The Blue Hour อนธการ
*****Spoiled Alert เหมาะสำหรับคนที่ดูแล้วเท่านั้น*****
โลกแขวนลอยของตั้ม
ตั้มเป็นเด็กหนุ่มสีหม่น
เขาเป็นเกย์ ที่บ้านรู้ว่าเขาเป็น เพื่อนที่โรงเรียนก็รู้ว่าเขาเป็น
นั่นเป็นเหตุให้เขาโดนซ้อมตี และโดนกลั่นแกล้งเป็นประจำ
เมื่อที่บ้านและโรงเรียนไม่ใช่พื้นที่สำหรับตั้ม
ทางเดินของเขาจึงเหลือเพียงทางแคบๆ บนกำแพง
มันไม่น่าจะใช่ทางที่จะเดินได้เสียด้วยซ้ำ
น่าสงสัยว่าในโลกใบนี้ พอจะมีพื้นที่สำหรับตั้มบ้างมั้ย
และเย็นวันหนึ่ง
ตั้มนัดเจอกับ ภูมิ เด็กหนุ่มอีกคน
ณ สระว่ายน้ำรกร้าง
ทั้งสองมีอะไรกันในห้องน้ำที่เคยมีคนตาย
หลังจากนั้นภูได้พาตั้มไปรู้จักโลกใบใหม่
โลกที่ท้องฟ้าหม่นๆ
มันเต็มไปด้วยสารแขวนลอยและตะไคร่น้ำลอยล่อง
โลกที่มองจากใต้น้ำขึ้นไปบนฟ้า
ตั้มคิดว่านี่คือโลกของเขา
เขาเหมือนสารแขวนลอยที่ไม่มีวันจะผสมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ
ไม่มีอะไรเป็นตัวประสาน
มันแยกกันอยู่อย่างอิสระ ลอยไปมาอยู่ในนั้น
ตั้มต้องการอิสระ...อิสระจากโลกสีหม่น
อิสระของตั้มย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย
มันแลกมาด้วยอาชญากรรม
แต่เด็กหนุ่มสีหม่นไม่ยี่หระ
ในเมื่อไม่มีใครมองเขาดีอยู่แล้ว
นึกถึงตอนที่พี่ชายซ้อมเขา
พี่ชายด่าทอว่า 'แกเคยทำอะไรดีๆ บ้างมั้ย'
เขาตะคอกกลับ 'แล้วพี่เคยทำอะไรเลวๆ บ้าง'
ตั้มตระหนักทันทีว่าเขาไม่ใช่สารแขวนลอย
ทว่าเป็น
ตะไคร่น้ำต่างหาก
ตั้มต้องการกำจัดตะไคร่น้ำทิ้ง
เขาลงไปขัดตะใคร้ที่ขอบสระว่ายน้ำอย่างวิตกจริต
เหมือนโดนผีเข้า
ภูมิบอกว่าอาจจะเป็นผีบังตา
แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใด
ตั้มไม่อาจกำจัดตะไคร่น้ำได้
เพราะเขาคือตะไคร้น้ำ
สุดท้ายเขาจึงเลือกกำจัดคนอื่นแทน
บิดบังไม่ให้พบเห็นไปตลอดกาล
ในเช้าวันใหม่
เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจริงๆ ในโลกของตั้ม
ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ถึงแม้ว่ามันยังดูหม่นๆ อยู่
ทว่ากระจ่างใส ไร้สิ่งรกหูรกตา
นี้คือโลกใบใหม่ของตั้ม
--------------------------------------------------------------------------
คือ จขทก สนุกกับการขบคิดถึงสัญญาลักษณ์ต่างๆ ในหนังเรื่องนี้มาก
คือไม่ได้จะบอกว่าตัวเองตีความถูกแต่อย่างไร เชื่อว่าที่เขียนนั้นออกทะเลไปก็เยอะ
แต่มันก็สนุกที่ได้คิด ไม่ใช่สนุกที่คิดได้
แต่ความจริงก็คือ นี่เป็นหนังจิตวิทยาที่บทดีแบบที่หาได้โคตะระยากในอุตสาหกรรมหนังไทย
แถมยังเป็นหนังผีที่ดีมากเช่นกัน!
ชอบในความโรแมนติกของ ตั้ม และ ภูมิ
มันอันตรายและก็น่าหลงใหล
ลองคิดดูว่าชีวิตที่เหมือนไม่มีตัวตนมาทั้งชีวิต
อยู่ดีๆ มีคนมาเคียงข้าง มาแลกเปลี่ยนความฝันของกันและกัน
แค่นี้มันก็เพียงพอที่จะทำเรื่องเลวๆ แบบนั้นแล้ว
นานๆ ทีจะมีหนังไทยที่ทำให้ปลื้มปริ่มได้ขนาดนี้
เป็นหนังดีที่น่าสนับสนุน
ถ้าไม่ติดขัดเรื่องฉากผู้ชายมีอะไรกัน (ระดับเด็กๆ ไม่โป๊เปลือย แค่ภายนอก)
ก็อยากให้ไปลองดูกัน
[CR] ตะกอนที่ได้จาก The Blue Hour อนธการ (ตีความและสปอย 100%)
*****Spoiled Alert เหมาะสำหรับคนที่ดูแล้วเท่านั้น*****
โลกแขวนลอยของตั้ม
ตั้มเป็นเด็กหนุ่มสีหม่น
เขาเป็นเกย์ ที่บ้านรู้ว่าเขาเป็น เพื่อนที่โรงเรียนก็รู้ว่าเขาเป็น
นั่นเป็นเหตุให้เขาโดนซ้อมตี และโดนกลั่นแกล้งเป็นประจำ
เมื่อที่บ้านและโรงเรียนไม่ใช่พื้นที่สำหรับตั้ม
ทางเดินของเขาจึงเหลือเพียงทางแคบๆ บนกำแพง
มันไม่น่าจะใช่ทางที่จะเดินได้เสียด้วยซ้ำ
น่าสงสัยว่าในโลกใบนี้ พอจะมีพื้นที่สำหรับตั้มบ้างมั้ย
และเย็นวันหนึ่ง
ตั้มนัดเจอกับ ภูมิ เด็กหนุ่มอีกคน
ณ สระว่ายน้ำรกร้าง
ทั้งสองมีอะไรกันในห้องน้ำที่เคยมีคนตาย
หลังจากนั้นภูได้พาตั้มไปรู้จักโลกใบใหม่
โลกที่ท้องฟ้าหม่นๆ
มันเต็มไปด้วยสารแขวนลอยและตะไคร่น้ำลอยล่อง
โลกที่มองจากใต้น้ำขึ้นไปบนฟ้า
ตั้มคิดว่านี่คือโลกของเขา
เขาเหมือนสารแขวนลอยที่ไม่มีวันจะผสมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ
ไม่มีอะไรเป็นตัวประสาน
มันแยกกันอยู่อย่างอิสระ ลอยไปมาอยู่ในนั้น
ตั้มต้องการอิสระ...อิสระจากโลกสีหม่น
อิสระของตั้มย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย
มันแลกมาด้วยอาชญากรรม
แต่เด็กหนุ่มสีหม่นไม่ยี่หระ
ในเมื่อไม่มีใครมองเขาดีอยู่แล้ว
นึกถึงตอนที่พี่ชายซ้อมเขา
พี่ชายด่าทอว่า 'แกเคยทำอะไรดีๆ บ้างมั้ย'
เขาตะคอกกลับ 'แล้วพี่เคยทำอะไรเลวๆ บ้าง'
ตั้มตระหนักทันทีว่าเขาไม่ใช่สารแขวนลอย
ทว่าเป็นตะไคร่น้ำต่างหาก
ตั้มต้องการกำจัดตะไคร่น้ำทิ้ง
เขาลงไปขัดตะใคร้ที่ขอบสระว่ายน้ำอย่างวิตกจริต
เหมือนโดนผีเข้า
ภูมิบอกว่าอาจจะเป็นผีบังตา
แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใด
ตั้มไม่อาจกำจัดตะไคร่น้ำได้
เพราะเขาคือตะไคร้น้ำ
สุดท้ายเขาจึงเลือกกำจัดคนอื่นแทน
บิดบังไม่ให้พบเห็นไปตลอดกาล
ในเช้าวันใหม่
เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจริงๆ ในโลกของตั้ม
ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ถึงแม้ว่ามันยังดูหม่นๆ อยู่
ทว่ากระจ่างใส ไร้สิ่งรกหูรกตา
นี้คือโลกใบใหม่ของตั้ม
--------------------------------------------------------------------------
คือ จขทก สนุกกับการขบคิดถึงสัญญาลักษณ์ต่างๆ ในหนังเรื่องนี้มาก
คือไม่ได้จะบอกว่าตัวเองตีความถูกแต่อย่างไร เชื่อว่าที่เขียนนั้นออกทะเลไปก็เยอะ
แต่มันก็สนุกที่ได้คิด ไม่ใช่สนุกที่คิดได้
แต่ความจริงก็คือ นี่เป็นหนังจิตวิทยาที่บทดีแบบที่หาได้โคตะระยากในอุตสาหกรรมหนังไทย
แถมยังเป็นหนังผีที่ดีมากเช่นกัน!
ชอบในความโรแมนติกของ ตั้ม และ ภูมิ
มันอันตรายและก็น่าหลงใหล
ลองคิดดูว่าชีวิตที่เหมือนไม่มีตัวตนมาทั้งชีวิต
อยู่ดีๆ มีคนมาเคียงข้าง มาแลกเปลี่ยนความฝันของกันและกัน
แค่นี้มันก็เพียงพอที่จะทำเรื่องเลวๆ แบบนั้นแล้ว
นานๆ ทีจะมีหนังไทยที่ทำให้ปลื้มปริ่มได้ขนาดนี้
เป็นหนังดีที่น่าสนับสนุน
ถ้าไม่ติดขัดเรื่องฉากผู้ชายมีอะไรกัน (ระดับเด็กๆ ไม่โป๊เปลือย แค่ภายนอก)
ก็อยากให้ไปลองดูกัน