เพราะชาวนาเป็นผู้มีพลังในการใช้จ่ายสูงในบรรดาบุคคลอาชีพต่างๆ หากเขามั่นใจในรัฐบาล
ต้องเข้าใจว่าชาวนาส่วนมากไม่ใช่คนจนเหมือน 20 - 30 ปีที่ผ่านมา เพราะชาวนาทำหลายอาชีพในการดำรงตน
เพียงอาชีพทำนาเป็นอาชีพหลักจะขาดไม่ได้ เมื่อมีข้าวเต็มเล้า ก็คืออยู่ได้สบาย หมดหน้านาไปเป็นช่างก่อสร้าง
บางคนเป็นกรรมกรรับค่าแรง 300 บาท บางคนขับแท็กซี่ ตุ๊กๆ สามล้อเครื่อง ผู้หญิงเปิดร้านขายของชำ
เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ช่วงนั้นเศรษฐกิจบูมสุดขีด การใช้เงินปานพิมพ์แบงค์ได้เอง
เสาร์ - อาทิตย์ ต้องมาช้อปที่โลตัส บิ๊กซี เซ็นทรัล ซื้อโทรศัพท์ ทีวี สร้อยคอทองคำ กันอย่างคับคั่ง เพราะเขามั่นใจว่าปีหน้า
เขาก็จะได้รับการดูแลจากรัฐบาลที่เขาเลือกมากับมือ นี่คือความมั่นใจของชาวนา ที่เป็นอาชีพที่กลุ่มคนมากที่สุด กำลังสูงที่สุด
หลังจากเหตุการณ์พลิกผัน....ชาวนาได้รับความกระทบพอสมควร แต่เขาก็ปรับตัวได้...การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหยุดทันที
ไม่จำเป็นไม่ซื้อ ไม่จำเป็นไม่เข้าห้างฯ ทำให้ถนนโล่งไปเยอะ ในห้างต่างๆ โล่งดีมาก คนเมืองไปเดินตากแอร์ได้สะดวก
แต่คนค้าขายในห้างหน้าเหี่ยวพอสมควร ภาษีซึ่งเป็นรายได้ของประเทศหดตัวอย่างรวดเร็ว ภาษ๊มูลค่าเพิ่มติดลบแบบไม่เป็นมาก่อน
สร้างความหนักใจให้กระทรวงการคลัง ต้องหาทางรีดภาษีแบบใหม่ ซึ่งโดนสวดกันอึงมี่...
เป็นปรากฎการณ์อย่างชัดเจนว่าเมื่อชาวนาไม่ขยับ...ภาษีติดลบทันที เพราะเงินที่ออกจากมือของชาวนาพร้อมกัน
จะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินถึง 5 รอบ รัฐบาลก็จะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 5 รอบเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลนี้ก็รู้ แต่แก้ปัญหาไม่ได้
เพราะบังคับให้เขาออกมาซื้อไม่ได้...เพราะเขาไม่มั่นใจในอนาคตว่าปีหน้าจะเป็นอย่างไร...
ชาวนาตอนนี้รอให้นายกฯยิ่งลักษณ์ หรือพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารอีก..เมื่อนั้นแหละเขาจะออกมาใช้เงินกันอีก จงคอยดู
.
เศรษฐกิจประเทศไทยจะดีขึ้น....อยู่ที่ความมั่นใจของประชาชน....โดยเฉพาะชาวนา
เพราะชาวนาเป็นผู้มีพลังในการใช้จ่ายสูงในบรรดาบุคคลอาชีพต่างๆ หากเขามั่นใจในรัฐบาล
ต้องเข้าใจว่าชาวนาส่วนมากไม่ใช่คนจนเหมือน 20 - 30 ปีที่ผ่านมา เพราะชาวนาทำหลายอาชีพในการดำรงตน
เพียงอาชีพทำนาเป็นอาชีพหลักจะขาดไม่ได้ เมื่อมีข้าวเต็มเล้า ก็คืออยู่ได้สบาย หมดหน้านาไปเป็นช่างก่อสร้าง
บางคนเป็นกรรมกรรับค่าแรง 300 บาท บางคนขับแท็กซี่ ตุ๊กๆ สามล้อเครื่อง ผู้หญิงเปิดร้านขายของชำ
เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ช่วงนั้นเศรษฐกิจบูมสุดขีด การใช้เงินปานพิมพ์แบงค์ได้เอง
เสาร์ - อาทิตย์ ต้องมาช้อปที่โลตัส บิ๊กซี เซ็นทรัล ซื้อโทรศัพท์ ทีวี สร้อยคอทองคำ กันอย่างคับคั่ง เพราะเขามั่นใจว่าปีหน้า
เขาก็จะได้รับการดูแลจากรัฐบาลที่เขาเลือกมากับมือ นี่คือความมั่นใจของชาวนา ที่เป็นอาชีพที่กลุ่มคนมากที่สุด กำลังสูงที่สุด
หลังจากเหตุการณ์พลิกผัน....ชาวนาได้รับความกระทบพอสมควร แต่เขาก็ปรับตัวได้...การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหยุดทันที
ไม่จำเป็นไม่ซื้อ ไม่จำเป็นไม่เข้าห้างฯ ทำให้ถนนโล่งไปเยอะ ในห้างต่างๆ โล่งดีมาก คนเมืองไปเดินตากแอร์ได้สะดวก
แต่คนค้าขายในห้างหน้าเหี่ยวพอสมควร ภาษีซึ่งเป็นรายได้ของประเทศหดตัวอย่างรวดเร็ว ภาษ๊มูลค่าเพิ่มติดลบแบบไม่เป็นมาก่อน
สร้างความหนักใจให้กระทรวงการคลัง ต้องหาทางรีดภาษีแบบใหม่ ซึ่งโดนสวดกันอึงมี่...
เป็นปรากฎการณ์อย่างชัดเจนว่าเมื่อชาวนาไม่ขยับ...ภาษีติดลบทันที เพราะเงินที่ออกจากมือของชาวนาพร้อมกัน
จะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินถึง 5 รอบ รัฐบาลก็จะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 5 รอบเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลนี้ก็รู้ แต่แก้ปัญหาไม่ได้
เพราะบังคับให้เขาออกมาซื้อไม่ได้...เพราะเขาไม่มั่นใจในอนาคตว่าปีหน้าจะเป็นอย่างไร...
ชาวนาตอนนี้รอให้นายกฯยิ่งลักษณ์ หรือพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารอีก..เมื่อนั้นแหละเขาจะออกมาใช้เงินกันอีก จงคอยดู
.