ตอนที่ 25
http://ppantip.com/topic/33683780
ตอนที่ 26 – ขอโอกาส
การที่ต้องจากกันไกลแบบกระทันหันทำให้ทั้งคู่ต่างใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าหัวใจที่โดนความคิดถึงกัดกินจะถูกเติมจนเต็มผ่านอ้อมกอดอบอุ่นของกันและกัน
คิดถึง
ศตภัทรกอดเธอพร้อมรอยยิ้ม อิ่มใจเหลือเกินกับความรู้สึกแบบนี้ ใจของเขาเต้นแรงเมื่อได้สัมผัสตัวนิ่มๆ หอมๆ ได้ยินเสียงลมหายใจของคนตัวเล็กก่อให้เกิดความสบายใจ ปลอดภัยเหมือนได้อกลับสู่บ้านที่จากไปนาน ชายหนุ่มยิ่งแน่ใจกว่าครั้งไหนกับความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ
รัตติดาราคือความรักที่เขาต้องการ ... เธอคนเดียวเท่านั้น
ทว่าคนในอ้อมแขนชายหนุ่มกลับไม่ยิ้มแย้มเช่นเขา ใบหน้าเล็กที่แนบกับอกกว้างแสนอบอุ่นเริ่มงอง้ำ
หลังจากเธอยืนยันแล้วว่าที่เห็นว่าเป็นชายหนุ่มจริงๆ จังหวะการเต้นของหัวใจของรัตติดารากลับสู่ภาวะปกติ ความรู้สึกโกรธม้วนตัวขึ้นมาจากเบื้องลึกของหัวใจ
เธอคิดถึงเขามากก็จริง อยากเจอ อยากพบหน้า อยากรู้ว่าเขาสบายดี ... รอคอยเขาทุกลมหายใจ แต่เธอก็มีเรื่องที่ไม่พอใจอยู่เช่นกัน เหมือนตะกอนขุ่นใต้น้ำยามถูกกวนจนละอองผงแห่งความโกรธระคนน้อยใจกับหลายเรื่องที่เกิดขึ้น พากันฟุ้งเต็มไปในความรู้สึกของรัตติดารา เธอรู้สึกแย่จนอยากจะทุบเขาแรงๆให้ความความทรมานในหัวใจที่มีได้ถูกระบายออกมาบ้าง แต่เธอกลัวว่าจะโดนเทวดาแฝดคนพี่ที่แสนจะรักน้องทำโทษเอาอีก
รัตติดาราเพิ่งง้อศตายุสำเร็จเองนะ!
หลังจากกลับจากห้องพักของณฉัตร ศตายุโกรธเธอมาก ... มากจนรัตติดาราง้องอนอยู่หลายวิธีกว่าที่ศตายุจะยอมคุยกับเธอได้ สุดท้ายก็บีบน้ำตาในการทำให้หัวใจของเทวดาอ่อนลง และยอมคืนดีด้วย
คนตัวเล็กเปลี่ยนเป้าหมายจากอยากทุบไปเป็นการดึงหูของศตภัทรแทน
นิ้วเล็กๆแต่ร้ายกาจดึงและบิดใบหูของชายหนุ่มเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับอ้อมกอดกลิ่นหอมๆ ร้องโวยวายรีบผละออกแทบไม่ทัน
“โอ๊ย! นี่ ปล่อยหูผมนะ คุณเร!” คนโดนลงโทษร้องประท้วง ทั้งตกใจทั้งเจ็บจนน้ำตาจะไหล จากซึ้งๆอยู่กลับกลายมาเป็นโหมดโหด ชายหนุ่มเปลี่ยนอารมณ์ตามยัยตัวเล็กของเขาแทบไม่ทัน!
“หนูเร! โธ่ เดี๋ยวหูนายบีก็หลุดหรอกครับ!” ศตายุปรากฏตัวเมื่อได้ยินเสียงน้องชายฝาแฝดร้องดัง เทวดาหนุ่มมองหูแดงก่ำของศตภัทรทำหน้าเหยเกตาม แต่เหมือนจะไม่เข้าหูรัตติดาราเลย เธอกัดฟันแน่น ออกแรงบิดจนทำให้อีกฝ่ายหน้าแดงก่ำ
“คุณเร ... ผมเจ็บ ปล่อยเถอะนะ โอยยย" น้ำตาทะลักออกจากดวงตาคมอย่างห้ามไม่ไหว ให้เขาเจออะไรร้ายแรงมากแค่ไหน จะโดนต่อย โดนตบเขายังอดทนไม่ร้องไห้ได้ แต่พอถูกบิดหูอย่างแรงจนหูเขาจะม้วนเป็นเลขแปด ผู้ชายเข้มแข็งอย่างศตภัทรก็หลั่งน้ำตาได้เหมือนกัน!
ศตภัทรจำไม่ได้จริงๆว่าครั้งสุดท้ายที่ถูกดึงหูนี่มันเมื่อไหร่! ลางๆเลือนๆในความทรงจำที่นานแสนนาน และคนที่จะทำแบบนี้ได้ก็มีแต่แม่เขาเท่านั้น!
“เจ็บเป็นคนเดียวหรือคะ! แล้วหนูเรล่ะคะ ไม่เจ็บหรือไง!” นัยน์ตาหญิงสาววาวด้วยความโกรธ พร้อมทั้งถามเขาเสียงดัง
ศตภัทรฟังจากเสียง ดูจากหน้าแล้วก็รู้ว่าเธอกำลังโกรธเขา ... โกรธมากด้วย!
แฝดพี่ถึงกับหันมองตามเสียงเข้ม แม้จะรู้อยู่ว่ารัตติดาราเก็บซ่อนความไม่พอใจไว้หลายเรื่อง หากหลายๆวันที่ผ่านมาหญิงสาวแสดงออกเพียงความเศร้าซึมหงอยเหงา บ่นคิดถึงศตภัทร ศตายุยังคิดอยู่ว่ารัตติดาราคงไม่น่าจะโกรธน้องชายฝาแฝดเขามาก เจอหน้าน่าจะดีใจ แต่ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาได้ยาก บ่อยครั้งที่มักจะแสดงออกตรงข้ามกับสิ่งที่เธอคิด ศตายุมองน้องชายที่กำลังหน้าแดงก็ได้แต่เอาใจช่วย
จะว่าไปแล้วแม้ศตภัทรจะโดน ทั้งพ่อแม่ ยายที่เสียไปดุและตีดัดนิสัยมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่พอพวกผู้ใหญ่โดนลูกอ้อนฉบับลูกคนเเล็กที่ไม่รู้ว่าไปร่ำเรียนวิชาอ้อนมาจากไหนเข้าหน่อยก็ลืมและให้อภัยง่ายๆกันหมด เจ้าตัวแสบประจำบ้านเลยไม่เคยคิดได้ว่าทำไมถึงโดนทำโทษ และเพราะเหตุผลนี้ทำให้ศตภัทรติดนิสัยเอาแต่ใจจนเคยตัว จนโตมาก็ยังติดนิสัยที่ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นจะส่งผลให้คนรอบข้างเจ็บปวดแค่ไหน
สมน้ำหน้าแฮะ...
ศตายุสงสารก็จริง แต่ก็อดพยักหน้าเอาใจช่วยคนที่พยายามจะดัดนิสัยตัวแสบของบ้านไม่ได้ ... โดนแฟนบิดหูแบบนี้ควรจะเข็ดบ้างนะ! จะได้คิดหน้าคิดหลังเสียบ้าง!
เมื่อรัตติดาราคิดว่าเขาทำให้เธอกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้องทรมานอยู่ทุกคืนวัน น้ำตาก็รื้นเอ่อเต็มสองดวงตาที่ร้อนผ่าว
“อยู่ดีๆก็มาโยนหนูเรให้เป็นพวกเดียวกับใครก็ไม่รู้ หนูเรเป็นคนแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วยังเรื่องคุณอลิซอีก ไหนว่าจะเล่าให้หนูเรฟัง แถมยังหายเงียบไปไม่ติดต่อกลับมาเลย คิดว่าหนูเรเป็นของตายหรือไงคะ คิดว่าจะทำยังไงใส่ก็ได้ใช่ไหมคะ!” ถามออกมาเสียงโกรธ ระดับความโกรธมากแค่ไหน แรงบิดก็เหมือนจะทวีมากขึ้นตามไปด้วย ศตภัทรคิดว่าถ้านานกว่านี้หูของเขาได้ขาดจริงๆแน่ๆ
“ผมรู้! ผมรู้ว่าคุณเจ็บ ... ขอโทษ ปล่อยผมเถอะนะครับ ... นะครับที่รัก ได้โปรด" ศตภัทรอ้อนวอนเสียงอ่อนเสียงหวาน เขาเพิ่งคิดได้ว่าแรงคนตัวเล็กจะมากแค่ไหนเชียว ดึงออกก็สิ้นเรื่อง! หากมือหนาต้องหยุดชะงักค้างไว้ในอากาศกับเสียงใสดุมา ดวงตากลมพราวโกรธบ่งบอกว่าเธอเอาจริงแน่นอน
“ห้ามดึงมือหนูเรออกนะคะ ไม่งั้นหนูเรจะไม่คุยกับพี่ภัทรอีกเลย"
“ครับๆ"
ศตภัทรสงสัยขึ้นมาทันที ความอวดเก่งในตัวเขาหายไปไหนหมดนะ! ทำไมต้องมากลัวผู้หญิงตัวเล็กๆด้วยเนี่ย!! ตั้งแต่เรื่องที่พยายามกดโทรศัพท์มาหาเธอตอนอยู่อเมริกาแล้ว ทำใจกล้าเท่าไหร่พอคิดว่าตัวเองทำผิดมากแค่ไหน ก็ป๊อดทุกครั้ง ... ให้ตายสิ! สุดท้ายก็ต้องมาโดนบิดหูอยู่แบบนี้
หญิงสาวจ้าวนักบิดมองดวงตาคมแดงก่ำเพราะความเจ็บ หายโมโหลงไปบ้างจึงยอมลดมือลง พูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจมาตลอดให้เขาฟัง
“หนูเรไม่ได้ไม่เชื่อพี่ภัทรสักหน่อย ไม่ได้จะไปอยู่ข้างคนอื่นด้วย! ทั้งๆที่หนูเรก็อยู่ข้างๆพี่มาตลอด อยู่ดีๆก็มาโยนหนูเรไปอยู่อีกฝั่ง อยากให้หนูเรไปนักใช่ไหมคะ!”
ศตภัทรยกมือลูบหูของเขาขึ้นลงไปมา ใบหูเขาชาจนต้องคลำดูว่ามันยังอยู่ดี ใจของเขาหล่นวาบไปถึงพื้นกับคำถามที่ทำให้เขาสร่างจากความเจ็บหูทันที ผวากับคำถามของรัตติดารา รีบคว้าร่างเล็กที่ผลุดลุกขึ้น ออกแรงเบาๆ ร่างเล็กก็ร่วงลงมาบนตักหนาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น กอดเธอแน่นด้วยกลัวว่าเธอจะหายไปจากเขาจริงๆ
“หนูเร อย่าพูดแบบนั้นสิครับ!"
แม้รัตติดาราพยายามสะบัดตัวให้หลุด แต่อ้อมแขนศตภัทรเหนียวแน่นยิ่งกว่างูตัวใหญ่อีก ดิ้นได้ไม่นานก็รู้สึกว่าเหนื่อยเปล่า หัวใจดวงน้อยของเธอยังไม่หายเจ็บกับดวงตาเย็นชาที่เขามองเธอตอนนั้นได้เลย
... อย่ามาแตะต้องตัวผม! พูดออกมาได้!
“ปล่อยนะคะ ไหนว่าไม่ให้แตะตัวไง! คนบ้า คนใจร้าย ไม่ฟังใครเลย คิดว่าโลกหมุนอยู่รอบตัวเองคนเดียวหรือไง!” เธอตัดพ้อเขาเสียงสั่น ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด หมดเรี่ยวแรงขัดขืน จนต้องปล่อยให้เขากอดเธอไว้อย่างนั้น
เสียงร้องไห้ และการต่อว่าตรงๆของหญิงสาวไม่ต่างกับมีดที่แทงเข้าที่เนื้อตัวและหัวใจคนฟัง เขานึกเรื่องวันนั้นออกทันที ความเจ็บปวดในอดีตทำให้เขาเผลอทำร้ายจิตใจคนที่ไม่รู้เรื่องด้วย ... รัตติดาราไม่รู้เรื่องอะไรด้วยแท้ๆ
“ผมขอโทษนะครับ" ศตภัทรรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเครื่องเสียงพังๆ แผ่นตกร่อง ได้แต่พูดคำเดิมๆ แต่ว่านั่นคือความรู้สึกแท้จริงของเขา เขาไม่คิดจะแก้ตัวอะไรทั้งนั้นกับความผิดที่เขาได้ทำไป หวังเพียงว่าเขาจะมีโอกาสแก้ตัวสักครั้ง
“ไม่ใช่ว่าทุกคนที่บริษัทฯ จะทำร้ายพี่ภัทรสักหน่อย ไม่ใช่จะมีแต่คนที่ยืนตรงข้ามพี่ หนูเร พี่นิก ฟ้า คุณอติภาพ พี่เมฆ พี่กร ทุกคนก็เชื่อพี่ภัทรกันหมดว่าพี่ภัทรไม่ใช่คนส่งข้อมูลนั่น ... คุณลุงศิระก็ด้วย คุณตรัยก็เหมือนกัน หลายๆคนพยายามช่วยพี่ภัทรกันทั้งนั้น ... ทำไมต้องทำตัวเหมือนไม่เชื่อใจคนอื่น ... ทำไมไม่ช่วยกันแก้ปัญหา ทำไมต้องหนีไปคนเดียว ... พี่ภัทรไม่เชื่อใจหนูเรหรือคะ ไม่เชื่อใจเพื่อนของพี่ภัทร ครอบครัว และคนที่ทำงานด้วยกันเลยหรือคะ?" รัตติดาราถามออกมา น้อยใจคนตัวสูงนัก และไม่ใช่เธอคนเดียวด้วยที่รู้สึกแบบนี้ จากคนร่าเริงอย่ากณิกยังถอนหายใจแทบตลอดเวลาบ่งบอกว่ากณิกก็เสียใจ และผิดหวังที่โดนทิ้งไปเงียบๆเหมือนกัน
“หนูเร ...” ศตภัทรนิ่งไปทันทีเมื่อถูกถาม กับบางเรื่องที่เขาไม่ทันคิด
เขานึกถึงคำถามของตัวเองที่มีต่อคนรักเก่าขึ้นมา
'ทำไมไม่เชื่อใจผม อลิซ'
ความไม่เชื่อใจในคนที่ตัวเองรัก และรักตัวเองนั้น เคยทำให้ศตภัทรเสียใจมากแค่ไหนเขาจำได้ดี ... เขาเองก็ไม่ต่างกับอลิซ ... ทำร้ายจิตใจคนที่รักเขามากขนาดนี้
“อย่าคิดว่าอยู่คนเดียวสิคะ อย่าขังตัวเองไว้กับอดีตที่เลวร้ายอีกเลย โลกใบนี้ยังมีอีกหลายด้านนะคะ" รัตติดาราใช้ฝ่ามือปาดน้ำใสๆที่ไหลออกมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก
เขาไม่ได้เจ็บกับความจริงที่รัตติดาราพูด หรือโดนปมแผลในหัวใจเขา แต่เป็นเพราะความอบอุ่นในน้ำเสียงที่เธอเอื้อนเอ่ย แววตาจริงใจที่มีให้เขาเสมอ กับความจริงที่เขาหลงลืมไป หัวใจที่เหมือนปิดตายจากทุกสิ่งหลังจากเกิดเรื่องราวในอดีตจนกลายเป็นแผลลึกมันถูกยาวิเศษจากความอ่อนโยนของหญิงสาวเยียวยาจนศตภัทรแทบไม่รู้สึกว่ามันเจ็บปวดอีกแล้ว
ที่เขาปวดใจจนร้องไห้ออกมา เป็นเพราะเขากำลังซาบซึ้งใจกับสิ่งที่ได้ยิน ...
ศตภัทรเอาแต่โทษตัวเองเพราะเป็นต้นเหตุให้พี่ชายฝาแฝดตาย ทำลายความหวังของพ่อจนโดนไล่ออกจากบ้าน พอมีคนรักกลับถูกเธอทรยศหักหลัง ครั้นมีปัญหาก็หันหน้าพึ่งใครไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนรอบตัวเขาจะเป็นคนแบบเดียวกันหมด ต่อให้รัตติดาราไม่ต้องเตือน ศตภัทรก็ควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ...
คนที่หลงทางมานานยิ้มขื่นๆ เมื่อต้องให้คนที่เด็กกว่านับสิบปีมาสอน มันน่าอายจนเขาเองยังส่ายหัวไปมากับความโง่งมของตัวเอง ชายหนุ่มกุมมือนุ่มไว้แน่น สบดวงตาคู่สวยที่กำลังมองมา
“ขอบคุณนะครับ"
“ฮึ! คนเอาแต่ใจ" หญิงสาวสะบัดหน้าหนี ริมฝีปากยื่นๆนั่นชวนให้คนมองอยากยื่นมือไปบีบอย่างหมั่นเขี้ยว แต่เขาก็ไม่กล้า กลัวว่าจะโดนโกรธหนักกว่าเดิม
“ผมรู้ว่าผมทำผิดไป ... คุณเรชอบกินช็อคโกแลตไหม ผมซื้อมาฝากคุณสามถุงโตๆเลยนะ นะ ... ดีกันนะครับ หนูเร" ศตภัทรทอดเสียงนุ่มๆ ใช้นัยน์ตาหวานชวนฝัน พยายามออดอ้อนง้องอนเธอชุดใหญ่ แม่ของศตภัทรที่ว่าใจแข็ง เจอลูกอ้อนของลูกชายคนเล็กยังยอมอ่อนให้ เห็นคนตัวเล็กยังเบือนหน้านี ก็เปลี่ยนเป็นกระซิบเบาๆข้างใบหูเล็กๆแทน
“ดีกันนะ นะครับ ดาร์ลิ้ง"
รัตติดาราตวัดสายตาเขียวปัดมองเขา ริมฝีปากบางคว่ำลง คิดหรือว่าจะเอาของโปรดมาง้อแล้วจะหายง่ายๆ
“ปล่อยค่ะ หนูเรจะไปทำความสะอาดบ้านต่อ ยังเหลือขัดห้องน้ำ ซักผ้ากองโต" รัตติดาราขยับลุก
เจ้าตัวคงรู้ดีว่าช็อคโกแลตสามถุง ... ไม่สิ ต่อให้เขาซื้อมาเป็นโหล ก็คงไม่อาจจะทำให้เธอหายโกรธเขาง่ายๆ แต่ศตภัทรยังไม่ยอมแพ้ ... เธอคงลืมไปแล้วว่าเขาไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาไล่เธอที่บ้านหลังนี้ จนกระทั่งวางแผนมาป่วนเพื่อให้รัตติดาราย้ายออก ถึงแม้ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรเมื่อศตภัทรหลงรักเธอ และเธอก็รักเขา เรื่องอะไรจะยอมไปง่ายๆ!
“งั้นผมให้ช่วยทำความสะอาดนะ" เขายอมปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ เดินหิ้วถังน้ำไปด้านในบ้าน โดยที่รัตติดาราเดินตามหลังไปติดๆ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูเรทำเอง พี่ภัทร!”
“คุณไปนั่งพักเฉยๆเถอะ ล้างห้องน้ำ ซักผ้าใช่ไหม เดี๋ยวผมจัดการเอง" ไม่ต้องรอคำตอบ ศตภัทรหมุนตัวเดินไวๆ พร้อมพับแขนเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินอมเทาขึ้นเหนือศอกระหว่างพาตัวเองไปยังห้องน้ำเล็กชั้นล่าง
รัตติดารากระพริบตาปริบๆ มองตาม 'คนเอาแต่ใจ' แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขอบคุณนะครับ หนูเร" เสียงศตายุดังขึ้น ทำให้รัตติดาราเพิ่งเห็นว่าเทวดายืนอยู่ไม่ห่าง ดวงตาปริ่มสุขมากมาย
“ยังไม่ได้หายโกรธค่ะ" รัตติดารารีบบอก
“โอย งอนให้พอเถอะครับ ช่วงเวลานี้แกล้งให้คุ้ม หายากๆ" ศตายุไม่เข้าข้างน้องชายฝาแฝดหรอก
“งั้นให้ล้างห้องน้ำ ตามด้วยซักผ้าม่าน ทำกับข้าวสามมื้อด้วยดีไหมคะ" รัตติดาราเริ่มมองหางานให้ศตภัทรทำ คนเป็นพี่ชายยักไหล่ งานนี้เขาอยู่ฝ่ายเดียวกับรัตติดารา อยากทำอะไรก็เชิญ ดีเสียอีก เจ้าตัวจะได้เข็ดหลาบเสียบ้าง!
รักละมุน ~ หอมกลิ่นแก้ว ตอนที่ 26 By ปิ่นนลิน
ตอนที่ 26 – ขอโอกาส
การที่ต้องจากกันไกลแบบกระทันหันทำให้ทั้งคู่ต่างใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าหัวใจที่โดนความคิดถึงกัดกินจะถูกเติมจนเต็มผ่านอ้อมกอดอบอุ่นของกันและกัน
คิดถึง
ศตภัทรกอดเธอพร้อมรอยยิ้ม อิ่มใจเหลือเกินกับความรู้สึกแบบนี้ ใจของเขาเต้นแรงเมื่อได้สัมผัสตัวนิ่มๆ หอมๆ ได้ยินเสียงลมหายใจของคนตัวเล็กก่อให้เกิดความสบายใจ ปลอดภัยเหมือนได้อกลับสู่บ้านที่จากไปนาน ชายหนุ่มยิ่งแน่ใจกว่าครั้งไหนกับความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ
รัตติดาราคือความรักที่เขาต้องการ ... เธอคนเดียวเท่านั้น
ทว่าคนในอ้อมแขนชายหนุ่มกลับไม่ยิ้มแย้มเช่นเขา ใบหน้าเล็กที่แนบกับอกกว้างแสนอบอุ่นเริ่มงอง้ำ
หลังจากเธอยืนยันแล้วว่าที่เห็นว่าเป็นชายหนุ่มจริงๆ จังหวะการเต้นของหัวใจของรัตติดารากลับสู่ภาวะปกติ ความรู้สึกโกรธม้วนตัวขึ้นมาจากเบื้องลึกของหัวใจ
เธอคิดถึงเขามากก็จริง อยากเจอ อยากพบหน้า อยากรู้ว่าเขาสบายดี ... รอคอยเขาทุกลมหายใจ แต่เธอก็มีเรื่องที่ไม่พอใจอยู่เช่นกัน เหมือนตะกอนขุ่นใต้น้ำยามถูกกวนจนละอองผงแห่งความโกรธระคนน้อยใจกับหลายเรื่องที่เกิดขึ้น พากันฟุ้งเต็มไปในความรู้สึกของรัตติดารา เธอรู้สึกแย่จนอยากจะทุบเขาแรงๆให้ความความทรมานในหัวใจที่มีได้ถูกระบายออกมาบ้าง แต่เธอกลัวว่าจะโดนเทวดาแฝดคนพี่ที่แสนจะรักน้องทำโทษเอาอีก
รัตติดาราเพิ่งง้อศตายุสำเร็จเองนะ!
หลังจากกลับจากห้องพักของณฉัตร ศตายุโกรธเธอมาก ... มากจนรัตติดาราง้องอนอยู่หลายวิธีกว่าที่ศตายุจะยอมคุยกับเธอได้ สุดท้ายก็บีบน้ำตาในการทำให้หัวใจของเทวดาอ่อนลง และยอมคืนดีด้วย
คนตัวเล็กเปลี่ยนเป้าหมายจากอยากทุบไปเป็นการดึงหูของศตภัทรแทน
นิ้วเล็กๆแต่ร้ายกาจดึงและบิดใบหูของชายหนุ่มเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับอ้อมกอดกลิ่นหอมๆ ร้องโวยวายรีบผละออกแทบไม่ทัน
“โอ๊ย! นี่ ปล่อยหูผมนะ คุณเร!” คนโดนลงโทษร้องประท้วง ทั้งตกใจทั้งเจ็บจนน้ำตาจะไหล จากซึ้งๆอยู่กลับกลายมาเป็นโหมดโหด ชายหนุ่มเปลี่ยนอารมณ์ตามยัยตัวเล็กของเขาแทบไม่ทัน!
“หนูเร! โธ่ เดี๋ยวหูนายบีก็หลุดหรอกครับ!” ศตายุปรากฏตัวเมื่อได้ยินเสียงน้องชายฝาแฝดร้องดัง เทวดาหนุ่มมองหูแดงก่ำของศตภัทรทำหน้าเหยเกตาม แต่เหมือนจะไม่เข้าหูรัตติดาราเลย เธอกัดฟันแน่น ออกแรงบิดจนทำให้อีกฝ่ายหน้าแดงก่ำ
“คุณเร ... ผมเจ็บ ปล่อยเถอะนะ โอยยย" น้ำตาทะลักออกจากดวงตาคมอย่างห้ามไม่ไหว ให้เขาเจออะไรร้ายแรงมากแค่ไหน จะโดนต่อย โดนตบเขายังอดทนไม่ร้องไห้ได้ แต่พอถูกบิดหูอย่างแรงจนหูเขาจะม้วนเป็นเลขแปด ผู้ชายเข้มแข็งอย่างศตภัทรก็หลั่งน้ำตาได้เหมือนกัน!
ศตภัทรจำไม่ได้จริงๆว่าครั้งสุดท้ายที่ถูกดึงหูนี่มันเมื่อไหร่! ลางๆเลือนๆในความทรงจำที่นานแสนนาน และคนที่จะทำแบบนี้ได้ก็มีแต่แม่เขาเท่านั้น!
“เจ็บเป็นคนเดียวหรือคะ! แล้วหนูเรล่ะคะ ไม่เจ็บหรือไง!” นัยน์ตาหญิงสาววาวด้วยความโกรธ พร้อมทั้งถามเขาเสียงดัง
ศตภัทรฟังจากเสียง ดูจากหน้าแล้วก็รู้ว่าเธอกำลังโกรธเขา ... โกรธมากด้วย!
แฝดพี่ถึงกับหันมองตามเสียงเข้ม แม้จะรู้อยู่ว่ารัตติดาราเก็บซ่อนความไม่พอใจไว้หลายเรื่อง หากหลายๆวันที่ผ่านมาหญิงสาวแสดงออกเพียงความเศร้าซึมหงอยเหงา บ่นคิดถึงศตภัทร ศตายุยังคิดอยู่ว่ารัตติดาราคงไม่น่าจะโกรธน้องชายฝาแฝดเขามาก เจอหน้าน่าจะดีใจ แต่ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาได้ยาก บ่อยครั้งที่มักจะแสดงออกตรงข้ามกับสิ่งที่เธอคิด ศตายุมองน้องชายที่กำลังหน้าแดงก็ได้แต่เอาใจช่วย
จะว่าไปแล้วแม้ศตภัทรจะโดน ทั้งพ่อแม่ ยายที่เสียไปดุและตีดัดนิสัยมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่พอพวกผู้ใหญ่โดนลูกอ้อนฉบับลูกคนเเล็กที่ไม่รู้ว่าไปร่ำเรียนวิชาอ้อนมาจากไหนเข้าหน่อยก็ลืมและให้อภัยง่ายๆกันหมด เจ้าตัวแสบประจำบ้านเลยไม่เคยคิดได้ว่าทำไมถึงโดนทำโทษ และเพราะเหตุผลนี้ทำให้ศตภัทรติดนิสัยเอาแต่ใจจนเคยตัว จนโตมาก็ยังติดนิสัยที่ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นจะส่งผลให้คนรอบข้างเจ็บปวดแค่ไหน
สมน้ำหน้าแฮะ...
ศตายุสงสารก็จริง แต่ก็อดพยักหน้าเอาใจช่วยคนที่พยายามจะดัดนิสัยตัวแสบของบ้านไม่ได้ ... โดนแฟนบิดหูแบบนี้ควรจะเข็ดบ้างนะ! จะได้คิดหน้าคิดหลังเสียบ้าง!
เมื่อรัตติดาราคิดว่าเขาทำให้เธอกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้องทรมานอยู่ทุกคืนวัน น้ำตาก็รื้นเอ่อเต็มสองดวงตาที่ร้อนผ่าว
“อยู่ดีๆก็มาโยนหนูเรให้เป็นพวกเดียวกับใครก็ไม่รู้ หนูเรเป็นคนแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วยังเรื่องคุณอลิซอีก ไหนว่าจะเล่าให้หนูเรฟัง แถมยังหายเงียบไปไม่ติดต่อกลับมาเลย คิดว่าหนูเรเป็นของตายหรือไงคะ คิดว่าจะทำยังไงใส่ก็ได้ใช่ไหมคะ!” ถามออกมาเสียงโกรธ ระดับความโกรธมากแค่ไหน แรงบิดก็เหมือนจะทวีมากขึ้นตามไปด้วย ศตภัทรคิดว่าถ้านานกว่านี้หูของเขาได้ขาดจริงๆแน่ๆ
“ผมรู้! ผมรู้ว่าคุณเจ็บ ... ขอโทษ ปล่อยผมเถอะนะครับ ... นะครับที่รัก ได้โปรด" ศตภัทรอ้อนวอนเสียงอ่อนเสียงหวาน เขาเพิ่งคิดได้ว่าแรงคนตัวเล็กจะมากแค่ไหนเชียว ดึงออกก็สิ้นเรื่อง! หากมือหนาต้องหยุดชะงักค้างไว้ในอากาศกับเสียงใสดุมา ดวงตากลมพราวโกรธบ่งบอกว่าเธอเอาจริงแน่นอน
“ห้ามดึงมือหนูเรออกนะคะ ไม่งั้นหนูเรจะไม่คุยกับพี่ภัทรอีกเลย"
“ครับๆ"
ศตภัทรสงสัยขึ้นมาทันที ความอวดเก่งในตัวเขาหายไปไหนหมดนะ! ทำไมต้องมากลัวผู้หญิงตัวเล็กๆด้วยเนี่ย!! ตั้งแต่เรื่องที่พยายามกดโทรศัพท์มาหาเธอตอนอยู่อเมริกาแล้ว ทำใจกล้าเท่าไหร่พอคิดว่าตัวเองทำผิดมากแค่ไหน ก็ป๊อดทุกครั้ง ... ให้ตายสิ! สุดท้ายก็ต้องมาโดนบิดหูอยู่แบบนี้
หญิงสาวจ้าวนักบิดมองดวงตาคมแดงก่ำเพราะความเจ็บ หายโมโหลงไปบ้างจึงยอมลดมือลง พูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจมาตลอดให้เขาฟัง
“หนูเรไม่ได้ไม่เชื่อพี่ภัทรสักหน่อย ไม่ได้จะไปอยู่ข้างคนอื่นด้วย! ทั้งๆที่หนูเรก็อยู่ข้างๆพี่มาตลอด อยู่ดีๆก็มาโยนหนูเรไปอยู่อีกฝั่ง อยากให้หนูเรไปนักใช่ไหมคะ!”
ศตภัทรยกมือลูบหูของเขาขึ้นลงไปมา ใบหูเขาชาจนต้องคลำดูว่ามันยังอยู่ดี ใจของเขาหล่นวาบไปถึงพื้นกับคำถามที่ทำให้เขาสร่างจากความเจ็บหูทันที ผวากับคำถามของรัตติดารา รีบคว้าร่างเล็กที่ผลุดลุกขึ้น ออกแรงเบาๆ ร่างเล็กก็ร่วงลงมาบนตักหนาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น กอดเธอแน่นด้วยกลัวว่าเธอจะหายไปจากเขาจริงๆ
“หนูเร อย่าพูดแบบนั้นสิครับ!"
แม้รัตติดาราพยายามสะบัดตัวให้หลุด แต่อ้อมแขนศตภัทรเหนียวแน่นยิ่งกว่างูตัวใหญ่อีก ดิ้นได้ไม่นานก็รู้สึกว่าเหนื่อยเปล่า หัวใจดวงน้อยของเธอยังไม่หายเจ็บกับดวงตาเย็นชาที่เขามองเธอตอนนั้นได้เลย
... อย่ามาแตะต้องตัวผม! พูดออกมาได้!
“ปล่อยนะคะ ไหนว่าไม่ให้แตะตัวไง! คนบ้า คนใจร้าย ไม่ฟังใครเลย คิดว่าโลกหมุนอยู่รอบตัวเองคนเดียวหรือไง!” เธอตัดพ้อเขาเสียงสั่น ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด หมดเรี่ยวแรงขัดขืน จนต้องปล่อยให้เขากอดเธอไว้อย่างนั้น
เสียงร้องไห้ และการต่อว่าตรงๆของหญิงสาวไม่ต่างกับมีดที่แทงเข้าที่เนื้อตัวและหัวใจคนฟัง เขานึกเรื่องวันนั้นออกทันที ความเจ็บปวดในอดีตทำให้เขาเผลอทำร้ายจิตใจคนที่ไม่รู้เรื่องด้วย ... รัตติดาราไม่รู้เรื่องอะไรด้วยแท้ๆ
“ผมขอโทษนะครับ" ศตภัทรรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเครื่องเสียงพังๆ แผ่นตกร่อง ได้แต่พูดคำเดิมๆ แต่ว่านั่นคือความรู้สึกแท้จริงของเขา เขาไม่คิดจะแก้ตัวอะไรทั้งนั้นกับความผิดที่เขาได้ทำไป หวังเพียงว่าเขาจะมีโอกาสแก้ตัวสักครั้ง
“ไม่ใช่ว่าทุกคนที่บริษัทฯ จะทำร้ายพี่ภัทรสักหน่อย ไม่ใช่จะมีแต่คนที่ยืนตรงข้ามพี่ หนูเร พี่นิก ฟ้า คุณอติภาพ พี่เมฆ พี่กร ทุกคนก็เชื่อพี่ภัทรกันหมดว่าพี่ภัทรไม่ใช่คนส่งข้อมูลนั่น ... คุณลุงศิระก็ด้วย คุณตรัยก็เหมือนกัน หลายๆคนพยายามช่วยพี่ภัทรกันทั้งนั้น ... ทำไมต้องทำตัวเหมือนไม่เชื่อใจคนอื่น ... ทำไมไม่ช่วยกันแก้ปัญหา ทำไมต้องหนีไปคนเดียว ... พี่ภัทรไม่เชื่อใจหนูเรหรือคะ ไม่เชื่อใจเพื่อนของพี่ภัทร ครอบครัว และคนที่ทำงานด้วยกันเลยหรือคะ?" รัตติดาราถามออกมา น้อยใจคนตัวสูงนัก และไม่ใช่เธอคนเดียวด้วยที่รู้สึกแบบนี้ จากคนร่าเริงอย่ากณิกยังถอนหายใจแทบตลอดเวลาบ่งบอกว่ากณิกก็เสียใจ และผิดหวังที่โดนทิ้งไปเงียบๆเหมือนกัน
“หนูเร ...” ศตภัทรนิ่งไปทันทีเมื่อถูกถาม กับบางเรื่องที่เขาไม่ทันคิด
เขานึกถึงคำถามของตัวเองที่มีต่อคนรักเก่าขึ้นมา
'ทำไมไม่เชื่อใจผม อลิซ'
ความไม่เชื่อใจในคนที่ตัวเองรัก และรักตัวเองนั้น เคยทำให้ศตภัทรเสียใจมากแค่ไหนเขาจำได้ดี ... เขาเองก็ไม่ต่างกับอลิซ ... ทำร้ายจิตใจคนที่รักเขามากขนาดนี้
“อย่าคิดว่าอยู่คนเดียวสิคะ อย่าขังตัวเองไว้กับอดีตที่เลวร้ายอีกเลย โลกใบนี้ยังมีอีกหลายด้านนะคะ" รัตติดาราใช้ฝ่ามือปาดน้ำใสๆที่ไหลออกมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก
เขาไม่ได้เจ็บกับความจริงที่รัตติดาราพูด หรือโดนปมแผลในหัวใจเขา แต่เป็นเพราะความอบอุ่นในน้ำเสียงที่เธอเอื้อนเอ่ย แววตาจริงใจที่มีให้เขาเสมอ กับความจริงที่เขาหลงลืมไป หัวใจที่เหมือนปิดตายจากทุกสิ่งหลังจากเกิดเรื่องราวในอดีตจนกลายเป็นแผลลึกมันถูกยาวิเศษจากความอ่อนโยนของหญิงสาวเยียวยาจนศตภัทรแทบไม่รู้สึกว่ามันเจ็บปวดอีกแล้ว
ที่เขาปวดใจจนร้องไห้ออกมา เป็นเพราะเขากำลังซาบซึ้งใจกับสิ่งที่ได้ยิน ...
ศตภัทรเอาแต่โทษตัวเองเพราะเป็นต้นเหตุให้พี่ชายฝาแฝดตาย ทำลายความหวังของพ่อจนโดนไล่ออกจากบ้าน พอมีคนรักกลับถูกเธอทรยศหักหลัง ครั้นมีปัญหาก็หันหน้าพึ่งใครไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนรอบตัวเขาจะเป็นคนแบบเดียวกันหมด ต่อให้รัตติดาราไม่ต้องเตือน ศตภัทรก็ควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ...
คนที่หลงทางมานานยิ้มขื่นๆ เมื่อต้องให้คนที่เด็กกว่านับสิบปีมาสอน มันน่าอายจนเขาเองยังส่ายหัวไปมากับความโง่งมของตัวเอง ชายหนุ่มกุมมือนุ่มไว้แน่น สบดวงตาคู่สวยที่กำลังมองมา
“ขอบคุณนะครับ"
“ฮึ! คนเอาแต่ใจ" หญิงสาวสะบัดหน้าหนี ริมฝีปากยื่นๆนั่นชวนให้คนมองอยากยื่นมือไปบีบอย่างหมั่นเขี้ยว แต่เขาก็ไม่กล้า กลัวว่าจะโดนโกรธหนักกว่าเดิม
“ผมรู้ว่าผมทำผิดไป ... คุณเรชอบกินช็อคโกแลตไหม ผมซื้อมาฝากคุณสามถุงโตๆเลยนะ นะ ... ดีกันนะครับ หนูเร" ศตภัทรทอดเสียงนุ่มๆ ใช้นัยน์ตาหวานชวนฝัน พยายามออดอ้อนง้องอนเธอชุดใหญ่ แม่ของศตภัทรที่ว่าใจแข็ง เจอลูกอ้อนของลูกชายคนเล็กยังยอมอ่อนให้ เห็นคนตัวเล็กยังเบือนหน้านี ก็เปลี่ยนเป็นกระซิบเบาๆข้างใบหูเล็กๆแทน
“ดีกันนะ นะครับ ดาร์ลิ้ง"
รัตติดาราตวัดสายตาเขียวปัดมองเขา ริมฝีปากบางคว่ำลง คิดหรือว่าจะเอาของโปรดมาง้อแล้วจะหายง่ายๆ
“ปล่อยค่ะ หนูเรจะไปทำความสะอาดบ้านต่อ ยังเหลือขัดห้องน้ำ ซักผ้ากองโต" รัตติดาราขยับลุก
เจ้าตัวคงรู้ดีว่าช็อคโกแลตสามถุง ... ไม่สิ ต่อให้เขาซื้อมาเป็นโหล ก็คงไม่อาจจะทำให้เธอหายโกรธเขาง่ายๆ แต่ศตภัทรยังไม่ยอมแพ้ ... เธอคงลืมไปแล้วว่าเขาไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาไล่เธอที่บ้านหลังนี้ จนกระทั่งวางแผนมาป่วนเพื่อให้รัตติดาราย้ายออก ถึงแม้ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรเมื่อศตภัทรหลงรักเธอ และเธอก็รักเขา เรื่องอะไรจะยอมไปง่ายๆ!
“งั้นผมให้ช่วยทำความสะอาดนะ" เขายอมปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ เดินหิ้วถังน้ำไปด้านในบ้าน โดยที่รัตติดาราเดินตามหลังไปติดๆ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูเรทำเอง พี่ภัทร!”
“คุณไปนั่งพักเฉยๆเถอะ ล้างห้องน้ำ ซักผ้าใช่ไหม เดี๋ยวผมจัดการเอง" ไม่ต้องรอคำตอบ ศตภัทรหมุนตัวเดินไวๆ พร้อมพับแขนเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินอมเทาขึ้นเหนือศอกระหว่างพาตัวเองไปยังห้องน้ำเล็กชั้นล่าง
รัตติดารากระพริบตาปริบๆ มองตาม 'คนเอาแต่ใจ' แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขอบคุณนะครับ หนูเร" เสียงศตายุดังขึ้น ทำให้รัตติดาราเพิ่งเห็นว่าเทวดายืนอยู่ไม่ห่าง ดวงตาปริ่มสุขมากมาย
“ยังไม่ได้หายโกรธค่ะ" รัตติดารารีบบอก
“โอย งอนให้พอเถอะครับ ช่วงเวลานี้แกล้งให้คุ้ม หายากๆ" ศตายุไม่เข้าข้างน้องชายฝาแฝดหรอก
“งั้นให้ล้างห้องน้ำ ตามด้วยซักผ้าม่าน ทำกับข้าวสามมื้อด้วยดีไหมคะ" รัตติดาราเริ่มมองหางานให้ศตภัทรทำ คนเป็นพี่ชายยักไหล่ งานนี้เขาอยู่ฝ่ายเดียวกับรัตติดารา อยากทำอะไรก็เชิญ ดีเสียอีก เจ้าตัวจะได้เข็ดหลาบเสียบ้าง!