บทที่ ๗๘ เกลาจิต
หลายท่านเมื่อรู้เส้นทางการพ้นทุกข์ โดยใช้อริยะสัจ ๔ เป็นอาวุธตัดผ่าทุกข์จากทางอารมณ์ความยึดมั่นถือมั่นมานาน
และฝึกการเข้าสมาบัติในการตัดความรู้สึก ทางกาย และ ใจ ชึ่งเป็นเส้นทางการปฏิบัติตามสายพระพุทธองค์
ว่าพ้นทุกข์ได้จริง ตอนนี้แม้ท่านจะยังไม่พ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง อาจจะเจอแล้ววันสองวันตามทันแล้ววางลงได้นั้น
หรือบางท่านอาจเห็นทุกข์แล้วเกิดการท้อแท้ใจ ทุกข์หรือกิเลสชึ่งเกิดและอยู่กับเรามานาน
เราไม่เคยเห็นตัวทุกข์จริงๆ เปรียบเช่นสีดำคือเราเป็นส่วนหนึ่งของทุกข์นั้น
มาวันนี้ท่านจะเริ่มเห็นสีดำเริ่มถูกขัดออก ก็จะเห็นจุดดำในสีขาวอาจจะเด่นชัดมาก
แล้วท่านอาจเกิดท้อแท้ใจจงภูมิใจเถิด สักวันจุดดำเหล่านั้นก็จะหายไปเป็นสีขาวเต็มตัว
ใคร โกรธ เกลียด อิจฉา ริษยา นินทา ว่าร้าย ฯลฯ
นั่นคือตำราอ่านใจตัวเรา ถ้าเราถอยกลับไปเป็นเช่นคนเหล่านั้น
เรานี่แหละคือผู้แพ้ ไม่ว่าจะมีเรื่องใด ขอเอาอริยะสัจเข้าตีที่ใจ จนเข้าใจแล้ววางเสีย
เท่านี้ท่านก็มีใจที่สงบสุขแล้วครับ เขาเป็นครูแต่เราอย่าเป็นเช่นเขาเท่านั้นพอ
ดูพระพุทธองค์เป็นแบบอย่าง แม้พระเทวทัติคอยอาฆาตตลอดเวลา ท่านก็มีแต่เพิกเฉย
แต่ไม่ได้เพิกเฉยการ แค่ในการกระทำ แต่เฉยทั้งใจและกาย เข้าใจว่าเมื่อเกิดทุกข์ทุกข์นั้นย่อมดับเอง
คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีเกิดมีดับเป็นธรรมดา เป็นไปตามกฏของโลก การจะพ้นทุกข์คือเอาจิตวิญญานเรา
ให้หลุดจากทุกข์นี้เสีย นั้นถือว่าผู้ประเสริฐ
แล้วท่านจะเห็นความสงบที่แท้จริง
เมื่อจิตท่านขาวสะอาดไม่มีแม้จุดดำๆ
ขาวทั้งผืนจิต ครับ สาธุ สาธุ สาธุ
เกลาจิต (อ.พรหมพิริยะ)
หลายท่านเมื่อรู้เส้นทางการพ้นทุกข์ โดยใช้อริยะสัจ ๔ เป็นอาวุธตัดผ่าทุกข์จากทางอารมณ์ความยึดมั่นถือมั่นมานาน
และฝึกการเข้าสมาบัติในการตัดความรู้สึก ทางกาย และ ใจ ชึ่งเป็นเส้นทางการปฏิบัติตามสายพระพุทธองค์
ว่าพ้นทุกข์ได้จริง ตอนนี้แม้ท่านจะยังไม่พ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง อาจจะเจอแล้ววันสองวันตามทันแล้ววางลงได้นั้น
หรือบางท่านอาจเห็นทุกข์แล้วเกิดการท้อแท้ใจ ทุกข์หรือกิเลสชึ่งเกิดและอยู่กับเรามานาน
เราไม่เคยเห็นตัวทุกข์จริงๆ เปรียบเช่นสีดำคือเราเป็นส่วนหนึ่งของทุกข์นั้น
มาวันนี้ท่านจะเริ่มเห็นสีดำเริ่มถูกขัดออก ก็จะเห็นจุดดำในสีขาวอาจจะเด่นชัดมาก
แล้วท่านอาจเกิดท้อแท้ใจจงภูมิใจเถิด สักวันจุดดำเหล่านั้นก็จะหายไปเป็นสีขาวเต็มตัว
ใคร โกรธ เกลียด อิจฉา ริษยา นินทา ว่าร้าย ฯลฯ
นั่นคือตำราอ่านใจตัวเรา ถ้าเราถอยกลับไปเป็นเช่นคนเหล่านั้น
เรานี่แหละคือผู้แพ้ ไม่ว่าจะมีเรื่องใด ขอเอาอริยะสัจเข้าตีที่ใจ จนเข้าใจแล้ววางเสีย
เท่านี้ท่านก็มีใจที่สงบสุขแล้วครับ เขาเป็นครูแต่เราอย่าเป็นเช่นเขาเท่านั้นพอ
ดูพระพุทธองค์เป็นแบบอย่าง แม้พระเทวทัติคอยอาฆาตตลอดเวลา ท่านก็มีแต่เพิกเฉย
แต่ไม่ได้เพิกเฉยการ แค่ในการกระทำ แต่เฉยทั้งใจและกาย เข้าใจว่าเมื่อเกิดทุกข์ทุกข์นั้นย่อมดับเอง
คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีเกิดมีดับเป็นธรรมดา เป็นไปตามกฏของโลก การจะพ้นทุกข์คือเอาจิตวิญญานเรา
ให้หลุดจากทุกข์นี้เสีย นั้นถือว่าผู้ประเสริฐ
แล้วท่านจะเห็นความสงบที่แท้จริง
เมื่อจิตท่านขาวสะอาดไม่มีแม้จุดดำๆ
ขาวทั้งผืนจิต ครับ สาธุ สาธุ สาธุ