกยังไม่ผอม" ก็จบแค่นั้น เท่าเทียมทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
จนวันนึงแฟนบอกเราว่า "พุงเราน่าเกลียด" และเราก็พูดกับเค้าคำเดิม "แกไม่มีสิทธิ์ว่าเค้าอ้วน ถ้าตราบใดที่แกยังไม่ผอม" และเขาก็บอกว่า "เห็นแล้วหมดอารมณ์" บอกตามตรงเรากลัวแฟนนอกใจ เลยตัดสินใจ จะเริ่มออกกำลังกาย แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ ไม่มีเวลา เลิกงาน 5 โมงครึ่ง งานก็เยอะ กว่าจะกลับบ้านก็ ทุ่ม - 2 ทุ่ม กินข้าวดึกอีก แล้วก็นอน
สรุปเราไม่มีเวลาออกกำลังกายเลยค่ะ เราจึงเลิกทานขนมตอนอยู่ที่ทำงาน และนมเย็นด้วย แรกๆ ยากมากค่ะ เราเลยหาขนมที่ทานแล้วไม่อ้วนใส่ติดลิ้นชักไว้ เป็นพวกถั่วพิชตาชิโอ้ (เดิมเราชอบทานมากๆอยู่แล้ว แต่ติดที่ราคามันสูง)
ตลอดระยะเวลาประมาณ 8 เดือน ที่เราเลิกทานขนมระหว่างวัน เลิกทานนมเย็น และทานโยเกิร์ตก่อนทานข้าวเย็น ทำให้ทานข้าวเย็นได้น้อยลง บางทีไม่หิวก็ไม่ทานข้าวค่ะ มื้อเช้าเราไม่ได้ทานข้าว (ไม่มีเวลาค่ะ เราตื่นสาย) แต่เราจะทานนมไวตามิ้ว 1 ขวดที่ทำงาน และซื้อเก็บไว้ในลิ้นชักทุกวัน ทานช่วงบ่ายๆ ด้วย อีก 1 ขวดถ้าหิว
รู้ตัวอีกทีตอนนี้น้ำหนักเราเหลือ 58 แล้วค่ะ แค่เลิกทานขนมและนมถุง แถมประหยัดเงินได้เยอะมาก เราทานขนมประมาณวันละ 50 นมถุง 25 เป็น 75 บาท/วัน มีเงินเก็บเพิ่มประมาณ 2,000 บาท/เดือนเลยค่ะ
ตอนนี้เราพยายามใช้เงินให้ไม่เกินวันละ 100 บาท หยิบไปวันละ 100 เหลือเท่าไหร่เก็บใส่กล่องไว้ วันใหม่ก็หยิบไปใหม่ 100 เราทำมาได้ 1 เดือน มีเงินเหลือเป็นพันเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะ ยาวมากกกก
แค่เลิกกินขนม รู้ตัวอีกทีก็ลดไป 8 โล แถมมีเงินเก็บอีกเดือนละ 2,000 บาท
ขอเกริ่นก่อนนะคะ
เราอายุ 23 เดิมน้ำหนัก 66 สูง 168 ถือว่าสมส่วนนะคะ น้ำหนักนี้คือเมื่อ 1 ปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบมหาลัย ช่วงเวลามหาลัย 1-4 ปี ทำให้น้ำหนักเราขึ้นมา 10 โล จาก 55
เรียนจบเราก็ได้งานทำเลยค่ะ ปกติเราเป็นคนติดกินขนมมาก หลังมื้ออาหารจะต้องมีขนมตบท้าย ไม่ว่าจะเป็นขนมถุงตามเซเว่น เค้ก และตกกลางคืนจะต้องไปนั่งร้านนมกับเพื่อนๆ แทบทุกวัน (เด็กม.บูรพา จะทราบกันดีค่ะ ร้านนมเต็มรอบมหาลัยไปหมด) น้ำหนักเราคงที่อยู่ที่ 64-65 ไม่เกินนี้ในช่วงเรียนมหาลัย จนเข้าทำงานก็นิสัยเดิมค่ะ ต้องมีขนมติดไว้ในลิ้นชัก และทานขนมตลอดในช่วงบ่าย พี่ที่ทำงานทุกคนจะทราบดี ใครหิวๆ ลงมาโต๊ะเรามีขนมให้ทานตลอด และจะติดทานนมเย็นเป็นถุงๆ ที่เป็นถุงกระดาษเก็บความเย็นที่ทานได้นานๆ ติดมาก ทานทุกวันหลังทานข้าว ชาเชียวนมบ้าง นมเย็นบ้าง ไมโลบ้าง ทุกวันค่ะ และที่สำคัญสั่งแบบหวานๆ ด้วย จนกระทั่งน้ำหนักเราขึ้นมาเป็น 66 ที่ผ่านมาไม่เคยเกิน 65 นะ จาก 55 ตอนปี 1 ขึ้นมา 10 โล นี่สุดๆจริงๆ
ถามว่าเครียดไหม เราไม่เครียดนะคะ เสื้อผ้าที่ใส่อึดอัดไหม ก็ซื้อใหม่ค่ะ จากปี 1 ใส่เกงเกงเอว 25 ตอนนี้ 30 แล้วค่ะ ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะเราสูง พี่ๆที่ทำงานก็บอกไม่อ้วนหรอก เพราะเขาเจอเราครั้งแรกก็หนักเท่านั้นแล้ว แต่ที่ตกใจจะเป็นเพื่อนที่มหาลัยโดนเฉพาะเพื่อนตอนปี 1 ค่ะ
จุดเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือ แฟนเรา เรากับแฟนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ ปี 2 อยู่หอเดียวกันค่ะ (พ่อแม่รับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย) อ้วนมาด้วยกัน ขึ้นกันมาคนละ 10 โล ด้วยความที่อยู่ด้วยกันทุกวัน และตัวเขาเองก็อ้วนเช่นกัน พอเขาว่าเรา เราก็ว่าเขากลับค่ะ 555 เราบอกเขาว่า "แกไม่มีสิทธิ์ว่าเค้าอ้วน ถ้าตราบใดที่แกยังไม่ผอม" ก็จบแค่นั้น เท่าเทียมทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
จนวันนึงแฟนบอกเราว่า "พุงเราน่าเกลียด" และเราก็พูดกับเค้าคำเดิม "แกไม่มีสิทธิ์ว่าเค้าอ้วน ถ้าตราบใดที่แกยังไม่ผอม" และเขาก็บอกว่า "เห็นแล้วหมดอารมณ์" บอกตามตรงเรากลัวแฟนนอกใจ เลยตัดสินใจ จะเริ่มออกกำลังกาย แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ ไม่มีเวลา เลิกงาน 5 โมงครึ่ง งานก็เยอะ กว่าจะกลับบ้านก็ ทุ่ม - 2 ทุ่ม กินข้าวดึกอีก แล้วก็นอน
สรุปเราไม่มีเวลาออกกำลังกายเลยค่ะ เราจึงเลิกทานขนมตอนอยู่ที่ทำงาน และนมเย็นด้วย แรกๆ ยากมากค่ะ เราเลยหาขนมที่ทานแล้วไม่อ้วนใส่ติดลิ้นชักไว้ เป็นพวกถั่วพิชตาชิโอ้ (เดิมเราชอบทานมากๆอยู่แล้ว แต่ติดที่ราคามันสูง)
ตลอดระยะเวลาประมาณ 8 เดือน ที่เราเลิกทานขนมระหว่างวัน เลิกทานนมเย็น และทานโยเกิร์ตก่อนทานข้าวเย็น ทำให้ทานข้าวเย็นได้น้อยลง บางทีไม่หิวก็ไม่ทานข้าวค่ะ มื้อเช้าเราไม่ได้ทานข้าว (ไม่มีเวลาค่ะ เราตื่นสาย) แต่เราจะทานนมไวตามิ้ว 1 ขวดที่ทำงาน และซื้อเก็บไว้ในลิ้นชักทุกวัน ทานช่วงบ่ายๆ ด้วย อีก 1 ขวดถ้าหิว
รู้ตัวอีกทีตอนนี้น้ำหนักเราเหลือ 58 แล้วค่ะ แค่เลิกทานขนมและนมถุง แถมประหยัดเงินได้เยอะมาก เราทานขนมประมาณวันละ 50 นมถุง 25 เป็น 75 บาท/วัน มีเงินเก็บเพิ่มประมาณ 2,000 บาท/เดือนเลยค่ะ
ตอนนี้เราพยายามใช้เงินให้ไม่เกินวันละ 100 บาท หยิบไปวันละ 100 เหลือเท่าไหร่เก็บใส่กล่องไว้ วันใหม่ก็หยิบไปใหม่ 100 เราทำมาได้ 1 เดือน มีเงินเหลือเป็นพันเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะ ยาวมากกกก