เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล SUPER POLL) มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ ร่วมกับ ดร.สุธี อนันต์สุขสมศรี ภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผศ.ดร.นิจ ตันติศิรินทร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำการวิจัยเรื่อง สำรวจเงินในกระเป๋าของเกษตรกร กับ ผลการจัดอันดับหน่วยงานรัฐ ขวัญใจ เกษตรกร จำนวน 557 ตัวอย่างกระจายทั่วประเทศ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน - 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดอื่นโดยไม่ปลูกข้าว โดยเฉลี่ยไม่มีเงินเหลือในกระเป๋าเพราะติดลบอยู่ที่ 469 บาท เนื่องจากมีรายได้ เฉลี่ยน้อยกว่า รายจ่าย คือ 15,166 บาท ต่อ 15,635 บาท ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกข้าวและพืชชนิดอื่นๆ เช่นพืชไร่ พืชสวนร่วมด้วย โดยเฉลี่ยมีเงินเหลือเก็บในกระเป๋าสูงสุดเฉลี่ย 5,746 บาทต่อเดือน เนื่องจากรายได้เฉลี่ยสูงสุดและมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่ารายจ่าย คือ 17,987 บาท ต่อ 12,241 บาท ส่วนกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกข้าวอย่างเดียว โดยเฉลี่ยมีเงินเหลือในกระเป๋าอยู่ที่ 4,197 บาทต่อเดือน เนื่องจากมีรายได้เฉลี่ยมากกว่า รายจ่าย คือ 12,071 บาท ต่อ 7,874 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม จำนวนมากเกินกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 34.3 ไม่มั่นใจว่าจะมีลูกหลานสืบทอดอาชีพเกษตรกร และร้อยละ 13.8 ระบุไม่มี อย่างไรก็ตาม เกินครึ่งเล็กน้อย หรือร้อยละ 51.9 ระบุมี และ มั่นใจว่าลูกหลานจะสืบทอดอาชีพเกษตรกรต่อไปอย่างแน่นอน
เมื่อวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินในกระเป๋าของเกษตรกร จากผลผลิตทางการเกษตร พบว่า กลุ่มเกษตรกรที่มีลูกหลานสืบทอดอาชีพเกษตรกรแน่นอน และกลุ่มเกษตรกรที่มีลูกหลานแต่ยังไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะยึดอาชีพเกษตรกรต่อไปหรือไม่ มีเงินเหลือเก็บเฉลี่ยอยู่ที่ 4,407 บาท และ 4,749 บาทต่อเดือน แต่กลุ่มเกษตรกรที่ไม่มีลูกหลานสืบทอดอาชีพเกษตรกร ไม่มีเงินเหลือเก็บเพราะมียอดเงินส่วนต่างเฉลี่ยติดลบอยู่ที่ 1,098 บาท สำหรับนโยบายถูกใจที่มีผลให้ยึดอาชีพเกษตรกรต่อไป พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 28.4 ระบุ นโยบายช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อราคาผลผลิตตกต่ำ อันดับสองหรือร้อยละ 20.4 ระบุ หลักเศรษฐกิจพอเพียง และอันดับสาม หรือร้อยละ 16.9 ระบุโครงการพัฒนาเกษตรกรของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ร้อยละ 16.0 ระบุว่า เป็นอาชีพเดิม สืบทอดกันมา ไม่เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล ในขณะที่รองๆ ลงไประบุว่าเป็น โครงการกลุ่มนาข้าว ฝ่ายเกษตรพันธุ์ข้าว และโครงการกู้หลวง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง หน่วยงานรัฐ ขวัญใจเกษตรกร พบประเด็นที่น่าสนใจคือ อันดับแรกหรือร้อยละ 30.5 ระบุ เกษตรอำเภอ ขึ้นเป็นที่หนึ่งครองใจเกษตรกร อันดับที่สองหรือร้อยละ 20.3 ระบุกระทรวงเกษตรฯ อันดับสามหรือร้อยละ 16.5 ระบุ ธ.ก.ส. อันดับที่สี่ หรือร้อยละ 13.0 ระบุ กรมการข้าว และรองๆ ลงไปคือ เกษตรจังหวัด สหกรณ์การเกษตรฯ อบต. กระทรวงวิทยาศาสตร์ และ ปศุสัตว์ เป็นต้น ... อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/regional/585604
เป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเสริมเช่นกัน ถ้าทำได้เช่นนี้ เกษตรกรก็จะมีเงินเก็บสะสมมากขึ้น
~มาลาริน~** เรื่องนี้ชาวเกษตรกรควรทราบนะคะ..โพลชี้เกษตรกรมีเงินเก็บเพิ่ม ถ้าปลูกพืชอื่นร่วมปลูกข้าว
เมื่อวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินในกระเป๋าของเกษตรกร จากผลผลิตทางการเกษตร พบว่า กลุ่มเกษตรกรที่มีลูกหลานสืบทอดอาชีพเกษตรกรแน่นอน และกลุ่มเกษตรกรที่มีลูกหลานแต่ยังไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะยึดอาชีพเกษตรกรต่อไปหรือไม่ มีเงินเหลือเก็บเฉลี่ยอยู่ที่ 4,407 บาท และ 4,749 บาทต่อเดือน แต่กลุ่มเกษตรกรที่ไม่มีลูกหลานสืบทอดอาชีพเกษตรกร ไม่มีเงินเหลือเก็บเพราะมียอดเงินส่วนต่างเฉลี่ยติดลบอยู่ที่ 1,098 บาท สำหรับนโยบายถูกใจที่มีผลให้ยึดอาชีพเกษตรกรต่อไป พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 28.4 ระบุ นโยบายช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อราคาผลผลิตตกต่ำ อันดับสองหรือร้อยละ 20.4 ระบุ หลักเศรษฐกิจพอเพียง และอันดับสาม หรือร้อยละ 16.9 ระบุโครงการพัฒนาเกษตรกรของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ร้อยละ 16.0 ระบุว่า เป็นอาชีพเดิม สืบทอดกันมา ไม่เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล ในขณะที่รองๆ ลงไประบุว่าเป็น โครงการกลุ่มนาข้าว ฝ่ายเกษตรพันธุ์ข้าว และโครงการกู้หลวง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง หน่วยงานรัฐ ขวัญใจเกษตรกร พบประเด็นที่น่าสนใจคือ อันดับแรกหรือร้อยละ 30.5 ระบุ เกษตรอำเภอ ขึ้นเป็นที่หนึ่งครองใจเกษตรกร อันดับที่สองหรือร้อยละ 20.3 ระบุกระทรวงเกษตรฯ อันดับสามหรือร้อยละ 16.5 ระบุ ธ.ก.ส. อันดับที่สี่ หรือร้อยละ 13.0 ระบุ กรมการข้าว และรองๆ ลงไปคือ เกษตรจังหวัด สหกรณ์การเกษตรฯ อบต. กระทรวงวิทยาศาสตร์ และ ปศุสัตว์ เป็นต้น ... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/regional/585604
เป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเสริมเช่นกัน ถ้าทำได้เช่นนี้ เกษตรกรก็จะมีเงินเก็บสะสมมากขึ้น