สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องอึดอัดใจเรื่องนึงจะมาปรึกษาเพื่อนๆหลายๆคนในพันทิป เพราะตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุผ่านมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ความรู้สึกของผมคำเดียวที่รู้สึกก็คือ "ผมไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจอะไรเลย" ว่าอะไรมันคือเหตุผลของผู้หญิงคนนึงที่บอกเลิกผู้ชายคนนึงได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
เรื่องมันเริ่มขึ้นจากว่า คือเธอคนนี้ เป็นเพื่อนผมตั้งเเต่ม.ปลายเเล้วล่ะครับ เเต่ตอนนั้นเราสองคนอยู่กันคนละห้อง ผมเรียนสองภาษา ส่วนเธอเรียนสายสามัญ ครั้งเเรกที่เรารู้จักกัน ก็คือรู้จักกันผ่านทางเพื่อนผมครับ คือเธอเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที พอผมได้มารู้จักเพื่อนคนนี้ ก็เลยกลายเป็นว่าเราสองคนเลยได้ค่อยๆทำความรู้จักกัน ก็เป็นเพื่อนกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งจบม.6 ครับ ผมก็ยังไม่ได้คิด ไม่ได้จะจริงเธอคนนี้หรอก จนเราสองคนก็ต่างเเยกย้ายกันเข้ามหาลัยตามชีวิตของเเต่ละคน
เเต่มันกลายเป็นว่า ตัวผมเองดันเป็นฝ่ายที่ชอบทักไลน์ไปหาเธอ เราสองคนก็คุยกันเรื่อยๆมา จนวันหนึ่งตัวผมเองก็รู้สึกได้ว่าความรู้สึกที่ผมรู้สึกกับเธอมันเริ่มเปลี่ยนไป รู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกัน เเรกๆที่รู้สึก ผมก็ยังไม่กล้าบอกเธอตรงๆหรอกครับ เพราะกลัวประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอย เหมือนที่ผมเคยชอบเพื่อนคนนึง เเล้วพอเค้ารู้หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันก็ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกเลย
ผมก็คุยกับเธอเรื่อยๆมาประมาณเกือบสองปีครับ โดยช่วงสองปีนี้ ผมก็เป็นฝ่ายชวนเธอไปเที่ยวบ้าง กินข้าวบ้าง นัดเจอกันบ้างตามประสา ผมว่าเธอก็คงน่าจะรู้บ้างเเหละว่าตัวผมเเอบคิดอะไรกับเธออยู่ จนกระทั่ง วันนึง ผมก็ตัดสินใจบอกความจริงกับเธอไปว่า "เรารู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายๆกัน เราสองคนลองมาคุยๆกันดูมั้ย" ซึ่งผมก็รอลุ้นคำตอบนานมากกกกกก ใจนึงก็ทำใจเผื่อไว้เเล้วส่วนหนึ่งนะครับ เเต่สุดท้ายกลายเป็นว่า เธอตอบมาว่า "โอเค งั้นเราสองคนคุยๆกันนะ" ผมจำความรู้สึกตอนนั้นได้นะ ผมจำได้ว่าผมดีใจมากกกก
ตั้งเเต่วันที่เราตกลงคบกัน ชีวิตของผมมันเปลี่ยนไปเลยนะ ผมรู้สึกว่ามันมีคนอีกคนนึงที่เราต้องดูเเลเค้า เราต้องคอยปกป้องเค้า เเต่ก็ด้วยความรักมากมายที่ผมมีนั่นเเหละครับ มันเลยกลายเป็นบ่อเกิดของความน้อยใจของตัวผมเอง ซึ่งผมไม่รู้นะ ว่าผมเป็นผู้ชายที่คิดมากเกินไปรึเปล่า
เเต่สิ่งที่มันทำให้ผมคิดมากก็คือ
-โทรศัพท์ไป ก็ไม่ค่อยรับ อ้างว่าติดธุระนู่นนี่บ้าง วันนึงผมจะคุยกับเธอได้เเค่ช่วงตอนที่เธอนั่งรถเมล์กลับบ้านเท่านั้น เพราะพอเธอกลับถึงบ้านเเล้ว เธอบอกว่าไม่ค่อยสะดวก เนื่องจากมีงานบ้านหลายๆอย่างต้องทำ ซึ่งอันนี้ผมพอเข้าใจได้
-ไลน์ไปหา ก็ไม่ค่อยตอบ เช่น ถ้าเธอทำงาน เธอจะไม่เเตะโทรศัพท์เลย เลยกลายเป็นว่าผมกลายเป็นฝ่ายที่รอเธอตอบอยู่ฝ่ายเดียว ผมเป็นอย่างงี้ตลอดเลยนะ ที่รอเธอตอบ จนผมหลับไปพร้อมกับความหวังลมๆเเล้งๆของตัวเอง ซึ่งผมมาเเอบคิดว่า ถ้าเราเป็นคนสำคัญสำหรับเค้าจริงๆ ทำไมเค้าไม่หาเวลามาตอบเราบ้าง เเค่ตอบกลับมาว่า "วันนี้ไม่ว่างนะ มีงาน ต้องทำงาน" ถ้าผมได้ยินเเค่นี้ ผมก็โอเคล่ะครับ เเต่ผมจำได้นะว่าตลอดเวลาที่คบกันมา ผมเทบจะไม่เคยได้ยินเธอบอกเหตุผลที่เธอหายไปเลย
ซึ่งเเรกๆผมไม่ซีเรียสกับเรื่องจุกจิกพวกนี้เลยนะ เพราะตัวผมเป็นคนบอกเองว่าระยะทางมันไม่มีผลกับเราหรอก ถ้าเรารักกันมั่นคงพอ เเต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่กล่าวมา มันเริ่มทำให้ความน้อยใจมันเริ่มก่อตัวขึ้น ซึ่งผมก็เลือกที่จะเป็นฝ่ายเก็บไว้ เพราะไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราสงคนมีปัญหา
ผมพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ของเราสองคนมาเรื่อยๆจนใกล้วันครบรอบหกเดือนของเรา เเต่วันสุดท้ายหลังผมสอบมิดเทอมเสร็จ เธอกลับไลน์มาบอกผมว่า "เราว่าเราสองคนเลิกกันเถอะ เราอยากพูดเเบบนี้มาตั้งนานเเล้ว เรารู้สึกว่าเราสองคนต่างกันเกินไป เธอเเคร์เเต่ความรู้สึกของตัวเอง จบกันเเค่นี้นะ" วันนั้นผมมึนไปเลยนะ ไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลยว่าอะไรมันคือสาเหตุที่มันทำให้เราสองคนต้องเลิกกัน เเล้วไอ้คำว่า "เห็นเเก่ตัว"ที่เธอพูดกับผม มันหมายความว่ายังไง
จนผมถามเธอไปว่า เราเห็นเเก่ตัวเรื่องอะไรหรอ บอกเราได้มั้ย เราจะพยายามปรับปรุงตัว เธอกลับตอบกลับมาว่า เธอรู้มั้ยว่าที่ผ่านมา เธอเอาเเต่สนใจเรื่องของตัวเอง ผมยอมรับว่าช่วงนั้น ผมมีเรื่องเครียดๆเยอะเเยะไปหมด ทั้งเรื่องเพื่อน เรื่องเรียน เรื่องงาน ซึ่งการที่ผมไประบายกับเธอ ผมไม่ได้จะต้องการให้เธอเครียดไปกับผมนะครับ ผมเเค่ระบาย เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ผมสบายใจที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังได้ เเต่เธอกลับตีเจตนาของผมผิดไป
สุดท้าย ผมพิมพ์ไลน์ไปยาวมาก เเต่เธอก็ไม่ได้ตอบ เเละไม่เเม้เเต่อ่านไลน์ผมด้วยซ้ำ สุดท้ายผมเลยทิ้งท้ายไว้เเค่ว่า "เราอยากคุยกับเธอนะ ถ้าเธอพร้อมจะคุยกับเราเมื่อไหร่ พิมพ์กลับมานะ เราจะรอ" เเต่ตั้งเเต่วันนั้นเป็นต้นมา กลายเป็นว่าเราสองคนไม่ได้คุยกันอีกเลย
หรือว่าเพื่อนๆคิดว่ายังไงกันครับ ผมเห็นเเก่ตัวจริงๆอย่างที่เธอบอกรึเปล่า?! การที่เราเลือกจะระบายทุกอย่างกับคนที่เรารัก มันกลายเป็นเรื่องเห็นเเก่ตัวไปเเล้วหรอครับ ที่ผ่านมาผมเลือกที่เก็บความน้อยใจไว้กับตัวเองคนเดียว ผมเลือกที่จะไม่พูด เเต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้เราสองคนเลิกกันมันกลายเป็นเพราะคำว่า"เห็นเเก่ตัว"ที่เธอบอกผมมา ยังไงผมก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบที่จะเป็นคำเเนะนำให้กับผมนะครับ
เมื่อเธอหาว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัว?!!
เรื่องมันเริ่มขึ้นจากว่า คือเธอคนนี้ เป็นเพื่อนผมตั้งเเต่ม.ปลายเเล้วล่ะครับ เเต่ตอนนั้นเราสองคนอยู่กันคนละห้อง ผมเรียนสองภาษา ส่วนเธอเรียนสายสามัญ ครั้งเเรกที่เรารู้จักกัน ก็คือรู้จักกันผ่านทางเพื่อนผมครับ คือเธอเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที พอผมได้มารู้จักเพื่อนคนนี้ ก็เลยกลายเป็นว่าเราสองคนเลยได้ค่อยๆทำความรู้จักกัน ก็เป็นเพื่อนกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งจบม.6 ครับ ผมก็ยังไม่ได้คิด ไม่ได้จะจริงเธอคนนี้หรอก จนเราสองคนก็ต่างเเยกย้ายกันเข้ามหาลัยตามชีวิตของเเต่ละคน
เเต่มันกลายเป็นว่า ตัวผมเองดันเป็นฝ่ายที่ชอบทักไลน์ไปหาเธอ เราสองคนก็คุยกันเรื่อยๆมา จนวันหนึ่งตัวผมเองก็รู้สึกได้ว่าความรู้สึกที่ผมรู้สึกกับเธอมันเริ่มเปลี่ยนไป รู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกัน เเรกๆที่รู้สึก ผมก็ยังไม่กล้าบอกเธอตรงๆหรอกครับ เพราะกลัวประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอย เหมือนที่ผมเคยชอบเพื่อนคนนึง เเล้วพอเค้ารู้หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันก็ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกเลย
ผมก็คุยกับเธอเรื่อยๆมาประมาณเกือบสองปีครับ โดยช่วงสองปีนี้ ผมก็เป็นฝ่ายชวนเธอไปเที่ยวบ้าง กินข้าวบ้าง นัดเจอกันบ้างตามประสา ผมว่าเธอก็คงน่าจะรู้บ้างเเหละว่าตัวผมเเอบคิดอะไรกับเธออยู่ จนกระทั่ง วันนึง ผมก็ตัดสินใจบอกความจริงกับเธอไปว่า "เรารู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายๆกัน เราสองคนลองมาคุยๆกันดูมั้ย" ซึ่งผมก็รอลุ้นคำตอบนานมากกกกกก ใจนึงก็ทำใจเผื่อไว้เเล้วส่วนหนึ่งนะครับ เเต่สุดท้ายกลายเป็นว่า เธอตอบมาว่า "โอเค งั้นเราสองคนคุยๆกันนะ" ผมจำความรู้สึกตอนนั้นได้นะ ผมจำได้ว่าผมดีใจมากกกก
ตั้งเเต่วันที่เราตกลงคบกัน ชีวิตของผมมันเปลี่ยนไปเลยนะ ผมรู้สึกว่ามันมีคนอีกคนนึงที่เราต้องดูเเลเค้า เราต้องคอยปกป้องเค้า เเต่ก็ด้วยความรักมากมายที่ผมมีนั่นเเหละครับ มันเลยกลายเป็นบ่อเกิดของความน้อยใจของตัวผมเอง ซึ่งผมไม่รู้นะ ว่าผมเป็นผู้ชายที่คิดมากเกินไปรึเปล่า
เเต่สิ่งที่มันทำให้ผมคิดมากก็คือ
-โทรศัพท์ไป ก็ไม่ค่อยรับ อ้างว่าติดธุระนู่นนี่บ้าง วันนึงผมจะคุยกับเธอได้เเค่ช่วงตอนที่เธอนั่งรถเมล์กลับบ้านเท่านั้น เพราะพอเธอกลับถึงบ้านเเล้ว เธอบอกว่าไม่ค่อยสะดวก เนื่องจากมีงานบ้านหลายๆอย่างต้องทำ ซึ่งอันนี้ผมพอเข้าใจได้
-ไลน์ไปหา ก็ไม่ค่อยตอบ เช่น ถ้าเธอทำงาน เธอจะไม่เเตะโทรศัพท์เลย เลยกลายเป็นว่าผมกลายเป็นฝ่ายที่รอเธอตอบอยู่ฝ่ายเดียว ผมเป็นอย่างงี้ตลอดเลยนะ ที่รอเธอตอบ จนผมหลับไปพร้อมกับความหวังลมๆเเล้งๆของตัวเอง ซึ่งผมมาเเอบคิดว่า ถ้าเราเป็นคนสำคัญสำหรับเค้าจริงๆ ทำไมเค้าไม่หาเวลามาตอบเราบ้าง เเค่ตอบกลับมาว่า "วันนี้ไม่ว่างนะ มีงาน ต้องทำงาน" ถ้าผมได้ยินเเค่นี้ ผมก็โอเคล่ะครับ เเต่ผมจำได้นะว่าตลอดเวลาที่คบกันมา ผมเทบจะไม่เคยได้ยินเธอบอกเหตุผลที่เธอหายไปเลย
ซึ่งเเรกๆผมไม่ซีเรียสกับเรื่องจุกจิกพวกนี้เลยนะ เพราะตัวผมเป็นคนบอกเองว่าระยะทางมันไม่มีผลกับเราหรอก ถ้าเรารักกันมั่นคงพอ เเต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่กล่าวมา มันเริ่มทำให้ความน้อยใจมันเริ่มก่อตัวขึ้น ซึ่งผมก็เลือกที่จะเป็นฝ่ายเก็บไว้ เพราะไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราสงคนมีปัญหา
ผมพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ของเราสองคนมาเรื่อยๆจนใกล้วันครบรอบหกเดือนของเรา เเต่วันสุดท้ายหลังผมสอบมิดเทอมเสร็จ เธอกลับไลน์มาบอกผมว่า "เราว่าเราสองคนเลิกกันเถอะ เราอยากพูดเเบบนี้มาตั้งนานเเล้ว เรารู้สึกว่าเราสองคนต่างกันเกินไป เธอเเคร์เเต่ความรู้สึกของตัวเอง จบกันเเค่นี้นะ" วันนั้นผมมึนไปเลยนะ ไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลยว่าอะไรมันคือสาเหตุที่มันทำให้เราสองคนต้องเลิกกัน เเล้วไอ้คำว่า "เห็นเเก่ตัว"ที่เธอพูดกับผม มันหมายความว่ายังไง
จนผมถามเธอไปว่า เราเห็นเเก่ตัวเรื่องอะไรหรอ บอกเราได้มั้ย เราจะพยายามปรับปรุงตัว เธอกลับตอบกลับมาว่า เธอรู้มั้ยว่าที่ผ่านมา เธอเอาเเต่สนใจเรื่องของตัวเอง ผมยอมรับว่าช่วงนั้น ผมมีเรื่องเครียดๆเยอะเเยะไปหมด ทั้งเรื่องเพื่อน เรื่องเรียน เรื่องงาน ซึ่งการที่ผมไประบายกับเธอ ผมไม่ได้จะต้องการให้เธอเครียดไปกับผมนะครับ ผมเเค่ระบาย เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ผมสบายใจที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังได้ เเต่เธอกลับตีเจตนาของผมผิดไป
สุดท้าย ผมพิมพ์ไลน์ไปยาวมาก เเต่เธอก็ไม่ได้ตอบ เเละไม่เเม้เเต่อ่านไลน์ผมด้วยซ้ำ สุดท้ายผมเลยทิ้งท้ายไว้เเค่ว่า "เราอยากคุยกับเธอนะ ถ้าเธอพร้อมจะคุยกับเราเมื่อไหร่ พิมพ์กลับมานะ เราจะรอ" เเต่ตั้งเเต่วันนั้นเป็นต้นมา กลายเป็นว่าเราสองคนไม่ได้คุยกันอีกเลย
หรือว่าเพื่อนๆคิดว่ายังไงกันครับ ผมเห็นเเก่ตัวจริงๆอย่างที่เธอบอกรึเปล่า?! การที่เราเลือกจะระบายทุกอย่างกับคนที่เรารัก มันกลายเป็นเรื่องเห็นเเก่ตัวไปเเล้วหรอครับ ที่ผ่านมาผมเลือกที่เก็บความน้อยใจไว้กับตัวเองคนเดียว ผมเลือกที่จะไม่พูด เเต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้เราสองคนเลิกกันมันกลายเป็นเพราะคำว่า"เห็นเเก่ตัว"ที่เธอบอกผมมา ยังไงผมก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบที่จะเป็นคำเเนะนำให้กับผมนะครับ