โยนหินถามทางดูก่อนคะ..มีใครสนใจอ่านิยายแนวนี้บ้างหรือเปล่าไม่รู้
ลองส่งบทนำมาให้เพื่อนๆพี่ๆได้ลองอ่านดูก่อนค่ะ
นิยายเรื่องนี้ข้าพเจ้าแต่งมันออกมาจากจินตนาการของข้าพเจ้าเอง
โดยส่วนตัวชอบอ่านนิยายแฟนตาซี นิยายจีนกำลังภายใน อะไรที่เหนือธรรมชาติ
เลยลองจินตนาการปรับแต่งนิยายเรื่องนี้ให้เข้ากับบุคลิกและนิสัยของผู้แต่ง
ดำเนินเรื่องในสไตล์ออกแนวผู้ชายนิดนึงขอรับ แนวแฟนตาซีต่อสู้ บู๊ล้างผลาญบวกความตลกขบขันเข้าไปด้วย
แต่ผู้แต่งเป็นผู้หญิงนะเจ้าคะ ..คุณผู้ชายท่านใดเข้ามาอ่านหากเห็นเป็นเยี่ยงไรโปรดชี้แนะข้าพเจ้าด้วยขอรับ
วันนี้ขอลงบทนำให้อ่านก่อนนะคะ
บทนำ
ศึกป่วนเทพคัมภีร์สังหาร
ข้าพเจ้ามีนามว่าไคลน์องครักษ์มือขวาของเจ้าชายฟาดาเฟีย ไซนเทียเรน วอเปอร์คิง บุตรของเจ้าชายฟลอเรนเนีย มิคาไซเทียเรน วอเปอร์คิงกษัตริย์ผู้ปกครองนครมหาสมุทร
ข้าพเจ้าได้รับมอบภารกิจจากเจ้าฟาดาเฟียให้ออกตามหาคัมภีร์สังหารในดินแดนแห่งรัตติกาลบนหุบเขามรณะ ร่วมกับคณะเดินทางที่ฝีมือเก่งกาจ เจ้าหญิงทอรีเนีย เทพแห่งผืนป่า นอส เซียมิเคน ลูสองครักษ์ที่เก่งอาจของเจ้าหญิงทอรีเนีย และเหล่าเทพจิ๋วผ้าคลุมสีเหลือง รวมทั้งทหารกล้าของเจ้าชายฟาดาเฟียอีกสี่คนหนึ่งในนั้นย่อมมีข้าพเจ้าด้วย
พวกเราทั้งหลายต้องตามหาคัมภีร์สังหารให้เจอก่อนที่จอมมารสูบวิญญาณจะขโมยดวงวิญญาณของเจ้าชายฟลอเรนเนีย มิคาไซเทียเรน วอเปอร์คิงและราษฎรไปตลอดกาล เรื่องราวการเดินทางและเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นรอคอยพวกเขาอยู่เบื้องหน้าสงครามระหว่างมนุษย์ เทพ กับจอมมารก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะกระจายวงกว้างไปทั่วทุกพื้นที่ โดยที่คณะเดินทางของข้าพเจ้าได้ตามหาคัมภีร์สังหารก็เริ่มหมดเรี่ยวแรงลงเรื่อยๆ คัมภีร์สังหารเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะยุติสงครามลงได้
แต่หาได้เป็นเช่นนั้น …………………..
มีสิ่งอื่นต่างหากที่สามารถสังหารจอมมารสูบวิญญาณได้
ข้าพเจ้า……….มิอาจบอกแก่ท่านทั้งหลายได้
ข้าพเจ้าเหนื่อยล้าจนจะหมดแรงแล้ว สายตาพร่ามั่ว ลมหายใจติดขัด … ข้าพเจ้ายังไม่อาจตายได้
“ท่านพ่อช่วยข้าด้วย”
“ลืมตาเถอะลูกพ่อ เจ้ามีพลังมากว่าที่เจ้าจะรับรู้ได้พลังของเจ้าเก่งกาจเกินใครจะต้านทาน เจ้าต้องเชื่อมั่น”
“ข้าทำไม่ได้ ข้ากำลังหมดลมหายใจ”
“เจ้าต้องเชื่อมั่น” ………… สิ้นเสียงจากลาข้าพเจ้าล่องลอยอยู่บนสรวงสรรค์แล้ว จบกันชีวิตอันหล่อเหลา
พรุ่งนี้จะมาลงตอนที่หนึ่งให้อ่านกันค่ะ
แต่เอ๊ะ !! จะมีใครสนใจอ่านมั้ยน่า....
หากไม่มีผู้ใดอยากอ่านข้าพเจ้าจะพิจารณาไม่นำมาลงเจ้าคะ
**ศึกป่วนเทพคัมภีร์สังหาร** (บทนำ)
ลองส่งบทนำมาให้เพื่อนๆพี่ๆได้ลองอ่านดูก่อนค่ะ
นิยายเรื่องนี้ข้าพเจ้าแต่งมันออกมาจากจินตนาการของข้าพเจ้าเอง
โดยส่วนตัวชอบอ่านนิยายแฟนตาซี นิยายจีนกำลังภายใน อะไรที่เหนือธรรมชาติ
เลยลองจินตนาการปรับแต่งนิยายเรื่องนี้ให้เข้ากับบุคลิกและนิสัยของผู้แต่ง
ดำเนินเรื่องในสไตล์ออกแนวผู้ชายนิดนึงขอรับ แนวแฟนตาซีต่อสู้ บู๊ล้างผลาญบวกความตลกขบขันเข้าไปด้วย
แต่ผู้แต่งเป็นผู้หญิงนะเจ้าคะ ..คุณผู้ชายท่านใดเข้ามาอ่านหากเห็นเป็นเยี่ยงไรโปรดชี้แนะข้าพเจ้าด้วยขอรับ
วันนี้ขอลงบทนำให้อ่านก่อนนะคะ
ศึกป่วนเทพคัมภีร์สังหาร
ข้าพเจ้ามีนามว่าไคลน์องครักษ์มือขวาของเจ้าชายฟาดาเฟีย ไซนเทียเรน วอเปอร์คิง บุตรของเจ้าชายฟลอเรนเนีย มิคาไซเทียเรน วอเปอร์คิงกษัตริย์ผู้ปกครองนครมหาสมุทร
ข้าพเจ้าได้รับมอบภารกิจจากเจ้าฟาดาเฟียให้ออกตามหาคัมภีร์สังหารในดินแดนแห่งรัตติกาลบนหุบเขามรณะ ร่วมกับคณะเดินทางที่ฝีมือเก่งกาจ เจ้าหญิงทอรีเนีย เทพแห่งผืนป่า นอส เซียมิเคน ลูสองครักษ์ที่เก่งอาจของเจ้าหญิงทอรีเนีย และเหล่าเทพจิ๋วผ้าคลุมสีเหลือง รวมทั้งทหารกล้าของเจ้าชายฟาดาเฟียอีกสี่คนหนึ่งในนั้นย่อมมีข้าพเจ้าด้วย
พวกเราทั้งหลายต้องตามหาคัมภีร์สังหารให้เจอก่อนที่จอมมารสูบวิญญาณจะขโมยดวงวิญญาณของเจ้าชายฟลอเรนเนีย มิคาไซเทียเรน วอเปอร์คิงและราษฎรไปตลอดกาล เรื่องราวการเดินทางและเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นรอคอยพวกเขาอยู่เบื้องหน้าสงครามระหว่างมนุษย์ เทพ กับจอมมารก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะกระจายวงกว้างไปทั่วทุกพื้นที่ โดยที่คณะเดินทางของข้าพเจ้าได้ตามหาคัมภีร์สังหารก็เริ่มหมดเรี่ยวแรงลงเรื่อยๆ คัมภีร์สังหารเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะยุติสงครามลงได้
แต่หาได้เป็นเช่นนั้น …………………..
มีสิ่งอื่นต่างหากที่สามารถสังหารจอมมารสูบวิญญาณได้
ข้าพเจ้า……….มิอาจบอกแก่ท่านทั้งหลายได้
ข้าพเจ้าเหนื่อยล้าจนจะหมดแรงแล้ว สายตาพร่ามั่ว ลมหายใจติดขัด … ข้าพเจ้ายังไม่อาจตายได้
“ท่านพ่อช่วยข้าด้วย”
“ลืมตาเถอะลูกพ่อ เจ้ามีพลังมากว่าที่เจ้าจะรับรู้ได้พลังของเจ้าเก่งกาจเกินใครจะต้านทาน เจ้าต้องเชื่อมั่น”
“ข้าทำไม่ได้ ข้ากำลังหมดลมหายใจ”
“เจ้าต้องเชื่อมั่น” ………… สิ้นเสียงจากลาข้าพเจ้าล่องลอยอยู่บนสรวงสรรค์แล้ว จบกันชีวิตอันหล่อเหลา
พรุ่งนี้จะมาลงตอนที่หนึ่งให้อ่านกันค่ะ
แต่เอ๊ะ !! จะมีใครสนใจอ่านมั้ยน่า....
หากไม่มีผู้ใดอยากอ่านข้าพเจ้าจะพิจารณาไม่นำมาลงเจ้าคะ