ช่วยถอดคำประพันธ์พระพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพให้หน่อยนะคะ
(อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)
ขอเดชะเบื้องบาท วรราชะปกศรี
โรตม์ข้าผู้มั่นมี มานะตั้งกตัญญู
ได้รับพระราชทาน อ่านราชนิพันธ์ดู
ทั้งโคลงและฉันท์ตู ข้าจึงตริดำริตาม
อันพระประชวรครั้ง นี้แท้ทั้งไผทสยาม
เหล่าข้าพระบาทความ วิตกพ้นจะอุปมา
ประสาแต่อยู่ใกล้ ทั้งรู้ใช่ว่าหนักหนา
เลือดเนื้อผิเจือยา ให้หายได้จะชิงถวาย
ทุกหน้าทุกตาดู บพบผู้จะพึงสบาย
ปรับทุกข์ทุรนทุราย กันมิเว้นทิวาวัน
ดุจเหล่าข้าพละนา วะเหว่ว้ากะปิตัน
นายท้ายฉงนงัน ทิศทางก็คลางแคลง
นายกลประจำจักร จะใช้หนักก็นึกแหนง
จะรอก็ระแวง จะไม่ทันธุระการ
อึดอัดทุกหน้าที่ ทุกทวีทุกวันวาร
เหตุห่างบดียาน อันเคยไว้น้ำใจชน
ถ้าจะว่าบรรดากิจ ก็ไม่ผิด ณ นิยม
เรือแล่นทะเลลม ลมะเปรียบต่อก็พอกัน
ธรรมดามหาสมุทร มีคราวหยุดพายุผัน
มีคราวสลาตัน ตั้งระลอกกระฉอกฉาน
ผิวพอกำลังเรือ ก็แล่นรอดไม่ร้าวราน
หากกรรมจะบันดาล ก็คงล่มทุกลำไป
ชาวเรือก็ยาอมรู้ ฉนี้อยู่ทุกจิตต์ใจ
แต่ลอยอยู่ตราบใด ต้องจำแก้ด้วยแรงระดม
แก้รอดตลอดฝั่ง จะรอดทั้งจะชื่นชม
เหลือแก้ก็จำจม ให้ปรากฏว่าถึงกรรม
ผิวทอดธุระนิ่ง บวุ่นวิ่งเยียวยาทำ
ที่สุดก็สูญลำ เหมือนที่แก้ไม่หวาดไหว
ผิดกันแต่ถ้าแก้ ให้เต็มแย่จึงจมไป
ใครห่อนประมาทใจ ว่าขลาดเขลาและเมาเมิน
เสียทีก็มีชื่อ ได้เลื่องลือสรรเสริญ
สงสารว่ากรรมเกิน กำลังดอกจึงจมสูญ
นี้ในน้ำใจข้า อุปมาบังคมทูล
ทุกวันนี้อาดูร แต่ที่พระประชวรนาน
เปรียบตัวเหมือนอย่างม้า นี้เป็นพาหนะยาน
ผูกเครื่องบังเหียนอาน ประจำหน้าพลับพลาชัย
คอยพระประทับอาสน์ กระหยับบาทจะพาไคล
ตามแต่พระทัยไท ธ จะชักไปซ้ายขวา
ไกลใกล้บได้เลือก จะกระเดือกเต็มประดา
ตราบเท่าจะถึงวา ระชีวิตมลายปราณ
ขอตายให้ตาหลับ ด้วยชื่อนับว่าชายชาญ
เกิดมาประสบภาร ธุระได้บำเพ็ญทำ
ด้วยเดชะบุญญา ภินิหารแห่งคำ
สัตย์ข้าจงได้สำ ฤทธิดังมโนหมาย
ขอจงวราพาธ บรมนาถเร่งเคลื่อนคลาย
พระจิตต์พระวรกาย จะผ่องพ้นที่หม่นหมอง
ขอจงสำเร็จรา ชะประสงค์ที่ทรงปอง
ปกข้าฝ่าละออง พระบาทให้สามัคคี
ขอเหตุที่ขุ่นขัด จะวิบัติพระขันตี
จงคลายเหมือนหลายปี จะลืมเลิกละลายสูญ
ขอจงพระชนมายุ สถาวรพูน
เพิ่มเกียรติอนุกูล สยามรัฐพิพัฒน์ผลฯ
ช่วยถอดคำประพันธ์พระพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพให้หน่อยนะคะ
(อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)
ขอเดชะเบื้องบาท วรราชะปกศรี
โรตม์ข้าผู้มั่นมี มานะตั้งกตัญญู
ได้รับพระราชทาน อ่านราชนิพันธ์ดู
ทั้งโคลงและฉันท์ตู ข้าจึงตริดำริตาม
อันพระประชวรครั้ง นี้แท้ทั้งไผทสยาม
เหล่าข้าพระบาทความ วิตกพ้นจะอุปมา
ประสาแต่อยู่ใกล้ ทั้งรู้ใช่ว่าหนักหนา
เลือดเนื้อผิเจือยา ให้หายได้จะชิงถวาย
ทุกหน้าทุกตาดู บพบผู้จะพึงสบาย
ปรับทุกข์ทุรนทุราย กันมิเว้นทิวาวัน
ดุจเหล่าข้าพละนา วะเหว่ว้ากะปิตัน
นายท้ายฉงนงัน ทิศทางก็คลางแคลง
นายกลประจำจักร จะใช้หนักก็นึกแหนง
จะรอก็ระแวง จะไม่ทันธุระการ
อึดอัดทุกหน้าที่ ทุกทวีทุกวันวาร
เหตุห่างบดียาน อันเคยไว้น้ำใจชน
ถ้าจะว่าบรรดากิจ ก็ไม่ผิด ณ นิยม
เรือแล่นทะเลลม ลมะเปรียบต่อก็พอกัน
ธรรมดามหาสมุทร มีคราวหยุดพายุผัน
มีคราวสลาตัน ตั้งระลอกกระฉอกฉาน
ผิวพอกำลังเรือ ก็แล่นรอดไม่ร้าวราน
หากกรรมจะบันดาล ก็คงล่มทุกลำไป
ชาวเรือก็ยาอมรู้ ฉนี้อยู่ทุกจิตต์ใจ
แต่ลอยอยู่ตราบใด ต้องจำแก้ด้วยแรงระดม
แก้รอดตลอดฝั่ง จะรอดทั้งจะชื่นชม
เหลือแก้ก็จำจม ให้ปรากฏว่าถึงกรรม
ผิวทอดธุระนิ่ง บวุ่นวิ่งเยียวยาทำ
ที่สุดก็สูญลำ เหมือนที่แก้ไม่หวาดไหว
ผิดกันแต่ถ้าแก้ ให้เต็มแย่จึงจมไป
ใครห่อนประมาทใจ ว่าขลาดเขลาและเมาเมิน
เสียทีก็มีชื่อ ได้เลื่องลือสรรเสริญ
สงสารว่ากรรมเกิน กำลังดอกจึงจมสูญ
นี้ในน้ำใจข้า อุปมาบังคมทูล
ทุกวันนี้อาดูร แต่ที่พระประชวรนาน
เปรียบตัวเหมือนอย่างม้า นี้เป็นพาหนะยาน
ผูกเครื่องบังเหียนอาน ประจำหน้าพลับพลาชัย
คอยพระประทับอาสน์ กระหยับบาทจะพาไคล
ตามแต่พระทัยไท ธ จะชักไปซ้ายขวา
ไกลใกล้บได้เลือก จะกระเดือกเต็มประดา
ตราบเท่าจะถึงวา ระชีวิตมลายปราณ
ขอตายให้ตาหลับ ด้วยชื่อนับว่าชายชาญ
เกิดมาประสบภาร ธุระได้บำเพ็ญทำ
ด้วยเดชะบุญญา ภินิหารแห่งคำ
สัตย์ข้าจงได้สำ ฤทธิดังมโนหมาย
ขอจงวราพาธ บรมนาถเร่งเคลื่อนคลาย
พระจิตต์พระวรกาย จะผ่องพ้นที่หม่นหมอง
ขอจงสำเร็จรา ชะประสงค์ที่ทรงปอง
ปกข้าฝ่าละออง พระบาทให้สามัคคี
ขอเหตุที่ขุ่นขัด จะวิบัติพระขันตี
จงคลายเหมือนหลายปี จะลืมเลิกละลายสูญ
ขอจงพระชนมายุ สถาวรพูน
เพิ่มเกียรติอนุกูล สยามรัฐพิพัฒน์ผลฯ