- เป็นเรื่องย้อนอดีตไปช่วงปี1980-1989 ดูจากที่วูฟใส่ชุดเหลืองน้ำตาลเปิดแขน รองเท้าสองแฉก คาดเข็มขัดแดงแปร๊ด
- เรื่องนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นก่อนอีเวนต์ออนสล็อต ก่อนที่วูฟจะโดนแม็กดึงอดามันเทียมออกจากกระดูก ก่อนที่ชาร์ลจะหน้ามืดเขียนxavier protocolขึ้นมา ไม่งั้นต่อให้เป็นวูฟก็คงไม่กล้าให้ชาร์ลเข้าไปเดินเล่นในหัวแน่ๆ
- นาธาเนียล เอสเซ็กส์ = มร.ซินิสเตอร์ นักวิทย์ที่ชอบทดลองอะไรก็ไม่รู้กับมิวแทนต์
และชอบเจือกเหลือเกินว่าใครควรจะมีลูกกับใคร ชาร์ลกับไซคลอปส์โดนกันไปคนละทีแล้ว ต่อไปจะทดลองกับแกมบิทด้วย
ตอนที่1
http://ppantip.com/topic/34052043
ตอนที่2
http://ppantip.com/topic/34059646
____________________________________
วูฟเวอรีน: ดูเหมือนว่าฮีโร่สมัยนี้จะมีคำติดปากกันทุกคน
เพื่อเป็นสิ่งที่จะบอกให้โลกรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่เหมาะกับงานนี้ที่สุด
อย่างของฉันก็
"ฉันทำสิ่งที่ฉันชำนาญได้ดีที่สุด"
เท่าที่จำได้ฉันใช้คำติดปากนั่นมานานแล้ว
(ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก)
แต่หลังจากที่เซเวียร์ช่วยขุดความทรงจำที่หายไปพวกนั้นกลับมาให้
และเริ่มจำได้ว่าสิ่งที่ฉันชำนาญคืออะไร
ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่าควรจะภูมิใจดีหรือเปล่าที่นั่นเป็นสิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุด
แต่ฉันจะยังไม่เปลี่ยนสโลแกนใหม่....
วูฟเวอรีน:... จนกว่าจะได้รู้ความจริงทั้งหมด
ชาร์ล: ซ้อมเสร็จหรือยัง วูฟเวอรีน
วูฟเวอรีน: เออ เรียบร้อยแล้ว แล้วนายล่ะพร้อมหรือยัง?
ชาร์ล: ก็ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ หลังจากที่เราเข้าไปในจิตของคุณครั้งล่าสุดผมคงต้องเตรียมการป้องกันไว้บ้าง
เพราะความโกรธแค้นในจิตของคุณมันรุนแรงเหลือเกิน
ผมเกรงว่าถ้าเราจะเจาะให้ลึกลงไปอีกอาจเป็นอันตรายกับจิตของเราทั้งสองคนได้
วูฟเวอรีน: จิตฉันมันคงไม่เละไปกว่านี้แล้วล่ะน่า ชัค
ชาร์ล: ผมรู้แล้ว และเพราะอย่างนั้นแหละผมถึงจำเป็นต้องสร้างเครื่องป้องกันขึ้นมา
นี่คือเซเรโบรเวอร์ชั่นใหม่ที่ผมพัฒนาขึ้นเอง
มันถูกออกแบบมาเพื่อรวมพลังจิตของผม เพื่อใช้สำหรับงานยากๆ
และเพื่อสร้างเกราะป้องกันทางจิตสำหรับป้องกันจิตของผมจาก...
วูฟเวอรีน: ฉันงั้นหรือ เอาเถอะ ฉันไม่โทษนายหรอก
รีบใส่แล้วก็เข้าไปได้แล้ว ฉันกับนายต้องไปสร้างประวัติศาสตร์ใหม่กันซะหน่อย
ชาร์ล: ผมเกรงว่าในท่อนสุดท้าของการเดินทางนี้ผมคงตามเข้าไปพร้อมกับคุณไม่ได้
วูฟเวอรีน: ว่าไงนะ
ชาร์ล: เครื่องมือนี้เพิ่งอยู่ในขั้นแรกๆของการพัฒนา มันยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง
เกราะพลังจิตที่มันสร้างขึ้นแข็งแกร่งเกินไป จึงไม่ใช่แค่ป้องกันไม่ให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าของคุณครอบงำผมเท่านั้น
แต่มันยังป้องกันไม่ให้ผมเข้าไปในจิตของคุณอย่างเต็มที่ด้วย น่าเสียดายจริงๆ
ถึงคราวนี้ร่างจิตของผมจะตามคุณเข้าไปไม่ได้
แต่ผมยังสามารถเปิดประตูให้คุณและชี้ทางให้คุณไปยังทางที่ถูกต้องได้
คุณต้องแกะรอยตามไปและระวังตัวให้ดี
ชาร์ล: เพราะคราวนี้คุณต้องต่อสู้กับปิศาจในจิตใจของตัวเองด้วยตัวคนเดียวแล้วล่ะ
วูฟเวอรีน: ชัคทำหน้าที่ของตัวเองไปแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของฉันล่ะนะ
ถ้าฉันจะเรียนรู้อะไรบางอย่างล่ะก็ต้องเรียนรู้จากที่นี่เท่านั้น
ฐานของโครงการweapon x
หลังจากที่พวกมันทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าจะกลับมาเหยียบที่นี่อีก
ที่นี่เป็นที่ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ฉันเป็นหนูทดลอง
พวกมันใช้โลหะเคลือบกระดูกฉัน
ฝึกฉันให้เป็นเครื่องจักรสังหาร
และพยายามล้างสมอง ลบความทรงจำของฉันทิ้งทั้งหมด
มีแต่เรื่องสุดท้ายที่พวกมันยังทำไม่สำเร็จ เพราะตอนนี้ฉันจำทุกอย่างได้แล้ว
และฉันก็มีคำถามอยู่คำถามหนึ่งที่มีแต่เจ้าพวกนั้นที่จะตอบได้
วูฟเวอรีน: ทำไมพวกแกถึงทำกับฉันแบบนี้
อะไรกันเนี่ย?
เฮ้อ ฉันน่าจะรู้ตัวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
ว่าเจ้าพวกนี้จะไม่ตอบอะไรกับฉัน เพราะฉันเองก็ไม่ได้มาเพื่อฟังสิ่งที่เจ้าพวกนี้จะพูดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
นี่เป็นแค่ภาพในความทรงจำของฉันเองที่สุ่มขึ้นมาแบบมั่วๆเท่านั้น ก็เหมือนกับเป็นแค่พร็อพประกอบฉากบนเวทีเท่านั้นแหละ
ถ้าเซเวียร์ดูอยู่ตอนนี้เจ้าหมอนั่นคงขำกลิ้งไปแล้ว
ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย
เบาะแสที่ฉันมีก็มีแต่สิ่งที่ได้เห็นได้ยินที่นี่จริงๆเท่านั้น
ถ้าฉันอยากรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างที่ฉันอยู่ในฐานของโครงการweapon xล่ะก็ฉันต้องตามหาคนที่สามารถโต้ตอบกับฉันได้จริงๆ
วูฟเวอรีน: หรือไม่ก็หวังว่าคนที่โต้ตอบกับฉันได้จริงๆจะเข้ามาหาฉันเองนั่นแหละ
รปภ.: weapon x หนีออกไปแล้ว
นี่เป็นเหตุฉุกเฉิน
ขอคำสั่งด้วย
อ้าก
วูฟเวอรีน: ไม่ว่าเจ้าพวกนี้จะเคยทำอะไรกับฉันไว้ สัญชาตญาณก็เกือบจะทำให้ฉันวิ่งเข้าไปช่วยเจ้าพวกบ้านั่นอยู่ดี
คงเป็นเพราะหลักการของx-menที่ว่า"จะต้องคุ้มครองโลกที่เกลียดและกลัวพวกเรา"เริ่มส่งผลกับฉันจริงๆแล้ว
แต่ถึงจะเป็นภาพความทรงจำที่ชัดเจนแค่ไหน ฉันก็ยังต้องบอกตัวเองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายจริงๆ
หรืออย่างน้อยก็คงไม่มีใครตายซ้ำอีกครั้งแล้วล่ะนะ
สิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องจริง
โลแกน:ฮื่ออออ
วูฟเวอรีน: ใช่ไหม?
โลแกน
ดม)
วูฟเวอรีน: มีปัญหาหรือไง ไอ้น้อง
ก็อย่างที่ทุกคนเคยบอกไว้
ว่าฉันเป็นคนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างยากขึ้นด้วยตัวฉันเอง
เออ รีบเข้ามาเลย จะได้จบๆซะที
วูฟเวอรีน: ศจ.บอกฉันมาตลอดว่าฉันเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของตัวเอง
ไม่นึกเลยว่าเจ้าหมอนั่นจะหมายความตามที่พูดจริงๆ
ให้ตายสิ บรรยากาศที่คุ้นเคยนี่มันอะไรกัน
เหมือนกันว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันสู้กับตัวเองแบบนี้
เรื่องทั้งหมดปะติดปะต่อกันได้พอดี
ว่าทำไมเจ้านี่ถึงมองเห็นฉันอยู่คนเดียว ทั้งที่คนอื่นมองไม่เห็น
ไอ้ตัวขนปุยนี่ไม่ใช่แค่เศษความทรงจำธรรมดาๆที่กระจายอยู่ในสมองของฉันและเล่นบทเดิมๆวนเวียนไปเรื่อยๆ
เจ้านี่เป็นมากกว่านั้น
เจ้านี่เป็นส่วนหนึ่งของตัวฉัน
เป็นส่วนที่ฉันพยายามเก็บกดไว้มาตลอด
พยายามสู้อยู่ทุกวันไม่ให้เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้หลุดออกไป
เป็นการต่อสู้ที่ฉันชนะมาตลอด
แต่คราวนี้ดูเหมือนฉันจะแพ้ซะแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปฉันคงจบสิ้น
วูฟเวอรีน: แต่การต่อสู้นี้อาจจะไม่มีผู้แพ้หรือผู้ชนะที่แท้จริงหรอก
มันเป็นไปไม่ได้
เพราะเจ้าหมอนี่กับฉันก็เหมือนกับด้ายในผ้าผืนเดียวกัน ต้องพัวพันกันตลอด
ถ้าไม่มีอีกฝ่ายหนึ่งเราก็อยู่ไม่ได้
เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
จนกว่าเราคนใดคนหนึ่งจะได้รางวัลของการต่อสู้นี้ไป
วูฟเวอรีน:นั่นก็คือการควบคุมร่าง
หลังจากที่ถูกขังไว้ในจิตใจของฉันนานหลายปี เจ้าหมอนี่ก็เป็นอิสระจนได้
เป็นสิ่งเดียวที่มันต้องการ
และฉันก็ต้องการเช่นกัน
ฉันต้องการรู้ความจริงเกี่ยวกับอดีตของตัวเอง ต้องการความทรงจำของตัวเองกลับมา
อยากรู้ว่าฉันเป็นใคร มาจากไหน
และถึงจะเป็นคำตอบที่เลวร้ายที่สุดแต่ฉันก็รู้แล้ว
สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้มีแต่เฝ้าดู
วูฟเวอรีน: และรู้สึกถึงความโกรธแค้น
ความเจ็บปวด
ความเกลียด
ความกลัว
วูฟเวอรีน: ฉันจำทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว
ว่ารู้สึกอย่างไรที่ถูกปล้นความเป็นมนุษย์ไปจนเหลือแต่สัญชาตญาณของสัตว์
รู้สึกอย่างไรที่โดนหลอมด้วยไฟ
โดนเผาผลาญและเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าไปพร้อมๆกัน
จนทุกอย่างกลายเป็นเถ้าถ่านไปหมด ไม่เว้นแม้แต่วิญญาณของตัวเอง
วูฟเวอรีน: ส่วนประกายของความเมตตาที่เซเวียร์ชี้ให้เห็นตอนเข้ามายังที่ที่มืดมิดที่สุดห่งนี้น่ะหรือ
โลแกน:ฉันคือโลแกน
ศาสตราจารย์: ไม่ใช่ แกคือสัตว์ป่า
วูฟเวอรีน: มันก็ยังมีอยู่
แต่ไม่เคยสว่างไสวพอจะส่องทางได้เลย
ชาร์ล: โลแกน!
คิตตี้: วูฟวี่ อย่านะ!!
สตรอม: ศาสตราจารย์คะ!
โคลอสซัส: พอได้แล้ว สหาย
วูฟเวอรีน: เอ่อ..
เปล่า ฉัน...
ชาร์ล: พอได้แล้ว ทุกคน
สถานการณ์อันตรายผ่านพ้นไปแล้ว
วูฟเวอรีน: ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ชัค
แต่หลังจากที่ฉันเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหัวของฉันเองแล้วฉันไม่แน่ใจว่าทุกคนจะยังปลอดภัยอยู่หรือเปล่า
รวมทั้งตัวฉันเองด้วย
ในคืนนั้นเอง
ชาร์ล: ขอโทษที โลแกน แต่ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้
การลบความทรงจำของตัวเองทิ้งมันไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรหรอกนะ
วูฟเวอรีน: นายก็เคยเข้าไปในหัวฉันแล้วนี่ ชัค นายเห็นชัดอยู่แล้วว่าฉันเป็นตัวอะไร
ชาร์ล: แต่ผมก็เห็นความเป็นมนุษย์ของคุณที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเช่นกัน
ความทรงจำของคุณเองนั่นแหละเป็นสิ่งที่ยืนยันการเติบโตนั้น
วูฟเวอรีน: ฉันอาจจะยังดูเหมือนมนุษย์ แต่สัตว์ร้ายที่ควบคุมไม่ได้ในตัวฉันกำลังรอเวลาที่จะหลุดออกมาอีกครั้งอยู่
เพราะเราดันบ้าพอที่จะเข้าไปเปิดกรงที่ขังมันไว้ออกมา
สิ่งที่ฉันตัดสินใจว่าควรจะฝังให้มิดมันก็ควรจะโดนฝังให้มิดอยู่ในหัวของฉันนั้นนั่นแหละ
ชาร์ล: คราวนี้คุณอาจพูดถูกแล้ว
ถึงการลบความจำของคุณทิ้งจะไม่ช่วยอะไร
แต่ถ้าเป็นการสร้างกำแพงเพื่อปิดผนึกความทรงจำไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่คุณพร้อมจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเองล่ะก็ผมทำได้
วูฟเวอรีน: แหม่ ยังจะมาทำปากดีอีกนะ 'จารย์
ก่อนที่ฉันจะลืมเรื่องที่คุยกันในวันนี้ไปจนเกลี้ยงฉันขออะไรอีกซักอย่างนึงได้ไหม?
วูฟเวอรีน: ตอนที่นายปิดกั้นความทรงจำของฉันไว้
ขอให้ปิดล็อกให้แน่นหนาและโยนกุญแจทิ้งไปซะ
และไม่ว่าต่อไปฉันจะขอร้องนายยังไงก็อย่าเปิดมันขึ้นมาอีก
หลังจากนั้น
ทันทีที่เดินออกจากโรงเรียน ฉันก็รู้สึกเหมือนกับลืมอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่สำคัญมาก
อย่างที่เคยรู้สึกอยู่ทุกวัน
แต่อะไรบางอย่างก็บอกฉันว่าอย่าไปนึกถึงมันอีกเลย
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
และฉันก็รู้สึกว่าเรื่องบางอย่างควรจะปล่อยให้มันอยู่ในอดีตไปโดยไม่ต้องรี้อฟี้นขึ้นมาอีกเลยดีกว่า
วูฟเวอรีน: น่าขำจริงๆ
ฉันใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อหาคำตอบว่าเมื่อก่อนฉันเป็นใคร
จนเกือบลืมไปแล้วว่าตอนนี้ฉันเป็นใคร
และเพราะได้มาอยู่ที่นี่นั่นแหละจึงทำให้ฉันได้พบคำตอบเสียที
ทุกคนเรียกฉันว่าวูฟเวอรีน
ฉันเป็นมิวแทนต์
เป็นฮีโร่
เป็นสมาชิกทีมx-men
ถึงบางคนจะไม่เห็นฉันเป็นมนุษย์ก็เถอะ
แต่สำหรับตอนนี้แค่นั้นก็พอแล้ว
Marvel Comic : Weapon X First Class วูฟเวอรีนกับความทรงจำที่หายไป ตอนที่3/3 (ตอนแถม: แกมบิท)
- เรื่องนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นก่อนอีเวนต์ออนสล็อต ก่อนที่วูฟจะโดนแม็กดึงอดามันเทียมออกจากกระดูก ก่อนที่ชาร์ลจะหน้ามืดเขียนxavier protocolขึ้นมา ไม่งั้นต่อให้เป็นวูฟก็คงไม่กล้าให้ชาร์ลเข้าไปเดินเล่นในหัวแน่ๆ
- นาธาเนียล เอสเซ็กส์ = มร.ซินิสเตอร์ นักวิทย์ที่ชอบทดลองอะไรก็ไม่รู้กับมิวแทนต์
และชอบเจือกเหลือเกินว่าใครควรจะมีลูกกับใคร ชาร์ลกับไซคลอปส์โดนกันไปคนละทีแล้วต่อไปจะทดลองกับแกมบิทด้วยตอนที่1
http://ppantip.com/topic/34052043
ตอนที่2
http://ppantip.com/topic/34059646
____________________________________
วูฟเวอรีน: ดูเหมือนว่าฮีโร่สมัยนี้จะมีคำติดปากกันทุกคน
เพื่อเป็นสิ่งที่จะบอกให้โลกรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่เหมาะกับงานนี้ที่สุด
อย่างของฉันก็
"ฉันทำสิ่งที่ฉันชำนาญได้ดีที่สุด"
เท่าที่จำได้ฉันใช้คำติดปากนั่นมานานแล้ว
(ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก)
แต่หลังจากที่เซเวียร์ช่วยขุดความทรงจำที่หายไปพวกนั้นกลับมาให้
และเริ่มจำได้ว่าสิ่งที่ฉันชำนาญคืออะไร
ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่าควรจะภูมิใจดีหรือเปล่าที่นั่นเป็นสิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุด
แต่ฉันจะยังไม่เปลี่ยนสโลแกนใหม่....
วูฟเวอรีน:... จนกว่าจะได้รู้ความจริงทั้งหมด
ชาร์ล: ซ้อมเสร็จหรือยัง วูฟเวอรีน
วูฟเวอรีน: เออ เรียบร้อยแล้ว แล้วนายล่ะพร้อมหรือยัง?
ชาร์ล: ก็ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ หลังจากที่เราเข้าไปในจิตของคุณครั้งล่าสุดผมคงต้องเตรียมการป้องกันไว้บ้าง
เพราะความโกรธแค้นในจิตของคุณมันรุนแรงเหลือเกิน
ผมเกรงว่าถ้าเราจะเจาะให้ลึกลงไปอีกอาจเป็นอันตรายกับจิตของเราทั้งสองคนได้
วูฟเวอรีน: จิตฉันมันคงไม่เละไปกว่านี้แล้วล่ะน่า ชัค
ชาร์ล: ผมรู้แล้ว และเพราะอย่างนั้นแหละผมถึงจำเป็นต้องสร้างเครื่องป้องกันขึ้นมา
นี่คือเซเรโบรเวอร์ชั่นใหม่ที่ผมพัฒนาขึ้นเอง
มันถูกออกแบบมาเพื่อรวมพลังจิตของผม เพื่อใช้สำหรับงานยากๆ
และเพื่อสร้างเกราะป้องกันทางจิตสำหรับป้องกันจิตของผมจาก...
วูฟเวอรีน: ฉันงั้นหรือ เอาเถอะ ฉันไม่โทษนายหรอก
รีบใส่แล้วก็เข้าไปได้แล้ว ฉันกับนายต้องไปสร้างประวัติศาสตร์ใหม่กันซะหน่อย
ชาร์ล: ผมเกรงว่าในท่อนสุดท้าของการเดินทางนี้ผมคงตามเข้าไปพร้อมกับคุณไม่ได้
วูฟเวอรีน: ว่าไงนะ
ชาร์ล: เครื่องมือนี้เพิ่งอยู่ในขั้นแรกๆของการพัฒนา มันยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง
เกราะพลังจิตที่มันสร้างขึ้นแข็งแกร่งเกินไป จึงไม่ใช่แค่ป้องกันไม่ให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าของคุณครอบงำผมเท่านั้น
แต่มันยังป้องกันไม่ให้ผมเข้าไปในจิตของคุณอย่างเต็มที่ด้วย น่าเสียดายจริงๆ
ถึงคราวนี้ร่างจิตของผมจะตามคุณเข้าไปไม่ได้
แต่ผมยังสามารถเปิดประตูให้คุณและชี้ทางให้คุณไปยังทางที่ถูกต้องได้
คุณต้องแกะรอยตามไปและระวังตัวให้ดี
ชาร์ล: เพราะคราวนี้คุณต้องต่อสู้กับปิศาจในจิตใจของตัวเองด้วยตัวคนเดียวแล้วล่ะ
วูฟเวอรีน: ชัคทำหน้าที่ของตัวเองไปแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของฉันล่ะนะ
ถ้าฉันจะเรียนรู้อะไรบางอย่างล่ะก็ต้องเรียนรู้จากที่นี่เท่านั้น
ฐานของโครงการweapon x
หลังจากที่พวกมันทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าจะกลับมาเหยียบที่นี่อีก
ที่นี่เป็นที่ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ฉันเป็นหนูทดลอง
พวกมันใช้โลหะเคลือบกระดูกฉัน
ฝึกฉันให้เป็นเครื่องจักรสังหาร
และพยายามล้างสมอง ลบความทรงจำของฉันทิ้งทั้งหมด
มีแต่เรื่องสุดท้ายที่พวกมันยังทำไม่สำเร็จ เพราะตอนนี้ฉันจำทุกอย่างได้แล้ว
และฉันก็มีคำถามอยู่คำถามหนึ่งที่มีแต่เจ้าพวกนั้นที่จะตอบได้
วูฟเวอรีน: ทำไมพวกแกถึงทำกับฉันแบบนี้
อะไรกันเนี่ย?
เฮ้อ ฉันน่าจะรู้ตัวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
ว่าเจ้าพวกนี้จะไม่ตอบอะไรกับฉัน เพราะฉันเองก็ไม่ได้มาเพื่อฟังสิ่งที่เจ้าพวกนี้จะพูดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
นี่เป็นแค่ภาพในความทรงจำของฉันเองที่สุ่มขึ้นมาแบบมั่วๆเท่านั้น ก็เหมือนกับเป็นแค่พร็อพประกอบฉากบนเวทีเท่านั้นแหละ
ถ้าเซเวียร์ดูอยู่ตอนนี้เจ้าหมอนั่นคงขำกลิ้งไปแล้ว
ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย
เบาะแสที่ฉันมีก็มีแต่สิ่งที่ได้เห็นได้ยินที่นี่จริงๆเท่านั้น
ถ้าฉันอยากรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างที่ฉันอยู่ในฐานของโครงการweapon xล่ะก็ฉันต้องตามหาคนที่สามารถโต้ตอบกับฉันได้จริงๆ
วูฟเวอรีน: หรือไม่ก็หวังว่าคนที่โต้ตอบกับฉันได้จริงๆจะเข้ามาหาฉันเองนั่นแหละ
รปภ.: weapon x หนีออกไปแล้ว
นี่เป็นเหตุฉุกเฉิน
ขอคำสั่งด้วย
อ้าก
วูฟเวอรีน: ไม่ว่าเจ้าพวกนี้จะเคยทำอะไรกับฉันไว้ สัญชาตญาณก็เกือบจะทำให้ฉันวิ่งเข้าไปช่วยเจ้าพวกบ้านั่นอยู่ดี
คงเป็นเพราะหลักการของx-menที่ว่า"จะต้องคุ้มครองโลกที่เกลียดและกลัวพวกเรา"เริ่มส่งผลกับฉันจริงๆแล้ว
แต่ถึงจะเป็นภาพความทรงจำที่ชัดเจนแค่ไหน ฉันก็ยังต้องบอกตัวเองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายจริงๆ
หรืออย่างน้อยก็คงไม่มีใครตายซ้ำอีกครั้งแล้วล่ะนะ
สิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องจริง
โลแกน:ฮื่ออออ
วูฟเวอรีน: ใช่ไหม?
โลแกนดม)
วูฟเวอรีน: มีปัญหาหรือไง ไอ้น้อง
ก็อย่างที่ทุกคนเคยบอกไว้
ว่าฉันเป็นคนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างยากขึ้นด้วยตัวฉันเอง
เออ รีบเข้ามาเลย จะได้จบๆซะที
วูฟเวอรีน: ศจ.บอกฉันมาตลอดว่าฉันเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของตัวเอง
ไม่นึกเลยว่าเจ้าหมอนั่นจะหมายความตามที่พูดจริงๆ
ให้ตายสิ บรรยากาศที่คุ้นเคยนี่มันอะไรกัน
เหมือนกันว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันสู้กับตัวเองแบบนี้
เรื่องทั้งหมดปะติดปะต่อกันได้พอดี
ว่าทำไมเจ้านี่ถึงมองเห็นฉันอยู่คนเดียว ทั้งที่คนอื่นมองไม่เห็น
ไอ้ตัวขนปุยนี่ไม่ใช่แค่เศษความทรงจำธรรมดาๆที่กระจายอยู่ในสมองของฉันและเล่นบทเดิมๆวนเวียนไปเรื่อยๆ
เจ้านี่เป็นมากกว่านั้น
เจ้านี่เป็นส่วนหนึ่งของตัวฉัน
เป็นส่วนที่ฉันพยายามเก็บกดไว้มาตลอด
พยายามสู้อยู่ทุกวันไม่ให้เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้หลุดออกไป
เป็นการต่อสู้ที่ฉันชนะมาตลอด
แต่คราวนี้ดูเหมือนฉันจะแพ้ซะแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปฉันคงจบสิ้น
วูฟเวอรีน: แต่การต่อสู้นี้อาจจะไม่มีผู้แพ้หรือผู้ชนะที่แท้จริงหรอก
มันเป็นไปไม่ได้
เพราะเจ้าหมอนี่กับฉันก็เหมือนกับด้ายในผ้าผืนเดียวกัน ต้องพัวพันกันตลอด
ถ้าไม่มีอีกฝ่ายหนึ่งเราก็อยู่ไม่ได้
เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
จนกว่าเราคนใดคนหนึ่งจะได้รางวัลของการต่อสู้นี้ไป
วูฟเวอรีน:นั่นก็คือการควบคุมร่าง
หลังจากที่ถูกขังไว้ในจิตใจของฉันนานหลายปี เจ้าหมอนี่ก็เป็นอิสระจนได้
เป็นสิ่งเดียวที่มันต้องการ
และฉันก็ต้องการเช่นกัน
ฉันต้องการรู้ความจริงเกี่ยวกับอดีตของตัวเอง ต้องการความทรงจำของตัวเองกลับมา
อยากรู้ว่าฉันเป็นใคร มาจากไหน
และถึงจะเป็นคำตอบที่เลวร้ายที่สุดแต่ฉันก็รู้แล้ว
สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้มีแต่เฝ้าดู
วูฟเวอรีน: และรู้สึกถึงความโกรธแค้น
ความเจ็บปวด
ความเกลียด
ความกลัว
วูฟเวอรีน: ฉันจำทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว
ว่ารู้สึกอย่างไรที่ถูกปล้นความเป็นมนุษย์ไปจนเหลือแต่สัญชาตญาณของสัตว์
รู้สึกอย่างไรที่โดนหลอมด้วยไฟ
โดนเผาผลาญและเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าไปพร้อมๆกัน
จนทุกอย่างกลายเป็นเถ้าถ่านไปหมด ไม่เว้นแม้แต่วิญญาณของตัวเอง
วูฟเวอรีน: ส่วนประกายของความเมตตาที่เซเวียร์ชี้ให้เห็นตอนเข้ามายังที่ที่มืดมิดที่สุดห่งนี้น่ะหรือ
โลแกน:ฉันคือโลแกน
ศาสตราจารย์: ไม่ใช่ แกคือสัตว์ป่า
วูฟเวอรีน: มันก็ยังมีอยู่
แต่ไม่เคยสว่างไสวพอจะส่องทางได้เลย
ชาร์ล: โลแกน!
คิตตี้: วูฟวี่ อย่านะ!!
สตรอม: ศาสตราจารย์คะ!
โคลอสซัส: พอได้แล้ว สหาย
วูฟเวอรีน: เอ่อ..
เปล่า ฉัน...
ชาร์ล: พอได้แล้ว ทุกคน
สถานการณ์อันตรายผ่านพ้นไปแล้ว
วูฟเวอรีน: ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ชัค
แต่หลังจากที่ฉันเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหัวของฉันเองแล้วฉันไม่แน่ใจว่าทุกคนจะยังปลอดภัยอยู่หรือเปล่า
รวมทั้งตัวฉันเองด้วย
ในคืนนั้นเอง
ชาร์ล: ขอโทษที โลแกน แต่ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้
การลบความทรงจำของตัวเองทิ้งมันไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรหรอกนะ
วูฟเวอรีน: นายก็เคยเข้าไปในหัวฉันแล้วนี่ ชัค นายเห็นชัดอยู่แล้วว่าฉันเป็นตัวอะไร
ชาร์ล: แต่ผมก็เห็นความเป็นมนุษย์ของคุณที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเช่นกัน
ความทรงจำของคุณเองนั่นแหละเป็นสิ่งที่ยืนยันการเติบโตนั้น
วูฟเวอรีน: ฉันอาจจะยังดูเหมือนมนุษย์ แต่สัตว์ร้ายที่ควบคุมไม่ได้ในตัวฉันกำลังรอเวลาที่จะหลุดออกมาอีกครั้งอยู่
เพราะเราดันบ้าพอที่จะเข้าไปเปิดกรงที่ขังมันไว้ออกมา
สิ่งที่ฉันตัดสินใจว่าควรจะฝังให้มิดมันก็ควรจะโดนฝังให้มิดอยู่ในหัวของฉันนั้นนั่นแหละ
ชาร์ล: คราวนี้คุณอาจพูดถูกแล้ว
ถึงการลบความจำของคุณทิ้งจะไม่ช่วยอะไร
แต่ถ้าเป็นการสร้างกำแพงเพื่อปิดผนึกความทรงจำไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่คุณพร้อมจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเองล่ะก็ผมทำได้
วูฟเวอรีน: แหม่ ยังจะมาทำปากดีอีกนะ 'จารย์
ก่อนที่ฉันจะลืมเรื่องที่คุยกันในวันนี้ไปจนเกลี้ยงฉันขออะไรอีกซักอย่างนึงได้ไหม?
วูฟเวอรีน: ตอนที่นายปิดกั้นความทรงจำของฉันไว้
ขอให้ปิดล็อกให้แน่นหนาและโยนกุญแจทิ้งไปซะ
และไม่ว่าต่อไปฉันจะขอร้องนายยังไงก็อย่าเปิดมันขึ้นมาอีก
หลังจากนั้น
ทันทีที่เดินออกจากโรงเรียน ฉันก็รู้สึกเหมือนกับลืมอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่สำคัญมาก
อย่างที่เคยรู้สึกอยู่ทุกวัน
แต่อะไรบางอย่างก็บอกฉันว่าอย่าไปนึกถึงมันอีกเลย
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
และฉันก็รู้สึกว่าเรื่องบางอย่างควรจะปล่อยให้มันอยู่ในอดีตไปโดยไม่ต้องรี้อฟี้นขึ้นมาอีกเลยดีกว่า
วูฟเวอรีน: น่าขำจริงๆ
ฉันใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อหาคำตอบว่าเมื่อก่อนฉันเป็นใคร
จนเกือบลืมไปแล้วว่าตอนนี้ฉันเป็นใคร
และเพราะได้มาอยู่ที่นี่นั่นแหละจึงทำให้ฉันได้พบคำตอบเสียที
ทุกคนเรียกฉันว่าวูฟเวอรีน
ฉันเป็นมิวแทนต์
เป็นฮีโร่
เป็นสมาชิกทีมx-men
ถึงบางคนจะไม่เห็นฉันเป็นมนุษย์ก็เถอะ
แต่สำหรับตอนนี้แค่นั้นก็พอแล้ว