ตะวันเดินมาดู นี ที่กำลังถากหญ้าในสวน นางขยัน มาอยู่ได้ไม่นานหญ้าโคนต้นลำใยก็เตียนไปเกือบครึ่ง
“ ป้า ขยันจริง สะอาดสะอ้านแทบไม่มีหญ้าแล้ว ”
“ ถากไปเรื่อยๆ อากาศก็ไม่ร้อน ทำไปเพลินๆ ”
“ ค่อยๆทำไปเรื่อยๆก็ได้ ไม่ต้องหักโหม ได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้น แล้วนี่เที่ยงแล้ว ป้ายังไม่พักกินข้าวอีกหรือ ”
“ ค่ะ จะพักแล้ว ”
“ ผมเอาหมูมาฝากป้านะ เมื่อเช้าเข้าไปในเมืองมา ”
“ ขอบคุณค่ะ ”
นี มองตะวันหล่อนรู้สึกรักใคร่เด็กหนุ่มคนนี้เหลือเกิน คงเพราะอายุของเขาเท่ากับลูกชายของนาง นางจึงมักจะแอบมองตะวันอยู่บ่อยๆยามที่เขาเผลอ ตะวันทำไมช่างมีนัยน์ตาที่คล้ายกับธารเทพนัก ยิ่งเวลาที่เขายิ้ม รอยยิ้มที่สว่างเปิดเผย เหมือนกับธารเทพไม่มีผิด ผิวพรรณที่ขาวเนียน รูปหน้าที่ยาวรี ปากคอคิ้วคาง นี่เธอคงคิดถึงลูกคิดถึงธารเทพมากจึงมองเด็กหนุ่มผู้นี้คล้ายกับสามีของเธอ
“ คุณตะวันออกไปซื้อของเอง ทุกครั้งหรือคะ ”
“ ครับ ตาแกขี้เกียจไปไหนมาไหน ”
“ แล้วใครเป็นคนหุงหาข้าวกินล่ะคะ ”
“ ตาสิครับ ตาเป็นคนหุงเป็นคนทำ ผมทำกับข้าวไม่อร่อย สู้ตาไม่ได้ ตาทำอร่อย ”
“ น่าสงสารนะคะ อยู่กันแต่ผู้ชาย แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณตะวันไปไหนซะล่ะคะ ”
“ ตายไปหมดแล้ว พ่อกับแม่ของผมตายไปตั้งแต่ผมยังเล็กๆ ”
“ โถ คุณอยู่กับคุณตามาตลอดเลยหรือคะ ”
“ ครับ ตาเลี้ยงผมมาตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ ”
“ พี่น้องอื่นก็ไม่มีเลยหรือคะ ”
“ ไม่มี ตาบอกว่าเราอยู่กันแต่ ตา พ่อกับแม่และก็ผม บ้านผมถูกไฟไหม้ พ่อกับแม่ของผมถูกไฟคลอกตาย ตาช่วยผมออกมาได้คนเดียว ”
นีมองตะวันอย่างสงสาร เขาก็เป็นลูกกำพร้า ยังโชคดีที่มีตาคอยเลี้ยงดู แต่ลูกของเธอไม่รู้ว่าแรมพาหลบหนีไปอยู่ที่ไหน เขาจะสุขจะทุกข์อย่างไร และยังมีชีวิตอยู่ไหม
ตะวันอยู่คุยกับนีจนบ่าย เขาจึงเดินกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็ดีใจที่เห็นรถตู้ของชมเดือนรีสอร์ทจอดอยู่ คิดว่าล้อมเดือนมาหาเขา เขารีบเดินเข้าไปในบ้าน แล้วต้องชะงัก เพราะมีแขกหลายคนกำลังนั่งคุยกับตาเอี้ยง
“ ตะวัน เข้ามาสิลูก ”
ตาเอี้ยงเรียก
ตะวันมองคนแปลกหน้าพวกนั้น ล้อมเดือนนั่งอยู่ใกล้ๆผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่ง ดูจากการแต่งตัวแล้ว ก็พวกผู้ดีมีเงินนี่เอง
“ มีอะไรกันหรือครับตา ”
ตะวันลงนั่งใกล้ๆตาเอี้ยงยกมือไหว้ผู้ที่อาวุโสกว่าตามมารยาท
“ นี่หรือ หลานชายที่คุณบอกว่าจะยกที่นี่ให้เขา ”
“ ไม่ใช่ยกให้ แต่มันเป็นของเขาเพียงแต่ผมยังไม่ได้ไปโอนให้เขาเท่านั้น ”
ตาเอี้ยงตอบหญิงสูงวัยที่นั่งวางท่าคอเชิด ล้อมเดือนจึงแนะนำ
“ ตะวันคะ ท่านผู้นี้คือคุณหญิงทาทอง สุรียาบดีค่ะ ”
ตะวันชะงัก นามสกุลนี้อีกแล้วหรือ แล้วมาทำไมที่นี่ หรือว่าจะมาเอาเรื่อง ที่เคยมีเรื่องกับลูกหลานเขา
ตาเอี้ยงมองตะวันอย่างอึดอัด ใจเต้นโครมคราม ไอ้พวกสุรียาบดี มาเข้าใกล้ตะวันอยู่แค่เอื้อม นี่มันชะตาลิขิตหรือไรหนอ
“ ครับ ”
“ เขามาทำไมกันหรือตา ”
ตะวันกระซิบถามตาเอี้ยง
“ ฉันจะมาขอซื้อที่ตรงนี้ของเธอ ”
คุณหญิงทาทองพูดเสียงดังฟังชัด ตะวันหันมองหน้าคุณหญิง
“ ใครเป็นคนไปบอกคุณหญิง ว่าผมกับตาจะขายที่ตรงนี้ ผมไม่เคยคิดจะขายมันเลยนะ ”
“ พ่อหนุ่ม ฉันให้ราคาดีนะ บอกตามตรง พอฉันมาเห็นที่ดินผืนนี้ ฉันชอบมันมากเลย เธอกับตาจะขาย เท่าไหร่ ฉันไม่เกี่ยงราคา ”
“ ไม่ขาย ”
ตะวันสวนทันที ทาทองจ้องชายหนุ่ม ยิ้มอย่างใจเย็น
“ ฟังราคาก่อนซี่ แล้วค่อยพูดปฏิเสธ อะไร ยังไม่ทันรู้ว่าได้เท่าไร รีบบอกไม่ขายซะแล้ว ”
“ เท่าไหร่ผมก็ไม่ขาย ใช่ไหมตา ”
ตะวันหันมาพูดกับตาเอี้ยง ตาเอี้ยงจึงรีบพูด ”
“ ครับ ผมไม่ขาย เพราะที่ดินนี่ ผมเก็บเอาไว้ให้เขา ถ้าเขาไม่ขายผมก็ไม่ขาย ”
“ แต่ฉันอยากได้ ”
ทาทองพูดเนิบๆ
“ แล้วยังไง อยากได้แล้วต้องได้หรือ ผมไม่ขาย ก็คือไม่ขาย ”
ตะวันพูดเสียงแข็งอย่างไม่เกรงบารมีคุณหญิงเลย คุณหญิงจอมโหดถึงกับลุกขึ้นยืน
“ นี่ไอ้หนู เธอจะไม่ขายแน่นะ ”
“ แน่ ”
“ วันนี้ฉันอุตส่าห์มาขอซื้อด้วยตัวเอง แล้วเธอกล้าปฏิเสธฉัน วันหน้าเธออย่าไปคุกเข่าขอร้องให้ฉันซื้อนะ ”
“ ฝันไปเถอะ เมื่อผมไม่ขาย วันหน้าหรือชาติหน้าผมก็ไม่ขาย ”
“ อวดดีนักนะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กลับ ”
คุณหญิงทาทองเชิดหน้านำทุกคนที่มากลับออกไป ตาเอี้ยงถึงกับหน้าซีดเผือดเหงื่อซึม
“ ตา เป็นอะไร ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น ตากลัวพวกมันหรือ ”
“ ตะวัน มานี่ มาใกล้ๆตา ”
ตะวันงงกับท่าทีของตาเอี้ยง เขาเดินเข้าไปหาผู้เป็นตาจับมือที่เย็นเฉียบของชายชรา
“ ตา ทำไมมือเย็นอย่างนี้ นี่ตากลัวพวกมันใช่ไหม ”
“ ตะวัน ตาเลี้ยงเจ้ามา รักเจ้าเหมือนแก้วตาดวงใจ ต้องการให้เจ้าปลอดภัย ไม่ไปยุ่งกับพวกเขา แต่วันนี้พวกเขามาที่นี่ ดูจากท่าทางแล้ว มันคงไม่ปล่อยเจ้าแน่ เจ้ายังไม่รู้จักพวกมันดี มันร้ายนัก มันโหดร้ายมาก ”
“ ตาครับ ตาพูดอะไร ตานั่งก่อนนะเดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำชาร้อนๆมาให้ตากิน ”
“ ไม่ต้อง ตาไม่กิน ตะวัน ตามีเรื่องอะไรจะเล่าให้เจ้าฟัง เจ้าจงตั้งใจฟังให้ดี ”
ตะวันมองท่าทีร้อนรนของผู้เป็นตา ตาเอี้ยงล้วงหยิบตลับเงินเล็กๆที่เก็บติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาออกมาแล้วส่งให้ตะวัน
“ รับเอาไป นี่เป็นของเจ้า ”
“ อะไรครับตา ”
“ เปิดออกดูสิ แล้วเจ้าจะรู้ ”
ตะวันแกะตลับเปิดฝาครอบออก ข้างในคือแหวนเพชรน้ำงามหนึ่งวงและกระดาษที่พับเอาไว้ ตะวันหยิบกระดาษคลี่ออกอ่านข้อความในกระดาษ ทุกสิ่งทุกอย่างของสุรียาบดี คือกรรมสิทธิ์ของ สุรียา สุรียาบดี แต่เพียงผู้เดียว ธารเทพ สุรียาบดี
“ ทำไมหรือตา สุรียาบดี กระดาษนี่ ตาเก็บเอาไว้ทำไม ”
ตะวันถามตาเอี้ยงอย่างไม่เข้าใจ
“ ตะวัน เจ้าคือ สุรียา สุรียาบดี แล้วธารเทพ สุรียาบดี ก็คือพ่อของเจ้า ”
“ ตา ”
ตะวันอุทาน จ้องตาเอี้ยง
“ ตะวัน ชื่อตะวัน วงพรต คือชื่อที่ตาตั้งให้เจ้า เพื่อให้เจ้าพ้นจากอันตราย ที่พวกมันตามล่าเจ้า
ตะวันมองตาเอี้ยงเขม็ง เขามึนงงกับคำบอกของตา อยู่ๆเขาจะเป็นสุรียา สุรียาบดีได้อย่างไร ”
“ ตะวัน เชื่อตาเถอะนะ ตาไม่เคยคิดว่าพวกมันจะตามมาจนถึงที่นี่ ตอนนี้พวกมันยังไม่รู้ว่าเจ้าคือสุรียา ถ้ามันรู้ มันไม่ไว้เจ้าแน่ มันฆ่าพ่อกับแม่ของเจ้า แล้วตามฆ่าเจ้า ”
“ เพราะอะไรหรือตา ”
“ เพราะทรัพย์สมบัตรอันมหาศาลของเจ้าน่ะสิ ตอนนี้มันครอบครองทุกอย่างของเจ้าไว้แล้ว เจ้าอ่านนี่ ตามีอะไรจะให้เจ้าอ่านอีก ”
ตาเอี้ยงเอาจดหมายที่แรมเขียนติดต่อกับแก ออกมาให้ตะวันอ่านทุกฉบับ
“ ตา ”
ตะวันครางเมื่ออ่านจดหมายครบทุกฉบับ
“ แหวนนี่แม่เจ้าให้กับแรมมา เพื่อเป็นทุนเลี้ยงดูเจ้า ตาขายสร้อยคอกับกำไลข้อมือไป แหวนนี่เก็บเอาไว้ให้เจ้า ”
ตะวันมองแหวนในมือใจสั่นระริก รู้สึกเจ็บแค้นจนอกแทบระเบิด เขานึกถึงใครคนหนึ่ง แล้วผลุนผลันลุกขึ้น วิ่งฝ่าความมืดสลัวของเวลาพลบค่ำ ออกไปที่กระท่อมท้ายสวน ตะวันมาหยุดยืนมองหญิงเร่ร่อนที่กำลังปิ้งหมูบนเตา
“ ป้าสุทธินี ”
ตะวันเรียก ผู้ที่ถูกเรียกถึงกับหันขวับอย่างตกใจ
“ คุณตะวันเรียกป้าหรือคะ ”
ตะวันมือสั่น เขากำแหวนเพชรในมือแน่นเดินเข้าไปหาผู้ที่จ้องมองเขา
“ ป้าชื่อสุทธินีใช่ไหม ”
“ คุณตะวันรู้ได้ยังไงคะ ”
“ บอกผมสิว่า ใช่ไหม ”
สุทธินีมองเด็กหนุ่มอย่างหวาดๆ แต่ก็พยักหน้ารับ
“ ป้าเคยเห็นแหวนวงนี้ไหม ”
เขาแบมือที่กำแหวนเพชรออก สุทธินีมองแหวนอย่างตะลึงหยิบมันขึ้นมาดูด้วยมือที่สั่นระริก
“ คุณตะวันไปเอาแหวนวงนี้มาจากไหน ”
“ แหวนนี่มันคือของป้าใช่ไหม ป้าเอาให้ลูกของป้าไปใช่ไหม ”
“ ใช่ค่ะ ”
สุทธินีตอบรับเสียงแผ่ว ตะวันคุกเข่าลงตรงหน้ากอดผู้หญิงจรจัดผู้นี้เอาไว้แน่น
“ แม่ แม่จ๋า ”
“ คุณตะวัน ”
สุทธินีตัวชา ก้มมองชายหนุ่มที่กอดเอวนางแล้วซบหน้าร้องไห้
“ แม่ให้คนชื่อแรมพาผมหนีใช่ไหม แม่หนีไอ้ทุติยะ หนีมัน ”
สุทธินีเข่าอ่อน จับไหล่ลูกชายจ้องมองเหมือนไม่เคยพบไม่เคยเห็น
“ ตะวัน ลูกคือสุรียาของแม่หรือ สุรียา โอ ลูกจ๋า เป็นลูกจริงๆหรือ ”
ตะวันจับมือของมารดาลูบฝ่ามือที่สากหยาบน้ำตาริน สุทธนีลูบใบหน้าของลูกรักเหมือนกำลังฝัน
“ แม่จ๋า พวกมันทำกับพ่อ ทำกับแม่จนถึงขนาดนี้เชียวหรือ มันจะต้องได้รับการตอบแทนที่สาสม ผมจะเอาทุกอย่างที่เป็นของพ่อคืน ผมจะเอาสุรียาบดีของผมคืน ”
“ อย่านะตะวัน ลูกไม่มีทางสู้กับพวกมันได้ เขามีอำนาจ มีอิทธิพน และที่สำคัญ เขาเหี้ยมโหดมาก ”
“ แม่ไม่ต้องกลัว พวกมันไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ผมจะเข้าไปปะปนกับพวกมันในฐานะ ตะวัน วงพรต ไม่ใช่สุรียา สุรียาบดี แต่แม่สิ ให้พวกมันเจอไม่ได้แน่ พวกมันต้องจำแม่ได้ แม่อยู่ที่นี่ก่อนนะ พรุ่งนี้ผมจะไปพบมันที่ชมเดือนรีสอร์ท ”
“ คุณพระ นี่พวกเขามาที่นี่หรือ ตะวัน ลูกต้องระวังตัวนะลูก ”
“ ไม่เป็นไรครับ แม่วางใจเถอะ ตราบใดที่ผมยังเป็นตะวัน ผมไม่เป็นอะไรแน่ พวกมันไม่สนใจผมหรอก ”
“ ตา ผมจะขายที่ดินผืนนี้ให้พวกมัน ”
“ ตะวัน นี่เอ็งกำลังจะทำอะไร ”
“ กำลังจะเอาสุรียาบดีของผมคืนไงตา ”
“ ตะวัน มันเสี่ยงนะ ที่เอ็งจะเข้าไปยุ่งกับพวกมัน ”
“ ใครบอก ผมเสี่ยง พวกมันต่างหากที่เดินมาถึงจุดอันตรายแล้ว มันเดินเข้ามาหาผมเอง ”
“ ตา ผมเจอแม่ของผมแล้ว ”
“ อะไรนะ ”
“ ตาอย่าตกใจ ผมจะเล่าให้ฟัง ”
ตะวันเล่าทุกอย่างให้ตาเอี้ยงฟัง เมื่อฟังจบผู้เฒ่าถึงกับยกมือพนมท่วมหัว
“ คุณพระ คุณเจ้า สวรรค์เข้าข้างเอ็งแล้วล่ะตะวัน แล้วเอ็งทำไมไม่พาคุณผู้หญิงมาที่นี่ ”
“ พามาได้ยังไงตา ถ้าพรุ่งนี้พวกมันมาที่นี่ มาเจอแม่ แม่ไม่แย่หรือ พวกมันต้องจำแม่ได้อยู่แล้ว ”
“ เออจริง ตาก็ลืมไป ”
วันรุ่งขึ้น ตะวันไปที่รีสอร์ทแต่เช้า เขาไปขอพบทาทอง ทาทองออกมาพบกับชายหนุ่ม นางยิ้มเหยียดเยาะหยัน
“ ยังไง มาหาฉันทำไม ”
“ ผมจะมาขายที่ให้คุณหญิง ”
ทาทองหัวเราะลั่น มองตะวันด้วยสายตาดูแคลน
“ คงไปนอนตรองดูแล้วใช่ไหมว่า ไม่ควรจะขัดใจพวกฉัน ”
“ ครับ ”
ตะวันตอบรับ
“ ดี รู้จักคิดเป็นก็ถือว่ายังไม่สาย ฉันน่ะ ไม่กดราคาเธอหรอก จะให้ราคาตามความเป็นจริง ”
“ คุณหญิงจะให้ผมไร่ละเท่าไหร่ครับ ”
“ หนึ่งแสนบาท ราคาซื้อขายกันทั่วไปใช่ไหมกับที่ดินย่านนั้น ”
“ ครับ แต่ผมมีข้อแม้ ”
“ ข้อแม้อะไรของเธอ ว่ามา ”
“ เมื่อผมขายสวนลำไยไปแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรจะทำ ถ้าคุณหญิงจะกรุณา ผมอยากไปทำงานที่บริษัทของคุณหญิง ที่กรุงเทพ ”
“ อยากจะทำงานที่บริษัทหรือ เธอเรียนจบอะไรมาล่ะ ”
“ ผมจบบริหาร เอกบัญชีครับ ”
“ อืมม์ ก็เอาสิ ถ้าเธออยากจะไปทำงานกับฉัน ฉันจะหาตำแหน่งให้ แต่เงินเดือนตามสภาพนะ ฉันจ้างตามวุฒิไม่มีเส้นสาย จะถือว่าเป็นคนของฉันก็ไม่ได้ ”
“ ครับ ”
“ ความจริงเธอก็ดูพูดง่ายดีนี่ แล้วทำไมเมื่อวานต้องทำให้ฉันเสียอารมณ์ ”
“ ผมขอโทษ ”
“ ไม่เป็นไร คนเรามันอาจคิดผิดคิดพลาดไปได้ เธอก็ยังเด็ก คราวหน้าจะคิดจะทำอะไรต้องคิดให้รอบครอบ และดูความเหมาะสมด้วย อย่าเอาแต่อารมณ์ เธอจะเสียการใหญ่ เข้าใจไหม ”
ทาทองสอน ตะวันรับคำ ถ้าทาทองมีฌานรู้ล่วงหน้านางคงหนาวไปถึงกระดูกว่าคำสอนของนางมีผลแค่ไหนที่สอนตะวันอย่างนี้
...พิมพ์พิลาสฒ์...
สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 5
“ ป้า ขยันจริง สะอาดสะอ้านแทบไม่มีหญ้าแล้ว ”
“ ถากไปเรื่อยๆ อากาศก็ไม่ร้อน ทำไปเพลินๆ ”
“ ค่อยๆทำไปเรื่อยๆก็ได้ ไม่ต้องหักโหม ได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้น แล้วนี่เที่ยงแล้ว ป้ายังไม่พักกินข้าวอีกหรือ ”
“ ค่ะ จะพักแล้ว ”
“ ผมเอาหมูมาฝากป้านะ เมื่อเช้าเข้าไปในเมืองมา ”
“ ขอบคุณค่ะ ”
นี มองตะวันหล่อนรู้สึกรักใคร่เด็กหนุ่มคนนี้เหลือเกิน คงเพราะอายุของเขาเท่ากับลูกชายของนาง นางจึงมักจะแอบมองตะวันอยู่บ่อยๆยามที่เขาเผลอ ตะวันทำไมช่างมีนัยน์ตาที่คล้ายกับธารเทพนัก ยิ่งเวลาที่เขายิ้ม รอยยิ้มที่สว่างเปิดเผย เหมือนกับธารเทพไม่มีผิด ผิวพรรณที่ขาวเนียน รูปหน้าที่ยาวรี ปากคอคิ้วคาง นี่เธอคงคิดถึงลูกคิดถึงธารเทพมากจึงมองเด็กหนุ่มผู้นี้คล้ายกับสามีของเธอ
“ คุณตะวันออกไปซื้อของเอง ทุกครั้งหรือคะ ”
“ ครับ ตาแกขี้เกียจไปไหนมาไหน ”
“ แล้วใครเป็นคนหุงหาข้าวกินล่ะคะ ”
“ ตาสิครับ ตาเป็นคนหุงเป็นคนทำ ผมทำกับข้าวไม่อร่อย สู้ตาไม่ได้ ตาทำอร่อย ”
“ น่าสงสารนะคะ อยู่กันแต่ผู้ชาย แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณตะวันไปไหนซะล่ะคะ ”
“ ตายไปหมดแล้ว พ่อกับแม่ของผมตายไปตั้งแต่ผมยังเล็กๆ ”
“ โถ คุณอยู่กับคุณตามาตลอดเลยหรือคะ ”
“ ครับ ตาเลี้ยงผมมาตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ ”
“ พี่น้องอื่นก็ไม่มีเลยหรือคะ ”
“ ไม่มี ตาบอกว่าเราอยู่กันแต่ ตา พ่อกับแม่และก็ผม บ้านผมถูกไฟไหม้ พ่อกับแม่ของผมถูกไฟคลอกตาย ตาช่วยผมออกมาได้คนเดียว ”
นีมองตะวันอย่างสงสาร เขาก็เป็นลูกกำพร้า ยังโชคดีที่มีตาคอยเลี้ยงดู แต่ลูกของเธอไม่รู้ว่าแรมพาหลบหนีไปอยู่ที่ไหน เขาจะสุขจะทุกข์อย่างไร และยังมีชีวิตอยู่ไหม
ตะวันอยู่คุยกับนีจนบ่าย เขาจึงเดินกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็ดีใจที่เห็นรถตู้ของชมเดือนรีสอร์ทจอดอยู่ คิดว่าล้อมเดือนมาหาเขา เขารีบเดินเข้าไปในบ้าน แล้วต้องชะงัก เพราะมีแขกหลายคนกำลังนั่งคุยกับตาเอี้ยง
“ ตะวัน เข้ามาสิลูก ”
ตาเอี้ยงเรียก
ตะวันมองคนแปลกหน้าพวกนั้น ล้อมเดือนนั่งอยู่ใกล้ๆผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่ง ดูจากการแต่งตัวแล้ว ก็พวกผู้ดีมีเงินนี่เอง
“ มีอะไรกันหรือครับตา ”
ตะวันลงนั่งใกล้ๆตาเอี้ยงยกมือไหว้ผู้ที่อาวุโสกว่าตามมารยาท
“ นี่หรือ หลานชายที่คุณบอกว่าจะยกที่นี่ให้เขา ”
“ ไม่ใช่ยกให้ แต่มันเป็นของเขาเพียงแต่ผมยังไม่ได้ไปโอนให้เขาเท่านั้น ”
ตาเอี้ยงตอบหญิงสูงวัยที่นั่งวางท่าคอเชิด ล้อมเดือนจึงแนะนำ
“ ตะวันคะ ท่านผู้นี้คือคุณหญิงทาทอง สุรียาบดีค่ะ ”
ตะวันชะงัก นามสกุลนี้อีกแล้วหรือ แล้วมาทำไมที่นี่ หรือว่าจะมาเอาเรื่อง ที่เคยมีเรื่องกับลูกหลานเขา
ตาเอี้ยงมองตะวันอย่างอึดอัด ใจเต้นโครมคราม ไอ้พวกสุรียาบดี มาเข้าใกล้ตะวันอยู่แค่เอื้อม นี่มันชะตาลิขิตหรือไรหนอ
“ ครับ ”
“ เขามาทำไมกันหรือตา ”
ตะวันกระซิบถามตาเอี้ยง
“ ฉันจะมาขอซื้อที่ตรงนี้ของเธอ ”
คุณหญิงทาทองพูดเสียงดังฟังชัด ตะวันหันมองหน้าคุณหญิง
“ ใครเป็นคนไปบอกคุณหญิง ว่าผมกับตาจะขายที่ตรงนี้ ผมไม่เคยคิดจะขายมันเลยนะ ”
“ พ่อหนุ่ม ฉันให้ราคาดีนะ บอกตามตรง พอฉันมาเห็นที่ดินผืนนี้ ฉันชอบมันมากเลย เธอกับตาจะขาย เท่าไหร่ ฉันไม่เกี่ยงราคา ”
“ ไม่ขาย ”
ตะวันสวนทันที ทาทองจ้องชายหนุ่ม ยิ้มอย่างใจเย็น
“ ฟังราคาก่อนซี่ แล้วค่อยพูดปฏิเสธ อะไร ยังไม่ทันรู้ว่าได้เท่าไร รีบบอกไม่ขายซะแล้ว ”
“ เท่าไหร่ผมก็ไม่ขาย ใช่ไหมตา ”
ตะวันหันมาพูดกับตาเอี้ยง ตาเอี้ยงจึงรีบพูด ”
“ ครับ ผมไม่ขาย เพราะที่ดินนี่ ผมเก็บเอาไว้ให้เขา ถ้าเขาไม่ขายผมก็ไม่ขาย ”
“ แต่ฉันอยากได้ ”
ทาทองพูดเนิบๆ
“ แล้วยังไง อยากได้แล้วต้องได้หรือ ผมไม่ขาย ก็คือไม่ขาย ”
ตะวันพูดเสียงแข็งอย่างไม่เกรงบารมีคุณหญิงเลย คุณหญิงจอมโหดถึงกับลุกขึ้นยืน
“ นี่ไอ้หนู เธอจะไม่ขายแน่นะ ”
“ แน่ ”
“ วันนี้ฉันอุตส่าห์มาขอซื้อด้วยตัวเอง แล้วเธอกล้าปฏิเสธฉัน วันหน้าเธออย่าไปคุกเข่าขอร้องให้ฉันซื้อนะ ”
“ ฝันไปเถอะ เมื่อผมไม่ขาย วันหน้าหรือชาติหน้าผมก็ไม่ขาย ”
“ อวดดีนักนะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กลับ ”
คุณหญิงทาทองเชิดหน้านำทุกคนที่มากลับออกไป ตาเอี้ยงถึงกับหน้าซีดเผือดเหงื่อซึม
“ ตา เป็นอะไร ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น ตากลัวพวกมันหรือ ”
“ ตะวัน มานี่ มาใกล้ๆตา ”
ตะวันงงกับท่าทีของตาเอี้ยง เขาเดินเข้าไปหาผู้เป็นตาจับมือที่เย็นเฉียบของชายชรา
“ ตา ทำไมมือเย็นอย่างนี้ นี่ตากลัวพวกมันใช่ไหม ”
“ ตะวัน ตาเลี้ยงเจ้ามา รักเจ้าเหมือนแก้วตาดวงใจ ต้องการให้เจ้าปลอดภัย ไม่ไปยุ่งกับพวกเขา แต่วันนี้พวกเขามาที่นี่ ดูจากท่าทางแล้ว มันคงไม่ปล่อยเจ้าแน่ เจ้ายังไม่รู้จักพวกมันดี มันร้ายนัก มันโหดร้ายมาก ”
“ ตาครับ ตาพูดอะไร ตานั่งก่อนนะเดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำชาร้อนๆมาให้ตากิน ”
“ ไม่ต้อง ตาไม่กิน ตะวัน ตามีเรื่องอะไรจะเล่าให้เจ้าฟัง เจ้าจงตั้งใจฟังให้ดี ”
ตะวันมองท่าทีร้อนรนของผู้เป็นตา ตาเอี้ยงล้วงหยิบตลับเงินเล็กๆที่เก็บติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาออกมาแล้วส่งให้ตะวัน
“ รับเอาไป นี่เป็นของเจ้า ”
“ อะไรครับตา ”
“ เปิดออกดูสิ แล้วเจ้าจะรู้ ”
ตะวันแกะตลับเปิดฝาครอบออก ข้างในคือแหวนเพชรน้ำงามหนึ่งวงและกระดาษที่พับเอาไว้ ตะวันหยิบกระดาษคลี่ออกอ่านข้อความในกระดาษ ทุกสิ่งทุกอย่างของสุรียาบดี คือกรรมสิทธิ์ของ สุรียา สุรียาบดี แต่เพียงผู้เดียว ธารเทพ สุรียาบดี
“ ทำไมหรือตา สุรียาบดี กระดาษนี่ ตาเก็บเอาไว้ทำไม ”
ตะวันถามตาเอี้ยงอย่างไม่เข้าใจ
“ ตะวัน เจ้าคือ สุรียา สุรียาบดี แล้วธารเทพ สุรียาบดี ก็คือพ่อของเจ้า ”
“ ตา ”
ตะวันอุทาน จ้องตาเอี้ยง
“ ตะวัน ชื่อตะวัน วงพรต คือชื่อที่ตาตั้งให้เจ้า เพื่อให้เจ้าพ้นจากอันตราย ที่พวกมันตามล่าเจ้า
ตะวันมองตาเอี้ยงเขม็ง เขามึนงงกับคำบอกของตา อยู่ๆเขาจะเป็นสุรียา สุรียาบดีได้อย่างไร ”
“ ตะวัน เชื่อตาเถอะนะ ตาไม่เคยคิดว่าพวกมันจะตามมาจนถึงที่นี่ ตอนนี้พวกมันยังไม่รู้ว่าเจ้าคือสุรียา ถ้ามันรู้ มันไม่ไว้เจ้าแน่ มันฆ่าพ่อกับแม่ของเจ้า แล้วตามฆ่าเจ้า ”
“ เพราะอะไรหรือตา ”
“ เพราะทรัพย์สมบัตรอันมหาศาลของเจ้าน่ะสิ ตอนนี้มันครอบครองทุกอย่างของเจ้าไว้แล้ว เจ้าอ่านนี่ ตามีอะไรจะให้เจ้าอ่านอีก ”
ตาเอี้ยงเอาจดหมายที่แรมเขียนติดต่อกับแก ออกมาให้ตะวันอ่านทุกฉบับ
“ ตา ”
ตะวันครางเมื่ออ่านจดหมายครบทุกฉบับ
“ แหวนนี่แม่เจ้าให้กับแรมมา เพื่อเป็นทุนเลี้ยงดูเจ้า ตาขายสร้อยคอกับกำไลข้อมือไป แหวนนี่เก็บเอาไว้ให้เจ้า ”
ตะวันมองแหวนในมือใจสั่นระริก รู้สึกเจ็บแค้นจนอกแทบระเบิด เขานึกถึงใครคนหนึ่ง แล้วผลุนผลันลุกขึ้น วิ่งฝ่าความมืดสลัวของเวลาพลบค่ำ ออกไปที่กระท่อมท้ายสวน ตะวันมาหยุดยืนมองหญิงเร่ร่อนที่กำลังปิ้งหมูบนเตา
“ ป้าสุทธินี ”
ตะวันเรียก ผู้ที่ถูกเรียกถึงกับหันขวับอย่างตกใจ
“ คุณตะวันเรียกป้าหรือคะ ”
ตะวันมือสั่น เขากำแหวนเพชรในมือแน่นเดินเข้าไปหาผู้ที่จ้องมองเขา
“ ป้าชื่อสุทธินีใช่ไหม ”
“ คุณตะวันรู้ได้ยังไงคะ ”
“ บอกผมสิว่า ใช่ไหม ”
สุทธินีมองเด็กหนุ่มอย่างหวาดๆ แต่ก็พยักหน้ารับ
“ ป้าเคยเห็นแหวนวงนี้ไหม ”
เขาแบมือที่กำแหวนเพชรออก สุทธินีมองแหวนอย่างตะลึงหยิบมันขึ้นมาดูด้วยมือที่สั่นระริก
“ คุณตะวันไปเอาแหวนวงนี้มาจากไหน ”
“ แหวนนี่มันคือของป้าใช่ไหม ป้าเอาให้ลูกของป้าไปใช่ไหม ”
“ ใช่ค่ะ ”
สุทธินีตอบรับเสียงแผ่ว ตะวันคุกเข่าลงตรงหน้ากอดผู้หญิงจรจัดผู้นี้เอาไว้แน่น
“ แม่ แม่จ๋า ”
“ คุณตะวัน ”
สุทธินีตัวชา ก้มมองชายหนุ่มที่กอดเอวนางแล้วซบหน้าร้องไห้
“ แม่ให้คนชื่อแรมพาผมหนีใช่ไหม แม่หนีไอ้ทุติยะ หนีมัน ”
สุทธินีเข่าอ่อน จับไหล่ลูกชายจ้องมองเหมือนไม่เคยพบไม่เคยเห็น
“ ตะวัน ลูกคือสุรียาของแม่หรือ สุรียา โอ ลูกจ๋า เป็นลูกจริงๆหรือ ”
ตะวันจับมือของมารดาลูบฝ่ามือที่สากหยาบน้ำตาริน สุทธนีลูบใบหน้าของลูกรักเหมือนกำลังฝัน
“ แม่จ๋า พวกมันทำกับพ่อ ทำกับแม่จนถึงขนาดนี้เชียวหรือ มันจะต้องได้รับการตอบแทนที่สาสม ผมจะเอาทุกอย่างที่เป็นของพ่อคืน ผมจะเอาสุรียาบดีของผมคืน ”
“ อย่านะตะวัน ลูกไม่มีทางสู้กับพวกมันได้ เขามีอำนาจ มีอิทธิพน และที่สำคัญ เขาเหี้ยมโหดมาก ”
“ แม่ไม่ต้องกลัว พวกมันไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ผมจะเข้าไปปะปนกับพวกมันในฐานะ ตะวัน วงพรต ไม่ใช่สุรียา สุรียาบดี แต่แม่สิ ให้พวกมันเจอไม่ได้แน่ พวกมันต้องจำแม่ได้ แม่อยู่ที่นี่ก่อนนะ พรุ่งนี้ผมจะไปพบมันที่ชมเดือนรีสอร์ท ”
“ คุณพระ นี่พวกเขามาที่นี่หรือ ตะวัน ลูกต้องระวังตัวนะลูก ”
“ ไม่เป็นไรครับ แม่วางใจเถอะ ตราบใดที่ผมยังเป็นตะวัน ผมไม่เป็นอะไรแน่ พวกมันไม่สนใจผมหรอก ”
“ ตา ผมจะขายที่ดินผืนนี้ให้พวกมัน ”
“ ตะวัน นี่เอ็งกำลังจะทำอะไร ”
“ กำลังจะเอาสุรียาบดีของผมคืนไงตา ”
“ ตะวัน มันเสี่ยงนะ ที่เอ็งจะเข้าไปยุ่งกับพวกมัน ”
“ ใครบอก ผมเสี่ยง พวกมันต่างหากที่เดินมาถึงจุดอันตรายแล้ว มันเดินเข้ามาหาผมเอง ”
“ ตา ผมเจอแม่ของผมแล้ว ”
“ อะไรนะ ”
“ ตาอย่าตกใจ ผมจะเล่าให้ฟัง ”
ตะวันเล่าทุกอย่างให้ตาเอี้ยงฟัง เมื่อฟังจบผู้เฒ่าถึงกับยกมือพนมท่วมหัว
“ คุณพระ คุณเจ้า สวรรค์เข้าข้างเอ็งแล้วล่ะตะวัน แล้วเอ็งทำไมไม่พาคุณผู้หญิงมาที่นี่ ”
“ พามาได้ยังไงตา ถ้าพรุ่งนี้พวกมันมาที่นี่ มาเจอแม่ แม่ไม่แย่หรือ พวกมันต้องจำแม่ได้อยู่แล้ว ”
“ เออจริง ตาก็ลืมไป ”
วันรุ่งขึ้น ตะวันไปที่รีสอร์ทแต่เช้า เขาไปขอพบทาทอง ทาทองออกมาพบกับชายหนุ่ม นางยิ้มเหยียดเยาะหยัน
“ ยังไง มาหาฉันทำไม ”
“ ผมจะมาขายที่ให้คุณหญิง ”
ทาทองหัวเราะลั่น มองตะวันด้วยสายตาดูแคลน
“ คงไปนอนตรองดูแล้วใช่ไหมว่า ไม่ควรจะขัดใจพวกฉัน ”
“ ครับ ”
ตะวันตอบรับ
“ ดี รู้จักคิดเป็นก็ถือว่ายังไม่สาย ฉันน่ะ ไม่กดราคาเธอหรอก จะให้ราคาตามความเป็นจริง ”
“ คุณหญิงจะให้ผมไร่ละเท่าไหร่ครับ ”
“ หนึ่งแสนบาท ราคาซื้อขายกันทั่วไปใช่ไหมกับที่ดินย่านนั้น ”
“ ครับ แต่ผมมีข้อแม้ ”
“ ข้อแม้อะไรของเธอ ว่ามา ”
“ เมื่อผมขายสวนลำไยไปแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรจะทำ ถ้าคุณหญิงจะกรุณา ผมอยากไปทำงานที่บริษัทของคุณหญิง ที่กรุงเทพ ”
“ อยากจะทำงานที่บริษัทหรือ เธอเรียนจบอะไรมาล่ะ ”
“ ผมจบบริหาร เอกบัญชีครับ ”
“ อืมม์ ก็เอาสิ ถ้าเธออยากจะไปทำงานกับฉัน ฉันจะหาตำแหน่งให้ แต่เงินเดือนตามสภาพนะ ฉันจ้างตามวุฒิไม่มีเส้นสาย จะถือว่าเป็นคนของฉันก็ไม่ได้ ”
“ ครับ ”
“ ความจริงเธอก็ดูพูดง่ายดีนี่ แล้วทำไมเมื่อวานต้องทำให้ฉันเสียอารมณ์ ”
“ ผมขอโทษ ”
“ ไม่เป็นไร คนเรามันอาจคิดผิดคิดพลาดไปได้ เธอก็ยังเด็ก คราวหน้าจะคิดจะทำอะไรต้องคิดให้รอบครอบ และดูความเหมาะสมด้วย อย่าเอาแต่อารมณ์ เธอจะเสียการใหญ่ เข้าใจไหม ”
ทาทองสอน ตะวันรับคำ ถ้าทาทองมีฌานรู้ล่วงหน้านางคงหนาวไปถึงกระดูกว่าคำสอนของนางมีผลแค่ไหนที่สอนตะวันอย่างนี้