สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 5

กระทู้สนทนา
ตะวันเดินมาดู นี ที่กำลังถากหญ้าในสวน นางขยัน มาอยู่ได้ไม่นานหญ้าโคนต้นลำใยก็เตียนไปเกือบครึ่ง

“  ป้า ขยันจริง สะอาดสะอ้านแทบไม่มีหญ้าแล้ว  ”
“  ถากไปเรื่อยๆ อากาศก็ไม่ร้อน ทำไปเพลินๆ  ”
“  ค่อยๆทำไปเรื่อยๆก็ได้ ไม่ต้องหักโหม ได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้น แล้วนี่เที่ยงแล้ว ป้ายังไม่พักกินข้าวอีกหรือ  ”
“  ค่ะ  จะพักแล้ว  ”
“  ผมเอาหมูมาฝากป้านะ เมื่อเช้าเข้าไปในเมืองมา  ”
“  ขอบคุณค่ะ  ”

นี  มองตะวันหล่อนรู้สึกรักใคร่เด็กหนุ่มคนนี้เหลือเกิน คงเพราะอายุของเขาเท่ากับลูกชายของนาง นางจึงมักจะแอบมองตะวันอยู่บ่อยๆยามที่เขาเผลอ  ตะวันทำไมช่างมีนัยน์ตาที่คล้ายกับธารเทพนัก ยิ่งเวลาที่เขายิ้ม รอยยิ้มที่สว่างเปิดเผย เหมือนกับธารเทพไม่มีผิด ผิวพรรณที่ขาวเนียน รูปหน้าที่ยาวรี ปากคอคิ้วคาง นี่เธอคงคิดถึงลูกคิดถึงธารเทพมากจึงมองเด็กหนุ่มผู้นี้คล้ายกับสามีของเธอ

“  คุณตะวันออกไปซื้อของเอง ทุกครั้งหรือคะ  ”
“  ครับ ตาแกขี้เกียจไปไหนมาไหน  ”
“  แล้วใครเป็นคนหุงหาข้าวกินล่ะคะ  ”
“  ตาสิครับ ตาเป็นคนหุงเป็นคนทำ ผมทำกับข้าวไม่อร่อย สู้ตาไม่ได้ ตาทำอร่อย  ”
“  น่าสงสารนะคะ อยู่กันแต่ผู้ชาย แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณตะวันไปไหนซะล่ะคะ  ”
“  ตายไปหมดแล้ว พ่อกับแม่ของผมตายไปตั้งแต่ผมยังเล็กๆ  ”
“  โถ  คุณอยู่กับคุณตามาตลอดเลยหรือคะ  ”
“  ครับ ตาเลี้ยงผมมาตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้  ”
“  พี่น้องอื่นก็ไม่มีเลยหรือคะ  ”
“  ไม่มี ตาบอกว่าเราอยู่กันแต่ ตา พ่อกับแม่และก็ผม บ้านผมถูกไฟไหม้ พ่อกับแม่ของผมถูกไฟคลอกตาย ตาช่วยผมออกมาได้คนเดียว  ”

นีมองตะวันอย่างสงสาร เขาก็เป็นลูกกำพร้า ยังโชคดีที่มีตาคอยเลี้ยงดู แต่ลูกของเธอไม่รู้ว่าแรมพาหลบหนีไปอยู่ที่ไหน เขาจะสุขจะทุกข์อย่างไร และยังมีชีวิตอยู่ไหม
ตะวันอยู่คุยกับนีจนบ่าย เขาจึงเดินกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็ดีใจที่เห็นรถตู้ของชมเดือนรีสอร์ทจอดอยู่ คิดว่าล้อมเดือนมาหาเขา เขารีบเดินเข้าไปในบ้าน แล้วต้องชะงัก เพราะมีแขกหลายคนกำลังนั่งคุยกับตาเอี้ยง

“  ตะวัน  เข้ามาสิลูก  ”

ตาเอี้ยงเรียก
ตะวันมองคนแปลกหน้าพวกนั้น ล้อมเดือนนั่งอยู่ใกล้ๆผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่ง ดูจากการแต่งตัวแล้ว ก็พวกผู้ดีมีเงินนี่เอง

“  มีอะไรกันหรือครับตา  ”

ตะวันลงนั่งใกล้ๆตาเอี้ยงยกมือไหว้ผู้ที่อาวุโสกว่าตามมารยาท

“  นี่หรือ หลานชายที่คุณบอกว่าจะยกที่นี่ให้เขา  ”
“  ไม่ใช่ยกให้ แต่มันเป็นของเขาเพียงแต่ผมยังไม่ได้ไปโอนให้เขาเท่านั้น  ”

ตาเอี้ยงตอบหญิงสูงวัยที่นั่งวางท่าคอเชิด ล้อมเดือนจึงแนะนำ  

“  ตะวันคะ ท่านผู้นี้คือคุณหญิงทาทอง สุรียาบดีค่ะ  ”

ตะวันชะงัก นามสกุลนี้อีกแล้วหรือ  แล้วมาทำไมที่นี่ หรือว่าจะมาเอาเรื่อง ที่เคยมีเรื่องกับลูกหลานเขา
ตาเอี้ยงมองตะวันอย่างอึดอัด ใจเต้นโครมคราม ไอ้พวกสุรียาบดี มาเข้าใกล้ตะวันอยู่แค่เอื้อม นี่มันชะตาลิขิตหรือไรหนอ

“  ครับ   ”
“  เขามาทำไมกันหรือตา  ”

ตะวันกระซิบถามตาเอี้ยง

“   ฉันจะมาขอซื้อที่ตรงนี้ของเธอ  ”

คุณหญิงทาทองพูดเสียงดังฟังชัด ตะวันหันมองหน้าคุณหญิง

“  ใครเป็นคนไปบอกคุณหญิง ว่าผมกับตาจะขายที่ตรงนี้ ผมไม่เคยคิดจะขายมันเลยนะ  ”
“  พ่อหนุ่ม ฉันให้ราคาดีนะ  บอกตามตรง พอฉันมาเห็นที่ดินผืนนี้ ฉันชอบมันมากเลย เธอกับตาจะขาย  เท่าไหร่ ฉันไม่เกี่ยงราคา  ”
“  ไม่ขาย  ”

ตะวันสวนทันที ทาทองจ้องชายหนุ่ม ยิ้มอย่างใจเย็น

“  ฟังราคาก่อนซี่ แล้วค่อยพูดปฏิเสธ อะไร ยังไม่ทันรู้ว่าได้เท่าไร รีบบอกไม่ขายซะแล้ว  ”
“  เท่าไหร่ผมก็ไม่ขาย  ใช่ไหมตา  ”
ตะวันหันมาพูดกับตาเอี้ยง ตาเอี้ยงจึงรีบพูด  ”
“  ครับ ผมไม่ขาย เพราะที่ดินนี่ ผมเก็บเอาไว้ให้เขา ถ้าเขาไม่ขายผมก็ไม่ขาย  ”
“  แต่ฉันอยากได้  ”

ทาทองพูดเนิบๆ

“  แล้วยังไง  อยากได้แล้วต้องได้หรือ ผมไม่ขาย ก็คือไม่ขาย  ”

ตะวันพูดเสียงแข็งอย่างไม่เกรงบารมีคุณหญิงเลย คุณหญิงจอมโหดถึงกับลุกขึ้นยืน  

“  นี่ไอ้หนู เธอจะไม่ขายแน่นะ  ”
“  แน่  ”
“  วันนี้ฉันอุตส่าห์มาขอซื้อด้วยตัวเอง แล้วเธอกล้าปฏิเสธฉัน  วันหน้าเธออย่าไปคุกเข่าขอร้องให้ฉันซื้อนะ  ”
“  ฝันไปเถอะ เมื่อผมไม่ขาย วันหน้าหรือชาติหน้าผมก็ไม่ขาย  ”
“  อวดดีนักนะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน  กลับ  ”

คุณหญิงทาทองเชิดหน้านำทุกคนที่มากลับออกไป ตาเอี้ยงถึงกับหน้าซีดเผือดเหงื่อซึม

“  ตา เป็นอะไร ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น ตากลัวพวกมันหรือ  ”
“  ตะวัน มานี่ มาใกล้ๆตา  ”

ตะวันงงกับท่าทีของตาเอี้ยง เขาเดินเข้าไปหาผู้เป็นตาจับมือที่เย็นเฉียบของชายชรา

“  ตา ทำไมมือเย็นอย่างนี้ นี่ตากลัวพวกมันใช่ไหม  ”
“  ตะวัน ตาเลี้ยงเจ้ามา รักเจ้าเหมือนแก้วตาดวงใจ ต้องการให้เจ้าปลอดภัย ไม่ไปยุ่งกับพวกเขา  แต่วันนี้พวกเขามาที่นี่ ดูจากท่าทางแล้ว มันคงไม่ปล่อยเจ้าแน่ เจ้ายังไม่รู้จักพวกมันดี มันร้ายนัก มันโหดร้ายมาก  ”
“  ตาครับ ตาพูดอะไร ตานั่งก่อนนะเดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำชาร้อนๆมาให้ตากิน  ”
“  ไม่ต้อง ตาไม่กิน  ตะวัน ตามีเรื่องอะไรจะเล่าให้เจ้าฟัง เจ้าจงตั้งใจฟังให้ดี  ”

ตะวันมองท่าทีร้อนรนของผู้เป็นตา ตาเอี้ยงล้วงหยิบตลับเงินเล็กๆที่เก็บติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาออกมาแล้วส่งให้ตะวัน

“  รับเอาไป นี่เป็นของเจ้า  ”
“  อะไรครับตา  ”
“  เปิดออกดูสิ แล้วเจ้าจะรู้  ”

ตะวันแกะตลับเปิดฝาครอบออก ข้างในคือแหวนเพชรน้ำงามหนึ่งวงและกระดาษที่พับเอาไว้ ตะวันหยิบกระดาษคลี่ออกอ่านข้อความในกระดาษ  ทุกสิ่งทุกอย่างของสุรียาบดี คือกรรมสิทธิ์ของ สุรียา  สุรียาบดี แต่เพียงผู้เดียว  ธารเทพ สุรียาบดี

“  ทำไมหรือตา  สุรียาบดี กระดาษนี่ ตาเก็บเอาไว้ทำไม  ”

ตะวันถามตาเอี้ยงอย่างไม่เข้าใจ

“  ตะวัน  เจ้าคือ สุรียา สุรียาบดี แล้วธารเทพ สุรียาบดี ก็คือพ่อของเจ้า  ”
“  ตา   ”

ตะวันอุทาน จ้องตาเอี้ยง

“  ตะวัน ชื่อตะวัน วงพรต คือชื่อที่ตาตั้งให้เจ้า เพื่อให้เจ้าพ้นจากอันตราย ที่พวกมันตามล่าเจ้า
ตะวันมองตาเอี้ยงเขม็ง เขามึนงงกับคำบอกของตา อยู่ๆเขาจะเป็นสุรียา สุรียาบดีได้อย่างไร  ”
“  ตะวัน เชื่อตาเถอะนะ  ตาไม่เคยคิดว่าพวกมันจะตามมาจนถึงที่นี่  ตอนนี้พวกมันยังไม่รู้ว่าเจ้าคือสุรียา ถ้ามันรู้ มันไม่ไว้เจ้าแน่ มันฆ่าพ่อกับแม่ของเจ้า แล้วตามฆ่าเจ้า  ”
“  เพราะอะไรหรือตา  ”
“  เพราะทรัพย์สมบัตรอันมหาศาลของเจ้าน่ะสิ  ตอนนี้มันครอบครองทุกอย่างของเจ้าไว้แล้ว เจ้าอ่านนี่ ตามีอะไรจะให้เจ้าอ่านอีก  ”

ตาเอี้ยงเอาจดหมายที่แรมเขียนติดต่อกับแก ออกมาให้ตะวันอ่านทุกฉบับ

“  ตา  ”

ตะวันครางเมื่ออ่านจดหมายครบทุกฉบับ

“  แหวนนี่แม่เจ้าให้กับแรมมา เพื่อเป็นทุนเลี้ยงดูเจ้า ตาขายสร้อยคอกับกำไลข้อมือไป แหวนนี่เก็บเอาไว้ให้เจ้า  ”

ตะวันมองแหวนในมือใจสั่นระริก รู้สึกเจ็บแค้นจนอกแทบระเบิด เขานึกถึงใครคนหนึ่ง แล้วผลุนผลันลุกขึ้น วิ่งฝ่าความมืดสลัวของเวลาพลบค่ำ ออกไปที่กระท่อมท้ายสวน  ตะวันมาหยุดยืนมองหญิงเร่ร่อนที่กำลังปิ้งหมูบนเตา

“  ป้าสุทธินี  ”

ตะวันเรียก ผู้ที่ถูกเรียกถึงกับหันขวับอย่างตกใจ

“  คุณตะวันเรียกป้าหรือคะ  ”

ตะวันมือสั่น เขากำแหวนเพชรในมือแน่นเดินเข้าไปหาผู้ที่จ้องมองเขา

“  ป้าชื่อสุทธินีใช่ไหม  ”
“  คุณตะวันรู้ได้ยังไงคะ  ”
“  บอกผมสิว่า ใช่ไหม  ”

สุทธินีมองเด็กหนุ่มอย่างหวาดๆ แต่ก็พยักหน้ารับ

“  ป้าเคยเห็นแหวนวงนี้ไหม  ”

เขาแบมือที่กำแหวนเพชรออก สุทธินีมองแหวนอย่างตะลึงหยิบมันขึ้นมาดูด้วยมือที่สั่นระริก

“  คุณตะวันไปเอาแหวนวงนี้มาจากไหน  ”
“  แหวนนี่มันคือของป้าใช่ไหม ป้าเอาให้ลูกของป้าไปใช่ไหม  ”
“  ใช่ค่ะ  ”

สุทธินีตอบรับเสียงแผ่ว ตะวันคุกเข่าลงตรงหน้ากอดผู้หญิงจรจัดผู้นี้เอาไว้แน่น

“  แม่  แม่จ๋า  ”
“  คุณตะวัน  ”

สุทธินีตัวชา ก้มมองชายหนุ่มที่กอดเอวนางแล้วซบหน้าร้องไห้

“  แม่ให้คนชื่อแรมพาผมหนีใช่ไหม แม่หนีไอ้ทุติยะ หนีมัน  ”

สุทธินีเข่าอ่อน จับไหล่ลูกชายจ้องมองเหมือนไม่เคยพบไม่เคยเห็น

“  ตะวัน ลูกคือสุรียาของแม่หรือ สุรียา โอ ลูกจ๋า เป็นลูกจริงๆหรือ  ”

ตะวันจับมือของมารดาลูบฝ่ามือที่สากหยาบน้ำตาริน สุทธนีลูบใบหน้าของลูกรักเหมือนกำลังฝัน

“  แม่จ๋า  พวกมันทำกับพ่อ ทำกับแม่จนถึงขนาดนี้เชียวหรือ มันจะต้องได้รับการตอบแทนที่สาสม  ผมจะเอาทุกอย่างที่เป็นของพ่อคืน ผมจะเอาสุรียาบดีของผมคืน  ”
“  อย่านะตะวัน ลูกไม่มีทางสู้กับพวกมันได้ เขามีอำนาจ มีอิทธิพน และที่สำคัญ เขาเหี้ยมโหดมาก  ”
“  แม่ไม่ต้องกลัว  พวกมันไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ผมจะเข้าไปปะปนกับพวกมันในฐานะ ตะวัน วงพรต ไม่ใช่สุรียา สุรียาบดี แต่แม่สิ ให้พวกมันเจอไม่ได้แน่ พวกมันต้องจำแม่ได้ แม่อยู่ที่นี่ก่อนนะ พรุ่งนี้ผมจะไปพบมันที่ชมเดือนรีสอร์ท  ”
“  คุณพระ  นี่พวกเขามาที่นี่หรือ ตะวัน ลูกต้องระวังตัวนะลูก  ”
“  ไม่เป็นไรครับ แม่วางใจเถอะ ตราบใดที่ผมยังเป็นตะวัน ผมไม่เป็นอะไรแน่ พวกมันไม่สนใจผมหรอก  ”
“  ตา ผมจะขายที่ดินผืนนี้ให้พวกมัน  ”
“  ตะวัน นี่เอ็งกำลังจะทำอะไร  ”
“  กำลังจะเอาสุรียาบดีของผมคืนไงตา  ”
“  ตะวัน มันเสี่ยงนะ ที่เอ็งจะเข้าไปยุ่งกับพวกมัน  ”
“  ใครบอก ผมเสี่ยง พวกมันต่างหากที่เดินมาถึงจุดอันตรายแล้ว มันเดินเข้ามาหาผมเอง  ”
“  ตา ผมเจอแม่ของผมแล้ว  ”
“  อะไรนะ  ”
“  ตาอย่าตกใจ ผมจะเล่าให้ฟัง  ”

ตะวันเล่าทุกอย่างให้ตาเอี้ยงฟัง เมื่อฟังจบผู้เฒ่าถึงกับยกมือพนมท่วมหัว

“  คุณพระ คุณเจ้า สวรรค์เข้าข้างเอ็งแล้วล่ะตะวัน  แล้วเอ็งทำไมไม่พาคุณผู้หญิงมาที่นี่  ”
“  พามาได้ยังไงตา ถ้าพรุ่งนี้พวกมันมาที่นี่ มาเจอแม่ แม่ไม่แย่หรือ พวกมันต้องจำแม่ได้อยู่แล้ว  ”
“  เออจริง ตาก็ลืมไป  ”

วันรุ่งขึ้น ตะวันไปที่รีสอร์ทแต่เช้า เขาไปขอพบทาทอง ทาทองออกมาพบกับชายหนุ่ม นางยิ้มเหยียดเยาะหยัน  

“  ยังไง มาหาฉันทำไม  ”
“  ผมจะมาขายที่ให้คุณหญิง  ”

ทาทองหัวเราะลั่น มองตะวันด้วยสายตาดูแคลน

“  คงไปนอนตรองดูแล้วใช่ไหมว่า ไม่ควรจะขัดใจพวกฉัน  ”
“  ครับ  ”

ตะวันตอบรับ

“  ดี รู้จักคิดเป็นก็ถือว่ายังไม่สาย ฉันน่ะ ไม่กดราคาเธอหรอก จะให้ราคาตามความเป็นจริง  ”
“  คุณหญิงจะให้ผมไร่ละเท่าไหร่ครับ  ”
“  หนึ่งแสนบาท ราคาซื้อขายกันทั่วไปใช่ไหมกับที่ดินย่านนั้น  ”
“  ครับ แต่ผมมีข้อแม้  ”
“  ข้อแม้อะไรของเธอ ว่ามา  ”
“  เมื่อผมขายสวนลำไยไปแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรจะทำ  ถ้าคุณหญิงจะกรุณา ผมอยากไปทำงานที่บริษัทของคุณหญิง ที่กรุงเทพ  ”
“  อยากจะทำงานที่บริษัทหรือ เธอเรียนจบอะไรมาล่ะ  ”
“  ผมจบบริหาร เอกบัญชีครับ  ”
“  อืมม์  ก็เอาสิ ถ้าเธออยากจะไปทำงานกับฉัน ฉันจะหาตำแหน่งให้ แต่เงินเดือนตามสภาพนะ ฉันจ้างตามวุฒิไม่มีเส้นสาย จะถือว่าเป็นคนของฉันก็ไม่ได้  ”
“  ครับ   ”
“  ความจริงเธอก็ดูพูดง่ายดีนี่ แล้วทำไมเมื่อวานต้องทำให้ฉันเสียอารมณ์  ”
“  ผมขอโทษ   ”
“  ไม่เป็นไร คนเรามันอาจคิดผิดคิดพลาดไปได้ เธอก็ยังเด็ก คราวหน้าจะคิดจะทำอะไรต้องคิดให้รอบครอบ และดูความเหมาะสมด้วย อย่าเอาแต่อารมณ์ เธอจะเสียการใหญ่ เข้าใจไหม  ”

ทาทองสอน ตะวันรับคำ ถ้าทาทองมีฌานรู้ล่วงหน้านางคงหนาวไปถึงกระดูกว่าคำสอนของนางมีผลแค่ไหนที่สอนตะวันอย่างนี้



...พิมพ์พิลาสฒ์...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่