บทที่๒ เริ่มต้น
สี่วันผ่านไปหลังจากแมร์รี่หายตัวไป
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องของเธอเลยแม้แต่คนเดียว
มันยิ่งเป็นการตอกย้ำความเบื่อหน่ายในมนุษย์ให้กับนิค
ขณะที่นิคกำลังเดินผ่านประตูโรงเรียน
“ชิ วันนี้ไม่มีอารมจะนั่งเรียนแล้วสิ”
นิคพูดสิ่งที่คิดออกมาแล้วเดินออกจากประตูโรงเรียน
ถึงนิคจะโดดเรียนแต่เขาก็ไม่มีที่ไป
นิคเลยไปนอนหลับอยู่ที่เนินหลังโนงเรียน
อยู่ๆก็มีอะไรมาสะกิดที่ขาของนิคจนเขาตื่น
นิคลืมตามองไปที่ขาของเขาและเห็นบัคกำลังสะกิดด้วยขาหน้า
“โธ่ บัคเองเหรอฉันยังไม่มีอารมณ์เล่นกับนายน่า”
นิคบ่นเบาๆก่อนจะหลับตานอนต่อ
“แล้วนายอยากจะเล่นกับฉันได้รึเปล่าละนิค”
เสียงผู้หญิงที่พูดขึ้นมาทำให้นิคสะดุ้งลุกขึ้นมามอง
และคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือมัมนั่นเอง
“เธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ตรงนี้หละมัม”
นิคถามอย่างแปลกใจ
“ฉันก็แค่เห็นเจ้านี่มันคาบอะไรสักอย่างวิ่งไปวิ่งมา
เหมือนหาใครอยู่ฉันก็เลยตามมานะสิ”
“แล้วทำไมเธอคิดว่าบัคมันตามหาฉันกันละ”
มัมเดินมานั่งข้างๆนิคและนั่งลูบหัวเจ้าบัค
“เจ้านี่ชื่อบัคเหรอเนี่ย...เพราะฉันเห็นนะสิ”
“วันนั้นที่โรงอาหารสินะเธอก็เลยจำได้ว่าของที่ฉันขว้างไปเหมือนกับที่มันคาบอยู่”
“เปล่าไม่ใช่”
นิค งุนงงกับคำคอบของมัมเขามองไปที่มัมอย่างสงสัย
จู่ๆมัมก็ลุกขึ้นแล้วเอาลูกบอลที่บัคคาบมาออกไปโยนเล่นกับบัค
“นิคมาเล่นด้วยกันสิ”
มัมเรียกนิคที่นั่งอยู่ในร่มไม้
“ผู้หญิงคนนี้มีอะไรให้แปลกใจด้วยแฮะ”
นิคคิดอยู่ในใจขณะที่มองมัมเล่นกับบัคอย่างสนุกสนาน
นิคยกมือขึ้นมาส่งสัญญาณว่าขอผ่านแล้วล้มตัวลงไปนอนต่อ
“ถ้ามีคนแปลกๆแบบนี้อยู่โลกอาจจะไม่น่าเบื่อก็ได้มั้ง”
นิคพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะหลับตาลง
วันเช้าถัดมานิคบังเอิญเจอกลุ่มนักเลงอยู่ที่ทางเดิน
นิคพยายามไม่สนใจและเดินผ่านไป
“เฮ้ยเดี๋ยวก่อนสิพวกอย่าบอกนะว่าลืมกันแล้วนะวันนั้นนายวิ่งชนชั้นเจ็บมากเลยนะ”
กลุ่มนักเลงค่อยๆเดินมาล้อมนิค
“ก็ขอโทษไปแล้วนี่นายต้องการอะไรอีก”
นิคพูดขึ้น
“นายคิดว่าแค่ขอโทษแล้วมันจะหายเหรอ
แต่ฉันเป็นคนใจดีไม่ใช้ความรุนแรงหรอกน่า
เมื่อวานฉันเห็นนายนั่งอี๋อ๋อกับสาวสวยคนหนึ่งนั่นแฟนนายใช่ไหมละ
น่ารักใช้ได้เลยฉันชอบวะถ้านายให้เธอมาเล่นกับพวกเราเราจะยกโทษให้ก็ได้นะ ว่าไง”
“อย่ายุ่งกับเธอนะโว้ยไอ้สวะ”
นิคพูดด้วยความโมโห
“หาว่าไงนะ”
“นี่พวกเธอได้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ”
เสียงอาจารย์ตะโกนแทรกเข้ามาทำให้พวกนักเลงต้องถอยออกไป
“ระวังให้ดีๆละพวก”
หัวโจกพูดทิ้งท้ายก่อนจะจากไป
เมื่อนิคกลับมาที่ห้องเขาจึงถามกับเชค
“เชคนายรู้จักกลุ่มนักแลงที่หัวหน้ามันหัวตั้งๆรึเปล่า”
“แน่นอนอยู่แล้วไม่มีใครที่ไม่รู้จักพวก “แทนเทอร์” หรอก
ในกลุ่มมีห้าคน มีแทนเทอร์เดฟ รอน ริค และ มาร์ค
เป็นพวกหัวไม้ปีสามที่กร่างไปทั่วโรงเรียน
ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับพวกมันจะดีกว่านะนิค”
“ฉันก็ไม่คิดที่จะไปยุ่งกับพวกนั้นอยู่แล้วหละแค่เห็นตรงทางเดินนะ”
เชคค่อนค่างแปลกใจที่นิคถามถึงคนอื่นแต่ด้วยคำแก้ตัวของนิคเลยทำให้เชคไม่ใส่ใจ
“มันจะต้องเล่นงานฉันแน่”
นิคคิดอย่างนั้น ดังนั้นนิคจึงอยู่แต่ในห้องและที่ๆมีคนพลุกพล่าน
“ฉันแค่หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวในที่ลับตาและไม่ออกไปตามคำเรียกของใคร
เท่านี้ฉันก็จะปลอดภัยจากพวกมันแล้ว”
นิคคิดอยู่ในใจขณะที่นั่งอยู่ในห้องตอนพักเที่ยง
แต่นิคไม่ได้รู้สึกถึงอะไรที่มันผิดปรกติไปนิคจึงหลับอยู่ที่โต๊ะอย่างสบายใจ
สักพักเชคก็เข้ามาในห้องเสียงของเชคที่น่ารำคานทำให้นิคตื่นทันที
“ให้ตายสิรบกวนการนอนกลางวันของฉันอยู่เรื่อยเลยไอ้บ้าเชค
นี่ถ้ายัยมัมอยู่อีกคนคงน่ารำคานเป็นสองเท่าแน่ๆ”
นิคบ่นกับตัวเองแล้วหันไปมองที่เชค
“...............”
นิคเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่ามีบางอย่างที่หายไปเขารีบลุกไปถามคนในห้อง
“นี่มีใครเห็นมัมบ้างรึเปล่า”
“อ้อก่อนหน้านี้เห็นมีคนขอให้ช่วยยกของไปเก็บนะเธอเลยออกไปได้สักแปบแล้วละ”
นิครีบวิ่งออกจากห้องไปทันที
“บ้าเอ้ย...ที่มันบอกระวังให้ดีมันไม่ได้หมายถึงฉัน มันหมายถึงมัม ทำไมถึงไม่เอะใจเลยนะ”
นิคได้แต่บ่นกับตัวเองที่กำลังวิ่งตามหามัม
ที่ห้องเก็บของพวกแทนเทอร์ดักรออยู่ที่นั่น
“เฮ้ยมาร์คฉันไม่คิดว่าไอ้จืดนั่นจะมีแฟนสวยขนาดนี้เลยวะ”
“นั่นสินะรอนเสียของจริงๆเลยวะ”
“เพื่อไม่ให้เสียของเดี๋ยวพวกเราจะรับไว้แทนละกันใช่ไหมแทนเทอร์”
“หึๆใช่แล้วจะเล่นให้หนำใจเลย”
เมื่อมีเสียงฝีเท้ามาพวกเขาก็รีบหลบอยู่หลังประตู
เมื่อคนที่เข้ามากำลังเก็บของอยู่พวกแทนเทอร์ก็ออกมาทันที
“เฮ้อเสร็จสักที”
“เสร็จแล้วก็อยู่เล่นกับพวกเราก่อนสิน้องสาว”
“ผมกลัวแล้ว...ยะ อย่าทำอะไรผมเลย”
ชายร่างเล็กร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นพวกของแทนเทอร์มาล้อมเอาไว้
เมื่อแทนเทอร์ได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าก็งงเป็นไก่ตาแตก
“ทำไมเป็นแกหาไอ้เบือค”
“พอดีเมื่อกี้มีผู้ชาคนหนึ่งมาเรียกเธอบอกว่ามีธุระด่วนเลยวานให้ผมเอาของมาไว้แทน”
“ไอ้นั่นมันเป็นใครวะ”
“นะนะไนท์แมร์ ใช่ ไนท์แมร์เทอร์รัม ครับเขาเรียนอยู่ห้องเดียวกับเธอ”
ชายหนุ่มตอบด้วยความหวาดกลัว
อีกด้านหนึ่งมัมกำลังถูกนิคลากไปที่หน้าห้องเรียน
“นี่เดี๋ยวสินิคนายรีบลากฉันมานี่เพื่ออะไร”
“อืม...นั่นสินะฉันลืมไปแล้วละว่าจะให้เธอทำอะไร งั้นก็ช่างมันเถอะ เธอจะทำอะไรก็เชิญ”
“หา อะไรของนายเนี่ย อยู่ๆก็ทำหน้าตาจริงจังแล้วก็ลากฉันมานี่
แล้วก็บอกไม่มีอะไร ฉันงงไปหมดแล้วนะ”
มัมวีนใส่ด้วยความโมโห
“ฉันขอโทษละกันไปละ”
แล้วนิคก็เดินจากไป ทิ้งมัมไว้ที่หน้าห้องเรียน
ตกเย็นขณะที่นิคเดินกลับบ้านผ่านเขตก่อสร้างพวกแทนเทอร์ก็ปรากฏตัวขึ้น
“ว่าไง ไนท์แมร์ เทอร์รัม หรือว่าจะให้เรียกนิคดีละหืม
ฉันไปดูข้อมูลนายที่ห้องกรรมการนักเรียนมาแล้ว
ใช่นายจริงๆด้วยที่ช่วยแฟนได้ทันเมื่อตอนเที่ยง
แต่อย่างที่ฉันบอกถ้าไม่ได้หล่อนมาแกก็ต้องเจ็บตัว”
นิคยืนนิ่งไม่พูดอะไร
“ว่าไงกลัวจนขยับขาไม่ออกเลยเหรอ งั้นก็ดีฉันจะได้ไม่เปลืองแรง”
เมื่อแทนเทอร์พูดจบทุกคนก็วิ่งเข้าหานิค
ทันไดนั้นเองนิคหยิบของออกจากกระเป๋าแล้วขว้างลงไปที่พื้น
พอพวกนั้นเหยียบก็ต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“นี่มันอะไรกันวะ”
แทนเทอร์ตะโกนด้วยความโมโห
“ดูที่พื้นสินั่นมันตะปูเรือใบทั้งนั้นเลย”
เดฟพูดพร้อมชี้ไปที่พื้น
นิคหัวเราะออกมาเบาๆ
“หึหึหึ ใช่แล้วพวกโง่ ฉันรู้แล้วว่าพวกแกต้องตามหาฉันและมาดักแบบนี้
ฉันเลยเตรียมการทำเอาไว้ก่อนตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว”
แทนเทอร์มองหน้านิคด้วยความแค้นสุดขีด
“เชอะแค่ลูกไม้ตื้นๆนี่คิดว่าจะหยุดฉันได้เหรอ
แค่เดินตรงข้างทางที่ไม่มีเรือใบก็ผ่านได้แล้วระวังตัวให้ดีเถอะแก”
“โอ๊ะโอ ฉลาดไม่เบานี่แล้วคิดว่าฉันจะอยู่ให้กระทืบรึไงไปก่อนนะ”
นิคพูดจบก็รีบวิ่งหนีไปในเขตก่อสร้าง
พวกแทนเทอร์ตามนิคมาจนถึงกลางลานที่ยังไม่มีสิ่งก่อสร้าง
และเป็นพื้นที่ถูกปิดล้อมเอาไว้
“ระวังลูกเล่นของไอ้นี่ไว้นะโว้ยมันอาจเล่นตุกติกอีกแน่ๆ”
แทนเทอร์พูดและยืนปิดทางออกซึ่งนิคยืนนิ่งและหันหลังให้กับพวกเขา
“เฮ้ยแทนเทอร์ นายคิดว่าแค่มีพวกมากแล้วจะทำอะไรฉันได้จริงๆเหรอ
รู้ไหมว่าทำไมทั้งที่ฉันรู้ว่าพวกนายจะมาดักรอฉันแล้วฉันถึงเตรียมมาแค่เรือใบ”
นิคพูดพร้อมกับค่อยๆหนักลับมาแสยะยิ้มให้กับพวกแทนเทอร์
รอยยิ้มที่น่าขนลุกของนิคทำให้แทนเทอร์เริ่มลังเล
“แล้วอะไรละที่ทำให้นายมั่นใจขนาดนั้นละนิค”
แทนเทอร์พยายามเรียกความกล้ากลับมา
“หึหึหึ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า อะไรนะเหรอ...มันแน่อยู่แล้ว...ก็เพราะพวกนายมันกระจอกไง”
สายตาและรอยยิ้มอันน่าขนลุกของนิคทำให้พวกแทนเทอร์ถึงกลับผวา
“กะ กลัวอะไรกับแค่คนไม่มีอาวุธคนเดียววะ ลุยไปพร้อมกันเลย”
แทนเทอร์ร้องตะโกนเสียงดังแล้วพวกเขาวิ่งกรูเข้าไปหานิคทั้งห้าคน
ขณะที่ทุกคนเงื้อไม้ในมือเพื่อจะฟาดนิคจู่ๆก็ร่วงลงไปในดินเหมือนถูกดูดลงไป
พวกเขาตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่ลึกกว่าสามเมตร
“นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย”
แทนเทอร์ตะโกนด้วยความโมโห
“แกทำได้ยังไงแกเอาเวลาไหนมาวางกับดักพวกนี้กัน”
นิคค่อยๆเดินมาที่ปากหลุม
“เปล่าเลยฉันไม่ได้วางกับดักพวกแกแต่กับดักนี้ถูกวางไว้ก่อนแล้ว”
“หมายความว่าไงกัน”
“ฉันจะบอกพวกนายให้เอาบุญละกัน
หลุมนี้มีไว้เพื่อหล่อเสาเข็มในการสร้างตึกที่ตรงนี้
ฉันผ่านที่นี่ทุกวันจึงรู้ว่าคนสร้างตึกต้องขุดหลุมลึก
แล้วค่อยตอกเสาเข้มลงไปในหลุมแล้วจะเหลือส่วนบนไว้
เพื่อที่จะเทคอนกรีตยึดเสาเข้มนี้ไว้อีกที
และแน่นนอนเขาจะเริ่มตอกเสาเข็มในวันพรุ่งนี้
และเมื่อวานนี้ฝนก็ตกหนักแน่นอนว่าคนงานต้องเอาผ้าใบมาปิดปากหลุม
เพื่อไม่ให้น้ำและดินไหลลงไปกลบหลุมที่ขุดไว้
แล้วดินโคลนที่ไม่สามารถเข้าหลุมได้ก็ไปเคลือบผิวผ้าใบด้านบนบางๆ
จนดูกลมกลืนยังไงละ มันจึงกลายเป็นกับดักที่สมบูรณ์แบบ
และชั้นแค่หลอกล่อพวกนายนิดหน่อยก็วิ่งมาตกหลุมพรางของฉันเข้าอย่างจังยังไงละ”
“หน๋อยแก ถ้าขึ้นไปได้แกเจอดีแน่”
แทนเทอร์ประกาศกร้าว
“หึ ความจริงแล้วฉันจะเทคอนกรีตฝังพวกนายทั้งเป็นก็ยังได้
แต่ฉันบอกแล้วไงว่าพวกนายทำอะไรฉันไม่ได้หรอกเพราะพวกนายมันกระจอกไงละ
นี่แหละความห่างชั้นของคนโง่กับคนฉลาดละ”
แล้วนิคก็เดินจากไปปล่อยทิ้งให้พวกแทนเทอร์ไว้อย่างนั้น
สองวันผ่านไปหลังจากนั้น
นิคคอยระวังตัวไม่ให้อยู่ในที่ที่เขาจะถูกลอบทำร้ายได้
ซึ่งสร้างความหัวเสียให้กับแทนเทอร์ที่จ้องเล่นงานอย่างมาก
ในช่วงพักเที่ยงขณะที่นิคกำลังเดินกลับห้องมัมก็เดินเข้ามาคุยกับนิคตามปรกติ
แทนเทอร์ที่มองอยู่ห่างออกไปก็เห็นภาพนี้เข้า
“หน๋อย...แกบังอาจมาพลอดรักหยามฉันได้ อย่าอยู่เลย”
แทนเทอร์สติแตกและคว้าท่อนไม้ในโรงเก็บของวิ่งไปหานิค
ทุกคนต่างตกตะลึงยืนนิ่งแต่นิคมีสติมากพอที่จะผลักมัมออกไป
และพยายามเบี่ยงตัวหลบถึงแม้ว่านิคจะหลบไม่พ้น
แต่ก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเพียงเล็กน้อย
แทนเทอร์ถูกคนแถวนั้นช่วยกันจับตัวไว้และถูกพักการเรียนในทันที
นิคถูกพาตัวมายังห้องพยาบาลเพื่อทำแผล
“เบาๆหน่อยสิมันเจ็บนะ”
นิคพูดขึ้นขณะที่มัมนั่งทำแผลอยู่ข้างๆ
“นายนี่มันบ้าจริงๆนิคดันไปหาเรื่องพวกนักเลงเนี่ยเอ้าเสร็จแล้ว”
พอมัมแปะผ้าก๊อตที่หัวของนิคเสร็จก็เดินเอาอุปกรณ์ทำแผลไปเก็บ
“ฉันเห็นนะนิค”
อยู่ๆมัมก็พูดขึ้นมาขณะที่กำลังเก็บอุปกรณ์
อีกแล้ว...มัมพูดเหมือนกับตอนที่เจอเธอที่เนินเขา
นิคเริ่มเกิดความสงสัยว่าเธอเห็นอะไรกันแน่
“ฉันเห็นนายคอยช่วยเหลือคนอื่นๆเสมอๆ
ทั้งเรื่องที่นายแกล้งขัดขาคนบนรถไฟเพื่อจับคนลวนลาม
เรื่องที่นายคอยขัดจังหวะเวลาจะมีคนทำร้ายกัน
หรือเรื่องที่ช่วยเด็กคนนั้นจากพวกรีดไถที่โรงอาหาร”
นิครู้สึกพลาดกับนิสัยไม่ชอบคนชั่วของตัวเองที่ทำให้เขาต้องเข้าไปช่วย
ในการกระทำที่มันเกิดต่อหน้าต่อตาทุกครั้ง
“และเจ้าบัคที่เป็นหมาจรจัดตัวนั้นนายก็คอยให้อาหารและเล่นกับมันประจำ”
ที่แท้เพราะเธอเห็นนิคมักไปเล่นกับบัคแก้เซ็งนี่เองเลยรู้ว่ามันสนิทกับนิค
และเธอจึงตามมันไปเพื่อหาเขา
“และฉันก็รู้ว่านายพยายามช่วยหาแมร์รี่ใช่ไหมละ”
มัมหันกลับมามองนิค
“เฮอะถูกแฉหมดเปลือกเลยแฮะเรา”
นิคต้องยอมจำนนเพราะเธอเห็นเกือบหมดจริงๆ
“แล้วแมร์รี่เป็นยังไงบ้างละ”
มัมเดินกลับมานั่งข้างๆนิค
“มันอาจรับยากหน่อยนะมัม ความจริงแล้วแมร์รี่ถูกคนลักพาตัว
แต่ฉันรู้ว่าข้อมูลมันน้อยเกินไปเลยใช้เวลาอีกสองวันถึงได้ข้อมูลคนร้ายและวิธีการ
คืนนั้นฉันโทรไปที่โรงพักแต่คดีถูกปิดไปแล้วและตำรวจไม่ยอมรับฝังฉัน
นี่แหละคือบทสรุป...”
มัมอึ้งไปครู่หนึ่ง
“เพราะนายช่วยเธอไม่ได้สินะวันนั้นถึงได้โดดเรียนไปที่นั่น”
มัมพูดด้วยน้าเสียงอ่อยๆ
“แล้วครั้งนี้ละนายช่วยใคร”
มัมถามนิคอีกครั้ง
“แล้วทำไมเธอถึงอยากรู้นักละมัม”
“เพราะทุกครั้งนายไม่เคยเข้าไปยุ่งด้วยทั้งตัวแบบนี้จนต้องเจ็บตัวเลยนี่ฉันเป็นห่วง...”
มัมรีบปิดปากเมื่อรู้ว่าเธอพูดมากเกินไปเสียแล้ว
“เพราะอะไรกันมัม”
นิครู้ว่ามัมกำลังซ่อนอะไรบางอย่าง
“ถ้านายยอมบอกฉันฉันก็จะยอมบอกนาย”
มัมพยายามหลบตานิคและหลังจากนั้นความเงียบก็เข้ามา
สักพักนิคลุกเดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่าง
non shadow บทที่ 2
สี่วันผ่านไปหลังจากแมร์รี่หายตัวไป
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องของเธอเลยแม้แต่คนเดียว
มันยิ่งเป็นการตอกย้ำความเบื่อหน่ายในมนุษย์ให้กับนิค
ขณะที่นิคกำลังเดินผ่านประตูโรงเรียน
“ชิ วันนี้ไม่มีอารมจะนั่งเรียนแล้วสิ”
นิคพูดสิ่งที่คิดออกมาแล้วเดินออกจากประตูโรงเรียน
ถึงนิคจะโดดเรียนแต่เขาก็ไม่มีที่ไป
นิคเลยไปนอนหลับอยู่ที่เนินหลังโนงเรียน
อยู่ๆก็มีอะไรมาสะกิดที่ขาของนิคจนเขาตื่น
นิคลืมตามองไปที่ขาของเขาและเห็นบัคกำลังสะกิดด้วยขาหน้า
“โธ่ บัคเองเหรอฉันยังไม่มีอารมณ์เล่นกับนายน่า”
นิคบ่นเบาๆก่อนจะหลับตานอนต่อ
“แล้วนายอยากจะเล่นกับฉันได้รึเปล่าละนิค”
เสียงผู้หญิงที่พูดขึ้นมาทำให้นิคสะดุ้งลุกขึ้นมามอง
และคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือมัมนั่นเอง
“เธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ตรงนี้หละมัม”
นิคถามอย่างแปลกใจ
“ฉันก็แค่เห็นเจ้านี่มันคาบอะไรสักอย่างวิ่งไปวิ่งมา
เหมือนหาใครอยู่ฉันก็เลยตามมานะสิ”
“แล้วทำไมเธอคิดว่าบัคมันตามหาฉันกันละ”
มัมเดินมานั่งข้างๆนิคและนั่งลูบหัวเจ้าบัค
“เจ้านี่ชื่อบัคเหรอเนี่ย...เพราะฉันเห็นนะสิ”
“วันนั้นที่โรงอาหารสินะเธอก็เลยจำได้ว่าของที่ฉันขว้างไปเหมือนกับที่มันคาบอยู่”
“เปล่าไม่ใช่”
นิค งุนงงกับคำคอบของมัมเขามองไปที่มัมอย่างสงสัย
จู่ๆมัมก็ลุกขึ้นแล้วเอาลูกบอลที่บัคคาบมาออกไปโยนเล่นกับบัค
“นิคมาเล่นด้วยกันสิ”
มัมเรียกนิคที่นั่งอยู่ในร่มไม้
“ผู้หญิงคนนี้มีอะไรให้แปลกใจด้วยแฮะ”
นิคคิดอยู่ในใจขณะที่มองมัมเล่นกับบัคอย่างสนุกสนาน
นิคยกมือขึ้นมาส่งสัญญาณว่าขอผ่านแล้วล้มตัวลงไปนอนต่อ
“ถ้ามีคนแปลกๆแบบนี้อยู่โลกอาจจะไม่น่าเบื่อก็ได้มั้ง”
นิคพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะหลับตาลง
วันเช้าถัดมานิคบังเอิญเจอกลุ่มนักเลงอยู่ที่ทางเดิน
นิคพยายามไม่สนใจและเดินผ่านไป
“เฮ้ยเดี๋ยวก่อนสิพวกอย่าบอกนะว่าลืมกันแล้วนะวันนั้นนายวิ่งชนชั้นเจ็บมากเลยนะ”
กลุ่มนักเลงค่อยๆเดินมาล้อมนิค
“ก็ขอโทษไปแล้วนี่นายต้องการอะไรอีก”
นิคพูดขึ้น
“นายคิดว่าแค่ขอโทษแล้วมันจะหายเหรอ
แต่ฉันเป็นคนใจดีไม่ใช้ความรุนแรงหรอกน่า
เมื่อวานฉันเห็นนายนั่งอี๋อ๋อกับสาวสวยคนหนึ่งนั่นแฟนนายใช่ไหมละ
น่ารักใช้ได้เลยฉันชอบวะถ้านายให้เธอมาเล่นกับพวกเราเราจะยกโทษให้ก็ได้นะ ว่าไง”
“อย่ายุ่งกับเธอนะโว้ยไอ้สวะ”
นิคพูดด้วยความโมโห
“หาว่าไงนะ”
“นี่พวกเธอได้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ”
เสียงอาจารย์ตะโกนแทรกเข้ามาทำให้พวกนักเลงต้องถอยออกไป
“ระวังให้ดีๆละพวก”
หัวโจกพูดทิ้งท้ายก่อนจะจากไป
เมื่อนิคกลับมาที่ห้องเขาจึงถามกับเชค
“เชคนายรู้จักกลุ่มนักแลงที่หัวหน้ามันหัวตั้งๆรึเปล่า”
“แน่นอนอยู่แล้วไม่มีใครที่ไม่รู้จักพวก “แทนเทอร์” หรอก
ในกลุ่มมีห้าคน มีแทนเทอร์เดฟ รอน ริค และ มาร์ค
เป็นพวกหัวไม้ปีสามที่กร่างไปทั่วโรงเรียน
ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับพวกมันจะดีกว่านะนิค”
“ฉันก็ไม่คิดที่จะไปยุ่งกับพวกนั้นอยู่แล้วหละแค่เห็นตรงทางเดินนะ”
เชคค่อนค่างแปลกใจที่นิคถามถึงคนอื่นแต่ด้วยคำแก้ตัวของนิคเลยทำให้เชคไม่ใส่ใจ
“มันจะต้องเล่นงานฉันแน่”
นิคคิดอย่างนั้น ดังนั้นนิคจึงอยู่แต่ในห้องและที่ๆมีคนพลุกพล่าน
“ฉันแค่หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวในที่ลับตาและไม่ออกไปตามคำเรียกของใคร
เท่านี้ฉันก็จะปลอดภัยจากพวกมันแล้ว”
นิคคิดอยู่ในใจขณะที่นั่งอยู่ในห้องตอนพักเที่ยง
แต่นิคไม่ได้รู้สึกถึงอะไรที่มันผิดปรกติไปนิคจึงหลับอยู่ที่โต๊ะอย่างสบายใจ
สักพักเชคก็เข้ามาในห้องเสียงของเชคที่น่ารำคานทำให้นิคตื่นทันที
“ให้ตายสิรบกวนการนอนกลางวันของฉันอยู่เรื่อยเลยไอ้บ้าเชค
นี่ถ้ายัยมัมอยู่อีกคนคงน่ารำคานเป็นสองเท่าแน่ๆ”
นิคบ่นกับตัวเองแล้วหันไปมองที่เชค
“...............”
นิคเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่ามีบางอย่างที่หายไปเขารีบลุกไปถามคนในห้อง
“นี่มีใครเห็นมัมบ้างรึเปล่า”
“อ้อก่อนหน้านี้เห็นมีคนขอให้ช่วยยกของไปเก็บนะเธอเลยออกไปได้สักแปบแล้วละ”
นิครีบวิ่งออกจากห้องไปทันที
“บ้าเอ้ย...ที่มันบอกระวังให้ดีมันไม่ได้หมายถึงฉัน มันหมายถึงมัม ทำไมถึงไม่เอะใจเลยนะ”
นิคได้แต่บ่นกับตัวเองที่กำลังวิ่งตามหามัม
ที่ห้องเก็บของพวกแทนเทอร์ดักรออยู่ที่นั่น
“เฮ้ยมาร์คฉันไม่คิดว่าไอ้จืดนั่นจะมีแฟนสวยขนาดนี้เลยวะ”
“นั่นสินะรอนเสียของจริงๆเลยวะ”
“เพื่อไม่ให้เสียของเดี๋ยวพวกเราจะรับไว้แทนละกันใช่ไหมแทนเทอร์”
“หึๆใช่แล้วจะเล่นให้หนำใจเลย”
เมื่อมีเสียงฝีเท้ามาพวกเขาก็รีบหลบอยู่หลังประตู
เมื่อคนที่เข้ามากำลังเก็บของอยู่พวกแทนเทอร์ก็ออกมาทันที
“เฮ้อเสร็จสักที”
“เสร็จแล้วก็อยู่เล่นกับพวกเราก่อนสิน้องสาว”
“ผมกลัวแล้ว...ยะ อย่าทำอะไรผมเลย”
ชายร่างเล็กร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นพวกของแทนเทอร์มาล้อมเอาไว้
เมื่อแทนเทอร์ได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าก็งงเป็นไก่ตาแตก
“ทำไมเป็นแกหาไอ้เบือค”
“พอดีเมื่อกี้มีผู้ชาคนหนึ่งมาเรียกเธอบอกว่ามีธุระด่วนเลยวานให้ผมเอาของมาไว้แทน”
“ไอ้นั่นมันเป็นใครวะ”
“นะนะไนท์แมร์ ใช่ ไนท์แมร์เทอร์รัม ครับเขาเรียนอยู่ห้องเดียวกับเธอ”
ชายหนุ่มตอบด้วยความหวาดกลัว
อีกด้านหนึ่งมัมกำลังถูกนิคลากไปที่หน้าห้องเรียน
“นี่เดี๋ยวสินิคนายรีบลากฉันมานี่เพื่ออะไร”
“อืม...นั่นสินะฉันลืมไปแล้วละว่าจะให้เธอทำอะไร งั้นก็ช่างมันเถอะ เธอจะทำอะไรก็เชิญ”
“หา อะไรของนายเนี่ย อยู่ๆก็ทำหน้าตาจริงจังแล้วก็ลากฉันมานี่
แล้วก็บอกไม่มีอะไร ฉันงงไปหมดแล้วนะ”
มัมวีนใส่ด้วยความโมโห
“ฉันขอโทษละกันไปละ”
แล้วนิคก็เดินจากไป ทิ้งมัมไว้ที่หน้าห้องเรียน
ตกเย็นขณะที่นิคเดินกลับบ้านผ่านเขตก่อสร้างพวกแทนเทอร์ก็ปรากฏตัวขึ้น
“ว่าไง ไนท์แมร์ เทอร์รัม หรือว่าจะให้เรียกนิคดีละหืม
ฉันไปดูข้อมูลนายที่ห้องกรรมการนักเรียนมาแล้ว
ใช่นายจริงๆด้วยที่ช่วยแฟนได้ทันเมื่อตอนเที่ยง
แต่อย่างที่ฉันบอกถ้าไม่ได้หล่อนมาแกก็ต้องเจ็บตัว”
นิคยืนนิ่งไม่พูดอะไร
“ว่าไงกลัวจนขยับขาไม่ออกเลยเหรอ งั้นก็ดีฉันจะได้ไม่เปลืองแรง”
เมื่อแทนเทอร์พูดจบทุกคนก็วิ่งเข้าหานิค
ทันไดนั้นเองนิคหยิบของออกจากกระเป๋าแล้วขว้างลงไปที่พื้น
พอพวกนั้นเหยียบก็ต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“นี่มันอะไรกันวะ”
แทนเทอร์ตะโกนด้วยความโมโห
“ดูที่พื้นสินั่นมันตะปูเรือใบทั้งนั้นเลย”
เดฟพูดพร้อมชี้ไปที่พื้น
นิคหัวเราะออกมาเบาๆ
“หึหึหึ ใช่แล้วพวกโง่ ฉันรู้แล้วว่าพวกแกต้องตามหาฉันและมาดักแบบนี้
ฉันเลยเตรียมการทำเอาไว้ก่อนตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว”
แทนเทอร์มองหน้านิคด้วยความแค้นสุดขีด
“เชอะแค่ลูกไม้ตื้นๆนี่คิดว่าจะหยุดฉันได้เหรอ
แค่เดินตรงข้างทางที่ไม่มีเรือใบก็ผ่านได้แล้วระวังตัวให้ดีเถอะแก”
“โอ๊ะโอ ฉลาดไม่เบานี่แล้วคิดว่าฉันจะอยู่ให้กระทืบรึไงไปก่อนนะ”
นิคพูดจบก็รีบวิ่งหนีไปในเขตก่อสร้าง
พวกแทนเทอร์ตามนิคมาจนถึงกลางลานที่ยังไม่มีสิ่งก่อสร้าง
และเป็นพื้นที่ถูกปิดล้อมเอาไว้
“ระวังลูกเล่นของไอ้นี่ไว้นะโว้ยมันอาจเล่นตุกติกอีกแน่ๆ”
แทนเทอร์พูดและยืนปิดทางออกซึ่งนิคยืนนิ่งและหันหลังให้กับพวกเขา
“เฮ้ยแทนเทอร์ นายคิดว่าแค่มีพวกมากแล้วจะทำอะไรฉันได้จริงๆเหรอ
รู้ไหมว่าทำไมทั้งที่ฉันรู้ว่าพวกนายจะมาดักรอฉันแล้วฉันถึงเตรียมมาแค่เรือใบ”
นิคพูดพร้อมกับค่อยๆหนักลับมาแสยะยิ้มให้กับพวกแทนเทอร์
รอยยิ้มที่น่าขนลุกของนิคทำให้แทนเทอร์เริ่มลังเล
“แล้วอะไรละที่ทำให้นายมั่นใจขนาดนั้นละนิค”
แทนเทอร์พยายามเรียกความกล้ากลับมา
“หึหึหึ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า อะไรนะเหรอ...มันแน่อยู่แล้ว...ก็เพราะพวกนายมันกระจอกไง”
สายตาและรอยยิ้มอันน่าขนลุกของนิคทำให้พวกแทนเทอร์ถึงกลับผวา
“กะ กลัวอะไรกับแค่คนไม่มีอาวุธคนเดียววะ ลุยไปพร้อมกันเลย”
แทนเทอร์ร้องตะโกนเสียงดังแล้วพวกเขาวิ่งกรูเข้าไปหานิคทั้งห้าคน
ขณะที่ทุกคนเงื้อไม้ในมือเพื่อจะฟาดนิคจู่ๆก็ร่วงลงไปในดินเหมือนถูกดูดลงไป
พวกเขาตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่ลึกกว่าสามเมตร
“นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย”
แทนเทอร์ตะโกนด้วยความโมโห
“แกทำได้ยังไงแกเอาเวลาไหนมาวางกับดักพวกนี้กัน”
นิคค่อยๆเดินมาที่ปากหลุม
“เปล่าเลยฉันไม่ได้วางกับดักพวกแกแต่กับดักนี้ถูกวางไว้ก่อนแล้ว”
“หมายความว่าไงกัน”
“ฉันจะบอกพวกนายให้เอาบุญละกัน
หลุมนี้มีไว้เพื่อหล่อเสาเข็มในการสร้างตึกที่ตรงนี้
ฉันผ่านที่นี่ทุกวันจึงรู้ว่าคนสร้างตึกต้องขุดหลุมลึก
แล้วค่อยตอกเสาเข้มลงไปในหลุมแล้วจะเหลือส่วนบนไว้
เพื่อที่จะเทคอนกรีตยึดเสาเข้มนี้ไว้อีกที
และแน่นนอนเขาจะเริ่มตอกเสาเข็มในวันพรุ่งนี้
และเมื่อวานนี้ฝนก็ตกหนักแน่นอนว่าคนงานต้องเอาผ้าใบมาปิดปากหลุม
เพื่อไม่ให้น้ำและดินไหลลงไปกลบหลุมที่ขุดไว้
แล้วดินโคลนที่ไม่สามารถเข้าหลุมได้ก็ไปเคลือบผิวผ้าใบด้านบนบางๆ
จนดูกลมกลืนยังไงละ มันจึงกลายเป็นกับดักที่สมบูรณ์แบบ
และชั้นแค่หลอกล่อพวกนายนิดหน่อยก็วิ่งมาตกหลุมพรางของฉันเข้าอย่างจังยังไงละ”
“หน๋อยแก ถ้าขึ้นไปได้แกเจอดีแน่”
แทนเทอร์ประกาศกร้าว
“หึ ความจริงแล้วฉันจะเทคอนกรีตฝังพวกนายทั้งเป็นก็ยังได้
แต่ฉันบอกแล้วไงว่าพวกนายทำอะไรฉันไม่ได้หรอกเพราะพวกนายมันกระจอกไงละ
นี่แหละความห่างชั้นของคนโง่กับคนฉลาดละ”
แล้วนิคก็เดินจากไปปล่อยทิ้งให้พวกแทนเทอร์ไว้อย่างนั้น
สองวันผ่านไปหลังจากนั้น
นิคคอยระวังตัวไม่ให้อยู่ในที่ที่เขาจะถูกลอบทำร้ายได้
ซึ่งสร้างความหัวเสียให้กับแทนเทอร์ที่จ้องเล่นงานอย่างมาก
ในช่วงพักเที่ยงขณะที่นิคกำลังเดินกลับห้องมัมก็เดินเข้ามาคุยกับนิคตามปรกติ
แทนเทอร์ที่มองอยู่ห่างออกไปก็เห็นภาพนี้เข้า
“หน๋อย...แกบังอาจมาพลอดรักหยามฉันได้ อย่าอยู่เลย”
แทนเทอร์สติแตกและคว้าท่อนไม้ในโรงเก็บของวิ่งไปหานิค
ทุกคนต่างตกตะลึงยืนนิ่งแต่นิคมีสติมากพอที่จะผลักมัมออกไป
และพยายามเบี่ยงตัวหลบถึงแม้ว่านิคจะหลบไม่พ้น
แต่ก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเพียงเล็กน้อย
แทนเทอร์ถูกคนแถวนั้นช่วยกันจับตัวไว้และถูกพักการเรียนในทันที
นิคถูกพาตัวมายังห้องพยาบาลเพื่อทำแผล
“เบาๆหน่อยสิมันเจ็บนะ”
นิคพูดขึ้นขณะที่มัมนั่งทำแผลอยู่ข้างๆ
“นายนี่มันบ้าจริงๆนิคดันไปหาเรื่องพวกนักเลงเนี่ยเอ้าเสร็จแล้ว”
พอมัมแปะผ้าก๊อตที่หัวของนิคเสร็จก็เดินเอาอุปกรณ์ทำแผลไปเก็บ
“ฉันเห็นนะนิค”
อยู่ๆมัมก็พูดขึ้นมาขณะที่กำลังเก็บอุปกรณ์
อีกแล้ว...มัมพูดเหมือนกับตอนที่เจอเธอที่เนินเขา
นิคเริ่มเกิดความสงสัยว่าเธอเห็นอะไรกันแน่
“ฉันเห็นนายคอยช่วยเหลือคนอื่นๆเสมอๆ
ทั้งเรื่องที่นายแกล้งขัดขาคนบนรถไฟเพื่อจับคนลวนลาม
เรื่องที่นายคอยขัดจังหวะเวลาจะมีคนทำร้ายกัน
หรือเรื่องที่ช่วยเด็กคนนั้นจากพวกรีดไถที่โรงอาหาร”
นิครู้สึกพลาดกับนิสัยไม่ชอบคนชั่วของตัวเองที่ทำให้เขาต้องเข้าไปช่วย
ในการกระทำที่มันเกิดต่อหน้าต่อตาทุกครั้ง
“และเจ้าบัคที่เป็นหมาจรจัดตัวนั้นนายก็คอยให้อาหารและเล่นกับมันประจำ”
ที่แท้เพราะเธอเห็นนิคมักไปเล่นกับบัคแก้เซ็งนี่เองเลยรู้ว่ามันสนิทกับนิค
และเธอจึงตามมันไปเพื่อหาเขา
“และฉันก็รู้ว่านายพยายามช่วยหาแมร์รี่ใช่ไหมละ”
มัมหันกลับมามองนิค
“เฮอะถูกแฉหมดเปลือกเลยแฮะเรา”
นิคต้องยอมจำนนเพราะเธอเห็นเกือบหมดจริงๆ
“แล้วแมร์รี่เป็นยังไงบ้างละ”
มัมเดินกลับมานั่งข้างๆนิค
“มันอาจรับยากหน่อยนะมัม ความจริงแล้วแมร์รี่ถูกคนลักพาตัว
แต่ฉันรู้ว่าข้อมูลมันน้อยเกินไปเลยใช้เวลาอีกสองวันถึงได้ข้อมูลคนร้ายและวิธีการ
คืนนั้นฉันโทรไปที่โรงพักแต่คดีถูกปิดไปแล้วและตำรวจไม่ยอมรับฝังฉัน
นี่แหละคือบทสรุป...”
มัมอึ้งไปครู่หนึ่ง
“เพราะนายช่วยเธอไม่ได้สินะวันนั้นถึงได้โดดเรียนไปที่นั่น”
มัมพูดด้วยน้าเสียงอ่อยๆ
“แล้วครั้งนี้ละนายช่วยใคร”
มัมถามนิคอีกครั้ง
“แล้วทำไมเธอถึงอยากรู้นักละมัม”
“เพราะทุกครั้งนายไม่เคยเข้าไปยุ่งด้วยทั้งตัวแบบนี้จนต้องเจ็บตัวเลยนี่ฉันเป็นห่วง...”
มัมรีบปิดปากเมื่อรู้ว่าเธอพูดมากเกินไปเสียแล้ว
“เพราะอะไรกันมัม”
นิครู้ว่ามัมกำลังซ่อนอะไรบางอย่าง
“ถ้านายยอมบอกฉันฉันก็จะยอมบอกนาย”
มัมพยายามหลบตานิคและหลังจากนั้นความเงียบก็เข้ามา
สักพักนิคลุกเดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่าง