ํYou are, What you eat...ชีวิตเรา เราปรุงเอง

กระทู้สนทนา


เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...

วันหนึ่งขณะนั่งทานอาหารกับเพื่อนๆในร้านอาหารชื่อดัง
บรรยากาศตกแต่งดี และที่สำคัญ เมนูอาหารนั้นถูกดัดแปลง
ให้แตกต่างจากร้านอื่นๆ ทั้งอร่อย ทั้งหากินที่ไหนไม่ได้
จนผมและเพื่อนๆ ต้องแวะเวียนมาเป็นขาประจำอยู่เสมอๆ

ระหว่างที่กินไป คุยไปเรื่องการทำอาหาร ผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า

จริงๆแล้วชีวิตของคนเรา ก็คงคล้ายกับการเข้าครัวทำอาหาร

คนบางคน...ชีวิตไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการแค่มีงานทำ มีบ้านให้กลับ
มีเงินพอใช้ ไม่ขัดสน คนเหล่านี้ถ้าเปรียบเทียบไป ก็อาจจะเหมือนกับคนที่ชอบทานอะไรง่ายๆ
ก็เลยชอบเข้าครัวทำอะไรง่ายๆ ที่ไม่ต้องเสียเวลามากอย่างเช่น อาหารสำเร็จรูป
แต่ในขณะที่ข้อดีของอาหารสำเร็จรูปคือความรวดเร็ว และความง่าย
รสชาติของอาหารสำเร็จรูปก็มักจะจืดชืด และค่อนไปทางไม่อร่อย
แต่คนเหล่านี้ก็ไม่ได้มีปัญหากับการต้องกินอาหารรสชาติเดิมๆ ซ้ำซากจำเจติดๆกันทุกวัน
อย่างที่บอกคนเหล่านี้พอใจอยู่แค่การได้กินอิ่มเท่านั้น

ในขณะที่ใครอีกหลายคนอาจจะปฏิเสธอาหารแช่แข็งเหล่านั้น และพูดว่า
"ชีวิตฉันต้องการอะไรมากกว่านั้น อาจจะไม่ต้องอร่อยมากเท่ากับอาหารหรูๆ
ที่ปรุงจากวัตถุดิบราคาแพง หรือเชฟชั้นยอด แต่อย่างน้อยก็ขอเข้าครัวทำอาหารกินเอง
แม้จะเป็นแค่อาหารบ้านๆก็ตาม"

"คนส่วนใหญ่" ในชีวิตผมเป็นแบบนั้น คือไม่ได้คาดหวังแค่ชีวิตที่เรียบง่าย มีงานทำ
มีเงินพอใช้เหมือนกับคนกลุ่มแรก คนจำพวกนี้มีความฝัน แต่เลือกที่จะค่อยๆทำงาน
ค่อยๆเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หรือบางคนก็ค่อยๆเก็บเงิน และหวังว่าวันหนึ่งเมื่อเงินทุนมากพอ
ก็ค่อยออกมาทำตามความฝันนั้น บางคนอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง
แต่ตอนนี้ขอทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเพื่อเก็บเงินไปก่อน

ในขณะที่เพื่อนอีกกลุ่ม ซึ่งเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับสองกลุ่มแรกกลับไม่คิดแบบนั้น
คนพวกนี้มองว่าความฝันรอไม่ได้ บางคนบอกว่ากว่าอะไรๆที่ว่าจะพร้อม ไฟในตัวก็มอดหมดกันพอดี
คนเหล่านี้จึงยอมทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อที่จะทำความฝันให้เป็นจริง
เราเห็นบางคนจันทร์ถึงศุกร์ทำงานออฟฟิศ ในขณะที่เสาร์ อาทิตย์ก็เปิดร้านกาแฟเล็กๆ
ทำงานเจ็ดวันต่ออาทิตย์

ห้าวันทำงานเลี้ยงตัว อีกสองวันทำงานเลี้ยงใจ

บางคนทำงานประจำ แต่ก็ยังทำแบรนด์เสื้อผ้าขายในตลาดออนไลน์
หรือบางคนอาจจะลาออกจากงานประจำมาทำในสิ่งที่ตัวเองฝันเลยก็มี
ซึ่งคนเหล่านี้ทำงานหนักกว่าคนสองประเภทแรกมาก
แต่เพราะพวกเขาเชื่อว่าความฝันรอไม่ได้ เริ่มเร็ว ก็สำเร็จเร็ว
คนเหล่านี้ถ้าเปรียบไปก็คือคนที่ชอบกินอาหารอร่อย รสชาติดีที่ยังหากินที่ไหนไม่ได้
จึงพยายามลองคิดหาสูตรอาหารที่ใช่ วัตถุดิบที่ชอบ และทุ่มเทเวลาฝึกปรือจนชำนาญ
คนเหล่านี้ยอมเหนื่อย ยอมลำบาก และเสียเวลานานมาก ในการปรุงอาหารสักจานขึ้นมา
แต่พวกเขาก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทานอาหารรสเลิศที่ปรุงขึ้นมาจากฝีมือของตัวเอง

แต่หลายหลายคนก็มักมีคำถามเกิดขึ้นระหว่างทาง

ไม่ใช่ทุกคนที่ทำตามความฝัน แล้วจะไปถึงปลายทางแห่งความฝัน

หลายคนผิดหวัง หลายคนยอมแพ้ มีแบรนด์เสื้อผ้าจำนวนมากที่เปิดมา และปิดไปเพราะไม่มีกำไร
มีร้านกาแฟจำนวนไม่น้อยที่ต้องแขวนป้ายปิดกิจการ เพราะลูกค้าไม่เข้าร้าน
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจมีคำถามเหมือนกันกับผม แล้วกุญแจของความสำเร็จมันอยู่ตรงไหน?

ผมเองก็ไม่ใช่คนที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ ผมเองก็เป็นเหมือนกับใครอีกหลายๆคน
ที่กำลังเดินตามความฝัน แต่ถ้าถามผม ผมคงกลับไปคิดถึงการทำอาหาร

เชฟที่ประสบความสำเร็จต้องมีอะไรบ้าง?

ทำอาหารอร่อยอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ ผมนั่งใช้เวลาคิด
มองผู้คนแน่นร้านที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้า
และพนักงานร้านที่เดินเสิร์ฟอาหารมือเป็นระวิง บางทีคำตอบของความสำเร็จ
อาจเป็นคำตอบเดียวกันกับเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงเลือกมานั่งร้านนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า

ใช่!! นั่นคือสิ่งที่ผมได้พูดไปแล้วเมื่อตอนต้น มันคือความแตกต่างของเมนูอาหาร ที่หากินที่ไหนไม่ได้
ผมสรุปเอาเองง่ายๆจากอาหารมื้อนั้นว่า คนอีกกลุ่ม ซึ่งอาจจะเป็นสัดส่วนที่น้อยเอามากๆ คือกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จ
คงเป็นคนที่ชอบทานอาหารรสชาติดี และที่สำคัญต้องแตกต่าง และไม่ซ้ำใคร
คนกลุ่มนี้จึงไม่เพียงแค่ทุ่มเทเวลาฝึกฝนการทำอาหารจนชำนาญ
แต่ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขากล้าที่จะดัดแปลงสูตรอาหารในมือ หรือคิดค้นอาหารจานใหม่

อาหารที่พวกเขาอยากกิน แต่หากินที่ไหนไม่ได้

คนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่กล้าลองเหยาะส่วนผสมในปริมาณที่ต่างไปจากสูตรเดิม
กล้าลองทำอาหารในวิธีที่แตกต่างไปจากตำราสอน เพราะพวกเขาเชื่อว่า
อาหารจานนี้จะกลายเป็นอาหารจานเดียวในโลก ที่ไม่เหมือนใคร

แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับ ชีวิต ก็เหมือนกับการปรุงอาหาร
เราอยากกินอะไร เราก็ทำแบบนั้น
ไม่ผิดหากคุณชอบกินอะไรง่ายๆที่เพียงแค่โยนเข้าไมโครเวฟ สามนาทีก็อิ่มได้
ไม่แปลกถ้าคุณยังอยากทำอาหารอร่อย แต่ไม่มีเวลาเข้าครัวจริงๆจังๆ
และผมเอาใจช่วยสำหรับใครหลายๆคนที่กำลังพยายามเรียนรู้การทำอาหารให้อร่อย
จานๆแรกๆอาจจะห่วยจนกินไม่ได้ต้องโยนทิ้งถังขยะ แต่ผมเชื่อว่ามันจะต้องดีขึ้นแน่ๆ
หรือหลังจากที่อ่านบทความนี้จบ ใครบางคนอาจจะอยากกลับไปลองคิดค้นอาหารสูตรใหม่ของตัวเองดูก็ได้

ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อครัวแบบไหน ชอบทานอาหารสไตล์ไหน ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดี
ทุกอย่างมันอยู่ที่ความชอบ เราชอบอะไรไม่เหมือนกัน เรามีความสุขกับอะไรไม่เท่ากัน
แต่มีอยู่คำพูดหนึ่งที่ผมเชื่อเสมอมา ไม่เคยเปลี่ยน นั่นก็คือ

“You are what you eat” กินอะไร ก็ได้อย่างนั้น
ทานอาหารให้อร่อยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่