สืบเนื่องจากกระทู้นี้ของคุณ Lionel Nobi
พวกที่วิ่งซ้อมประจำ 10 km. จะมาวิ่งแข่งกับคนที่วิ่ง 5 km. ได้มั๊ย
http://ppantip.com/topic/33686218
เมื่อวานว่างประกอบกับไม่มีโปรแกรมจะไปวิ่งงานที่ไหนในระยะนี้เลยลองทำวิจัยเรื่องนี้ดู ปกติจะซ้อมวิ่งเพื่อรักษาสภาพร่างกายอยู่ทุกวันเว้นวันอาทิตย์แต่ซ้อมมากกว่า 5 กิโลตลอดเพราะคิดว่ามันน้อยไปกลัวจะไม่พอที่จะวิ่งระยะมินิได้ ผมสายมินิน่ะครับ วิ่งมา 10 กว่ารายการแล้ว
โจทย์ในกระทู้ข้างต้นคือระยะมินิ pace 5.00 vs ห้ากิโล pace 4.36 จากตัวโจทย์กับคนทำการทดลองถือว่าใกล้เคียงกันเพราะระยะมินิผมก็วิ่งได้ประมาณนี้พอดี (4.5X เกือบจะหลุด 4 อยู่รอมร่อ) ผลปรากฏว่า
มินิสู้ได้ครับ เฉือนไปหวุดหวิดด้วยเวลา 1 นาทีกับอีก 24 วินาที (หมายเหตุ : แต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าสำหรับระยะ 5 กิโลเมตร pace 4.36 จะถือว่าอยู่ในระดับไหนเพราะหาสถิติยากครับ)
เหตุที่สู้ได้นั้นผมคิดว่าเพราะระยะทางไม่ได้ห่างกันมาก กรณีนี้จะไปเปรียบกับ มินิ vs ฮาล์ฟไม่ได้เพราะส่วนต่างมันแค่ 5 กิโลไม่เหมือน 10 กิโล และระยะซ้อมของมินิก็วนเวียนอยู่ในระดับ 5 กิโลอยู่แล้ว นักวิ่งมินิต้องเคยผ่านการซ้อมสปีดเต็มๆในระยะ 5 กิโลเมตรมาก่อน เมื่อวานระหว่างที่วิ่งซ้อมถึงกิโลที่ 2 ผมนึกถึงกระทู้ข้างต้นขึ้นมาเลยลองทดสอบดูด้วยการวิ่งแบบอัดแหลก อัดแหลกจริงๆครับมีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมด ก้าวขายาวกว่าปกติด้วยเพราะใจก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าวิ่งด้วยสปีดแบบนี้จะไปรอดถึงกิโลที่ 5 รึเปล่า แต่มันก็มีความมั่นใจนะครับว่าจะรอดเพราะที่ผ่านมาซ้อมมากกว่า 5 กิโลตลอด (ถึงจะไม่เร็วเท่านี้ก็ตาม) วิ่งไปดูนาฬิกาไปทุกกิโลว่าความเร็วเราตกรึเปล่า เมื่อวานวิ่งแบบโหมดแข่งขันครับระหว่างวิ่งต้องทำสมาธิหากรู้สึกว่าตัวเองกำลังลดลงไปต้องเพิ่มแรงอัดเข้าไปเพิ่ม ผมคิดว่านักวิ่ง 5 กิโลก็น่าจะวิ่งด้วยแนวคิดเดียวกันคือใส่พลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นยันปลาย ไม่น่าจะมีแผนอะไรมากนอกจากใส่อย่างเดียวเพราะระยะมันสั้น กุญแจสำคัญคืออยู่ที่ว่าใครจะอึดได้มากกว่ากันเท่านั้น
สรุปแล้วหากนักวิ่งมีคุณสมบัติเท่ากับโจทย์ข้างต้น : มินิสู้ได้ครับ
แถมกราฟ
ระยะที่ใช้รอบสูงมากที่สุดคือระยะกิโลที่ 4 เป็นต้นไปที่เร่งนี้ไม่เกี่ยวกับแผนการวิ่งหรอกครับเพียงแต่รู้สึกหอบและอยากให้มันจบเร็วๆจะได้พัก มองโลกในแง่ดีว่ามันเหลืออีกแค่ 5 รอบสนามเอง (pace กิโลแรก 4.31 กิโลที่ 5 4.09 คิดว่าหากนักวิ่ง 5 กิโลที่วางแผนก็น่าจะมาในแนวทางเดียวกันคือกิโลแรกช้าสุดและกิโลสุดท้ายเร็วที่สุด อนุมานว่าแนวทางวิ่งแบบเดียวกัน)
จบการวิจัยครับ
นักวิ่ง 10 km vs. นักวิ่ง 5 km
พวกที่วิ่งซ้อมประจำ 10 km. จะมาวิ่งแข่งกับคนที่วิ่ง 5 km. ได้มั๊ย
http://ppantip.com/topic/33686218
เมื่อวานว่างประกอบกับไม่มีโปรแกรมจะไปวิ่งงานที่ไหนในระยะนี้เลยลองทำวิจัยเรื่องนี้ดู ปกติจะซ้อมวิ่งเพื่อรักษาสภาพร่างกายอยู่ทุกวันเว้นวันอาทิตย์แต่ซ้อมมากกว่า 5 กิโลตลอดเพราะคิดว่ามันน้อยไปกลัวจะไม่พอที่จะวิ่งระยะมินิได้ ผมสายมินิน่ะครับ วิ่งมา 10 กว่ารายการแล้ว
โจทย์ในกระทู้ข้างต้นคือระยะมินิ pace 5.00 vs ห้ากิโล pace 4.36 จากตัวโจทย์กับคนทำการทดลองถือว่าใกล้เคียงกันเพราะระยะมินิผมก็วิ่งได้ประมาณนี้พอดี (4.5X เกือบจะหลุด 4 อยู่รอมร่อ) ผลปรากฏว่า
มินิสู้ได้ครับ เฉือนไปหวุดหวิดด้วยเวลา 1 นาทีกับอีก 24 วินาที (หมายเหตุ : แต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าสำหรับระยะ 5 กิโลเมตร pace 4.36 จะถือว่าอยู่ในระดับไหนเพราะหาสถิติยากครับ)
เหตุที่สู้ได้นั้นผมคิดว่าเพราะระยะทางไม่ได้ห่างกันมาก กรณีนี้จะไปเปรียบกับ มินิ vs ฮาล์ฟไม่ได้เพราะส่วนต่างมันแค่ 5 กิโลไม่เหมือน 10 กิโล และระยะซ้อมของมินิก็วนเวียนอยู่ในระดับ 5 กิโลอยู่แล้ว นักวิ่งมินิต้องเคยผ่านการซ้อมสปีดเต็มๆในระยะ 5 กิโลเมตรมาก่อน เมื่อวานระหว่างที่วิ่งซ้อมถึงกิโลที่ 2 ผมนึกถึงกระทู้ข้างต้นขึ้นมาเลยลองทดสอบดูด้วยการวิ่งแบบอัดแหลก อัดแหลกจริงๆครับมีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมด ก้าวขายาวกว่าปกติด้วยเพราะใจก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าวิ่งด้วยสปีดแบบนี้จะไปรอดถึงกิโลที่ 5 รึเปล่า แต่มันก็มีความมั่นใจนะครับว่าจะรอดเพราะที่ผ่านมาซ้อมมากกว่า 5 กิโลตลอด (ถึงจะไม่เร็วเท่านี้ก็ตาม) วิ่งไปดูนาฬิกาไปทุกกิโลว่าความเร็วเราตกรึเปล่า เมื่อวานวิ่งแบบโหมดแข่งขันครับระหว่างวิ่งต้องทำสมาธิหากรู้สึกว่าตัวเองกำลังลดลงไปต้องเพิ่มแรงอัดเข้าไปเพิ่ม ผมคิดว่านักวิ่ง 5 กิโลก็น่าจะวิ่งด้วยแนวคิดเดียวกันคือใส่พลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นยันปลาย ไม่น่าจะมีแผนอะไรมากนอกจากใส่อย่างเดียวเพราะระยะมันสั้น กุญแจสำคัญคืออยู่ที่ว่าใครจะอึดได้มากกว่ากันเท่านั้น
สรุปแล้วหากนักวิ่งมีคุณสมบัติเท่ากับโจทย์ข้างต้น : มินิสู้ได้ครับ
แถมกราฟ
ระยะที่ใช้รอบสูงมากที่สุดคือระยะกิโลที่ 4 เป็นต้นไปที่เร่งนี้ไม่เกี่ยวกับแผนการวิ่งหรอกครับเพียงแต่รู้สึกหอบและอยากให้มันจบเร็วๆจะได้พัก มองโลกในแง่ดีว่ามันเหลืออีกแค่ 5 รอบสนามเอง (pace กิโลแรก 4.31 กิโลที่ 5 4.09 คิดว่าหากนักวิ่ง 5 กิโลที่วางแผนก็น่าจะมาในแนวทางเดียวกันคือกิโลแรกช้าสุดและกิโลสุดท้ายเร็วที่สุด อนุมานว่าแนวทางวิ่งแบบเดียวกัน)
จบการวิจัยครับ