“ ไอ้นี่มันร้ายจริงๆ ”
“ เห็นฤทธิ์มันแล้วใช่ไหม จามต้องทำให้มันสำนึกให้ได้ว่า บังอาจมาต่อกรกับเรา และผลมันจะเป็นอย่างไร ”
“ คุณจามจะทำอย่างไร ท่าทางของมันบ้านนอกป่าเถื่อน ไร้การศึกษาจะตาย ”
ทัตหาเรื่องด่าตะวันทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่า ชายหนุ่มนั้นชื่ออะไร มีการศึกษาหรือเปล่า แต่ตัวเขาถูกตะวันตอกหน้ากลับมาซะหมดเครดิต ล้อมเดือนนั่งมาเงียบๆ อดเป็นห่วงตะวันไม่ได้ มามีเรื่องกับคนพวกนี้มันไม่ดีสำหรับเขาเลย อิทธิพลของนายทุติยะมีไม่น้อย แม้ที่นี่จะเป็นเชียงราย แต่ตำแหน่งของเขาก็มีอำนาจทั่วทั้งประเทศ
ดึกแล้ว ตะวันยังนอนเป่าขลุ่ยอยู่ที่ระเบียงเรือน ตาเอี้ยงนอนฟังอยู่ใกล้ๆ วันนี้จะเป็นอุปทานหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เสียงขลุ่ยของตะวันเศร้าสร้อยไห้หวนเหลือเกิน เสียงเพลงจบลง
“ ตะวัน ทำไมวันนี้เสียงขลุ่ยของเอ็งมันถึงได้เศร้านักวะ ”
“ ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่น่ะตา มันคิดถึงอย่างบอกไม่ถูก ”
ตาเอี้ยงอึ้ง มองหลานชายในความมืด ตะวันไม่เคยพูดถึงพ่อถึงแม่มานานมากแล้วแล้วทำไมอยู่ๆวันนี้เขาถึงได้พูดถึง
“ พ่อกับแม่เอ็งเขาตายไปนานแล้ว เอ็งจะไปคิดถึงเขาทำไม ”
“ ตาไม่มีรูปพ่อกับแม่ของผมให้ผมดูบ้างเลยหรือ สักรูปก็ยังดี ”
“ ไม่มีหรอก บ้านเราถูกไฟไหม้ไม่เหลืออะไรที่เป็นของพ่อของแม่เอ็งเลย เหลือแต่เอ็งกับข้าที่รอดมาได้ ”
“ จริงหรือ ที่ว่าพ่อกับแม่ของผมถูกไฟครอกตาย ”
“ จริงสิ เอ็งอย่าถามอีกเลยนะ ข้าไม่สบายใจว่ะ ”
“ ผมขอโทษนะตา ต่อไปผมจะไม่ถามอีก ”
“ ตะวันเอ็งเสียใจไหม ที่ชีวิตของเอ็งมีแต่ตา ไม่มีญาติพี่น้องอื่นเลย ”
“ ทำไมผมต้องเสียใจด้วยล่ะ ผมมีตาคนเดียวผมก็ภูมิใจแล้ว ตาเป็นญาติของผม เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผม ”
“ ตะวัน ไอ้หลานรักของตา ”
ที่บ้านสุรียาบดี คุณหญิงทาทองที่เพิ่งได้ยศคุณหญิง นั่งวางมาดบนเก้าอี้ คุยโทรศัพท์อยู่กับหลานสาวคนโปรดที่เชียงราย
“ ไง เที่ยวสนุกไหมจ๊ะหลาน ขากลับอย่าลืมซื้อลำใยเอามาฝากป้าด้วยล่ะ ”
“ ทีแรกก็สนุกหรอกนะคะ แต่จามไปมีเรื่องกับไอ้ถ่อยชาวสวน เลยหมดสนุกค่ะ ”
“ ต๊าย ใครมันบังอาจมามีเรื่องกับหลานของป้าหืมม์ ”
“ คุณป้าคะ แล้วจามจะกลับไปเล่าให้ฟังนะคะ พรุ่งนี้จามก็จะกลับแล้ว ”
“ เล่าตอนนี้ไม่ได้หรือลูก ”
“ อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวจามจะไปไหว้พระกัน จามกลัวจะเสียอารมณ์ซะก่อน ”
“ ได้ๆลูก อย่างนั้นกลับมาค่อยเล่านะ เที่ยวให้สนุกนะลูก แล้วพรุ่งนี้ป้าจะให้คนขับรถไปรอรับที่สนามบินนะ ”
“ เท่านี้ก่อนนะคะคุณป้า บอกคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยว่าพรุ่งนี้จามกลับแล้ว ”
“ จ่ะ ลูก ”
คุณหญิงทาทองนั่งมองคนรับใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องลายครามอย่างสบายอารมณ์ นางสวาทเมียของทุติยะกลับมาจากข้างนอกหน้าตาบูดบึ้ง
“ เป็นอะไรสวาท ทำหน้าอย่างกับไปกินรังแตนที่ไหนมา ”
“ คุณพี่คะ จัดการเรื่องหุ้นบริษัทเดิมให้เด็ดขาดได้ไหมคะ ส่วนที่มันค้างเติ่งอยู่มันทำให้เราทำงานได้ไม่คล่องนะคะ ตอนนี้บริษัทขาดเงินหมุนเวียน จะเรียกระดมทุนก็ติดอยู่ที่มัน ทำได้ไม่ตลอด ”
“ แล้วเธอจะให้พี่ทำอย่างไร ไอ้หุ้นนั่นมันคาค้างอยู่ตั้งนานแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ พี่ลองคุยกับทนายมาหลายครั้งแล้ว ต้องรอให้ไอ้เด็กผีนั่นกลับมาจัดการอย่างเดียว มันเป็นการมอบเด็ดขาดให้กัน และพินัยกรรมฉบับนั้นก็อยู่นอกเหนือทรัพย์สินอื่น ”
“ แต่นี่มันยี่สิบกว่าปีแล้วนะคะ ไอ้เด็กนั่นมันคงตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เราจะปล่อยให้มันค้างอยูได้อย่างไร ไม่ต้องทำอย่างอื่นกัน ดูสิเนี่ย อะไรก็ติดขัดไปหมด ”
“ เธอก็รู้ว่ามันทำอย่างอื่นไม่ได้ เอาส่วนอื่นไปหมุนแทนก่อนไม่ได้หรือไง มันขาดอยู่เท่าไหร่ล่ะ ”
“ เก้าสิบล้านบาท ”
“ โอ้โฮ ตั้งเก้าสิบล้านเชียวหรือ แล้วจะทำยังไง ”
“ ก็นั่นแหละถึงมาปรึกษาคุณพี่ หุ้นนั่นถ้าเราสามารถเปลี่ยนมือได้ เงินจำนวนมหาศาลเราก็ไม่ต้องเดือดร้อน คุณพี่คะ เราเอาบ้านสุรียาบดีเข้าธนาคารไหมคะ ราคามันน่าจะไม่ต่ำกว่าสองร้อยล้าน เพราะที่ที่นี่ราคาสูงมาก ”
“ จะบ้าเหรอ บ้านนี่มันชื่อของฉันของตายะซะที่ไหน เราน่ะครอบครองมันได้แต่บ้าน กรรมสิทธิ์ใดๆเราไม่มีเลย ไอ้บ้าธารเทพมันทำพินัยกรรมยกให้ลูกนังสุทธินีไปหมดแล้ว ”
“ ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไร ทนายช่วยอะไรเราไม่ได้เลยหรือไง ทรัพย์สินส่วนอื่นเรายังเอามาเป็นของเราได้ กับอีแค่หุ้นกับบ้านนี่ทำไมถึงทำไม้ได้ ”
“ พินัยกรรมฉบับนี้มันไม่ได้อยู่ที่ทนายสมานเธอก็รู้ ธารเทพฝากพินัยกรรมนั่นไว้ที่ท่านอุเทน ใครจะกล้าไปยุ่ง ตอนนี้พวกเราก็เท่ากับ รอไอ้เด็กนั่นมาปรากฏตัว หรือไม่ก็อยู่ไปทั้งอย่างนี้ถ้าไม่มีมันจนกว่าจะครบกำหนดสามสิบปีถึงจะจ่ายโอนให้กับคนอื่นได้ แต่พี่เชื่อว่าไอ้สุรียาตายไปแล้ว มันคงตายไปแล้ว ”
“ แล้วเมื่อครบกำหนดสามสิบปี ใครจะเป็นผู้มีสิทธ์ได้รับมรดกส่วนของมันคะ ”
“ ก็นังเพ็ญพักต์กับนังเพียงโพยมพี่สาวต่างแม่ของมันน่ะสิ ”
“ แล้วพี่จะยอมให้นังสองคนนั่นได้ไปหรือคะ ”
“ ไม่มีทาง แค่ฉันเมตตาให้เงินมันไปคนละสามล้านก็มากเกินแล้วป่านนี้มันคงไปเป็นแม่ค้าขายดอกไม้อยู่ที่อัมพวากับโคตรเง่าฝ่ายแม่มันไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆลูกท่านธารเทพไม่มีใครได้เสวยสุขในทรัพย์มรดกของพ่อแม้แต่คนเดียว ฮ่า ๆ ๆ ”
ทาทองหัวเราะอย่างเต็มที่ หล่อนเกลียดธารเทพ เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลสุรียาบดี บิดาของธารเทพไปขอทาทองและทุติยะมาเป็นบุตรบุญธรรม เพราะเขาต้องการให้ธารเทพมีทั้งพี่และน้องอยู่ในครอบครัว แต่ไม่นึกเลยว่าจะเอาลูกเสือลูกจระเข้มาเลี้ยง ทั้งทาทองและทุติยะ ร่วมมือกันกำจัดธารเทพและครอบครัวของเขาเพื่อแย่งชิงทรัพย์มรดกอันมหาศาลที่ธารเทพได้รับจากบิดา
ตะวันขับรถเข้าเมือง เขาเข้าไปซื้อของใช้ที่จำเป็นในเมืองเสมอ วันนี้ชายหนุ่มเดินเข็ญรถใส่ของในห้างสรรพสินค้า เลือกหาซื้อชา กาแฟและนมข้นหวานเอาไปฝากตา เมื่อเข็ญรถมาถึงแผนกขายอาหารเสริม และชากาแฟ หญงสาวคนหนึ่งเอื้อมหยิบกล่องกาแฟแล้วพลัดตกใส่เขาพอดี
“ โอ้ย ”
“ ตายจริง ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ”
“ ไม่เป็นไรครับ เอ๊ะ คุณ ”
ตะวันชะงักเพราะผู้หญิงคนนั้นคือหนึ่งในกลุ่มที่มีเรื่องกับเขาเมื่อไม่นาน
“ คุณ ”
ตะวันจะเดินหนี แต่ล้อมเดือนรีบเรียกเขา
“ เดี๋ยวค่ะ ”
ตะวันหันมามอง ล้อมเดือนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ คุณคงจำฉันได้ ที่เคยไปมีเรื่องกับคุณในวันนั้น ”
“ ครับ วันนี้คุณมาคนเดียวไม่ได้มากับลูกสาวท่านรัฐมนตรีหรือครับ ”
“ เขากลับกรุงเทพไปแล้วค่ะ ฉันต้องขอโทษกับเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อนฉันเขารุนแรงกับคุณ ”
ตะวันมองหญิงสาวอย่างแปลกใจ
“ พวกลูกท่านหลานเธอ เห็นชาวบ้านเป็นมดเป็นไร ”
“ ความจริงวันนั้น ฉันรู้ว่าจามเขาทำเกินไป คุณต้องโกรธ แต่ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ห้ามเขา เขาก็ไม่ฟัง ”
“ คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ ผมไม่โกรธคุณหรอก ผมแยกแยะออกว่าใครเป็นยังไง ”
“ ขอบคุณค่ะ ที่คุณไม่โกรธฉัน ”
“ คุณนี่นิสัยไม่เหมือนเพื่อนของคุณเลยนะ คบกันเข้าไปได้อย่างไร ”
ล้อมเดือนหัวเราะ
“ แหม เป็นเพื่อนกันต้องนิสัยอย่างเดียวกันด้วยหรือคะ แบบนี้สังคมก็วุ่นวายพิลึกสิ ”
“ จริงสินะ ผมก็ลืมไป ”
“ คุณมาซื้อของที่นี่ประจำหรือคะ ”
“ จะว่าประจำก็ได้ ของที่นี่ถูกกว่าที่อื่น แล้วคุณล่ะ ลูกค้าประจำที่นี่เหมือนกันใช่ไหม ”
“ คงอย่างนั้น ปกติฉันจะให้ลูกน้องเป็นคนมาซื้อของ แต่วันนี้มีธุระต้องมาทำ เลยแวะซื้อซะเอง ”
“ คุณทำงานอะไรหรือ ขอโทษนะครับที่ถาม ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาทำรีสอร์ทเล็กๆที่นี่ มาช่วยคุณแม่ทำน่ะ ไม่ใช่ของฉันเองหรอก ”
“ รีสอร์ท ”
“ ค่ะ ชมเดือนรีสอร์ท อยู่อำเภอเดียวกับคุณน่ะแหละ ”
“ อ๋อ รีสอร์ทที่เพิ่งสร้างเสร็จแล้วเปิดเมื่อไม่นาน ที่แท้ของคุณนี่เอง ”
“ เราพอจะเป็นเพื่อนกันได้ไหมคะ ”
“ ผมหรือ ผมไม่กล้าไปเป็นเพื่อนกับพวกคุณหรอก ผมมันชาวสวนชาวเขา ”
“ อย่าคิดมากสิคะ ความจริงท่าทางของคุณไม่น่าจะเป็นชาวสวนเลยนะคะ ”
“ ทำไมหรือ ผมไม่เหมือนชาวสวนแต่เหมือนชาวป่าใช่ไหม ”
ล้อมเดือนหัวเราะ ตะวันมองผู้หญิงคนนี้อย่างสบายใจ เธอดูเป็นกันเองและดูเปิดเผย
“ เปล่าเลยนะคะ ฉันว่าหน้าของคุณ คล้ายๆใครคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก ”
“ ผมหน้าโหลอย่างนั้นเชียวหรือ ”
“ คุณนี่ชอบชักใบให้เรือเสียนะคะ คุยกันมาตั้งนาน ฉันยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลย ส่วนฉันชื่อล้อมเดือนค่ะ ”
“ ล้อมเดือน ชื่อคุณน่าฟังจัง ผมชื่อตะวัน ”
“ ตะวันหรือคะ ชื่อคุณก็ฟังดี ตะวันที่ร้อนแรงหรือเปล่า ฉันเห็นคุณวันนั้นแล้วมารู้ชื่อคุณวันนี้ สมควรเลยค่ะ ”
“ ทำไม คุณคงคิดว่าผมเป็นนักเลงล่ะสิ ปกติผมไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยนะ กับเพื่อนๆของคุณน่าจะเป็นพวกแรกที่ผมมีเรื่องด้วย มีเรื่องครั้งแรกก็กับคนดังเลย ผมนี่ดวงซวยชะมัด ”
“ อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ จามจุรีเขาก็คงลืมมันไปแล้ว รายนั้นเขาไม่มีเวลามาใส่ใจอะไรได้นานหรอกค่ะ ฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ เอาไว้โอกาสหน้า ฉันอาจจะไปซื้อลำใยที่สวนของคุณ รับรอง ฉันไม่จู้จี้เหมือนเพื่อนของฉันแน่ ”
“ ครับ ยินดีมากเลย ผมจะพาคุณไปเก็บเอาจากต้นเลย ”
“ จริงๆนะคะ ”
“ จริงสิครับ ”
“ งั้นฉันไปก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ ”
ตะวันมองตามหญิงสาวที่เข็ญรถไปที่เคาท์เตอร์จ่ายเงิน และเขาก็เดินเลือกซื้อของต่อ เมื่อเสร็จแล้วจึงมุ่งหน้ากลับบ้าน เขาขับรถขึ้นเนินเขา สองข้างทางเป็นป่า ตะวันมองเห็นร่างของคนนอนฟุบอยู่ข้างทาง ตะวันจอดรถเข้าข้างทางและลงไปดูร่างที่นอนฟุบแน่นิ่งอยู่
“ ผู้หญิงนี่ ทำไมมานอนฟุบอยู่ข้างทางแบบนี้ ”
เขาจับร่างที่หมดสติพลิกขึ้น จำได้ว่าเป็นหญิงจรจัดที่เขาเคยให้เงินเมื่อหลายวันก่อน
“ ป้า ป้า ป้าเป็นยังไงมั่ง นี่ป้าไม่สบายนี่ ”
หญิงจรจัดลืมตา ใบหน้าของนางซีดเซียว ตัวร้อนจี๋ ตะวันจึงอุ้มร่างที่มอซอไปที่รถ
“ ป้าไปบ้านผมก่อนนะ ท่าทางป้าไม่สบายมากเลย ”
“ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณเหลือเกิน ”
หญิงจรจัดพูดเบาๆ ตะวันพานางมาถึงบ้าน แล้วไปเรียกตาเอี้ยงออกมาดู
“ ตา ผมช่วยคนจรจัดมาคนหนึ่ง แกไม่สบายมาก ตาไปช่วยผมหน่อย ”
“ ตะวันเอ้ย นี่คิดยังไงไปพาคนจรจัดมาบ้าน ”
“ ช่วยแกเถอะตา แกเป็นผู้หญิง ท่าทางน่าสงสารมากเลย ”
“ เอา ๆ ไหนดูซิ ”
ตาเอี้ยงยอมให้ตะวันเอาหญิงจรจัดมาดูแลรักษา ชายหนุ่มหายามาให้นางกิน ร่างกายที่อ่อนเพลียกับจิตใจที่อ่อนล้าเมื่อได้ที่พักพิงที่อบอุ่นเปี่ยมด้วยน้ำใจ นางจึงหลับไปนานทีเดียว ตะวันเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง ตาเอี้ยงมองชายหนุ่มยิ้มๆอย่างเอ็นดูในความมีน้ำใจของเขา
“ ตะวัน เอ็งจะให้ยายคนนี้อยู่กับเราหรือวะ ”
“ ตา ที่กระท่อมท้ายสวนของเรา ถ้าเอาของออกซะ ผมว่าป้านี่แกก็อยู่ได้นะ ผมจะจ้างแกไว้ ให้ช่วยถากหญ้าในสวน สงสารแก แกแก่แล้วคงไม่มีใครเขาจ้างแกหรอก ”
“ เอา จะเอายังไงก็เอา ตาเห็นด้วยทั้งนั้น ”
ทุติยะกลับเข้าบ้านจนดึก เขาไปงานเลี้ยงกับสวาทมา เมื่อเดินขึ้นชั้นบนได้ยินเสียงซอดังมาจากปีกขวาของตึก แสดงว่าลูกสาวคนเล็กของเขายังไม่นอน
“ คุณ เสียงลูกจันทร์เล่นซอ ผมจะไปหาเขาหน่อย พักนี้งานยุ่งไม่ได้เจอหน้าลูกๆมาเป็นอาทิตย์แล้ว ”
“ จะห่วงอะไรคะ บริวารเต็มบ้าน ไม่เจอหน้าพ่อหน้าแม่พวกเขาก็ไม่เดือดร้อนหรอก ”
“ คุณก็คิดอย่างนี้ ลูกๆมันถึงไม่ติดคุณซักคน เอาเวลาให้พวกเขาบ้าง ความรัก ความอบอุ่นน่ะมันหาซื้อไม่ได้หรอกนะ คุณไม่รู้หรือไงว่าความอบอุ่นจากอกพ่ออกแม่น่ะมันมีค่าแค่ไหน ”
ทุติยะถึงจะใจโหดแค่ไหน แต่กับลูกสาวสองคนของเขาแล้ว เขารักและดูแลลูกอย่างดี ชดเชยกับที่เขาเป็นลูกกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง จนต้องให้คนอื่นเอามาเลี้ยง เขาต้องการให้ลูกของเขาเพียบพร้อมไปด้วยความรัก ความอบอุ่นจากอ้อมอกพ่อแม่ เขาเปิดประตูเข้ามานั่งมองลูกสาวสีซอจนจบเพลง
...พิมพ์พิลาสฒ์...
สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 3
“ เห็นฤทธิ์มันแล้วใช่ไหม จามต้องทำให้มันสำนึกให้ได้ว่า บังอาจมาต่อกรกับเรา และผลมันจะเป็นอย่างไร ”
“ คุณจามจะทำอย่างไร ท่าทางของมันบ้านนอกป่าเถื่อน ไร้การศึกษาจะตาย ”
ทัตหาเรื่องด่าตะวันทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่า ชายหนุ่มนั้นชื่ออะไร มีการศึกษาหรือเปล่า แต่ตัวเขาถูกตะวันตอกหน้ากลับมาซะหมดเครดิต ล้อมเดือนนั่งมาเงียบๆ อดเป็นห่วงตะวันไม่ได้ มามีเรื่องกับคนพวกนี้มันไม่ดีสำหรับเขาเลย อิทธิพลของนายทุติยะมีไม่น้อย แม้ที่นี่จะเป็นเชียงราย แต่ตำแหน่งของเขาก็มีอำนาจทั่วทั้งประเทศ
ดึกแล้ว ตะวันยังนอนเป่าขลุ่ยอยู่ที่ระเบียงเรือน ตาเอี้ยงนอนฟังอยู่ใกล้ๆ วันนี้จะเป็นอุปทานหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เสียงขลุ่ยของตะวันเศร้าสร้อยไห้หวนเหลือเกิน เสียงเพลงจบลง
“ ตะวัน ทำไมวันนี้เสียงขลุ่ยของเอ็งมันถึงได้เศร้านักวะ ”
“ ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่น่ะตา มันคิดถึงอย่างบอกไม่ถูก ”
ตาเอี้ยงอึ้ง มองหลานชายในความมืด ตะวันไม่เคยพูดถึงพ่อถึงแม่มานานมากแล้วแล้วทำไมอยู่ๆวันนี้เขาถึงได้พูดถึง
“ พ่อกับแม่เอ็งเขาตายไปนานแล้ว เอ็งจะไปคิดถึงเขาทำไม ”
“ ตาไม่มีรูปพ่อกับแม่ของผมให้ผมดูบ้างเลยหรือ สักรูปก็ยังดี ”
“ ไม่มีหรอก บ้านเราถูกไฟไหม้ไม่เหลืออะไรที่เป็นของพ่อของแม่เอ็งเลย เหลือแต่เอ็งกับข้าที่รอดมาได้ ”
“ จริงหรือ ที่ว่าพ่อกับแม่ของผมถูกไฟครอกตาย ”
“ จริงสิ เอ็งอย่าถามอีกเลยนะ ข้าไม่สบายใจว่ะ ”
“ ผมขอโทษนะตา ต่อไปผมจะไม่ถามอีก ”
“ ตะวันเอ็งเสียใจไหม ที่ชีวิตของเอ็งมีแต่ตา ไม่มีญาติพี่น้องอื่นเลย ”
“ ทำไมผมต้องเสียใจด้วยล่ะ ผมมีตาคนเดียวผมก็ภูมิใจแล้ว ตาเป็นญาติของผม เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผม ”
“ ตะวัน ไอ้หลานรักของตา ”
ที่บ้านสุรียาบดี คุณหญิงทาทองที่เพิ่งได้ยศคุณหญิง นั่งวางมาดบนเก้าอี้ คุยโทรศัพท์อยู่กับหลานสาวคนโปรดที่เชียงราย
“ ไง เที่ยวสนุกไหมจ๊ะหลาน ขากลับอย่าลืมซื้อลำใยเอามาฝากป้าด้วยล่ะ ”
“ ทีแรกก็สนุกหรอกนะคะ แต่จามไปมีเรื่องกับไอ้ถ่อยชาวสวน เลยหมดสนุกค่ะ ”
“ ต๊าย ใครมันบังอาจมามีเรื่องกับหลานของป้าหืมม์ ”
“ คุณป้าคะ แล้วจามจะกลับไปเล่าให้ฟังนะคะ พรุ่งนี้จามก็จะกลับแล้ว ”
“ เล่าตอนนี้ไม่ได้หรือลูก ”
“ อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวจามจะไปไหว้พระกัน จามกลัวจะเสียอารมณ์ซะก่อน ”
“ ได้ๆลูก อย่างนั้นกลับมาค่อยเล่านะ เที่ยวให้สนุกนะลูก แล้วพรุ่งนี้ป้าจะให้คนขับรถไปรอรับที่สนามบินนะ ”
“ เท่านี้ก่อนนะคะคุณป้า บอกคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยว่าพรุ่งนี้จามกลับแล้ว ”
“ จ่ะ ลูก ”
คุณหญิงทาทองนั่งมองคนรับใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องลายครามอย่างสบายอารมณ์ นางสวาทเมียของทุติยะกลับมาจากข้างนอกหน้าตาบูดบึ้ง
“ เป็นอะไรสวาท ทำหน้าอย่างกับไปกินรังแตนที่ไหนมา ”
“ คุณพี่คะ จัดการเรื่องหุ้นบริษัทเดิมให้เด็ดขาดได้ไหมคะ ส่วนที่มันค้างเติ่งอยู่มันทำให้เราทำงานได้ไม่คล่องนะคะ ตอนนี้บริษัทขาดเงินหมุนเวียน จะเรียกระดมทุนก็ติดอยู่ที่มัน ทำได้ไม่ตลอด ”
“ แล้วเธอจะให้พี่ทำอย่างไร ไอ้หุ้นนั่นมันคาค้างอยู่ตั้งนานแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ พี่ลองคุยกับทนายมาหลายครั้งแล้ว ต้องรอให้ไอ้เด็กผีนั่นกลับมาจัดการอย่างเดียว มันเป็นการมอบเด็ดขาดให้กัน และพินัยกรรมฉบับนั้นก็อยู่นอกเหนือทรัพย์สินอื่น ”
“ แต่นี่มันยี่สิบกว่าปีแล้วนะคะ ไอ้เด็กนั่นมันคงตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เราจะปล่อยให้มันค้างอยูได้อย่างไร ไม่ต้องทำอย่างอื่นกัน ดูสิเนี่ย อะไรก็ติดขัดไปหมด ”
“ เธอก็รู้ว่ามันทำอย่างอื่นไม่ได้ เอาส่วนอื่นไปหมุนแทนก่อนไม่ได้หรือไง มันขาดอยู่เท่าไหร่ล่ะ ”
“ เก้าสิบล้านบาท ”
“ โอ้โฮ ตั้งเก้าสิบล้านเชียวหรือ แล้วจะทำยังไง ”
“ ก็นั่นแหละถึงมาปรึกษาคุณพี่ หุ้นนั่นถ้าเราสามารถเปลี่ยนมือได้ เงินจำนวนมหาศาลเราก็ไม่ต้องเดือดร้อน คุณพี่คะ เราเอาบ้านสุรียาบดีเข้าธนาคารไหมคะ ราคามันน่าจะไม่ต่ำกว่าสองร้อยล้าน เพราะที่ที่นี่ราคาสูงมาก ”
“ จะบ้าเหรอ บ้านนี่มันชื่อของฉันของตายะซะที่ไหน เราน่ะครอบครองมันได้แต่บ้าน กรรมสิทธิ์ใดๆเราไม่มีเลย ไอ้บ้าธารเทพมันทำพินัยกรรมยกให้ลูกนังสุทธินีไปหมดแล้ว ”
“ ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไร ทนายช่วยอะไรเราไม่ได้เลยหรือไง ทรัพย์สินส่วนอื่นเรายังเอามาเป็นของเราได้ กับอีแค่หุ้นกับบ้านนี่ทำไมถึงทำไม้ได้ ”
“ พินัยกรรมฉบับนี้มันไม่ได้อยู่ที่ทนายสมานเธอก็รู้ ธารเทพฝากพินัยกรรมนั่นไว้ที่ท่านอุเทน ใครจะกล้าไปยุ่ง ตอนนี้พวกเราก็เท่ากับ รอไอ้เด็กนั่นมาปรากฏตัว หรือไม่ก็อยู่ไปทั้งอย่างนี้ถ้าไม่มีมันจนกว่าจะครบกำหนดสามสิบปีถึงจะจ่ายโอนให้กับคนอื่นได้ แต่พี่เชื่อว่าไอ้สุรียาตายไปแล้ว มันคงตายไปแล้ว ”
“ แล้วเมื่อครบกำหนดสามสิบปี ใครจะเป็นผู้มีสิทธ์ได้รับมรดกส่วนของมันคะ ”
“ ก็นังเพ็ญพักต์กับนังเพียงโพยมพี่สาวต่างแม่ของมันน่ะสิ ”
“ แล้วพี่จะยอมให้นังสองคนนั่นได้ไปหรือคะ ”
“ ไม่มีทาง แค่ฉันเมตตาให้เงินมันไปคนละสามล้านก็มากเกินแล้วป่านนี้มันคงไปเป็นแม่ค้าขายดอกไม้อยู่ที่อัมพวากับโคตรเง่าฝ่ายแม่มันไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆลูกท่านธารเทพไม่มีใครได้เสวยสุขในทรัพย์มรดกของพ่อแม้แต่คนเดียว ฮ่า ๆ ๆ ”
ทาทองหัวเราะอย่างเต็มที่ หล่อนเกลียดธารเทพ เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลสุรียาบดี บิดาของธารเทพไปขอทาทองและทุติยะมาเป็นบุตรบุญธรรม เพราะเขาต้องการให้ธารเทพมีทั้งพี่และน้องอยู่ในครอบครัว แต่ไม่นึกเลยว่าจะเอาลูกเสือลูกจระเข้มาเลี้ยง ทั้งทาทองและทุติยะ ร่วมมือกันกำจัดธารเทพและครอบครัวของเขาเพื่อแย่งชิงทรัพย์มรดกอันมหาศาลที่ธารเทพได้รับจากบิดา
ตะวันขับรถเข้าเมือง เขาเข้าไปซื้อของใช้ที่จำเป็นในเมืองเสมอ วันนี้ชายหนุ่มเดินเข็ญรถใส่ของในห้างสรรพสินค้า เลือกหาซื้อชา กาแฟและนมข้นหวานเอาไปฝากตา เมื่อเข็ญรถมาถึงแผนกขายอาหารเสริม และชากาแฟ หญงสาวคนหนึ่งเอื้อมหยิบกล่องกาแฟแล้วพลัดตกใส่เขาพอดี
“ โอ้ย ”
“ ตายจริง ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ”
“ ไม่เป็นไรครับ เอ๊ะ คุณ ”
ตะวันชะงักเพราะผู้หญิงคนนั้นคือหนึ่งในกลุ่มที่มีเรื่องกับเขาเมื่อไม่นาน
“ คุณ ”
ตะวันจะเดินหนี แต่ล้อมเดือนรีบเรียกเขา
“ เดี๋ยวค่ะ ”
ตะวันหันมามอง ล้อมเดือนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ คุณคงจำฉันได้ ที่เคยไปมีเรื่องกับคุณในวันนั้น ”
“ ครับ วันนี้คุณมาคนเดียวไม่ได้มากับลูกสาวท่านรัฐมนตรีหรือครับ ”
“ เขากลับกรุงเทพไปแล้วค่ะ ฉันต้องขอโทษกับเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อนฉันเขารุนแรงกับคุณ ”
ตะวันมองหญิงสาวอย่างแปลกใจ
“ พวกลูกท่านหลานเธอ เห็นชาวบ้านเป็นมดเป็นไร ”
“ ความจริงวันนั้น ฉันรู้ว่าจามเขาทำเกินไป คุณต้องโกรธ แต่ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ห้ามเขา เขาก็ไม่ฟัง ”
“ คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ ผมไม่โกรธคุณหรอก ผมแยกแยะออกว่าใครเป็นยังไง ”
“ ขอบคุณค่ะ ที่คุณไม่โกรธฉัน ”
“ คุณนี่นิสัยไม่เหมือนเพื่อนของคุณเลยนะ คบกันเข้าไปได้อย่างไร ”
ล้อมเดือนหัวเราะ
“ แหม เป็นเพื่อนกันต้องนิสัยอย่างเดียวกันด้วยหรือคะ แบบนี้สังคมก็วุ่นวายพิลึกสิ ”
“ จริงสินะ ผมก็ลืมไป ”
“ คุณมาซื้อของที่นี่ประจำหรือคะ ”
“ จะว่าประจำก็ได้ ของที่นี่ถูกกว่าที่อื่น แล้วคุณล่ะ ลูกค้าประจำที่นี่เหมือนกันใช่ไหม ”
“ คงอย่างนั้น ปกติฉันจะให้ลูกน้องเป็นคนมาซื้อของ แต่วันนี้มีธุระต้องมาทำ เลยแวะซื้อซะเอง ”
“ คุณทำงานอะไรหรือ ขอโทษนะครับที่ถาม ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาทำรีสอร์ทเล็กๆที่นี่ มาช่วยคุณแม่ทำน่ะ ไม่ใช่ของฉันเองหรอก ”
“ รีสอร์ท ”
“ ค่ะ ชมเดือนรีสอร์ท อยู่อำเภอเดียวกับคุณน่ะแหละ ”
“ อ๋อ รีสอร์ทที่เพิ่งสร้างเสร็จแล้วเปิดเมื่อไม่นาน ที่แท้ของคุณนี่เอง ”
“ เราพอจะเป็นเพื่อนกันได้ไหมคะ ”
“ ผมหรือ ผมไม่กล้าไปเป็นเพื่อนกับพวกคุณหรอก ผมมันชาวสวนชาวเขา ”
“ อย่าคิดมากสิคะ ความจริงท่าทางของคุณไม่น่าจะเป็นชาวสวนเลยนะคะ ”
“ ทำไมหรือ ผมไม่เหมือนชาวสวนแต่เหมือนชาวป่าใช่ไหม ”
ล้อมเดือนหัวเราะ ตะวันมองผู้หญิงคนนี้อย่างสบายใจ เธอดูเป็นกันเองและดูเปิดเผย
“ เปล่าเลยนะคะ ฉันว่าหน้าของคุณ คล้ายๆใครคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก ”
“ ผมหน้าโหลอย่างนั้นเชียวหรือ ”
“ คุณนี่ชอบชักใบให้เรือเสียนะคะ คุยกันมาตั้งนาน ฉันยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลย ส่วนฉันชื่อล้อมเดือนค่ะ ”
“ ล้อมเดือน ชื่อคุณน่าฟังจัง ผมชื่อตะวัน ”
“ ตะวันหรือคะ ชื่อคุณก็ฟังดี ตะวันที่ร้อนแรงหรือเปล่า ฉันเห็นคุณวันนั้นแล้วมารู้ชื่อคุณวันนี้ สมควรเลยค่ะ ”
“ ทำไม คุณคงคิดว่าผมเป็นนักเลงล่ะสิ ปกติผมไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยนะ กับเพื่อนๆของคุณน่าจะเป็นพวกแรกที่ผมมีเรื่องด้วย มีเรื่องครั้งแรกก็กับคนดังเลย ผมนี่ดวงซวยชะมัด ”
“ อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ จามจุรีเขาก็คงลืมมันไปแล้ว รายนั้นเขาไม่มีเวลามาใส่ใจอะไรได้นานหรอกค่ะ ฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ เอาไว้โอกาสหน้า ฉันอาจจะไปซื้อลำใยที่สวนของคุณ รับรอง ฉันไม่จู้จี้เหมือนเพื่อนของฉันแน่ ”
“ ครับ ยินดีมากเลย ผมจะพาคุณไปเก็บเอาจากต้นเลย ”
“ จริงๆนะคะ ”
“ จริงสิครับ ”
“ งั้นฉันไปก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ ”
ตะวันมองตามหญิงสาวที่เข็ญรถไปที่เคาท์เตอร์จ่ายเงิน และเขาก็เดินเลือกซื้อของต่อ เมื่อเสร็จแล้วจึงมุ่งหน้ากลับบ้าน เขาขับรถขึ้นเนินเขา สองข้างทางเป็นป่า ตะวันมองเห็นร่างของคนนอนฟุบอยู่ข้างทาง ตะวันจอดรถเข้าข้างทางและลงไปดูร่างที่นอนฟุบแน่นิ่งอยู่
“ ผู้หญิงนี่ ทำไมมานอนฟุบอยู่ข้างทางแบบนี้ ”
เขาจับร่างที่หมดสติพลิกขึ้น จำได้ว่าเป็นหญิงจรจัดที่เขาเคยให้เงินเมื่อหลายวันก่อน
“ ป้า ป้า ป้าเป็นยังไงมั่ง นี่ป้าไม่สบายนี่ ”
หญิงจรจัดลืมตา ใบหน้าของนางซีดเซียว ตัวร้อนจี๋ ตะวันจึงอุ้มร่างที่มอซอไปที่รถ
“ ป้าไปบ้านผมก่อนนะ ท่าทางป้าไม่สบายมากเลย ”
“ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณเหลือเกิน ”
หญิงจรจัดพูดเบาๆ ตะวันพานางมาถึงบ้าน แล้วไปเรียกตาเอี้ยงออกมาดู
“ ตา ผมช่วยคนจรจัดมาคนหนึ่ง แกไม่สบายมาก ตาไปช่วยผมหน่อย ”
“ ตะวันเอ้ย นี่คิดยังไงไปพาคนจรจัดมาบ้าน ”
“ ช่วยแกเถอะตา แกเป็นผู้หญิง ท่าทางน่าสงสารมากเลย ”
“ เอา ๆ ไหนดูซิ ”
ตาเอี้ยงยอมให้ตะวันเอาหญิงจรจัดมาดูแลรักษา ชายหนุ่มหายามาให้นางกิน ร่างกายที่อ่อนเพลียกับจิตใจที่อ่อนล้าเมื่อได้ที่พักพิงที่อบอุ่นเปี่ยมด้วยน้ำใจ นางจึงหลับไปนานทีเดียว ตะวันเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง ตาเอี้ยงมองชายหนุ่มยิ้มๆอย่างเอ็นดูในความมีน้ำใจของเขา
“ ตะวัน เอ็งจะให้ยายคนนี้อยู่กับเราหรือวะ ”
“ ตา ที่กระท่อมท้ายสวนของเรา ถ้าเอาของออกซะ ผมว่าป้านี่แกก็อยู่ได้นะ ผมจะจ้างแกไว้ ให้ช่วยถากหญ้าในสวน สงสารแก แกแก่แล้วคงไม่มีใครเขาจ้างแกหรอก ”
“ เอา จะเอายังไงก็เอา ตาเห็นด้วยทั้งนั้น ”
ทุติยะกลับเข้าบ้านจนดึก เขาไปงานเลี้ยงกับสวาทมา เมื่อเดินขึ้นชั้นบนได้ยินเสียงซอดังมาจากปีกขวาของตึก แสดงว่าลูกสาวคนเล็กของเขายังไม่นอน
“ คุณ เสียงลูกจันทร์เล่นซอ ผมจะไปหาเขาหน่อย พักนี้งานยุ่งไม่ได้เจอหน้าลูกๆมาเป็นอาทิตย์แล้ว ”
“ จะห่วงอะไรคะ บริวารเต็มบ้าน ไม่เจอหน้าพ่อหน้าแม่พวกเขาก็ไม่เดือดร้อนหรอก ”
“ คุณก็คิดอย่างนี้ ลูกๆมันถึงไม่ติดคุณซักคน เอาเวลาให้พวกเขาบ้าง ความรัก ความอบอุ่นน่ะมันหาซื้อไม่ได้หรอกนะ คุณไม่รู้หรือไงว่าความอบอุ่นจากอกพ่ออกแม่น่ะมันมีค่าแค่ไหน ”
ทุติยะถึงจะใจโหดแค่ไหน แต่กับลูกสาวสองคนของเขาแล้ว เขารักและดูแลลูกอย่างดี ชดเชยกับที่เขาเป็นลูกกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง จนต้องให้คนอื่นเอามาเลี้ยง เขาต้องการให้ลูกของเขาเพียบพร้อมไปด้วยความรัก ความอบอุ่นจากอ้อมอกพ่อแม่ เขาเปิดประตูเข้ามานั่งมองลูกสาวสีซอจนจบเพลง