อนธการเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก จิตวิทยา สยองขวัญ ที่ได้รับรางวัลถึงสองรางวัลจาก Fantasia International Film Festival ซึ่งเมือได้โอกาสไปดูแล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย
ให้คะแนน 9/10
ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ในความคิดผมเป็นหนังไทยยอดเยี่ยมแห่งปีเลยล่ะ ใครสนใจรอแผ่นออกแล้วหาดูนะ เพราะรอบสุดท้ายเพิ่งฉายไปวันนี้ (ผมไปดูทันแบบเฉียดฉิวเลย แต่ถ้าแผ่นออกจะต้องหาซื้อมาเก็บไว้แน่นอน)
ส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวฟิล์มนัวร์ที่คุมโทนของภาพและเนื้อเรื่องให้ออกมานัวร์ได้ดีมาก เป็นหนังที่บีบคั้นอารมณ์มาก จนตอนที่หนังจบ เราต้องออกมาถอนหายใจ 5ครั้งรวดใน1วินาทีอยู่หน้าโรง ทั้งเรื่องมีจุดที่ทำให้ยิ้มออกมาได้น้อยมาก
ในส่วนของภาพ บอกเลยว่างดงามมาก องค์ประกอบภาพสวย แสงดี มองโดยรวมคือถือว่าดี
นอกเหนือจากความงามของภาพ ผมยังชอบฉากอีโรติกของทั้งสองคน มันเป็นฉากที่ไม่โป๊ เสื้อก็ยังมี ท่อนล่างก็ไม่เห็น เรียกได้ว่ามินิมอลสุดๆ แต่มันร้อนแรง มันอีโรติก โรแมนติก และทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วม ซึ่งมันก็เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆให้ภาพยนตร์แนวเควียร์ (Queer , LGBT) ว่า มันไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายหล่อล่ำเยอะๆมายืนโป๊ยั่วหน้ากล้อง มันก็ทำให้หนังดูเซ็กซี่ได้ //ผมไม่พาดพิงหนังของใครนะครับ //แต่หนังเรื่องนี้ดีกว่าหนังเควียร์ของไทยหลายเรื่องจริงๆ
ในส่วนของเนื้อเรื่อง ใครคิดว่าเรื่องนี้เป็นหนังเกย์ใสๆ จบสวยๆ ต้องขอบอกว่าคิดใหม่ได้เลย!!
เนื้อเรื่องออกมากดดันมาก สื่อออกมาถึงด้านมืดในจิตใจ ปัญหา ความสับสนของคัวละครเอกได้ดีมาก
การวางลำดับเนื้อเรื่องมีการสลับไปมาทำให้บางทีก็มีแอบงงว่า เอ๊ะ นี่มันอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ต้องใช้สมาธิและคอยคิดตามตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็เป็นการสื่อถึงความสับสนของตัวละครได้ดี
ทั้งเรื่องใส่สัญลักษณ์เยอะสุดๆ เยอะจนบอกตรงๆว่าตีความสัญลักษณ์ออกไม่หมดเลยทีเดียว
และอีกเรื่องที่ชอบคือการใส่เรื่องศพ เรื่องผีเข้ามาทำให้อกสั่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ พูดง่ายๆก็คือความสยองขวัญในเรื่องไม่เป็นผีตุ้งแช่ แต่กดดันจนหัวใจเต้นรัวๆ
เนื้อเรื่องมีความซับซ้อนสูงมาก จึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังแนวที่มัน Mass เลย เข้าไปดูออกมาคงบ่นว่าไม่เข้าใจ หรือไม่ก็มีโอกาสจะหลับตั้งแต่ช่วงแรกๆ
จุดที่หักลบคะแนนคือตอนเริ่มเรื่องที่ค่อนข้างมีความยืดเยื้อ (แต่ในอีกแง่ก็ต้องยอมรับว่าภาพในช่วงนี้ก็สวย และช่วงแรกนี้ก็ทำให้คนดูได้สัมผัสถึงอารมณ์ของหนังได้ตั้งแต่เริ่ม)
ข้างล่างเป็นการตีความสัญลักษณ์ของผมนะครับ ใครกลัวสปอยล์ข้ามไปเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตีความหนังเรื่องอนธการ สไตล์บอลลูน
คำเตือน ยาวมาก เพราะสัญลักษณ์มันเยอะมาก เรื่องก็ซับซ้อน
- ตัวหนังเล่าถึงเรื่องของ ตั้ม ที่เป็นเกย์คนหนึ่งที่มีปัญหามากมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเงินทองที่ไม่พอใช้ โดนเพื่อนซ้อม และกับครอบครัวที่ไม่สามารถรับได้ว่าตนเองเป็นเกย์ รวมไปถึงความไม่ลงรอยกับพ่อและพี่ชาย โดยที่ตั้มมีพฤติกรรมที่ชอบในการปีนป่ายมาก (ไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู นางปีนป่ายเป็นสไปเดอร์แมนเลยจ้ะ) ซึ่งอาจจะแสดงให้เห็นถึงการที่ตั้มไม่สามารถมีจุดยืน จุดเดินปกติในสังคมได้
ตัวของตั้มเนี่ยเป็นตัวละครที่ค่อนข้างกลม ไม่นำเสนอในแง่ที่ให้ตั้เป็นเหยื่อของการไม่ยอมรับในสังคมซะทีเดียว แต่ตัวตั้มเองก็เต็มไปด้วยด้านมืดในจิตใจ
- ภูมิ เกย์ที่ตั้มนัดมาเจอกับตั้มผ่านทางโลกออนไลน์ ซึ่งครอบครัวของภูมิเองก็มีปัญหา โดนโกงที่ไป
-ทั้งเรื่องมีฉากหลักๆที่ต้องจำอยู่3ฉาก นั่นคือ
1.บ้านของตั้ม เปรียบได้เหมือนโลกที่ตั้มอยู่มาตลอดชีวิต เป็นที่ที่มอบความอึดอัด ความไม่เชื่อใจกัน
2.ลานขยะ ที่ดินของภูมิที่โดนนายทุนโกงไป เป็นที่ที่เต็มไปด้วยของเน่าเสีย และความโสมมของสังคม (ฉากสวยมาก ดูอ้างว้าง กว้างใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยขยะเหมือนกับจะสื่อว่าต่อให้มีที่กว้างขนาดไหนก็ไม่มีทางบรรจุความสกปรกเหล่านี้ลงไปได้พอ)
3.สระว่ายน้ำร้าง เป็นสถานที่ของทั้งสองคน สถานที่ที่ทั้งสองเจอกัน และเป็นสถานที่ที่เกิดเรื่องต่างๆมากมาย
- ฉากเลิฟซีนของเรื่องนี้เป็นอะไรที่มินิมอลมาก ไม่โป๊ เสื้อผ้าอยู่ครบทั้งบนและล่าง แต่ก็เป็นฉากที่ร้อนแรง คนดูถึงกับสยิวตามไปด้วย และในฉากเลิฟซีนนี้เองมันจะมีสัญลักษณ์นึงซ่อนอยู่ นั่นคือการที่ตั้มชอบเลิฟซีนแบบที่ให้ภูมิกอดแน่นๆ มันสื่อว่าตั้มนั้นโหยหาความอบอุ่นจากอ้อมกอดของใครบางคน
- การที่ภูมิสอนตั้มให้ทิ้งตัวลงในน้ำแล้วแหงนมองขึ้นมาบนฟ้า เพื่อทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และแสดงภาพให้เห็นท้องฟ้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยกระแสน้ำ ในจุดนี้เราคิดว่าเขาต้องการจะสื่อว่าตั้มจะผ่อนคลายได้ถ้าเขาได้อยู่ในโลกที่บิดเบือนจากความจริง (รึเปล่า?)
- ครอบครัวของตั้ม ประกอบไปด้วย แม่ พี่ชาย และพ่อ เรื่องนี้มีความพิเศษอย่างมาก เพราะทั้งเรื่องเราจะไม่ได้เห็นพ่อแบบเป็นๆเลย ทั้งที่พ่อเป็นต้นตอของปัญหาต่างๆของชีวิตของตั้ม
- แม้พ่อจะไม่ได้โผล่ออกมาเลย แต่เราจะสังเกตเห็นถึงความสัมพันธ์ของตั้มและพ่อได้ผ่านทางคำพูดของตั้มที่บอกเองว่าต้องการจะแก้แค้นพ่อ จึงนำพระของพ่อไปขาย และจากคำพูดของแม่ที่บอกตั้มว่า พ่อไม่ชอบที่ลูกเป็นเกย์
- ความสัมพันธ์ของแม่และตั้มนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่อบอุ่นมาก เพราะแม่เป็นคนเพียงคนเดียวในบ้านที่เชื่อใจตั้ม สามารถรับในเพศของเขาได้ และคอยดูแล เช็ดตัวให้เขาเวลาไข้ขึ้น
- ฉากที่แม่บอกว่าแม่เข้าใจ และจะค่อยๆพูดกับพ่อให้ เป็นอะไรที่ดูแล้วยิ้มออกมา เป็นหนึ่งในไม่กี่ฉากที่สวยใส
- ความสัมพันธ์กับพี่ชายของตั้มแสดงให้เห็นว่าไม่ดีเลย พี่ชายตบน้อง ด่า ดูถูกน้อง และโยนความผิดทุกอย่างให้น้อง ซึ่งความสัมพันธ์ของตัวพี่ชายเองก็น่าจะเป็นหนึ่งในระเบิดเวลาที่ตั้งอยู่ลึกๆในจิตใจของตั้ม
- ประเด็นของเกย์ที่หนังนำเสนอผ่านคำพูดของภูมินั้นดีมาก ที่เสนอว่า ถ้าเป็นเกย์แล้วไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต มันเลวมากเลยหรือ
- การที่ภูมิได้พาตั้มเข้าไปในลานขยะ ที่เกิดจากที่ดินที่ถูกโกงไปเนี่ยเป็นการพาตั้มให้เข้ามาสู่โลกของตน จุดนี้เองเป็นชนวนที่ทำให้ตั้มก้าวเข้าไปสู่บทบาทของความรุนแรง
- ตั้มบังเอิญไปเจอศพเข้า เลยเผลอร้องทำให้มีคนคนหนึ่งออกมาไล่ยิงตั้มที่เจอศพ
- เอาจริงๆ คือไม่แน่ใจว่า ผู้ชายที่วิ่งไล่ยิงตั้ม แล้วตั้มเอาท่อนเหล็กทุบตายไปในลานขยะนี้ต้องการสื่ออะไร แต่คิดว่ามันน่าจะเป็นการแสดงออกถึงการปลดปล่อยความรุนแรงในตัวตั้มเอง
- ส่วนศพที่เห็นในลานขยะเองก็เป็นการแสดงว่าลานขยะเป็นสถานที่ที่สามารถทิ้งสิ่งที่ไม่ต้องการ ปัญหา ความโสมมต่างๆได้โดยไม่มีใครรู้
- หรือก็คือทั้งภูมิที่สอนให้ตนผ่อนคลาย และโลกของภูมินี้ที่สามารถใช้ทิ้งปัญหาต่างๆออกไปได้ ต่างก็เป็นสิ่งที่ค้ำจุน และมอบจุดยืนให้กับตน และในอีกแง่ทั้งสองอย่างก็ผลักดันให้ตั้มก้าวเดินออกมาจากโลกของตั้ม โดยการโยนโลกของเขา (ปัญหาในชีวิต ครอบครัวของตน) ทิ้งไว้ในลานขยะนี้
- ตั้มได้เคยขอให้ภูมิเช็ดตัวให้เขาตอนเขาไข้ขึ้น มันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความผูกพันของเขาที่มีต่อแม่ มันทำให้เราเกิดคำถามว่า ตั้มกำลังมองว่าความอบอุ่นจากภูมิเหมือนกับความอบอุ่นจากแม่อยู่รึเปล่า (จุดนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างสำคัญ และมีผลต่อการตีความในตอนท้ายของเรื่อง)
- หลังจากจุดพีคตอนที่ตั้มเจอศพและวิ่งหนีคนร้ายไปรอบนึงแล้ว จุดที่ทำให้ระทึกขวัญยิ่งกว่านั้นจะเริ่มมาเรื่อยๆจนไม่ได้หยุดพัก หัวใจเต้นรัวๆจนจบเรื่องเลยทีเดียว แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรื่องราวจะสลับไปมา ซับซ้อนมาก ต้องตั้งสมาธิดีๆถึงจะเข้าใจ
- จุดพีคจะเริ่มมาจากตั้มมองไปที่ตะไคร่น้ำที่ริบขอบสระที่เป็นรูปร่างของคน แล้วตั้มก็ลงไปขัดตะไคร่น้ำพวกนั้น แม้มือจะเจ็บก็ยังขัดต่อไป จนตนเองจมน้ำ โชคดีที่ภูมิมาช่วยขึ้นไปได้
- ซึ่งหลังจากนั้นภูมิเล่าให้ฟังเรื่องของ 'ผีบังตา' ให้ตั้มฟัง ตั้มเกิดกลัวขึ้นมา ภูมิจึงชวนตั้มไปจะไปพิสูจน์ความกล้าในห้องน้ำชายเพื่อให้ตั้มหายกลัว แต่แล้วทั้งสองคนจะไปเจอกับศพของพี่ชายของตั้มเข้า
- คำถามในฉากนี้คือ ใครฆ่าพี่ชาย ต้องดูต่อไปถึงจะรู้คำตอบ
- ต่อมาเนี่ยตั้มและภูมิกลับเข้ามาเก็บกวาดศพพี่ชาย แต่ศพพี่ชายก็หายไปแล้ว โดยภูมิให้เหตุผลว่าอาจจะเป็นเพราะผีบังตา
- ในช่วงที่อยู่ในห้องน้ำนั้นเองจู่ๆภูมิก็หายไป ตั้มมองหาเท่าไรก็ไม่เจอ เพราะผีบังตาอยู่ (ฉากนี้ตอนมีมือผีออกมาบังตาแทบจะกรี๊ด 55+) ตั้มจึงได้แต่ยืนร้องไห้คนเดียวข้างๆตะไคร่น้ำที่จับกันหนาบนกำแพง
- คำถามอีกก็คือ 1.ศพพี่หายไปไหน 2.ผีบังตาคือสัญลักษณ์อะไร 3.ตะไคร่น้ำคือสัญลักษณ์อะไร
- ตั้มตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตนนอนอยู่ในห้องของภูมิ และภูมิยังนอนอยู่ข้างๆตนเอง ตั้มร้องไห้ ผุดลุกขึ้นมาขี่มอเตอร์ไซค์ไปข้างนอก (ภูมิกลับมาได้ยังไง แล้วตั้มขับไปไหน)
- ภาพตัดสลับมาตอนภูมิพาตั้มมาคุยกับมือปืนรับจ้าง ภูมิและตั้มจ้างคนไปฆ่าใครสักคน มีระบุแค่ว่ามีคนนึงใส่เสื้อทหาร ทั้งภูมิและตั้มยินดีจ่ายทุกอย่างที่เหลืออยู่ และมือปืนก็รับงานไป
(จุดที่ต้องสังเกตคือ ตั้มขี่มอเตอร์ไซค์มาคนเดียว แต่ภูมิไม่ได้ขี่มาด้วย แล้วทำไมในฉากนี้ถึงมีภูมิมาอยู่ด้วย - ฉากนี้จึงน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่ตั้มจะตื่นมาร้องไห้และขับรถออกมา)
- ภาพตัดกลับมาตั้มขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้านตนเอง ปีนเข้าบ้านทางดาดฟ้า เดินลงมาจะเจอศพคนโดนเอาหมอนผิดหน้าไว้ 3คน นั่นคือแม่ พี่ และคนในชุดทหาร ซึ่งจะเป็นใครได้นอกจากพ่อ
- ตั้มมาเปิดหมอนที่ปิดหน้าแม่ขึ้น ร้องไห้ และปิดตาของแม่ที่ค้างอยู่ให้หลับลง
-ฉากนี้จะตอบคำถามได้ทั้งหมดนั่นคือ ตั้งแต่ฉากขัดตะไคร่น้ำ เจอศพพี่ในห้องน้ำ ศพพี่หายไป ผีบังตาทำให้มองไม่เห็นภูมินั้นไม่ได้เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจของตั้มทั้งนั้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆคือ ตั้มจ้างคนไปฆ่าครอบครัวของตนเอง และพอรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรลงไปก็รีบกลับไปยังบ้าน แต่ก็ไม่มีวันย้อนกลับไปได้อีกแล้ว
- คิดว่าตะไคร่น้ำคือรอยด่างพร้อย ความรู้สึกผิดในจิตใจที่ไม่ว่าจะขัดอย่างไรก็ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิม
- ศพพี่ชายในโลกจิตใจของตั้มน่าจะแสดงถึงโลกเก่าที่ได้ทำลายไป ตนเองจึงต้องมาปกปิดทำลายหลักฐาน
- ส่วนการที่ภูมิหายไป จำก่อนหน้านี้ได้ัมั้ย ที่เราพูดว่าตั้มเรียดร้องความอบอุ่นจากภูมิ เหมือนที่เรียกร้องจากแม่ (อาจจะเป็นเพราะมีเพียง2คนที่ยอมรับและเข้าใจในตัวตั้มนั่นคือแม่และภูมิ) ในจิตใจของตั้มจึงเปรียบภูมิเป็นแม่ เมื่อผีบังตา (ไม่รู้ผิดรู้ชอบ) ทำให้ตั้มต้องสูญเสียแม่ไปและต้องมายืนอยู่คู่กับรอยด่างในใจไปตลอดกาล
- ตั้มที่ตื่นขึ้นมารู้ตนเองว่าสูญเสียแม่ไป แต่ก็ยังมีภูมิอยู่จึงลูบใบหน้าของภูมิ และร้องไห้ออกมา
- และท้ายที่สุดหนังก็ยังทิ้งท้ายคำถามให้เราในตอนจบ ในฉากสุดท้ายที่ตั้มและภูมิยืนอยู่ริมสระ และตั้มชวนภูมิลงไปแหงนหน้ามองฟ้าจากใต้น้ำด้วยกันก่อนจะแสดงให้เห็นภาพท้องฟ้าที่บิดเบี้ยว มันทำให้เราตั้งคำถามว่า
1.ในท้ายที่สุด ตั้มก็ยังไม่สามารถรับความเป็นจริงได้ และต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่บิดเบือนกับภูมิต่อไปหรือ?
2.เมื่อดำดิ่งลงไปใต้น้ำแล้ว ทั้งคู่จะกลับขึ้นมาอีกหรือไม่
3.ชิวิตของเขาทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป
คำถามเหล่านี้ก็แล้วแต่คนจะให้คำตอบแล้วล่ะนะครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นทัศนะส่วนตัวที่ตีความออกมาได้นะ อาจจะไม่ถูกไม่ตรงก็ได้ ใครเห็นเหมือนเห็นต่างบอกได้นะครับ
ปล. ไม่เคยเขียนรีวิวไหนยาวขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกเลย
[CR] ในที่สุดก็ได้ดูซะที The Blue Hour - อนธการ
ให้คะแนน 9/10
ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ในความคิดผมเป็นหนังไทยยอดเยี่ยมแห่งปีเลยล่ะ ใครสนใจรอแผ่นออกแล้วหาดูนะ เพราะรอบสุดท้ายเพิ่งฉายไปวันนี้ (ผมไปดูทันแบบเฉียดฉิวเลย แต่ถ้าแผ่นออกจะต้องหาซื้อมาเก็บไว้แน่นอน)
ส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวฟิล์มนัวร์ที่คุมโทนของภาพและเนื้อเรื่องให้ออกมานัวร์ได้ดีมาก เป็นหนังที่บีบคั้นอารมณ์มาก จนตอนที่หนังจบ เราต้องออกมาถอนหายใจ 5ครั้งรวดใน1วินาทีอยู่หน้าโรง ทั้งเรื่องมีจุดที่ทำให้ยิ้มออกมาได้น้อยมาก
ในส่วนของภาพ บอกเลยว่างดงามมาก องค์ประกอบภาพสวย แสงดี มองโดยรวมคือถือว่าดี
นอกเหนือจากความงามของภาพ ผมยังชอบฉากอีโรติกของทั้งสองคน มันเป็นฉากที่ไม่โป๊ เสื้อก็ยังมี ท่อนล่างก็ไม่เห็น เรียกได้ว่ามินิมอลสุดๆ แต่มันร้อนแรง มันอีโรติก โรแมนติก และทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วม ซึ่งมันก็เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆให้ภาพยนตร์แนวเควียร์ (Queer , LGBT) ว่า มันไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายหล่อล่ำเยอะๆมายืนโป๊ยั่วหน้ากล้อง มันก็ทำให้หนังดูเซ็กซี่ได้ //ผมไม่พาดพิงหนังของใครนะครับ //แต่หนังเรื่องนี้ดีกว่าหนังเควียร์ของไทยหลายเรื่องจริงๆ
ในส่วนของเนื้อเรื่อง ใครคิดว่าเรื่องนี้เป็นหนังเกย์ใสๆ จบสวยๆ ต้องขอบอกว่าคิดใหม่ได้เลย!!
เนื้อเรื่องออกมากดดันมาก สื่อออกมาถึงด้านมืดในจิตใจ ปัญหา ความสับสนของคัวละครเอกได้ดีมาก
การวางลำดับเนื้อเรื่องมีการสลับไปมาทำให้บางทีก็มีแอบงงว่า เอ๊ะ นี่มันอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ต้องใช้สมาธิและคอยคิดตามตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็เป็นการสื่อถึงความสับสนของตัวละครได้ดี
ทั้งเรื่องใส่สัญลักษณ์เยอะสุดๆ เยอะจนบอกตรงๆว่าตีความสัญลักษณ์ออกไม่หมดเลยทีเดียว
และอีกเรื่องที่ชอบคือการใส่เรื่องศพ เรื่องผีเข้ามาทำให้อกสั่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ พูดง่ายๆก็คือความสยองขวัญในเรื่องไม่เป็นผีตุ้งแช่ แต่กดดันจนหัวใจเต้นรัวๆ
เนื้อเรื่องมีความซับซ้อนสูงมาก จึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังแนวที่มัน Mass เลย เข้าไปดูออกมาคงบ่นว่าไม่เข้าใจ หรือไม่ก็มีโอกาสจะหลับตั้งแต่ช่วงแรกๆ
จุดที่หักลบคะแนนคือตอนเริ่มเรื่องที่ค่อนข้างมีความยืดเยื้อ (แต่ในอีกแง่ก็ต้องยอมรับว่าภาพในช่วงนี้ก็สวย และช่วงแรกนี้ก็ทำให้คนดูได้สัมผัสถึงอารมณ์ของหนังได้ตั้งแต่เริ่ม)
ข้างล่างเป็นการตีความสัญลักษณ์ของผมนะครับ ใครกลัวสปอยล์ข้ามไปเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นทัศนะส่วนตัวที่ตีความออกมาได้นะ อาจจะไม่ถูกไม่ตรงก็ได้ ใครเห็นเหมือนเห็นต่างบอกได้นะครับ
ปล. ไม่เคยเขียนรีวิวไหนยาวขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกเลย