ขุนนางใจแม่น้ำ (๓) ๑๒ ส.ค.๕๘

ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ

ซ้องกั๋ง.....ขุนนางใจแม่น้ำ

ตอนที่ ๓ นายโจรก่อเหตุ

"เล่าเซี่ยงชุน"

ซิซุนปิน เจ้าเมืองหุนเสียกุ้ยถูกคาดคั้นจากฝ่ายโจทก์ ให้รีบดำเนินคดีกับ ซ้องกั๋งโดยเร็วมิฉะนั้นจะฟ้องไปยังผู้บังคับบัญชาก็ชักวิตก จึงให้ จูตง และ ลุยเหง สองนายทหารคู่หู นำทหารห้าสิบคน ไปค้นหาตัวซ้องกั๋งที่บ้านตำบลซองเกชึง นายทหารทั้งสองก็เป็นคนที่คุ้นเคยชอบพอกับซ้องกั๋งเหมือนกัน จึงพากันไปที่บ้านซ้องกั๋ง และบอกกับ ซ้องไทก๋ง บิดาของซ้องกั๋งว่าเจ้าเมืองให้มาจับตัวซ้องกั๋ง ในข้อหาฆ่าภรรยาตาย

ซ้องไทก๋ง บอกว่าได้ทำหนังสือตัดขาด ไม่เกี่ยวข้องกับบุตรชายแล้ว และเอาหลักฐานมาให้ดู จูตงก็ให้ลุยเหงเฝ้าซ้องไทก๋งไว้ตนเองเข้าไปค้นหาในบ้าน เพราะรู้ว่าบ้านนี้มีอุโมงค์ อยู่ในห้องพระ จูตงก็เข้าไปเคาะประตูอุโมงค์ ซ้องกั๋งก็ออกมา จูตงคำนับแล้วบอกว่า

"...ท่านกับข้าพเจ้าก็รักใคร่กันมาตั้งนานอย่าถือโทษเลยว่ามาจับท่าน บัดนี้ เตียบุนอ้วนเสี้ยมสอนให้ยายเงียมผอ ไปรบกวนร้องต่อผู้รักษาเมืองว่าถ้าไม่ชำระให้จะไปฟ้อง ณ เมืองเจ๋จิวฮู้ ผู้รักษาเมืองนั้นเอาใจช่วยท่านดอก แต่ยายเงียมผอกวนนักแล้วจะมีความผิดขึ้นจึงให้ข้าพเจ้ากับลุยเหงมา ข้าพเจ้ากลัวว่าลุยเหงพบเข้าก็จะเสียที จึงล่อลวงให้ลุยเหงเฝ้าประตูอยู่ ซึ่งที่อุโมงค์นี้ก็ดีดอก แต่จะพักอาศัยให้ยืดยาวไปเห็นจะไม่ได้ ถ้าผู้ใดรู้จะลำบาก....."

ซ้องกั๋งก็ขอบคุณแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ที่นี่นาน คิดว่าจะไปอาศัยที่บ้าน ชาจิน ก่อน เพราะมีคนรู้จักอยู่สามคนคือ ชาจินอยู่ตำบลเฮงไฮกุ๋น แขวงเมืองซองจิวฮู้ อีกคนหนึ่งคือ ฮวยหยง อยู่ตำบลเซงฮวงเจ แขวงเมืองเปงจิวฮู้ คนที่สามชื่อ ขงไทก๋ง อยู่ตำบลแปะโฮ้วซัว จูตง ก็ให้รีบไปเสียคืนนี้เถิด ซ้องกั๋งก็ว่า

".....งานการสิ่งใดท่านจัดให้เรียบร้อยด้วย ข้าพเจ้าจะจัดหาเงินทองตอบแทนคุณท่าน...."

จูตงว่าไม่เป็นไรแล้วก็กลับไปแจ้งแก่เจ้าเมืองว่า ไม่พบตัวซ้องกั๋งกับน้องชาย เห็นแต่บิดาซึ่งมีหนังสือรับรองว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุตรแล้ว ซึ่งได้คัดสำเนาหนังสือนั้นมาให้ดูด้วย เจ้าเมืองจึงมีหนังสือถึงเจ้าเมืองเจ๋จิวฮู้ให้ทราบเรื่อง และให้แจ้งไปยังตำบลต่าง ๆ เพื่อสืบจับตัว ซ้องกั๋งมาชำระคดี แล้วก็ปล่อยตัวตงงูยี เนรเทศไปไกลห้าร้อยลี้

ฝ่ายซ้องกั๋งก็ชวน ซ้องเซ็ง น้องชายลาบิดา หลบหนีออกจากเมืองหุนเสียกุ้ย มุ่งหน้าไปยังเมืองซองจิวฮู้ ตำบลเฮงไฮกุ๋น เพื่อไปอาศัยชาจินเศรษฐีใหญ่เชื้อสายพระเจ้าชาซ้องจงฮ่องเต้ เจ้าแผ่นดินในอดีต ซึ่งเป็นคนใจดีโอบอ้อมอารี มีชื่อเสียงปรากฎทั้งแผ่นดิน พอ ๆ กับซ้องกั๋ง บรรดาพวกที่มีฝีมือและสติปัญญา ชวนกันไปสามิภักดิ์เป็นพวกพ้องด้วยเป็นอันมาก เคยมีหนังสือติดต่อกับซ้องกั๋งแต่ยังไม่ได้พบหน้าพูดจากันเลย

สองพี่น้องเดินทางไปหลายสิบวันก็เข้าเขตเมืองซองจิวฮู้ ใกล้จะถึงตำบลเฮงไฮกุ๋นเที่ยวถามหาบ้านของชาจิน ชายผู้หนึ่งบอกว่าชาจินไปเก็บเงินที่ให้กู้ยืมอยู่ที่บ้านตังซึง และพอรู้ว่าเป็น ซ้องกั๋งก็อาสาพาไปส่งให้ถึงบ้าน ซึ่งไกลออกไปอีกประมาณสี่สิบลี้ เมื่อถึงก็พาเข้าไปแจ้งแก่ชาจิน ว่าซ้องกั๋งมาหา

ชาจินก็ยินดีออกมาต้อนรับ คำนับแล้วก็พูดกับซ้องกั๋งว่า

".....วันนี้บุญหนักหนาเทวดาชักนำท่านมาจนถึงบ้านข้าพเจ้า เชิญเข้าไปข้างในเถิด....."

ซ้องกั๋งรับคำนับแล้วก็แนะนำให้รู้จักกับซ้องเซ็งน้องชาย ชาจินจัดที่นั่งในบ้านแล้วสนทนากัน ซึ่งซ้องกั๋งก็เล่าเรื่องที่ต้องคดีฆ่าภรรยาตาย จะมาขออาศัยอยู่ด้วย ชาจินก็ว่า

".....ท่านอย่าวิตกข้อนี้ไม่เป็นไร ถึงโทษใหญ่ยิ่งกว่านี้ก็อย่ากลัว พวกขุนนางนายทหารทั้งปวง ไม่อาจมาค้นผู้คนในบ้านข้าพเจ้า ท่านจงอยู่ให้สบายเถิด....."

แล้วก็สั่งให้บ่าวจัดเสื้อผ้า และจัดที่พักให้สองพี่น้อง กับจัดโต๊ะสุรา อาหารมาเลี้ยงดูกันตามธรรมเนียม

ซ้องกั๋งอยู่กับชาจินได้ไม่นานนักก็คิดถึงบิดา จึงให้ซ้องเซ็งน้องชายกลับไปดูแลบิดา ส่วนตนเองเดินทางต่อไปถึงตำบลแปะโฮ้วซัวแขวงเมืองเปงจิวฮู้ อยู่บ้านขงไทก๋ง เพื่อสอนเพลงอาวุธให้บุตรชายของขงไทก๋งสองคนคือ ขงเหลียง กับ ขงเม่ง

อยู่มาวันหนึ่งขงเหลียงกับพวกก็จับตัวชายคนหนึ่งมาที่บ้าน แล้วเล่าความว่า ตนเองกับเพื่อนอีกสามคนไปสั่งให้โรงเตี๊ยม จัดโต๊ะสุราอาหารไว้เลี้ยงกัน ชายคนนี้จะกินโต๊ะที่จัดไว้ พอ เจ้าของโรงเตี๊ยมบอกว่ามีเจ้าของแล้ว ก็ตบเสียจนล้มกลิ้งโลหิตไหล ตนเองเข้าไปช่วยกลับถูกตี ศรีษะแตก แล้วก็ถูกจับโยนลงแม่น้ำหน้าโรงเตี๊ยม เพื่อนอีกสามคนต้องช่วยกันฉุดขึ้นมาจากน้ำได้ จึงกลับบ้านมาชวนน้องชายไปแก้แค้น กลับพบชายคนนั้นเมาสุรานอนกลิ้งอยู่ในน้ำ จึงจับตัวมาทุบตีเสียให้หายแค้น

ซ้องกั๋งเห็นหน้าผู้ที่ถูกจับมาก็จำได้ว่า เคยรู้จักกันที่บ้านชาจิน ชื่อ บู๊สง จึงให้แก้มัดออกไต่ถามเรื่องราวแต่หนหลัง บู๊สงก็เล่าเรื่องให้ฟังตั้งแต่ออกจากบ้านชาจินจะกลับไปบ้านเดิมที่เมืองเซงหัวกุ้ย แต่ได้ฆ่าเสือตัวใหญ่ด้วยมือเปล่า ที่เมืองเอียงก๊กกุ้ย จึงได้รางวัลและทำราชการอยู่ที่เมืองนั้น ต่อมาพี่ชายถูกภรรยาคบชู้ช่วยกันวางยาฆ่าตาย จึงฆ่าล้างแค้นเสียทั้งคู่ ต้องถูกเนรเทศไปเมืองเม่งจิว แต่ก็เกิดเรื่องต้องฆ่าคนอีกสิบเก้าคน จึงโกนศรีษะครึ่งเดียวคล้ายหลวงจีน จะเดินทางไปขออาศัย หลวงจีนลูกตีซิม กับ เอียจี้ อยู่ที่เขายีเลงซัว ก็มาเกิดเรื่องที่นี่อีก

ซ้องกั๋งก็แนะนำให้รู้จักกับขงเหลียงและขงเม่ง ทั้งสองก็เข้าไปคำนับบู๊สง ขงเหลียงบอกว่า

".....ข้าพเจ้าไม่รู้จักจึงจับมาทุบตี ท่านอย่าถือโทษข้าพเจ้าทั้งสองเลย....."

บู๊สงก็ว่า

".....พี่ก็ตีน้องให้เจ็บป่วย ต่างคนอย่าถือโทษกัน กระบี่และลูกประคำที่น้องเก็บมา อย่าให้เป็นอันตราย....."

แล้วซ้องกั๋งก็พาบู๊สงเข้าไปคำนับขงไทก๋ง และให้พักอยู่ด้วยกัน
พอวันรุ่งขึ้นบู๊สงจะขอลาเดินทางต่อไป ซ้องกั๋งว่าตนเองกำลังจะลาไปเหมือนกัน เพราะฮวยหยงที่ตำบล เซงฮัวแจมีหนังสือมาชวนให้ไปอยู่ด้วย และคิดว่าจะชวนบู๊สงไปด้วยกัน บู๊สงก็บอกว่า

".....ครั้งนี้ฆ่าคนตายหลายคนมีโทษมาก เขาวาดรูปเที่ยวค้นจะจับตัวให้ได้ ประการหนึ่งก็โกนศรีษะบวชเป็นเฮงเจีย คนทั้งปวงเห็นก็จะพากันนินทา จะต้องลาไปเขายีเลงซัวก่อน ภายหน้าถ้าแม้นว่าเจ้าแผ่นดินโปรดยกโทษเสีย น้องได้เข้าทำราชการบำรุงแผ่นดิน คงจะเที่ยวสืบหาให้พบปะพี่อีก....."

ซ้องกั๋งจึงว่า

"..น้องมีใจบำรุงแผ่นดิน เทพยดาคงอุดหนุนให้เจริญชื่อเสียงก็ปรากฎ ถ้าสิ้นโทษแล้วจะชักชวน เอียจี้ หลวงจีนลูตีซิมเข้าทำราชการด้วยกัน.."

แล้วทั้งสองก็ลาขงไทก๋งไป ขงเหลียงเอาห่อผ้ากระบี่และลูกประคำ ของบู๊สงมาคืนให้ ขงไทก๋งก็จัดเงินทองให้เป็นเสบียงซื้อกินตามทาง บู๊สงก็แยกไปทางทิศตะวันตก

ซ้องกั๋งเดินทางไปทิศตะวันออก มุ่งหน้าไปตำบลเซงฮวงเจ เมื่อเดินทางมาได้ หลายวันถึงเนินเขาสูงใหญ่ เวลาจวนค่ำไม่ใคร่เห็นทาง คิดกลัวเสือขึ้นมา ครั้นจะหยุดนอนใต้ต้นไม้ก็ไม่เหมาะ จึงเดินต่อไปจนมืดค่ำก็สดุดเชือกที่ขึงดักไว้ล้มลง มีเสียงเกราะดังขึ้น พวกโจรประมาณสิบห้าคนจุดคบ กรูกันเข้ามาจับตัวซ้องกั๋งมัดไว้ และเก็บเอาห่อเสื้อผ้าสิ่งของเงินทองไว้เสีย แล้วเอาตัวซ้องกั๋งขึ้นไปบนเขาเซงฮวงซัว มัดไว้กับเสาหลัก ซ้องกั๋งนั้นทอดอาลัยว่าวาสนาช่างอาภัพเสียจริง บาปกรรมสิ่งใดก็ไม่ได้ทำ หรือเหตุที่ฆ่านางเงียมผอเสียะนั้น ติดตามมาคอยล้างผลาญ จนถึงที่ตายอยู่บนเขานี้เป็นแน่

บนเขาเซงฮวงซัวซึ่งอยู่ในเส้นทางระหว่างตำบลแปะโฮ้วซัว กับตำบลเซงฮวงแจแขวงเมืองซองจิวฮู้นี้ มีพวกโจรอยู่คณะหนึ่ง หัวหน้าใหญ่ชื่อ เอียนสุน เดิมเป็นพ่อค้าโคกระบืออยู่ที่เมืองซัวตั๋ง แต่ค้าขายขาดทุนจึงหนีมาเป็นโจร

คนที่สองชื่อ อองเอง เคยเป็นทหารอยู่ที่เมือง ห้วยจิว แต่นิสัยไม่ดีชอบแย่งชิงเงินทองผู้เดินทางผ่านไปมา เจ้าเมืองจับตัวได้เอาไปขังคุกไว้ก็หนีออกมาได้ จึงมาเป็นโจรอยู่ที่ภูเขานี้

คนที่สามชื่อ แต้เทียนซิว แต่ก่อนเป็นช่างเงินอยู่ที่เมือง โซจิวฮู้ ได้ฝึกหัดเพลงอาวุธมีฝีมือเข้มแข็ง พอเดินทางผ่านมาทางเขาเซงฮวงซัว ได้ต่อสู้กับอองเองไม่แพ้ชนะกัน เอียนสุนนายโจรจึงเกลี้ยกล่อมชักชวนให้เข้าเป็นพวกด้วย

คืนนั้นนายโจรทั้งสามกินสุราตั้งแต่เย็น แล้วนอนหลับไป พอถึงยามสามสร่างเมาเดินออกมา พวกลิ่วล้อก็รายงานว่า ได้จับชายผู้หนึ่งมา จะเอาหัวใจมาต้มให้กินแก้พิษสุราดีนัก นายโจรก็ยินดี ลูกสมุนคนหนึ่งตักน้ำมาราดที่หน้าอกซ้องกั๋ง ให้เลือดที่ห่อหุ้มหัวใจกระจาย ส่วนอีกคนหนึ่งก็ถือขวานมาคอยผ่า ซ้องกั๋งก็ถอนใจใหญ่แล้วรำพึงออกมาดัง ๆ ว่า

"....น่าเสียดายซ้องกั๋งนักหนา จะมาตายเสียเช่นนี้ไม่ควรเลย..."

แล้วก็หลับตารอคมขวานที่จะฟาดลงมา จะได้ตายตามภรรยาให้สิ้นเวรกันเสียที.

##########

นิตยสารโล่เงิน
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่