สวัสดีจ้า  วันนี้ป้าอ้อดก็จะมาเล่าถึงเรื่องการเดินทางไปเที่ยวอีเจี้ยนและโบรโม่  ป้าไปโบรโม่มาครั้งแรกเมื่อ 18 พค. ที่ผ่านมานี่เอง ครั้งนั้นไปแค่โบรโม่เพราะมีเวลาแค่ 3วัน2คืน ก็เลยไปแค่โบรโม่1คืนและสุราบายา1คืน

         ครั้งนี้เมื่อมีโอกาศจึงเดินทางอีกรอบนึงกับเวลา4วัน3คืน ป้าออกเดินทางด้วยการูด้าเหมือนเดิม เบื่อเหมือนกันนะกับการเดินทางที่ใช้เวลานาน  ออกเดินทางบินไปจาร์การ์ต้า3.30ชม. เปลี่ยนเครื่องที่จาร์การ์ต้า รออีก2ชม.บินไปสุราบายาอีก1.30ชม. สรุปการเดินทางใช้เวลา 7 ชม. ถึงสุราบายาก็บ่าย2โมง

ทอมมี่มารอรับเหมือนเดิม กับรถคันเดิม

   ป้าออกเดินทางตรงไปยังคาวาอีเจี้ยน ใช้เวลาเดินทางอีก 7 ชม.เมื่อยแล้วเมื่อยอีก แต่ก็หนุกหนานเพราะนายทอมมี่เป็นคนขับรถและไกด์ที่ friendly มาก เฮฮาตลอดทริป  แวะรายทางซื้อของกินตุนเล็กน้อย ถึงอีเจี้ยนก็เกือบ4ทุ่ม ป้าพักที่ Catimor hotel ที่พักยอดฮิต เพราะคงไม่มีให้เลือกมากนัก
บริเวณที่พัก



ไม่ได้ถ่ายรูปห้องพักมา ก็ห้องพอพักไได้นะ มีน้ำอุ่น ไม่งั้นคงไม่ต้องอาบน้ำกันแล้วล่ะ
     ตี3ป้าออกเดินทางไปอีเจี้ยนด้วยรถประมาณ1ชม. ถึงลานจอดรถ และเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา ระยะทาง 3.3 กิโล บนทางลาดชันดินทราย45องศา นี่ไม่ง่ายเลย เหนื่อยมากๆๆ อากาศก็หนาวเหน็บ หายใจไม่ค่อยสดวก ยอมรับว่าไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้ ขนาดป้าเป้นคนออกกำลังกายตลอด ยังเหมือนหัวใจมันจะหลุดออกมาข้างนอก  ต้องเดินไปพักไป เอาน่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว สู้ๆๆ ใช้เวลาเดินขึ้นๆและขึ้น2ชม. ก้มาถึงจุดหมายปลายทาง เหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง

Blue flame ที่สวยงามมาก


















ลงมาถึงพื้นล่างก็เกือบ7โมงเช้า  หาของกินอุ่นๆรองท้อง และเดินทางกลับเข้าที่พัก แวะไร่กาแฟ กาแฟที่นี่ อาราบีก้า ส่งขายให้สตาร์บัคด้วยนะ

  ถึงที่พักแวะเอาสมุด ปากกา ดินสอ ไปให้กับเด็กๆที่โรงเรียน เด็กๆน่ารักมาก เหมือนพวกเค้าจะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี


   ไปต่อกันที่น้ำตก Bluwan น้ำตกที่สวยจนน่าทึ่ง บรรยากาศเหมือนเข้าไปในป่าดึกดำบรรพ์ น้ำไหลแรงน่ากลัว ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เหวนัก



ตรงนี้เป้นน้ำร้อนจากภูเขาที่เค้าต่อท่อออกมา น้ำร้อนดีเลยค่ะ

มีสถานที่แช่น้ำร้อนด้วย

จุดชมวิวมองเห็นคาวาอีเจี้ยนอยู่ด้านหลัง

หลังจากเที่ยวน้ำตกแล้ว เราออกเดินทางสู่โบรโม่ การเดินทางอีก 5 ชม. เรามาถึงอ้อมกอดของโบรโม่ หมู่บ้านในหมอกที่น่าหลงใหล ก็มืดแล้ว ป้าเข้าพักที่ Bromo permai

ชอบห้องที่นี่ดูดี สอาด สดวกสบายดี

อันนี้เป้นห้องวีไอพี มีอ่างอาบน้ำ แต่ก็ไม่ได้แช่หรอกนะ เพราะหนาวมาก รีบอาบและก็รีบแทรกตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มเลย


  ตี3ทอมมี่มารอรับไปดูพระอาทิตย์ขึ้น






กับบรรดาคนขับรถที่มานั่งรอลูกทัวร์

           มาครั้งนี้ที่โบรโม่มีเทศกาลพิธีทางศาสนาของฮินดู มีการทำพิธีที่วัดฮินดูบนลานของโบรโม่และเป็นการไหว้เทพเจ้าที่อารักษ์สถิตอยู่ที่ภูเขาไฟด้วย  มีงาน มีตลาดนัดย่อมๆมาขายของด้วย






คนเยอะมากเดินเบียดเสียดพอสมควร ขาขึ้นๆทางบันได ขาลง วิ่งลงทางด้านข้าง สนุกมาก ต้องเบรคให้ดี ไม่งั้นมีกลิ้ง

      พักเหนื่อยสักหน่อย  ฝุ่นเยอะมาก ลมแรง ผ้าปิดหน้ากันได้ทั้งแดด ฝุ่นและกลิ่นกำมะถันจากปล่องภูเขาไฟ


       บาต๊อกเป็นbackgroundอย่างดี

วัดฮินดู ซึ่งเปิดให้ศรัทธาชนเข้าไปกราบไหว้และทำพิธี




ของหวานน้ำกะทิกับบางอย่างคล้ายๆเฉาก๊วยบ้านเรา ผสมฝุ่นเข้าไป ก็อร่อยดีอ่ะ

โบรโม่ที่เคยเงียบ วันนี้พลุกพล่าน วุ่นวายไปด้วยผู้คน รถขายของ ม้านำเที่ยว มอเตอร์ไซด์จากกลุ่มแว้นต่างๆ




          free your life



  He is my guide



อยู่ที่โบรโม่ 2คืน รุ้สึกไม่อยากกลับบ้านเลย  เมืองที่น่าประทับใจกับธรรมชาติที่สวยงาม น่าทึ่ง น่าค้นหา
แลัวเราจะกลับไปอีก ลาก่อน โบรโม่