นายอำเภอเชื้อโจร (๕) ๘ ส.ค.๕๘

ชุดที่ ๖ เตียวไก่...นายอำเภอเชื้อโจร (ตอนที่ ๕)

ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ

เตียวไก่.....นายอำเภอเชื้อโจร

ตอนที่ ๕ สงครามกองโจร

"เล่าเซี่ยงชุน"

รุ่งขึ้นเช้าลิมชองก็มาหาเตียวไก่ที่โรงก๊วน โงวหยงก็ให้เตียวไก่กับพวกพี่น้องทั้งหมดออกไปรับลิมชอง เชิญเข้ามานั่งในที่อันสมควรข้างใน แล้วขอบคุณที่ลิมชองให้การต้อนรับเป็นอันดี

ลิมชองก็ว่าตนเองมีความรักใคร่ อยากจะให้พวกของเตียวไก่มาอยู่ด้วย แต่ตนเองก็ไม่ได้ว่ากล่าวการงานสิ่งใด จึงเป็นอันจนใจไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ ขออย่าได้ถือโทษเลย

เตียวไก่ก็เชิญให้ลิมชองนั่งเสมอกัน ลิมชองไม่ยอมนั่งคงอยู่ที่เดิม แล้วก็เล่าความแค้นที่มีต่อ เจ้านายของตนที่กลั่นแกล้ง ว่ายังไม่ได้แก้แค้นเลย ที่ได้มาอยู่ในเขาเนียซัวเปาะนี้ ก็เพราะชาจินเป็นคนชักนำ เตียวไก่ก็ว่า

".....ชาจินคนนี้ชื่อเสียงปรากฎมาก คบหาพวกพ้องก็มีแต่คนฝีมือเข้มแข็ง แล้วก็เป็นเชื้อพระวงศ์ของ พระเจ้าชาซิจงฮ่องเต้ สืบมา ถ้าแม้นว่าได้พบปะรู้จักกันสักครั้งหนึ่ง ก็เห็นจะดี…”

ซึ่งโงวหยงเสริมว่า

".....ชาจินแจ้งว่าท่านมีสติปัญญาและฝีมือเข้มแข็ง จึงชักนำให้เข้ามา ข้าพเจ้าเห็นว่าควรท่านจะเป็นใหญ่ ที่ของเฮงหลุนยกให้ท่านว่ากล่าวต่อไปจึงจะควร คนในแผ่นดินก็จะเห็นด้วย แล้วก็ไม่เสียทีชาจินชักนำมาอยู่...."

ลิมชองก็ว่าอย่ายกยอให้มากนัก เรื่องที่ชาจินฝากมานั้นก็เป็นเพราะคดีความของตนนั้นหนักหนา จะอยู่ต่อไปชาจินก็จะลำบากเพราะตนจึงได้ชักนำมา แต่อยู่ที่นี่ก็ไม่สบาย จะไปอยู่ที่อื่นก็ไม่มีที่ไป การทั้งนี้เพราะเฮงหลุนนายใหญ่ไม่แน่นอน พูดจากลับกลอก ว่ากล่าวสิ่งใดไม่เชื่อฟัง และแถมท้ายว่า

"....ซึ่งท่านพากันมาเข้าเป็นพวกพ้อง จะได้ช่วยบำรุงให้เป็นสุข เปรียบเหมือนแพรเลี่ยนที่ไม่มีดอกช่วยกันปักดอกดวงขึ้นก็ดูงาม ชอบแต่ต้อนรับกันให้ดี นี่พอเตียวไก่พูดถึงเรื่องที่ฆ่าทหารหลวงตาย เฮงหลุนก็อิจฉาว่าพวกท่านมีฝีมือเข้มแข็ง กลัวจะแย่งชิงเป็นใหญ่ ทำทีจะไม่ให้อยู่ด้วย จึงให้มาพักที่นี่..."

โงวหยงก็ว่าถ้ากระนั้นก็อย่าให้เขาออกปากไล่เลย เราพากันไปอยู่ที่อื่นเสียก่อนเถิด ลิมชองก็ห้ามไว้ ว่าที่มาบอกนี้ก็เพราะกลัวว่าจะพากันไปเสีย ขอให้คอยดูก่อน ถ้าเฮงหลุนต้อนรับดีก็แล้วไป ถ้าไม่ยอมให้อยู่ตนก็จะจัดการเอง เตียวไก่ก็ยินดี

แต่โงวหยงท้วงว่า ลิมชองจะเห็นคนใหม่ดีกว่าคนเก่าหรือ ตริตรองดูก่อนเถิด ถ้าไม่ยอมให้อยู่ก็จะพากันลากลับไป

ลิมชองจึงยืนยันว่า

"...ท่านซินแสพูดไม่ถูก คำโบราณท่านย่อมว่าเกิดมาเป็นชาติทหารฝีมือเข้มแข็ง ก็รักใคร่ผู้มีฝีมือด้วยกัน เฮงหลุนนี้จะเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ จะเป็นผู้ชายชาติทหารก็ไม่ได้ เชื้อสัตว์เดรัจฉาน จะนับถือว่าพี่น้องพวกพ้องนั้นไม่ควร ท่านทั้งหลายคอยดูปัญญาเถิด...."

ว่าแล้วก็ลากลับไปที่อยู่ของตน ครั้นถึงตอนสายในวันนั้นเฮงหลุนก็จัดงานเลี้ยงต้อนรับกลุ่มของเตียวไก่ที่เก๋งริมน้ำทิศใต้ เมื่อคนใช้ที่ไปเชิญเตียวไก่กลับไปแล้ว ต่างก็ปรึกษากันว่า งานเลี้ยงนี้จะเป็นอย่างไร โงวหยงเห็นเป็นโอกาสอันดี ที่จะร่วมมือกับลิมชอง ยึดอำนาจจากนายใหญ่เฮงหลุนเสียเลย จะได้ไม่ต้องย้ายไปหาที่อยู่ใหม่

แล้วก็ให้พรรคพวกทุกคนเอาอาวุธสั้นซ่อนไว้ในเสื้อ ถ้าเห็นโงวหยงยกมือขึ้นลูบหนวด ก็ให้ลงมือได้ทันที เตียวไก่ก็เห็นชอบด้วย

เฮงหลุนก็จัดเกี้ยวมาคอยรับเตียวไก่กับพวก ไปยังสถานที่จัดเลี้ยง ซึ่งเฮงหลุนและ ซองบาน นายโจรที่สอง โตวเซียน นายโจรที่สาม กับ ลิมชองนายโจรที่สี่และจูกุย นายโจรที่ห้า คอยรอรับอยู่แล้ว เมื่อเข้าไปภายในเก๋งก็จัดที่นั่งแยกกันคนละที่ แล้วเฮงหลุนก็เชิญเสพสุราอาหารกันไปจนถึงเวลาบ่าย ต่างก็คุยกันถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการที่เตียวไก่ มาขออาศัยอยู่ด้วยเลย

พอใกล้จะเลิกเฮงหลุนก็ให้ลิ่วล้อเอาพานสี่ใบใส่เงินออกมาวางตรงหน้าเตียวไก่ แล้วก็กล่าวว่า

".....ข้าพเจ้าขอบใจพวกท่านหนักหนาที่จะมาเข้าเป็นพวกพ้อง แต่ตำบลนี้เล็กน้อยที่ไหนพวกท่านจะอยู่ได้ เปรียบเหมือนน้ำบ่อน้อย มังกรตัวใหญ่จะอาศัยได้หรือ เงินทองของข้าพเจ้านี้ให้ท่านเป็นเสบียง ไปหาที่พักอาศัยให้แน่นหนากว้างใหญ่จึงจะสมควร ถ้าท่านหาที่อยู่ได้พวกข้าพเจ้าจะพากันไปสามิภักดิ์ เป็นพวกพ้องของท่านต่อภายหลัง....."

เตียวไก่จึงตอบว่า

".....เดิมข้าพเจ้าได้ข่าวเล่าลือ ว่าท่านเป็นตัวนายเที่ยวเกลี้ยกล่อม คนที่มีฝีมือเข้มแข็งเข้ามาเป็นพวกพ้อง ข้าพเจ้าแจ้งความจึงได้ชักชวนพี่น้องตั้งใจมาสามิภักดิ์ ถ้าท่านไม่ยอมให้อยู่ด้วยแล้วก็จะลาไป ซึ่งท่านให้เงินทองนั้นพระคุณหนักหนา แต่พวกข้าพเจ้ามีติดตัวมาพอซื้อขายเลี้ยงกัน เชิญท่านเก็บไว้ใช้สอยเถิด ....."

เฮงหลุนว่าอย่าเพิ่งโกรธว่าแกล้งผลักไส แต่กลัวพวกท่านจะลำบาก ลิมชองได้ฟังก็โกรธลุกขึ้นร้องว่า เมื่อครั้งตนเองมา ก็พูดเช่นนี้ คราวนี้เตียวไก่มาก็พูดเช่นเดิมอีก มีเหตุผลประการใด

โงวหยงก็ทำเป็นห้ามปรามว่า

"......ท่านครูอย่าขึ้งโกรธเลย พวกข้าพเจ้าไม่รู้จักขนบธรรมเนียมจึงมากวน ท่าน เฮงหลุนนายใหญ่นั้นใจคอก็ดีดอก จัดหาเงินทองให้พวกข้าพเจ้าหนักหนา ใช่จะไล่เสียเมื่อไร ท่านอย่าวุ่นวายเลย พวกข้าพเจ้าจะลาไปก่อนแล้ว....."

ลิมชองก็ว่าเฮงหลุนนี้ปากพูดดี แต่ในใจเหมือนซ่อนกระบี่ไว้ คิดทำร้ายแก่ผู้ซึ่งมีฝีมือและสติปัญญา คนชนิดนี้ผู้ใดจะคบค้าได้ เฮงหลุนก็โกรธและเจ็บอาย จึงร้องตวาดว่า เจ้าก็ไม่เมาสุราเหตุไฉนมาว่าเราผู้เป็นใหญ่ให้ได้ความอับอายดังนี้
ลิมชองก็โต้เถียงไม่ยอมลดละ

โงวหยงก็ทำเป็นพูดกับเตียวไก่ว่า พวกเราพากันทำให้ท่านเฮงหลุนกับลิมชองต้องวิวาทวุ่นวาย ชวนกันกลับไปเสียโดยเร็วเถิด พูดแล้วก็ลุกขึ้นทั้งหมด

เฮงหลุนก็ห้ามเตียวไก่กับพวกว่าอย่าเพิ่งไป จงกินโต๊ะเสพสุราให้สบายเสียก่อน

แต่ลิมชองไม่ฟังเสียง ลุกขึ้นถีบโต๊ะล้มคว่ำลง แล้วก็ชักกระบี่ออกมา พร้อมกับด่าว่าเฮงหลุนด้วยคำหยาบช้าต่าง ๆ

โงวหยงเห็นว่าเอาจริงแน่ ก็ยกมือขึ้นลูบหนวดเป็นสัญญาณ เตียวไก่กับเล่าตงก็เข้าไปห้ามเฮงหลุนไว้ โงวหยงทำเป็นห้ามลิมชอง กงสุนสินเข้ากลางร้องห้ามทั้งสองฝ่ายอย่าทะเลาะกันเลย อวนเซียวยีเข้าไปกันโตวเซียน อวนเซียวเหงาก็ขวางซองบาน และอวนเซียวชิดเข้าไปกำกับจูกุยไว้

ลิมชองก็ด่าว่าเฮงหลุนลำเลิกถึงความเก่า ครั้งที่ตนมาขอเข้าเป็นพวกด้วย แล้วสรุปว่า

"....ตำบลเขาเนียซัวเปาะนี้ของเจ้าหรือ เห็นเขามีฝีมือและสติปัญญาจะมาอยู่ด้วยก็ไล่เสีย ทำเช่นนี้จะเป็นนายใหญ่ได้อย่างไร เอาไว้ทำไมฆ่าเสียเถิด...."

เฮงหลุนเห็นลิมชองขึงขังเช่นนั้น ก็คิดจะเผ่นหนีไปก่อน แต่เตียวไก่กับเล่าตงเข้ากั้นกางอยู่ ลิมชองจึงเอากระบี่แทงถูกอกเฮงหลุนล้มลงตายคาที่ พรรคพวกของเฮงหลุนก็เข้าไปช่วยไม่ได้ เพราะติดพรรคพวกเตียวไก่คุมเชิงไว้ และชักกระบี่ออกหมดทุกคน

ลิมชองก็ตัดศรีษะเฮงหลุนชูขึ้นให้เห็นทั่วกัน โตวเซียน ซองบานกับจูกุยก็ตกใจ คุกเข่าลงคำนับและยอมอยู่ในบังคับบัญชาของลิมชอง โงวหยงก็ยกเก้าอี้ของเฮงหลุน มาเชิญให้ลิมชองนั่ง แล้วก็ร้องประกาศว่า ถ้าผู้ใดไม่ยอมยกลิมชองขึ้นเป็นใหญ่ จะฆ่าเสียเดี๋ยวนี้

ลิมชองก็ห้ามโงวหยงว่าอย่าพูดดังนั้นไม่ควร เหตุที่ฆ่าเฮงหลุนครั้งนี้ ก็เพราะเห็นแก่พี่น้องทั้งปวง มิใช่จะอยากเป็นใหญ่ จะมายกให้ตนเป็นใหญ่คนทั้งหลายก็จะพากันหัวเราะเยาะได้ ตนเองมีความอยู่ข้อหนึ่ ง จะพูดให้ฟัง แล้วก็กล่าวว่า

"....เดิมข้าพเจ้าเป็นครูทหารอยู่ในเมืองหลวง ต้องโทษเนรเทศมาเมืองชองจิว แล้วจึงได้เข้ามาอยู่ที่ตำบลนี้ก็เป็นบุญหนักหนา เทพยดาชักนำให้พี่น้องทั้งปวงมาพบกัน บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นท่านเตียวไก่ ใจโอบอ้อมอารีมีฝีมือเข้มแข็ง ชื่อเสียงก็ปรากฎทั้งแผ่นดิน มิได้เห็นแก่เงินทอง สัตย์ซื่อกับพี่น้องพวกพ้องทั้งหลายควรจะยกขึ้นเป็นใหญ่ ให้ว่ากล่าวพวกเขาเนียซัวเปาะสืบต่อไป คนที่มีฝีมือและสติปัญญาแจ้งความ ก็คงจะชื่นชมยินดีด้วยกันทั้งสิ้น ท่านทั้งปวงจะว่าประการใด....."

ผู้ที่อยู่ในที่ชุมนุนนั้นก็เห็นพร้อมกันทั้งสิ้น แต่เตียวไก่แย้งว่า

"...ท่านพูดดังนั้นไม่ควร ท่านเป็นคนเก่าเปรียบเหมือนเจ้าของ ต้องว่ากล่าวการงานต่อไป จะมายกข้าพเจ้าขึ้นเป็นแจจู๊ เจ้าของเขาเนียซัวเปาะไม่ได้...."

ลิมชองก็ขอร้องว่า พี่น้องทั้งหลาย เขายอมพร้อมกันหมดทุกคนแล้ว และตรงเข้าฉุดเตียวไก่ ให้นั่งเก้าอี้ใหญ่ เรียกบรรดาพวกโจรในเขาเนียซัวเปาะมาพร้อมกัน แล้วคุกเข่าลงคำนับ โดยไม่มีใครขัดขืน เตียวไก่จึงต้องยอมรับตำแหน่งหัวหน้าโจรเขาเนียซัวเปาะ ตามที่ลิมชองยกให้

เมื่อจัดการฝังศพเฮงหลุนตามธรรมเนียมพิธีแล้ว ก็พากันมาที่สำนักใหญ่ สำหรับว่าราชการ

แต่งตั้งให้โงวหยงเป็นนายที่สองเป็นกุนซือประจำสำนัก กงสุนสินเป็นที่สาม ลิมชองที่สี่ เล่าตงที่ห้า พี่น้องแซ่อวนเป็นที่หกเจ็ดแปด โตวเซียนที่เก้า ซองบานที่สิบ และจูกุยที่สิบเอ็ด นั่งเรียงลำดับกันมา

ส่วนไพร่พลเขาเนียซัวเปาะซึ่งมีประมาณแปดร้อยเศษ ก็ให้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นอยู่ตามเดิม

เตียวไก่ก็เอาเงินทองเพชรพลอยที่ขนมาจากบ้าน ออกแจกจ่ายแก่พวกพ้องและไพร่พลจนทั่วกัน จากนั้นก็จัดโต๊ะบวงสรวงเทพยดาฟ้าดิน แล้วกินโต๊ะเสพสุราฉลองนายใหม่กันเป็นที่สบายใจ

เสร็จแล้วเตียวไก่ก็ให้ตรวจตราเงินทองทรัพย์สินสิ่งของในคลัง รวมทั้งเสบียงอาหารให้พร้อม กับตรวจดูศัสตราวุธต่าง ๆ เสื้อเกราะหมวกสำหรับออกศึกตลอดจนเรือรบเล็กใหญ่ เตรียมไว้สู้รบกับทหารหลวงที่จะต้องยกมาอีกเป็นแน่นอน

อีกไม่นานเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ ได้รับรายงานจากฮอต๋อ ที่ถูกตัดหูแล้วส่งตัวกลับมา ก็สั่งให้ อึงอัน ขุนนางฝ่ายทหารคุมพลสองพัน ลงเรือรบมาตีกองโจรเขาเนียซัวเปาะ โดยแบ่งเรือรบออกเป็นสองกอง คอยอยู่ที่ปากแม่น้ำกองหนึ่ง อีกกองหนึ่งอึงอันนำขบวนเข้ามาถึงตำบลกิมซัวทิว ต้นทางจะไปเขาเนียซัวเปาะ ก็ถูกพี่น้องแซ่อวนหลอกล่อให้ถลำลึกเข้าไปในคลองประมาณสามลี้ แล้วก็ถูกพวกโจรล้อมยิงด้วยเกาทัณฑ์ แตกตื่นโดดน้ำหนีบ้างถูกฆ่าตายบ้างเป็นจำนวนมาก และถูกจับเป็นถึงสองร้อยเศษ ตัวอึงอันก็ถูกจับเป็นเชลยด้วย

กองที่คอยอยู่ก็ถูกล่อเข้าไปอีกประมาณสี่ลี้เศษ แล้วก็ถูกล้อมฆ่าตายสิ้น

เตียวไก่ก็สั่งให้เอาเชลยทั้งหมดไปขังไว้ แล้วก็ปูนบำเหน็จรางวัลแก่ตัวนายที่สู้รบมีความชอบ และจัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงฉลองชัยชนะกันเป็นการใหญ่

นับว่าเป็นการประเดิมชัยอันยิ่งใหญ่ สำหรับเตียวไก่นายใหญ่คนใหม่ของชุมโจรเขาเนียซัวเปาะ ซึ่งเป็นเหตุให้ทางเมืองหลวงต้องเปลี่ยนตัวเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ เป็นคนใหม่เหมือนกัน

แต่เจ้าเมืองใหม่ก็ไม่กล้าส่งทหารเข้าไปทำศึกกับพวกโจรโดยตรง คงใช้วิธีเขียนใบบอกไปยังหัวเมืองต่าง ๆ รับอาสาผู้มีฝีมือให้เข้ามาทำราชการเพื่อตั้งเป็นกองปราบปรามพวกโจรคณะนี้ต่อไป

เตียวไก่ อดีตนายอำเภอ จึงได้ปกครองขบวนการโจรระดับชาตินี้ จนเป็นปึกแผ่นใหญ่โต สามารถยกกำลังพลเข้าตีเมืองต่าง ๆ แตกพ่ายไปหลายครั้งหลายหน กว่าจะได้ยกตำแหน่งให้แก่ ซ้องกั๋ง ไปในวาระสุดท้าย.

##########

นิตยสารโล่เงิน
มิถุนายน ๒๕๔๑
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่