ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ
เตียวไก่.....นายอำเภอเชื้อโจร
ตอนที่ ๓ หาที่ซุกหัวนอน
"เล่าเซี่ยงชุน"
ฝ่ายเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ เมื่อได้ความละเอียดจากฮอเชงแล้ว จึงให้ฮอต๋อกับน้องชาย นำขุนนางกรมการเมืองแปดคน ไปจับกุมตัว แปะสิน ซึ่งกำลังนอนป่วยอยู่ที่บ้าน เมื่อเวลาดึกสามยามเศษ แล้วค้นบ้านดูก็ขุดพบเงินทองกับเพชรพลอยที่หลุมใต้เตียงนอน กรมการเมืองจึงนำตัวแปะสินกับภรรยาและของกลาง ไปส่งให้เจ้าเมืองชำระความที่ศาล แต่แปะสินกับภรรยาก็ไม่ยอมรับ
เมื่อโดนเจ้าเมืองสั่งเฆี่ยนเข้าหลายสิบที แปะสินทนไม่ไหวเลยต้องยอมสารภาพว่าเตียวไก่เป็นคนต้นคิด แต่อีกหกคนนั้นเตียวไก่ชักชวนมาจากไหนไม่รู้จัก เจ้าเมืองจึงสั่งให้เอาตัวไปขังคุกไว้ก่อน แล้วให้ฮอต๋อกับ งีโหว นำทหารยี่สิบคนถือหนังสือไปถึงเจ้าเมืองหุนเสียกุ้ย ให้จับตัวเตียวไก่นายอำเภอตำบลตังเคยชึงส่งมาโดยเร็ว
เมื่อถึงเมืองหุนเสียกุ้ย ฮอต๋อก็ให้งีโหวกับพวกทหาร พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมก่อน ตนเองถือหนังสือไปถึงศาลหน้าบ้านเจ้าเมืองแต่ผู้เดียว ขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยง ตัวเจ้าเมืองและกรมการเมืองเลิกกลับบ้านไปหมดแล้ว ฮอต๋อจึงแวะเข้าไปที่โรงน้ำชาใกล้เคียง ถามหาขุนนางที่สำหรับเสนอหนังสือแก่เจ้าเมือง ว่าชื่อไรอยู่ที่ไหน
ก็พอดีขุนนางผู้นั้นเดินผ่านมา ดูรูปร่างไม่สูงหน้าดำ เจ้าของโรงน้ำชาบอกว่าชื่อ ซ้องกั๋ง เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น รู้การงานลึกซึ้ง ใจโอบอ้อมอารีมีพวกพ้องมาก ผู้ใดยากจนขัดสนก็ช่วยเหลือเงินทอง ผู้ใดมีทุกข์ด้วยถ้อยความเล็กน้อย ก็ห้ามปรามไกล่เกลี่ยเสียมิให้ยืดยาว ราษฎรต่างสรรเสริญนับถือมาก ชื่อเสียงปรากฎไปทุกบ้านทุกเมือง
ฮอต๋อก็ออกไปเชิญให้เข้ามานั่งกินน้ำชาด้วยกัน เมื่อแนะนำชื่อแซ่แก่กัน ทั้งสองฝ่ายแล้ว ฮอต๋อก็คุกเข่าลงคำนับแล้วว่า ได้ข่าวเล่าลือชื่อเสียงปรากฎมาหนักหนา วันนี้ได้มาพบก็ดีแล้ว ซ้องกั๋งถามว่ามาด้วยธุระสิ่งใด ฮอต๋อก็เล่าเรื่องโจรเจ็ดแปดคนไปปล้นทรัพย์ของชัวเกียไทซือที่ตำบลอึงนีกัง ปรากฎว่าหัวหน้าโจรชื่อเตียวไก่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายอำเภอของเมืองนี้ เจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้จึงมีหนังสือมาให้เจ้าเมืองหุยเสียกุ้ย จับตัวส่งไปให้โดยเร็ว
ซ้องกั๋งรู้จักคุ้นเคยกับเตียวไก่ดี จึงบอกให้ฮอต๋อคอยอยู่ก่อน จนกว่าจะเสนอหนังสือให้เจ้าเมืองตอนบ่าย ส่วนตนเองขอกลับไปบ้านสักครู่ แล้วก็ขึ้นม้าขับออกไปทางประตูเมืองทิศตะวันออก ไปยังตำบลตังเคยชึง
ฝ่ายเตียวไก่เมื่อเอาของที่ปล้นมาแบ่งปันเรียบร้อยแล้ว อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา และ อวนเซียวชิด ก็ลากลับไปบ้าน เหลือ โงวหยง เล่าตง กงสุนสิน ยังคงพักอยู่ที่บ้านเตียวไก่ ขณะกำลังเสพสุรากันอยู่ ซ้องกั๋งก็เข้ามาบอกข่าวว่า ฮอต๋อถือหนังสือนำทหารจากเมืองเจ๋จิวฮู้ จะมาจับตัวเตียวไก่กับพวก จึงได้รีบมาบอกให้รู้ตัวก่อน
เตียวไก่ก็ขอบคุณแล้วแนะนำให้รู้จักกับพวกพ้องที่นั่งอยู่ด้วย ทั้งสามก็คำนับซ้องกั๋งเป็นอันดี
เมื่อซ้องกั๋งลากลับไปแล้ว เตียวไก่ก็ปรึกษากับโงวหยงว่าจะคิดอ่านอย่างไร โงวหยงรีบบอกว่าอุบายนั้นมีอยู่ตั้งสามสิบหกอย่าง แต่สู้หนีไปเสียก่อนไม่ได้ เตียวไก่ถามว่าจะไปอยู่ที่ไหนดี โงวหยงก็บอกว่าคิดไว้แล้วว่าจะไปอาศัยอยู่กับสามพี่น้องแซ่อวน
เตียวไก่แย้งว่าพวกนั้นเป็นคนหาปลาจะไปอาศัยเห็นจะไม่ได้ โงวหยงก็ว่าตำบลเจียะเกียดชวน ที่สามพี่น้องตั้งบ้านเรือนอยู่นั้นใกล้กันกับเขาเนียซัวเปาะ ซึ่งไม่มีใครเข้าไปรบกวนได้ เราพากันไปอาศัยอยู่ที่นั่นก่อน ถ้าเห็นว่าไม่พ้นภัยจึงค่อยหนีเข้าไปเป็นพวกเขาเนียซัวเปาะเสียเลย
เตียวไก่ว่าไม่ใช่เพื่อนฝูงรู้จักกันมาก่อน ถ้าเขาไม่ยอมรับเป็นพวกพ้องจะว่าอย่างไร โงวหยงก็ว่าเพชรพลอยเงินทองของเรามีถมไป แบ่งปันให้เขาบ้างแล้วยอมตัวเข้าไปให้เขาใช้ ก็คงจะต้องรับ
เตียวไก่ตกลงจึงสั่งให้คนใช้จัดทรัพย์สิ่งของเงินทองเพชรพลอย ใส่หาบแปดหาบ แล้วให้โงวหยงกับเล่าตงคุมหาบเดินทางไปบ้านพี่น้องแซ่อวนก่อน แล้วจึงกลับมาคอยรับตนกับ กงสุนสินกลางทาง เตียวไก่ก็ดูแลการเก็บเข้าของเครื่องใช้สอยในบ้านใส่หาบ เตรียมเดินทางตามไปทีหลัง
ถึงเวลาบ่าย ซิซุนปิน เจ้าเมืองหุนเสียกุ้ย ออกว่าราชการอีกครั้งหนึ่ง ซ้องกั๋งจึงนำฮอต๋อไปส่งหนังสือจากเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ให้ทราบ เมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งเพราะ ชัวเกียไทซือขุนนางผู้ใหญ่ในเมืองหลวง สั่งมาให้เร่งจัดการโดยเร็วก็ตกใจ หารือซ้องกั๋งว่าเตียวไก่คนนี้เขาเล่าลือกันว่ามีสติปัญญาฝีมือเข้มแข็ง เหตุไฉนจึงคิดกำเริบทำทุจริตดังนี้
แล้วก็สั่งให้ขุนนางคนหนึ่ง และ จูตง นายทหารผู้กำกับพลม้า ลุยเหง นายทหารกำกับพลเดินเท้า คุมทหารประมาณร้อยคนไปจับเตียวไก่ในคืนวันนั้นทันที
นายทหารทั้งสองนี้ เป็นคนรู้จักคุ้นเคยพึ่งพาอาศัยเตียวไก่อยู่เสมอ จึงไม่คิดที่จะจับเตียวไก่ ทั้งสองจึงแบ่งทหารคนละครึ่ง เดินทางไปบ้านเตียวไก่ จูตงเข้าทางหลังบ้าน ลุยเหงและฮอต๋อกับขุนนางของซิซุนปิน เข้าทางหน้าบ้านเมื่อเวลาประมาณยามเศษ ทางหน้าบ้านให้จุดคบเพลิงสว่างไสวและให้ทหารร้องอื้ออึงขึ้น แต่ทางหลังบ้านไปซุ่มอยู่มืด ๆ
เตียวไก่นั้นเก็บข้าวของใส่หาบเรียบร้อยแล้ว เตรียมจะออกเดินทาง ได้ยินเสียงทหารมาหน้าบ้าน จึงให้คนใช้จุดคบไฟเผาบ้านเสีย แล้วเตียวไก่กับกงสุนสินก็พาบ่าวไพร่หาบของหนีออกทางหลังบ้าน พอผ่านจูตงที่ซุ่มคอยอยู่คนเดียว จูตงก็ร้องบอกให้รีบหนีไปเสียโดยเร็ว
ส่วนตนเองก็คุมทหารทำลายประตูหลังบ้าน เข้าไปเจอกับฮอต๋อและลุยเหง เมื่อไม่พบเตียวไก่ในบ้านจูตงก็รับอาสาจะรีบไปดูตามทางที่หนี
จูตงล่วงหน้าไปก่อนแต่ผู้เดียว และบอกให้ลุยเหงคุมทหารไปทางทิศตะวันออก ตนเองก็ตามหลังเตียวไก่ไปส่งจนไกลแล้วจะกลับหลัง พอดีกับฮอต๋อคุมทหารมาใกล้ จูตงจึงทำเป็นตกม้านอนกลิ้งอยู่ข้างทาง พอพวกของฮอต๋อมาเจอและช่วยพยุงขึ้น ก็แกล้งบอกว่าได้ขับม้าตามมาทางนี้ก็ไม่เห็นผู้ใด แล้วทางก็มืดนักจึงตกม้า ลงมานอนจุกอยู่ พูดจาถ่วงเวลาอยู่จน ลุยเหงกลับมา ก็รายงานว่าไม่พบเตียวไก่ ไม่รู้ว่าหนีไปทางไหน ทั้งหมดจึงพากันกลับ โดยจับเอาตัวชาวบ้านใกล้เคียงกับบ้านเตียวไก่ ไปสอบสวนเพิ่มเติมอีกสองสามคน
ชาวบ้านที่ถูกจับมาก็ให้การว่า คนที่อยู่บ้านเตียวไก่คนหนึ่งชื่อโหงวหยง เป็นซินแสสอนหนังสือ กับกงสุนสินไม่แจ้งว่าชาวเมืองไหน อีกคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ชื่อเล่าตง อีกสามคนรู้แต่ว่าแซ่อวน อยู่บ้านเจียะเกียดชวนเป็นคนหาปลา ฮอต๋อก็กลับไปแจ้งกับเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ทุกประการ
เจ้าเมืองจึงสั่งให้เอาตัวแปะสินมาสอบสวนเพิ่มเติม ตัวแปะสินกำลังป่วยอยู่ไม่มีแรงปฏิเสธ จึงบอกชื่อของสามพี่น้องไปตามความจริง
เมื่อได้ข้อความละเอียดแล้ว ว่าพวกโจรทั้งเจ็ดคน มีชื่อแซ่อะไรบ้าง และบ้านของสามพี่น้องแซ่อวน ซึ่งอยู่ที่ตำบลเจียะเกียดชวนนั้น ก็คงจะเป็นจุดหมายที่พวกโจรก๊กนี้มุ่งหน้าไปหาแน่นอน จึงสั่งการให้ ฮอต๋อซึ่งเป็น ขุนนางฝ่ายปราบโจรของเมืองเจ๋จิวฮู้ นำทหารห้าสิบนายไปจับกุมตัวมาให้ได้
ฮอต๋อก็โอดครวญว่า
"...ซึ่งท่านบัญชาให้ไปจับพวกโจรสามคนที่ตำบลเจียะเกียดชวนนั้น ใกล้กับตำบลเขาเนียซัวเปาะ ทางบกก็ไปไม่ได้ทางเรือก็ลำบากห้วยคลองมีมาก ไม่รู้ว่าพวกโจรจะเข้าออกทางไหน บัดนี้พวกโจรที่ปล้นเพชรพลอยของ ชัวเกียไทซือ หลบเข้าอาศัยอยู่ผู้คนก็มากขึ้น ล้วนแต่ฝึมือเข้มแข็ง ถ้าแม้นแต่ลำพังพวกทหารที่ข้าพเจ้าว่ากล่าวไปจับเห็นจะเหลือกำลัง...."
เจ้าเมืองจึงสั่งให้ สุนกัน ขุนนางฝ่ายทหารคุมทหารอีกห้าร้อยนาย สมทบไปกับฮอต๋อด้วย เมื่อสองนายเตรียมเครื่องศัสตราวุธและเสบียงอาหารพร้อมแล้วก็ยกไปทันที
##########
นิตยสารโล่เงิน
มิถุนายน ๒๕๔๑
นายอำเภอเชื้อโจร (๓) ๖ ส.ค.๕๘
เตียวไก่.....นายอำเภอเชื้อโจร
ตอนที่ ๓ หาที่ซุกหัวนอน
"เล่าเซี่ยงชุน"
ฝ่ายเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ เมื่อได้ความละเอียดจากฮอเชงแล้ว จึงให้ฮอต๋อกับน้องชาย นำขุนนางกรมการเมืองแปดคน ไปจับกุมตัว แปะสิน ซึ่งกำลังนอนป่วยอยู่ที่บ้าน เมื่อเวลาดึกสามยามเศษ แล้วค้นบ้านดูก็ขุดพบเงินทองกับเพชรพลอยที่หลุมใต้เตียงนอน กรมการเมืองจึงนำตัวแปะสินกับภรรยาและของกลาง ไปส่งให้เจ้าเมืองชำระความที่ศาล แต่แปะสินกับภรรยาก็ไม่ยอมรับ
เมื่อโดนเจ้าเมืองสั่งเฆี่ยนเข้าหลายสิบที แปะสินทนไม่ไหวเลยต้องยอมสารภาพว่าเตียวไก่เป็นคนต้นคิด แต่อีกหกคนนั้นเตียวไก่ชักชวนมาจากไหนไม่รู้จัก เจ้าเมืองจึงสั่งให้เอาตัวไปขังคุกไว้ก่อน แล้วให้ฮอต๋อกับ งีโหว นำทหารยี่สิบคนถือหนังสือไปถึงเจ้าเมืองหุนเสียกุ้ย ให้จับตัวเตียวไก่นายอำเภอตำบลตังเคยชึงส่งมาโดยเร็ว
เมื่อถึงเมืองหุนเสียกุ้ย ฮอต๋อก็ให้งีโหวกับพวกทหาร พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมก่อน ตนเองถือหนังสือไปถึงศาลหน้าบ้านเจ้าเมืองแต่ผู้เดียว ขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยง ตัวเจ้าเมืองและกรมการเมืองเลิกกลับบ้านไปหมดแล้ว ฮอต๋อจึงแวะเข้าไปที่โรงน้ำชาใกล้เคียง ถามหาขุนนางที่สำหรับเสนอหนังสือแก่เจ้าเมือง ว่าชื่อไรอยู่ที่ไหน
ก็พอดีขุนนางผู้นั้นเดินผ่านมา ดูรูปร่างไม่สูงหน้าดำ เจ้าของโรงน้ำชาบอกว่าชื่อ ซ้องกั๋ง เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น รู้การงานลึกซึ้ง ใจโอบอ้อมอารีมีพวกพ้องมาก ผู้ใดยากจนขัดสนก็ช่วยเหลือเงินทอง ผู้ใดมีทุกข์ด้วยถ้อยความเล็กน้อย ก็ห้ามปรามไกล่เกลี่ยเสียมิให้ยืดยาว ราษฎรต่างสรรเสริญนับถือมาก ชื่อเสียงปรากฎไปทุกบ้านทุกเมือง
ฮอต๋อก็ออกไปเชิญให้เข้ามานั่งกินน้ำชาด้วยกัน เมื่อแนะนำชื่อแซ่แก่กัน ทั้งสองฝ่ายแล้ว ฮอต๋อก็คุกเข่าลงคำนับแล้วว่า ได้ข่าวเล่าลือชื่อเสียงปรากฎมาหนักหนา วันนี้ได้มาพบก็ดีแล้ว ซ้องกั๋งถามว่ามาด้วยธุระสิ่งใด ฮอต๋อก็เล่าเรื่องโจรเจ็ดแปดคนไปปล้นทรัพย์ของชัวเกียไทซือที่ตำบลอึงนีกัง ปรากฎว่าหัวหน้าโจรชื่อเตียวไก่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายอำเภอของเมืองนี้ เจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้จึงมีหนังสือมาให้เจ้าเมืองหุยเสียกุ้ย จับตัวส่งไปให้โดยเร็ว
ซ้องกั๋งรู้จักคุ้นเคยกับเตียวไก่ดี จึงบอกให้ฮอต๋อคอยอยู่ก่อน จนกว่าจะเสนอหนังสือให้เจ้าเมืองตอนบ่าย ส่วนตนเองขอกลับไปบ้านสักครู่ แล้วก็ขึ้นม้าขับออกไปทางประตูเมืองทิศตะวันออก ไปยังตำบลตังเคยชึง
ฝ่ายเตียวไก่เมื่อเอาของที่ปล้นมาแบ่งปันเรียบร้อยแล้ว อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา และ อวนเซียวชิด ก็ลากลับไปบ้าน เหลือ โงวหยง เล่าตง กงสุนสิน ยังคงพักอยู่ที่บ้านเตียวไก่ ขณะกำลังเสพสุรากันอยู่ ซ้องกั๋งก็เข้ามาบอกข่าวว่า ฮอต๋อถือหนังสือนำทหารจากเมืองเจ๋จิวฮู้ จะมาจับตัวเตียวไก่กับพวก จึงได้รีบมาบอกให้รู้ตัวก่อน
เตียวไก่ก็ขอบคุณแล้วแนะนำให้รู้จักกับพวกพ้องที่นั่งอยู่ด้วย ทั้งสามก็คำนับซ้องกั๋งเป็นอันดี
เมื่อซ้องกั๋งลากลับไปแล้ว เตียวไก่ก็ปรึกษากับโงวหยงว่าจะคิดอ่านอย่างไร โงวหยงรีบบอกว่าอุบายนั้นมีอยู่ตั้งสามสิบหกอย่าง แต่สู้หนีไปเสียก่อนไม่ได้ เตียวไก่ถามว่าจะไปอยู่ที่ไหนดี โงวหยงก็บอกว่าคิดไว้แล้วว่าจะไปอาศัยอยู่กับสามพี่น้องแซ่อวน
เตียวไก่แย้งว่าพวกนั้นเป็นคนหาปลาจะไปอาศัยเห็นจะไม่ได้ โงวหยงก็ว่าตำบลเจียะเกียดชวน ที่สามพี่น้องตั้งบ้านเรือนอยู่นั้นใกล้กันกับเขาเนียซัวเปาะ ซึ่งไม่มีใครเข้าไปรบกวนได้ เราพากันไปอาศัยอยู่ที่นั่นก่อน ถ้าเห็นว่าไม่พ้นภัยจึงค่อยหนีเข้าไปเป็นพวกเขาเนียซัวเปาะเสียเลย
เตียวไก่ว่าไม่ใช่เพื่อนฝูงรู้จักกันมาก่อน ถ้าเขาไม่ยอมรับเป็นพวกพ้องจะว่าอย่างไร โงวหยงก็ว่าเพชรพลอยเงินทองของเรามีถมไป แบ่งปันให้เขาบ้างแล้วยอมตัวเข้าไปให้เขาใช้ ก็คงจะต้องรับ
เตียวไก่ตกลงจึงสั่งให้คนใช้จัดทรัพย์สิ่งของเงินทองเพชรพลอย ใส่หาบแปดหาบ แล้วให้โงวหยงกับเล่าตงคุมหาบเดินทางไปบ้านพี่น้องแซ่อวนก่อน แล้วจึงกลับมาคอยรับตนกับ กงสุนสินกลางทาง เตียวไก่ก็ดูแลการเก็บเข้าของเครื่องใช้สอยในบ้านใส่หาบ เตรียมเดินทางตามไปทีหลัง
ถึงเวลาบ่าย ซิซุนปิน เจ้าเมืองหุนเสียกุ้ย ออกว่าราชการอีกครั้งหนึ่ง ซ้องกั๋งจึงนำฮอต๋อไปส่งหนังสือจากเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ให้ทราบ เมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งเพราะ ชัวเกียไทซือขุนนางผู้ใหญ่ในเมืองหลวง สั่งมาให้เร่งจัดการโดยเร็วก็ตกใจ หารือซ้องกั๋งว่าเตียวไก่คนนี้เขาเล่าลือกันว่ามีสติปัญญาฝีมือเข้มแข็ง เหตุไฉนจึงคิดกำเริบทำทุจริตดังนี้
แล้วก็สั่งให้ขุนนางคนหนึ่ง และ จูตง นายทหารผู้กำกับพลม้า ลุยเหง นายทหารกำกับพลเดินเท้า คุมทหารประมาณร้อยคนไปจับเตียวไก่ในคืนวันนั้นทันที
นายทหารทั้งสองนี้ เป็นคนรู้จักคุ้นเคยพึ่งพาอาศัยเตียวไก่อยู่เสมอ จึงไม่คิดที่จะจับเตียวไก่ ทั้งสองจึงแบ่งทหารคนละครึ่ง เดินทางไปบ้านเตียวไก่ จูตงเข้าทางหลังบ้าน ลุยเหงและฮอต๋อกับขุนนางของซิซุนปิน เข้าทางหน้าบ้านเมื่อเวลาประมาณยามเศษ ทางหน้าบ้านให้จุดคบเพลิงสว่างไสวและให้ทหารร้องอื้ออึงขึ้น แต่ทางหลังบ้านไปซุ่มอยู่มืด ๆ
เตียวไก่นั้นเก็บข้าวของใส่หาบเรียบร้อยแล้ว เตรียมจะออกเดินทาง ได้ยินเสียงทหารมาหน้าบ้าน จึงให้คนใช้จุดคบไฟเผาบ้านเสีย แล้วเตียวไก่กับกงสุนสินก็พาบ่าวไพร่หาบของหนีออกทางหลังบ้าน พอผ่านจูตงที่ซุ่มคอยอยู่คนเดียว จูตงก็ร้องบอกให้รีบหนีไปเสียโดยเร็ว
ส่วนตนเองก็คุมทหารทำลายประตูหลังบ้าน เข้าไปเจอกับฮอต๋อและลุยเหง เมื่อไม่พบเตียวไก่ในบ้านจูตงก็รับอาสาจะรีบไปดูตามทางที่หนี
จูตงล่วงหน้าไปก่อนแต่ผู้เดียว และบอกให้ลุยเหงคุมทหารไปทางทิศตะวันออก ตนเองก็ตามหลังเตียวไก่ไปส่งจนไกลแล้วจะกลับหลัง พอดีกับฮอต๋อคุมทหารมาใกล้ จูตงจึงทำเป็นตกม้านอนกลิ้งอยู่ข้างทาง พอพวกของฮอต๋อมาเจอและช่วยพยุงขึ้น ก็แกล้งบอกว่าได้ขับม้าตามมาทางนี้ก็ไม่เห็นผู้ใด แล้วทางก็มืดนักจึงตกม้า ลงมานอนจุกอยู่ พูดจาถ่วงเวลาอยู่จน ลุยเหงกลับมา ก็รายงานว่าไม่พบเตียวไก่ ไม่รู้ว่าหนีไปทางไหน ทั้งหมดจึงพากันกลับ โดยจับเอาตัวชาวบ้านใกล้เคียงกับบ้านเตียวไก่ ไปสอบสวนเพิ่มเติมอีกสองสามคน
ชาวบ้านที่ถูกจับมาก็ให้การว่า คนที่อยู่บ้านเตียวไก่คนหนึ่งชื่อโหงวหยง เป็นซินแสสอนหนังสือ กับกงสุนสินไม่แจ้งว่าชาวเมืองไหน อีกคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ชื่อเล่าตง อีกสามคนรู้แต่ว่าแซ่อวน อยู่บ้านเจียะเกียดชวนเป็นคนหาปลา ฮอต๋อก็กลับไปแจ้งกับเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ทุกประการ
เจ้าเมืองจึงสั่งให้เอาตัวแปะสินมาสอบสวนเพิ่มเติม ตัวแปะสินกำลังป่วยอยู่ไม่มีแรงปฏิเสธ จึงบอกชื่อของสามพี่น้องไปตามความจริง
เมื่อได้ข้อความละเอียดแล้ว ว่าพวกโจรทั้งเจ็ดคน มีชื่อแซ่อะไรบ้าง และบ้านของสามพี่น้องแซ่อวน ซึ่งอยู่ที่ตำบลเจียะเกียดชวนนั้น ก็คงจะเป็นจุดหมายที่พวกโจรก๊กนี้มุ่งหน้าไปหาแน่นอน จึงสั่งการให้ ฮอต๋อซึ่งเป็น ขุนนางฝ่ายปราบโจรของเมืองเจ๋จิวฮู้ นำทหารห้าสิบนายไปจับกุมตัวมาให้ได้
ฮอต๋อก็โอดครวญว่า
"...ซึ่งท่านบัญชาให้ไปจับพวกโจรสามคนที่ตำบลเจียะเกียดชวนนั้น ใกล้กับตำบลเขาเนียซัวเปาะ ทางบกก็ไปไม่ได้ทางเรือก็ลำบากห้วยคลองมีมาก ไม่รู้ว่าพวกโจรจะเข้าออกทางไหน บัดนี้พวกโจรที่ปล้นเพชรพลอยของ ชัวเกียไทซือ หลบเข้าอาศัยอยู่ผู้คนก็มากขึ้น ล้วนแต่ฝึมือเข้มแข็ง ถ้าแม้นแต่ลำพังพวกทหารที่ข้าพเจ้าว่ากล่าวไปจับเห็นจะเหลือกำลัง...."
เจ้าเมืองจึงสั่งให้ สุนกัน ขุนนางฝ่ายทหารคุมทหารอีกห้าร้อยนาย สมทบไปกับฮอต๋อด้วย เมื่อสองนายเตรียมเครื่องศัสตราวุธและเสบียงอาหารพร้อมแล้วก็ยกไปทันที
##########
นิตยสารโล่เงิน
มิถุนายน ๒๕๔๑