ก่อนอื่นท่านต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า 1. ผมไม่ได้ว่างขนาดตีหนึ่งตีสอง ต้องมานั่งตอบคำถามที่ผมตอบไปแล้ว แต่ผมก็เข้าใจมากขึ้นว่า คุณและแก๊งค์อริยะ (เพราะไม่เห็น มมม. ปฏิเสธว่าไม่ใช่) คงเป็นเด็กที่กำลังเรียนอยู่ มีเวลาไม่อ่านหนังสือ 2. ผมเชื่อพระไตรปิฏกก็แสดงให้เห็นแล้วว่าผมก็เชื่อนรกสวรรค์ พระพุทธเจ้า แต่ก็พอเข้าใจว่าเวลาเรียนไม่เรียน มัวแต่นิพพานเลยไม่เข้าใจคำตอบ ซึ่งผมว่ามันเพี้ยนเหมือนคนย้ำคิดย้ำทำมาก
ผมสรุปให้ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ จากกระทู้นี้ "
http://ppantip.com/topic/33711009"
มมม. กับแก๊งอริยะ เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้เท่านั้น และพวกเขาดูถูกคนอื่นที่ "เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์" ไม่ได้ว่าโง่
นิพพานของ อริยะ มมม. คือ (อริยะคงไม่ผิดนะครับ เพราะเห็นนิพพาน "บ่อย" และ นอกจากเห็นบ่อยแล้ว บางทีไม่รู้ตัว ก็นิพพานได้)
1. "นิพพานคือ เย็น จิตเย็นลงจากกิเลส เย็นลงชั่วคราว ก็นิพพานชั่วคราว เย็นลงถาวร แน่นอนคือพระอรหันต์"
2. "ทีนี้ ในวันๆหนึ่ง มันมีช่วงที่จิตว่างจากกิเลส ไม่รู้สึกมีตัวเรา ของเราอะไร แต่มันอยู่ได้ไม่นาน เราจะสบายใจ สุขใจ เพราะกิเลสไม่มารบกวน
เราเรียก ว่ามาต่อครับ เราเรียกว่า ช่วงที่เราเย็นลงจากการไม่ถูกกิเลสรบกวน คือนิพพานหรือเย็นนั่นเอง แต่มันเป็นเพราะเรายังไม่สามารถควบคุมมันได้ สักพักกิเลสก็มากินเราอีก สลับไปสลับมาเรื่อย จึงเรียกว่า นิพพานชิมลองหรือนิพพานชั่วคราว"
สรุปก็คือ
1. มมม. แอนด์เดอะแก๊ง ยอมรับแล้วว่า ได้นิพพาน และนิพพานคือการเย็นลงจากกิเลส นั่นคือเวลาเฉย ๆ ก็คือ "เวลานิพพาน"
2. การที่ไม่รู้สึกว่ามีตัวตนของเรา เราสบายใจสุขใจ เพราะไม่มีกิเลส คือนิพพาน
3. นิพพานถาวร ไม่มี เพราะ คุณ มมม. ไม่เชื่อว่าจะมีใครหมดทุกข์โดยสิ้นเชิง
ถ้างั้นผมถามคุณ มมม. ว่า
1. ถ้านิพพาน คือช่วงเวลาที่ไม่มีกิเลส อย่างนั้น คนคริสต์ คนศาสนาอื่น ที่ช่วงหนึ่งของวัน ไม่ทำอะไรนั่งเฉย ๆ อย่างนั้น เขาก็นิพพานใช่ไหม?
2. การที่ไม่รู้สึกว่ามีตัวตน แล้ว ทำไมถึงรู้สึกว่า สบายใจ สุขใจ
3.
"คุณ มมม. รู้หรือพิสูจน์ได้อย่างไรว่า นั่นคือ นิพพาน?" มีวิธีพิสูจน์ได้อย่างไร ว่า คุณ มมม. และแก๊ง รู้สึกถึงนิพพาน แบบเดียวกัน
4. แล้วทำไม คุณ มมม. ต้องอ่านหนังสือท่านพุทธทาส เพราะอ่านหรือไม่อ่าน
วันหนึ่ง ๆ คุณ มมม. ก็นิพพาน หลายครั้ง อยู่ดี
ตอบนะครับ ท่านอริยะ
ถึงท่านอริยะ มมม. เรื่องนิพพานชั่วคราว
ผมสรุปให้ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ จากกระทู้นี้ "http://ppantip.com/topic/33711009"
มมม. กับแก๊งอริยะ เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้เท่านั้น และพวกเขาดูถูกคนอื่นที่ "เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์" ไม่ได้ว่าโง่
นิพพานของ อริยะ มมม. คือ (อริยะคงไม่ผิดนะครับ เพราะเห็นนิพพาน "บ่อย" และ นอกจากเห็นบ่อยแล้ว บางทีไม่รู้ตัว ก็นิพพานได้)
1. "นิพพานคือ เย็น จิตเย็นลงจากกิเลส เย็นลงชั่วคราว ก็นิพพานชั่วคราว เย็นลงถาวร แน่นอนคือพระอรหันต์"
2. "ทีนี้ ในวันๆหนึ่ง มันมีช่วงที่จิตว่างจากกิเลส ไม่รู้สึกมีตัวเรา ของเราอะไร แต่มันอยู่ได้ไม่นาน เราจะสบายใจ สุขใจ เพราะกิเลสไม่มารบกวน
เราเรียก ว่ามาต่อครับ เราเรียกว่า ช่วงที่เราเย็นลงจากการไม่ถูกกิเลสรบกวน คือนิพพานหรือเย็นนั่นเอง แต่มันเป็นเพราะเรายังไม่สามารถควบคุมมันได้ สักพักกิเลสก็มากินเราอีก สลับไปสลับมาเรื่อย จึงเรียกว่า นิพพานชิมลองหรือนิพพานชั่วคราว"
สรุปก็คือ
1. มมม. แอนด์เดอะแก๊ง ยอมรับแล้วว่า ได้นิพพาน และนิพพานคือการเย็นลงจากกิเลส นั่นคือเวลาเฉย ๆ ก็คือ "เวลานิพพาน"
2. การที่ไม่รู้สึกว่ามีตัวตนของเรา เราสบายใจสุขใจ เพราะไม่มีกิเลส คือนิพพาน
3. นิพพานถาวร ไม่มี เพราะ คุณ มมม. ไม่เชื่อว่าจะมีใครหมดทุกข์โดยสิ้นเชิง
ถ้างั้นผมถามคุณ มมม. ว่า
1. ถ้านิพพาน คือช่วงเวลาที่ไม่มีกิเลส อย่างนั้น คนคริสต์ คนศาสนาอื่น ที่ช่วงหนึ่งของวัน ไม่ทำอะไรนั่งเฉย ๆ อย่างนั้น เขาก็นิพพานใช่ไหม?
2. การที่ไม่รู้สึกว่ามีตัวตน แล้ว ทำไมถึงรู้สึกว่า สบายใจ สุขใจ
3. "คุณ มมม. รู้หรือพิสูจน์ได้อย่างไรว่า นั่นคือ นิพพาน?" มีวิธีพิสูจน์ได้อย่างไร ว่า คุณ มมม. และแก๊ง รู้สึกถึงนิพพาน แบบเดียวกัน
4. แล้วทำไม คุณ มมม. ต้องอ่านหนังสือท่านพุทธทาส เพราะอ่านหรือไม่อ่าน วันหนึ่ง ๆ คุณ มมม. ก็นิพพาน หลายครั้ง อยู่ดี
ตอบนะครับ ท่านอริยะ