พระเจ้าซุนเหลียงทรงโปรดการเสวย "ลูกเหมย" มาก โดยโปรดที่จะเอาลูกเหมยจิ้มน้ำผึ้งเสวย
มีอยู่วันหนึ่ง พระองค์พบว่าในน้ำผึ้งมี "ขี้หนู" อยู่ บรรดาคนรอบข้างเห็นฮ่องเต้เกือบ "กินขี้"
เข้าไปก็ตกใจหน้าซีดกันไปหมด ขันทีคนหนึ่งจึงทูลพระองค์ว่า "คงจะเป็นความผิดพลาดของเจ้า
ทหารที่ดูแลกองเสบียงแน่ๆ สมควรเอาตัวมาลงโทษเสียให้หนักนะพระเจ้าข้า"
เมื่อทหารที่ดูแลคลังเสบียงมาปรากฏตัว ซุนเหลียงถามว่า "เมื่อครู่เจ้าเอาลูกเหมยส่งให้กับมือ
เจ้าขันทีคนนี้ใช่หรือไม่" ทหารตอบปากคอสั่นว่า "ใช่แล้วพระเจ้าข้า แต่ตอนแรกมันมิได้มีขี้หนูอยู่เลย
"ขันทีได้ยินดังนั้นจึงตวาดทันที "โกหก!! เห็นอยู่ชัดๆ ว่าขี้หนูอยู่ในลูกเหมย ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร"
ทหารคลังเสบียงจึงทูลว่า "คงจะมีคนเอาขี้หนูไปใส่เพื่อโยนความผิดให้เขาเป็นแน่แท้"
ทหารองครักษ์ซ้ายขวาของซุนเหลียงได้ยินดังนั้น จึงทูลฮ่องเต้ว่า ในเมื่อต่างฝ่ายต่างโทษกันไปมา
จึงควรเอาไปขังคุกไว้ทั้งสองคนเพื่อเป็นการลงโทษแต่ซุนเหลียงส่ายหัว พระองค์บอกว่า "เรื่องนี้จะรู้ได้
ไม่ยากหรอก" แล้วจึงรับสั่งให้ทหารองครักษ์ผ่าขี้หนูออกดูซุนเหลียงลองพินิจขี้หนูดูแล้วก็ยิ้ม ตรัสว่า
"ถ้าขี้หนูอยู่ในน้ำผึ้งมาตั้งแต่แรก น้ำผึ้งจะต้องซึมเข้าไปข้างในก้อนขี้นี้แล้ว แต่นี่ในก้อนขี้ยังแห้งอยู่ แปลว่า
มันเพิ่งลงไปอยู่ในน้ำผึ้งทีหลัง ดังนั้นต้องเป็นฝีมือไอ้ขันทีอย่างแน่นอน"
ขันทีตัวแสบได้ฟังแล้วถึงกับทรุด คุกเข่าลงขอพระราชทานอภัยโทษ โดยยอมรับว่าตนเองเอาขี้หนูใส่ลงไป
เพราะต้องการใส่ร้ายทหารที่ดูแลกองเสบียงเนื่องจากไม่ถูกกัน
ซุนเหลียงไขปริศนา ขึ้หนู
มีอยู่วันหนึ่ง พระองค์พบว่าในน้ำผึ้งมี "ขี้หนู" อยู่ บรรดาคนรอบข้างเห็นฮ่องเต้เกือบ "กินขี้"
เข้าไปก็ตกใจหน้าซีดกันไปหมด ขันทีคนหนึ่งจึงทูลพระองค์ว่า "คงจะเป็นความผิดพลาดของเจ้า
ทหารที่ดูแลกองเสบียงแน่ๆ สมควรเอาตัวมาลงโทษเสียให้หนักนะพระเจ้าข้า"
เมื่อทหารที่ดูแลคลังเสบียงมาปรากฏตัว ซุนเหลียงถามว่า "เมื่อครู่เจ้าเอาลูกเหมยส่งให้กับมือ
เจ้าขันทีคนนี้ใช่หรือไม่" ทหารตอบปากคอสั่นว่า "ใช่แล้วพระเจ้าข้า แต่ตอนแรกมันมิได้มีขี้หนูอยู่เลย
"ขันทีได้ยินดังนั้นจึงตวาดทันที "โกหก!! เห็นอยู่ชัดๆ ว่าขี้หนูอยู่ในลูกเหมย ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร"
ทหารคลังเสบียงจึงทูลว่า "คงจะมีคนเอาขี้หนูไปใส่เพื่อโยนความผิดให้เขาเป็นแน่แท้"
ทหารองครักษ์ซ้ายขวาของซุนเหลียงได้ยินดังนั้น จึงทูลฮ่องเต้ว่า ในเมื่อต่างฝ่ายต่างโทษกันไปมา
จึงควรเอาไปขังคุกไว้ทั้งสองคนเพื่อเป็นการลงโทษแต่ซุนเหลียงส่ายหัว พระองค์บอกว่า "เรื่องนี้จะรู้ได้
ไม่ยากหรอก" แล้วจึงรับสั่งให้ทหารองครักษ์ผ่าขี้หนูออกดูซุนเหลียงลองพินิจขี้หนูดูแล้วก็ยิ้ม ตรัสว่า
"ถ้าขี้หนูอยู่ในน้ำผึ้งมาตั้งแต่แรก น้ำผึ้งจะต้องซึมเข้าไปข้างในก้อนขี้นี้แล้ว แต่นี่ในก้อนขี้ยังแห้งอยู่ แปลว่า
มันเพิ่งลงไปอยู่ในน้ำผึ้งทีหลัง ดังนั้นต้องเป็นฝีมือไอ้ขันทีอย่างแน่นอน"
ขันทีตัวแสบได้ฟังแล้วถึงกับทรุด คุกเข่าลงขอพระราชทานอภัยโทษ โดยยอมรับว่าตนเองเอาขี้หนูใส่ลงไป
เพราะต้องการใส่ร้ายทหารที่ดูแลกองเสบียงเนื่องจากไม่ถูกกัน