ตามจิตวิทยาพัฒนาการแล้ว บุคคลิก และ นิสัยของคนเราถูกหล่อหลอมด้วย บุคคล และ สิ่งแวดล้อม ถ้าจะให้ละเอียดลงไปตามวัย วัยเด็กเล็กก็เป็นไปตาม Role Model คือ ครอบครัว เป็นจุดเริ่มต้น และ เมื่อเป็นวัยรุ่น "เพื่อน" และ "สังคม" จะเป็นสิ่งที่ต่อเติมร่างร้านในวัยเด็กว่าจะไปทางไหน ข้อนี้นี่เองที่เป็นทฤษฎีที่จะอธิบายลักษณะและความเป็นไปของ "จูเนียร์" หรือ นางสาวจุนิตา อยู่เผือก โดยพื้นเพ "จูเนียร์" ก็เป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เรารู้แต่ว่าเธอเกิดมาในครอบครัวอภิมหึมามหาเศรษฐี มีสังคมเซเลปเก๋ไก๋ และ ก็มีแฟนอย่าง "พี่แม็ค" เอาไว้อีกหนึ่งคน
ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ค่อนไปทางฟุ้งเฟ้อ ยึดติดกับฐานะ หน้าตา และ กับดักทางสังคมอื่น ๆ เช่น การมีแฟน การเที่ยวเตร่สังสรรค์ การออกงาน จูเนียร์อยู่ในวังวนแบบนี้มาตลอด ยึดติดกับมันอยู่ไม่น้อย ซึ่งในความยึดติดนั้นมันไม่ได้ยืดเยื้อเรื้อรังถึงขั้นเสพติด ก็เกิดมาเจอแบบนี้เลยไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือ สังคม จูเนียร์จึงคิดว่าเรื่องเหล่านี้ก็คงเป็นเรื่องธรรมดา ปกติแล้วสิ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นก็มักจะมาพร้อมกับอีโก้ขั้นสุด การถูกถูก เหยียดหยาม คนที่ไม่เหมือนกัน หรือ คนที่ด้อยกว่า แต่กับจูเนียร์แล้วเธอรับค่านิยมด้านฐานะ หน้าตา สิ่งของ ฯลฯ มาโดยไม่ได้เก็บเอานิสัยเสีย ๆ ติดมาด้วย
อาจจะเป็นเพราะในครอบครัวที่แม้จะร่ำรวยปานใด แต่ก็ทรีตคนเป็นคน เวลาจูเนียร์พูดจากับพี่เลี้ยงก็ไม่ได้จิกหัว กับ คุณแม่ก็ไม่วี้ดว้ายเอาแต่ใจ อยู่กันด้วยสันติพอสมควร นิสัยพื้นฐานที่ก่อร่างขึ้นมาจากบ้านจากครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยเล็กที่สุดก็วางรากฐานไว้ได้ดี แต่เมื่อมาเผชิญสังคมแห่งแสงสี กับกลุ่มเพื่อนไฮโซฯ จิตใจของวัยรุ่นก็เหมือนฟองน้ำนั่นแหละ อะไรอยู่ใกล้ก็ดึงดูดเอามา ซึ่งสิ่งที่จูเนียร์ดูดเข้ามาก็คือมาตรฐานทางสังคมที่เธออยู่ ก็ไม่เคยเจอสังคมแบบอื่นนี่ จึงต้องยึดสิ่งนี้เป็นมาตรฐานเพื่อให้ได้รับการยอมรับ หน้าสวย รวย และ มีแฟน สิ่งคือสิ่งที่สังคมของเธอบอกว่าดีว่าถูกต้อง โดยเธออาจไม่ได้เข้าใจคำว่า สวย รวย และ แฟน อย่างแท้จริงก็เป็นได้
และ ด้วยมาตรฐานทางสังคมที่เธอ(คิดว่า)ต้องทำตาม เธอก็ตามมันไปและผลที่ได้คือ "หน้าพัง" ตามมาตรฐานสังคมที่เธอรู้จัก หน้าพังพินาศขนาดหนักจำเป็นต้องซ่อนตัว ซึ่งเมื่อนิสัยเสีย ๆ เอาแต่ใจ อีโก้เต็ม จูเนียร์ไม่มีติดมาด้วย ชีวิตนอกเมืองหลวงและมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดก็คือ โลกกว้างอีกใบที่จูเนียร์ไม่เคยรู้จัก ข้อดีอย่างหนึ่งของจูเนียร์ คือ เป็นคนที่เต็มใจยอมรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ แต่มันก็เป็นดาบสองคมเหมือนกัน เพราะ รายนี้ดูดซับสิ่งแวดล้อมเร็วมาก ๆ เหมือนฟองน้ำยังไงยังงั้น
แต่ด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิงใส ๆ สิ่งที่ดูดมาเลยมองว่าเป็นเพียงเปลือกนอกเอาเป็นว่าให้มันเหมือน ๆ เข้าไว้พวกค่านิยมต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นช่วงลองผิดลองถูก ตัวอย่างเช่น "แฟน" ที่เคยมีอย่างพี่แม็ค ก็คงมีไปแบบให้สังคมรู้เพื่อนรู้ว่าฉันมีนะ เรียกกันพี่แม็ค น้องหมู กุ๊งกิ๊ง ฟรุ้งฟริ้งไปตามเรื่อง ไม่ได้เข้าใจว่า "แฟน" มันคือยังไง ? "รัก" มันคือยังไง ชีวิตฉาบฉวย และ ผิวเผิน หรือ เรื่องข้าวของเครื่องใช้ จ่ายแต่แบงค์พัน ค่ำลงไปเที่ยวชิค ๆ เก๋ ๆ ทำนองนี้
พอมาถึงต่างจังหวัด เธอคือเด็กจู ไม่ใช่คุณหนูจูเนียร์ เท้าติดดิน กินข้าวแกง ทำงานเอง ทำการบ้านเอง ไปเรียนเอง ซ้อนมอไซด์ เออ นี่คืออีกด้านไง ชีวิตคนจริง ๆ ซึ่งจูเนียร์เป็นคนดูดซับเร็วก็ดูดเอาค่านิยมตจว.มาไว้กับตัว ก็ได้รู้ว่า โลกที่ตัวเองเคยเจอมามันไม่ใช่ทั้งหมด หน้าพัง ๆ ก็ยังมีเพื่อนคบ โถึงสดชีวิตก็ไม่ได้เสียหาย กินข้าวแกง ไม่ใช้ของแบรนด์ ซ้อนมอไซด์มันก็ไม่ตาย หมูกะทะก็อร่อยใช้ได้พอ ๆ กับไอติมข้างตึก เมื่อปรับตัวและใจได้ชีวิตก็เป็นสุขดี
แต่ปัญหามันก็คืออยู่
หัวใจของจูเนียร์ที่เหมือนฟองน้ำ
ดูดซับทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว
ไหลไปกับสิ่งแวดล้อม
ประเภทเข้าเมืองตาหลิ่ว
จูเนียร์ก็จะหลิ่วตาตามโดยไว
ประกอบกับความเป็นเด็กใสอินโนเซนส์ ปัญหาก็คือโลกสองใบที่เจอมาตรฐานไม่เหมือนกัน เมื่อต้องกลับไปเจอโลกใบเดิมอีกหน เธอจะไหลตามกระแสไปอีกหรือเปล่า ? โลกสองใบถามว่าใบไหนผิด ใบไหนดีกว่ากัน โอ .... นี่ตอบยากเหมือนกันนะ มันคือค่านิยมที่แตกต่าง และ ความเหมาะสมเป็นเรื่องปัจเจก ความจำเป็นของคนเราไม่เหมือนกัน
จิตใจที่บริสุทธิ์ก็เหมือนผ้าขาว แต้มสีไหนก็ได้สีนั้น นี่โดนแต้มมาแล้วสองสี ชีวิตอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน อันหนึ่งก็สบ๊าย สบายด้านวัตถุ แต่ต้องรักษาภาพสุดชีวิต อีกอันหนึ่งก็ลำบากกายอยู่หลายอย่าง แต่ใจก็สบายดี โลกสองด้านที่แตกต่างกันอันไหนคือตัวของจูเนียร์ หรือ โลกสองโลกนี้อาจจะไม่ใช่ตัวจูเนียร์เลยก็ได้
โลกนี้ช่างกว้างใหญ่
เธอเห็นโลกมาแล้วสองใบ
และสองด้าน
เส้นทางสายใดที่เธอจะเลือก
หรืออาจมีทางสายที่สาม
ในโลกกว้างใหญ่ใบนี้
[Ugly Duckling] กึ่งวิพากษ์ (1) : ผู้หญิงแบบ "จูเนียร์" ... Purity โลกกว้างใหญ่ที่หัวใจต้องเรียนรู้
ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ค่อนไปทางฟุ้งเฟ้อ ยึดติดกับฐานะ หน้าตา และ กับดักทางสังคมอื่น ๆ เช่น การมีแฟน การเที่ยวเตร่สังสรรค์ การออกงาน จูเนียร์อยู่ในวังวนแบบนี้มาตลอด ยึดติดกับมันอยู่ไม่น้อย ซึ่งในความยึดติดนั้นมันไม่ได้ยืดเยื้อเรื้อรังถึงขั้นเสพติด ก็เกิดมาเจอแบบนี้เลยไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือ สังคม จูเนียร์จึงคิดว่าเรื่องเหล่านี้ก็คงเป็นเรื่องธรรมดา ปกติแล้วสิ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นก็มักจะมาพร้อมกับอีโก้ขั้นสุด การถูกถูก เหยียดหยาม คนที่ไม่เหมือนกัน หรือ คนที่ด้อยกว่า แต่กับจูเนียร์แล้วเธอรับค่านิยมด้านฐานะ หน้าตา สิ่งของ ฯลฯ มาโดยไม่ได้เก็บเอานิสัยเสีย ๆ ติดมาด้วย
อาจจะเป็นเพราะในครอบครัวที่แม้จะร่ำรวยปานใด แต่ก็ทรีตคนเป็นคน เวลาจูเนียร์พูดจากับพี่เลี้ยงก็ไม่ได้จิกหัว กับ คุณแม่ก็ไม่วี้ดว้ายเอาแต่ใจ อยู่กันด้วยสันติพอสมควร นิสัยพื้นฐานที่ก่อร่างขึ้นมาจากบ้านจากครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยเล็กที่สุดก็วางรากฐานไว้ได้ดี แต่เมื่อมาเผชิญสังคมแห่งแสงสี กับกลุ่มเพื่อนไฮโซฯ จิตใจของวัยรุ่นก็เหมือนฟองน้ำนั่นแหละ อะไรอยู่ใกล้ก็ดึงดูดเอามา ซึ่งสิ่งที่จูเนียร์ดูดเข้ามาก็คือมาตรฐานทางสังคมที่เธออยู่ ก็ไม่เคยเจอสังคมแบบอื่นนี่ จึงต้องยึดสิ่งนี้เป็นมาตรฐานเพื่อให้ได้รับการยอมรับ หน้าสวย รวย และ มีแฟน สิ่งคือสิ่งที่สังคมของเธอบอกว่าดีว่าถูกต้อง โดยเธออาจไม่ได้เข้าใจคำว่า สวย รวย และ แฟน อย่างแท้จริงก็เป็นได้
และ ด้วยมาตรฐานทางสังคมที่เธอ(คิดว่า)ต้องทำตาม เธอก็ตามมันไปและผลที่ได้คือ "หน้าพัง" ตามมาตรฐานสังคมที่เธอรู้จัก หน้าพังพินาศขนาดหนักจำเป็นต้องซ่อนตัว ซึ่งเมื่อนิสัยเสีย ๆ เอาแต่ใจ อีโก้เต็ม จูเนียร์ไม่มีติดมาด้วย ชีวิตนอกเมืองหลวงและมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดก็คือ โลกกว้างอีกใบที่จูเนียร์ไม่เคยรู้จัก ข้อดีอย่างหนึ่งของจูเนียร์ คือ เป็นคนที่เต็มใจยอมรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ แต่มันก็เป็นดาบสองคมเหมือนกัน เพราะ รายนี้ดูดซับสิ่งแวดล้อมเร็วมาก ๆ เหมือนฟองน้ำยังไงยังงั้น
แต่ด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิงใส ๆ สิ่งที่ดูดมาเลยมองว่าเป็นเพียงเปลือกนอกเอาเป็นว่าให้มันเหมือน ๆ เข้าไว้พวกค่านิยมต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นช่วงลองผิดลองถูก ตัวอย่างเช่น "แฟน" ที่เคยมีอย่างพี่แม็ค ก็คงมีไปแบบให้สังคมรู้เพื่อนรู้ว่าฉันมีนะ เรียกกันพี่แม็ค น้องหมู กุ๊งกิ๊ง ฟรุ้งฟริ้งไปตามเรื่อง ไม่ได้เข้าใจว่า "แฟน" มันคือยังไง ? "รัก" มันคือยังไง ชีวิตฉาบฉวย และ ผิวเผิน หรือ เรื่องข้าวของเครื่องใช้ จ่ายแต่แบงค์พัน ค่ำลงไปเที่ยวชิค ๆ เก๋ ๆ ทำนองนี้
พอมาถึงต่างจังหวัด เธอคือเด็กจู ไม่ใช่คุณหนูจูเนียร์ เท้าติดดิน กินข้าวแกง ทำงานเอง ทำการบ้านเอง ไปเรียนเอง ซ้อนมอไซด์ เออ นี่คืออีกด้านไง ชีวิตคนจริง ๆ ซึ่งจูเนียร์เป็นคนดูดซับเร็วก็ดูดเอาค่านิยมตจว.มาไว้กับตัว ก็ได้รู้ว่า โลกที่ตัวเองเคยเจอมามันไม่ใช่ทั้งหมด หน้าพัง ๆ ก็ยังมีเพื่อนคบ โถึงสดชีวิตก็ไม่ได้เสียหาย กินข้าวแกง ไม่ใช้ของแบรนด์ ซ้อนมอไซด์มันก็ไม่ตาย หมูกะทะก็อร่อยใช้ได้พอ ๆ กับไอติมข้างตึก เมื่อปรับตัวและใจได้ชีวิตก็เป็นสุขดี
หัวใจของจูเนียร์ที่เหมือนฟองน้ำ
ดูดซับทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว
ไหลไปกับสิ่งแวดล้อม
ประเภทเข้าเมืองตาหลิ่ว
จูเนียร์ก็จะหลิ่วตาตามโดยไว
ประกอบกับความเป็นเด็กใสอินโนเซนส์ ปัญหาก็คือโลกสองใบที่เจอมาตรฐานไม่เหมือนกัน เมื่อต้องกลับไปเจอโลกใบเดิมอีกหน เธอจะไหลตามกระแสไปอีกหรือเปล่า ? โลกสองใบถามว่าใบไหนผิด ใบไหนดีกว่ากัน โอ .... นี่ตอบยากเหมือนกันนะ มันคือค่านิยมที่แตกต่าง และ ความเหมาะสมเป็นเรื่องปัจเจก ความจำเป็นของคนเราไม่เหมือนกัน
จิตใจที่บริสุทธิ์ก็เหมือนผ้าขาว แต้มสีไหนก็ได้สีนั้น นี่โดนแต้มมาแล้วสองสี ชีวิตอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน อันหนึ่งก็สบ๊าย สบายด้านวัตถุ แต่ต้องรักษาภาพสุดชีวิต อีกอันหนึ่งก็ลำบากกายอยู่หลายอย่าง แต่ใจก็สบายดี โลกสองด้านที่แตกต่างกันอันไหนคือตัวของจูเนียร์ หรือ โลกสองโลกนี้อาจจะไม่ใช่ตัวจูเนียร์เลยก็ได้
เธอเห็นโลกมาแล้วสองใบ
และสองด้าน
เส้นทางสายใดที่เธอจะเลือก
หรืออาจมีทางสายที่สาม
ในโลกกว้างใหญ่ใบนี้