โบรโม่ สไตล์ป้าอ้อด

สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์เรื่องที่ไปเที่ยวโบรโม่ คิดปุ้บตัดสินใจปั้บ หาข้อมูล จองตั๋ว จองไกด์ ได้ทอมมี่มาเป้นชุดนำเที่ยว....ลุย....รอบนี้เป้นรอบที่อึดที่สุดในวัย51ของป้า เดินทางคนเดียวเริ่มตั้งแต่ทำงานตอน4ทุ่มถึงตี2 แล้วก็แปลงร่างเป้นนักเดินทาง ขับรถจากพัทยามาสุวรรณภูมิ เช็คอิน ทำโน่นนี่นั่นรอเวลาจนออกเดินทาง ชักเริ่มง่วงล่ะสิ เพราะไม่ได้นอนเลย ทรมานสังขารแท้ๆ แต่ก็อยากเที่ยวอ่ะนะ ป้าทนได้ อิอิ

เที่ยวนี้ไปกับการูด้า ไปต่อเครื่องที่จาร์การ์ต้ารออีก2ช.ม สรุปถึงสุราบายาบ่าย2

ทอมมี่มารอรับตามเวลา เราออกเดินทาง และแวะกินข้าวข้างทาง

ตลอดทางก็ไม่ได้งีบเพราะป้ากับทอมมี่คุยๆๆๆๆเหมือนเป็นเพื่อนต่างวัยกันมานานแสนนาน เส้นทางสู่หมู่บ้านนั้นขึ้นๆๆและก็ขึ้น  อากาศเริ่มเย็นลงๆๆ จนหนาว วิวข้างทางที่สวยงามคล้ายๆเขาค้อบ้านเราเริ่มลางเลือนไปในความมืด เรามาถึงที่พักก็มืด มันมืดจิงๆๆ เราพักที่ Bromo Permai ห้องสะอาดสะอ้านดี มีทีวีเครื่องเล้ก กับโต๊ะวางของ,น้ำดื่ม,กระติกน้ำร้อน


ห้องน้ำก็สะอาดใช้ได้

แต่น้ำอุ่นนี่ไม่ค่อยอยากทำงาน น้ำก็ไหลน้อย พาให้หนาวเวลาอาบน้ำ แต่ก็ต้องอาบอ่ะนะ เพราะดองมาตั้งแต่วันวานแล้ว แหวะๆเศร้า
หลังจากจัดการเรื่องส่วนตัวเรียบร้อย ก็นัดเจอกับทอมมี่ที่ร้านอาหาร






เมนูชื่อแปลกๆ ทอมมี่แนะนำอาหารที่คุ้นเคยของเขาให้เรากิน มันคือกล้วยหอมชุบแป้งทอด ก็อ่ะนะ กินรองท้องกับนมอุ่นๆ คงทำให้หลับสบาย
ทอมมี่พาป้าเดินไปดูดาวด้านหน้าโรงแรม แม่เจ้า ดวงดาวพร่างพราวแสง โอว เหมือนใกล้แค่มือเอื้อมเป็นแสนๆล้านๆดวง สวยงามมาก

มองเห็นบาต๊อกดำทมึนอยู่ข้างหน้าท่ามกลางหมู่ดาวและแสงจันทร์ อากาศก็หนาวแบบที่ว่า ป้าไม่เคยแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามากชิ้นขนาดนี้  ตัวที่อวบอ้วนอยู่แล้วกลายเป็นหมียักษ์ไปในทันที เฮ้อๆๆ คืนนั้นป้าเข้านอนแต่หัวค่ำแต่ก็ใช่ว่าจะหลับ ใครว่าคนแก่หลับง่าย ไม่จริ๊งไม่จริง

             ตี3ทอมมี่มารับและออกเดินทางโดยจิ๊ป โดยมีคนขับรถชื่อ Abas เด็กหนุ่มเงียบขรึม หัวเราะง่าย (หัวเราะแบบไม่มีเหตุผล)
ทางมืดมาก มีเพียงแสงไปจากไฟหน้ารถที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์ ทางไต่ขึ้นๆๆๆ โขยกเขยก มันส์พะย่ะค่ะ ได้มา Adventure ตอนแก่ ก็ยังดีกว่าแก่แล้วแก่เลยเนอะ ระยะทางก็ไม่ใกล้ไม่ไกล เราไปถึงบนยอดพีจานากันเป็นคันที่ต้นๆพอสมควร ทอมมี่บอกว่าขึ้นมาเร็วก็มีที่จอดไม่ต้องจอดไหลซึ่งนั่นหมายถึงเราต้องเดินไกลด้วย  มีร้านกาแฟรายทางอยุ่หลายร้าน เราเลือกนั่งร้านนึงและซดกาแฟซะคนละแก้ว
ไม่ได้ถ่ายรูปกาแฟ เอารูปข้าวโพดปิ้งไปดูก่อนนะคะ อิอิ ข้างบนมืดๆๆๆๆๆ ทอมมี่พาลงทางลับ มุด,ย่อง,เดินลงทางข้างล่างเพื่อไปจับจองที่ๆดีที่สุด ป้านั่งอยู่แบบนั้นจนพระอาทิตย์เริ่มสาดแสงแรกขึ้นมา มันช่างงดงามจิงๆ




ช่วงป้าไปไม่มีหมอกให้เห็นเลย

เขาล่ะ นายทอมมี่


สุเมรุกำลังจามเล็กๆ


ได้เวลาลงไปปากปล่องแล้ว เอาล่ะสิ มาเป้นคันแรกๆอีตอนจะกลับออกไปลำบากล่ะสิ เพราะรถหลังมาจอดปืดทางออกไม่ได้ ต้องรอกันพักนึง แต่คนขับรถที่นี่เค้าเก่ง ทั้งเบียดทั้งแทรก ดันทุรังไปจนได้




ลีลาเซลฟี่ของหนุ่มน้อยอินโด






ว่าด้วยเรื่องของม้า มาถึงที่แล้วก็ต้องช่วยอุดหนุนอาชีพท้องถิ่นซะหน่อย ทอมมี่บอกมาปีนี้ อะไรๆก็ปรับราคาขึ้น ป้านั่งม้า 120.000 idr ได้ม้าสีนิลมาขี่     เท่ห์ไม่เบา ตัวไล่ๆกันเลย คนกับม้า ขี่ม้านี่มันไม่ง่ายนะ จะร่วงก็หลายครั้ง คนจูงม้ามันก็จะรีบไปไหนนะ เดินซะเร็ว ม้าก็เร็วตาม ป้านั่งหลังม้าเหมือนจะตายให้ได้ ขำตัวเองตอนขึ้นม้า ไม่ง่ายอ่ะ ขึ้นไม่ได้ หนักก้นรึงัย จนท้ายสุดทอมมี่ต้องมาช่วยดันก้นขึ้นถึงได้ขึ้นได้ คนจูงม้าแถวนั้นหัวเราะกันคิกคัก...อายจัง !!!













โบรโม่วันนี้คนไม่มากนัก เที่ยวสบายๆ แดดแรงแต่หนาว ป้าใส่เสื้อ 4ชั้น ค่อยๆถอดทีละชั้นเมื่อเริ่มร้อนขึ้น ปากปล่องก็ยังโอนะ คนไม่มาก ยืน.เดินถ่ายรูปสบายๆ ไม่ต้องกลัวว่าเบียดกันแล้วจะหงายลงไปอยู่ก้นปล่อง
เราไปต่อกันที่ทุ่งหญ้าสะวันน่าอยู่ด้ายหลังโบรโม่ ตอนนี้หญ้าเป็นสีเหลืองด้วยความร้อนและแล้งแห้ง ฝุ่น เห็นแล้วอยากเอาไฟมาจุดมันคงกลายเป้นสีแดงเพลิง อุ้ยไม่ดีๆๆ ไม่เอา  ป้าก็ต้องแปลงร่างเป็นสาวอาหรับ ปิดหมดเหลือแต่ลูกตา ก็สวยนะเวลาที่ไม่เห็นหน้าและรอยตีนกา คริคริ


MR. Abas คนขับจิ๊บ นั่งรออย่างใจเย็น



   ได้เวลาสมควรก็เดินทางกลับที่พัก ทานอาหารเช้า เก็บของและเดินทางสู่น้ำตก


ต้องบอกว่าน้ำตกนี่ช่างสวยงามอลังการมาก เหมือนเข้าไปอยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ จูราสสิค ปาร์ค ยังงัยยังงั้นเลยอ่ะ


เสียดายที่เก็บภาพไม่ได้มาก เพราะละอองน้ำและลมที่แรง ทำเอากล้องเปียกต้องรีบเก็บ แหม...เสียดายจัง  ถ้ามีกล้องกันกันน้ำ จะมุดเข้าไปถ่ายใกล้ๆเลย


ใช้เวลาพอสมควรก็ต้องเอินทางกลับสุราบายา วันนี้อยู่แบบไฮโซนิสนึง กับHoliday inn express โรงแรมใหม่ที่ดีมากๆราคา 1000 ต้นๆ แต่เอาไป4ดาวครึ่งเลย ว่าจะทัวร์กลางคืนอีกสักหน่อย แต่พอถึงห้องอาบน้ำอาบท่าก็แป้ก ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน ขอนอนก่อนละกัน พรุ่งนี้ว่ากันใหม่





  เช้าวันที่20พค วันนี้ต้องเดินทางกลับเที่ยวบินบ่ายโมงครึ่ง ก็ตื่นเช้า ทอมมี่มารับไปทัวร์ในเมือง ไปโรงยาสูบก็ไม่ได้เข้าเพราะยังไม่เปิด ขี้เกียจรอเลยชักภาพกับ Sicuerity ซักภาพนึง



   ต่อกันที่สวนสัตว์สุราบายา




  ถึงเวลาที่ต้องร่ำลากันแล้ว ทริปนี้ถือว่าเป้นประสบการณ์และความสนุกสนานของชีวิต รีวิวนี้เป้นครั้งแรกของป้า อาจจะไม่ค่อยดีเท่ารที่ควร แต่ก็อยากแบ่งปันให้ทุกท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่