1.ภัยที่เคลือบแฝงเข้า ในรูปแบบที่ พยายามอ้าง ข้อมูลทางวิชาการ พยายามอ้างถึงการจับต้องได้  โดยที่ผู้เรียกร้องพยามอย่างยิ่ง ในประเด็นนี้
ทั้งที่ใน สมัยพุทธกาล ตลอด จน ปฐมสังคายนา จนถึง การสังคายนาครั้งที่ 3  ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่อง ที่กล่าวไป แต่จะให้ความสำคัญ แก่ผู้สืบทอด

      เข้าถึงพระสัทธรรม เป็นผู้สืบทอด และ ทำการ สังคีติ โดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่ง ถือเป็นความอัศจรรย์อย่างหนึ่ง ว่าผู้ที่เข้า ร่วมเข้าทำการ สังคีติ หรือสังคายนา สามารถกล่าวพระธรรมได้ ตรงกัน พร้อมเพรียงกันได้อย่างไร ทั้งที่ ต่าง ฟังพระธรรมมาไม่เหมือนกัน แต่เมื่อบรรลุธรรม เป็น พระอรหันต์ปฏิสัมภิ
ทาญาณ มีคุณสมบัติที่เหมือนกัน กลับ ทำ สังคีติ หรือ สังคายยา ได้ถูกต้องพร้อมเพรียงกัน

       2.ประเด็น การกล่าวอ้าง เรื่องการจดบันทึก ว่า มีการจดบันทึก หลายรอบ แต่ผู้ที่กล่าวอ้างไม่ สามารถชี้แจงได้ว่า ส่วนใด ตรงจุดไหนบ้าง ที่เป็นประเด็น
ที่พยายามกล่าวอ้าง  ในจุดนี้จะเห็นว่า การกระทำลักษณะนี้ หากต้องการแสดงเสรีภาพทางความคิดก็ควรชี้แจง อ้างอิงแต่ละจุดที่ พยายามกล่าวหา  ไม่เช่น
ก็อาจเป็นการ หาช่องทางบ่อนทำลายพระไตรปิฏก มากกว่าที่จะเป็นต้องการ อิสระทางความคิด

           การกระทำในลักษณะนี้ จะเห็นว่ามี ความต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขพระไตรปิฏก ไม่ต่างอะไรกับ หนอนบ่อนใส้ ที่ทำกัน เป็นกระบวนการ มีการตั้ง
ศาสนาจารย์ มีการเผยแผ่โจมตี เพื่ออะไร เพื่อ สร้างความชอบธรรม ที่จะกำหนดครอบงำ พุทธเถรวาท ทั้งหมด โดยพยามแฝงแนวคิดที่ บิดเบี๊ยว จาก พุทธ
เถววาทเดิม ที่ละน้อย นำไปสู่ การทำลายพุทธเถรวาทเดิม  เพื่อ สถาปนาอำนาจ เพื่อควบคุมระบบวิธีคิด โดยอ้างว่าเป็นพุทธแท้ทั้งที่ กระบวนการ แนวทาง
ปฏิบัติ บิดเบี๊ยวไปหมด  

        3.กระบวนการดังกล่าวที่จ้องทำลาย พุทธเถรวาท มีพยายามอย่างยิ่งที่ ปฏิเสธ หลายองค์ความรู้ หนึ่งในนั้น คือพระอภิธรรม เพราะอะไร เพราะว่า พระอภิธรรม เป็น สิ่งที่ ผู้ที่ปฏิบัติ สมถ-วิปัสสนา จะเข้าใจและรู้ถึงสภาวะธรรม เป็นธรรมที่ลึกซึ๊ง หากผู้ที่แอบอ้างว่าเข้าถึงธรรมมลึกซึ๊ง แล้วตั้งตนเป็น อาจารย์
คนอื่น เมื่อภูมิธรรมไม่ถึง อย่างที่พยายาม คุยโม้ ก็จะทำให้เสียหน้าอย่างมากเลยที่เดียว