พอดีเคยอ่านตั้งนานแล้วใน TCDC การ์ตูนเรื่อง BUDDHA หรือ พระพุทธเจ้า เขียนโดย Tezuka Osamu
อภิมหาปรมาจารย์ก็อดฟาเธอร์แห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่นได้เขียนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
เท่าที่ทราบไม่มีตีพิมพ์เป็นภาษาไทย อาจจะเพราะเนื้อหามีการตีความหลายอย่าง แตกต่างจากพุทธศาสนาที่คนไทยเคยเรียนๆกันมา
แต่เราได้อ่านก็รู้สึกว่ามันมีความงดงามไม่ว่าในการเล่าถึงศาสดาของศาสนา และ ในแง่ของความเป็นการ์ตูนในตัวเอง
มีหลายเหตุการณ์ หลายตัวละครที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนจากตำราหรือหนังสือธรรมะเล่มไหนแต่ก็เกิดเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไปอีกแบบ
สไตล์อ.แกจะเล่าคล้ายๆภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ยาวๆ ที่อาจจะตัดสลับกับเหตุการณ์นั้นนี้
แล้วเดี๋ยวตัวละครจะมาเจอกันทีหลัง ความยาวทั้งหมด 8 เล่มจบแน่ะ =v=''
ตอนนี้ที่คิโนะคุนิยะมีวางขายอยู่ที่เล่มละประมาณ 4-500 บาท เราสอยมาแล้วสองเล่มแรก
ถ้าใครมีแหล่งที่ถูกกว่านี้กรุณาชี้ทางด้วยค่ะ (ไปส่องในอเมซอนแล้วแพงคือกัน...)
หมายเห็ด * - รุปภาพประกอบการเล่ากระทู้อาจจะไม่สวยงามนัก เพราะอาศัยถ่ายเองด้วยมือถือ และไม่กล้าแหกหนังสือมาก แพง
จุดประสงค์กระทู้เพื่อเล่าสนุกๆ เพราะว่าไม่มีตีพิมพ์ภาษาไทย ถือเป็นทางเลือกให้คนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษได้รับทราบเรื่องราวกันซะมากกว่า
จขกท.ไม่ต้องการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด เลยอาศัยแหกหนังสือ และถ่ายเอาเองมาประกอบกระทู้ก็พอแล้วกันนะคะ
ใครพอมีทักษะด้านภาษา (อ่านง่ายนะ ไม่ยากรหอก ภาพก็เล่าเรื่องอยู่แล้ว) หรือชื่นชอบลายเส้น ก็ไปอุดหนุนของจริงได้ค่ะ
ถ้าใครเห็นว่ากระทู้นี้ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งลบได้ค่ะ
* ปล. เราอาจจะแปลผิดๆถูกๆบ้าง ภาษาบางส่วนมาจากภาษาฮินดูสันสกฤตบาลีฯลฯ ใครรู้จริงแนะนำได้นะคะ *
เอาล่ะ ยืดยาวมาแล้ว ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน
BUDDHA by Tezuka Osamu Vol.1 "กบิลพัสดุ์"
chapter 1 พราหมณ์
ที่ตีนภูเขาหิมาลัย หลังคาโลก ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของแม่น้ำหลายสาย มีคนอาศัยอยู่ที่นั่นมานานกว่า 3500 ปีแล้ว รู้จักกันในนามชนเผ่า "อารยัน" พวกเขาได้เผชิญกับภัยธรรมชาติหลากรูปแบบ จนในที่สุดก็ก่อตั้งเป็นอารยธรรมขึ้นมาได้ ซึ่งภายหลังก็กลายมาเป็นประเทศอินเดีย คนเหล่านี้มีการแบ่งชั้นวรรณะกัน ผู้ที่อยู่สูงสุดของระบบวรรณะเรียกตัวเองว่า "พราหมณ์" รองลงมาได้แก่ นักรบ , คนทั่วไป, และ ทาส ในยุคหนึ่งที่พราหมณ์ที่ควรจะเป็นผู้นำทางใจของประชาชน ได้ปล่อยตัวให้ตกต่ำไปกับสิ่งไร้สาระฟุ่มเฟือยทั้งหลาย ผู้คนต่างไม่พอใจและพยายามหาที่พึ่งทางใจใหม่ๆ พวกเขาต่างกำลังเฝ้ารอใครสักคนที่จะมานำทาง
เรื่องเล่าถึงพราหมณ์เฒ่าคนหนึ่ง เดินทางอยู่กลางหุบเขาและหมดแรงล้มลง
หมีป่า, จิ้งจอก, และกระต่ายได้มาพบเข้า ทั้งสามตกลงกันว่าจะออกไปหาอะไรมาให้พราหมณ์เฒ่ากิน
หมีไปหาปลามาได้ จิ้งจอกไปเอาผลไม้ที่เก็บเอาไว้ในรังมาให้ แต่กระต่ายจะทำยังไงก็หาอาหารมาไม่ได้เลย
พอกลับมาหาพราหมณ์เฒ่า ก็ถูกหมีกับจิ้งจอกตำหนิ กระต่ายน้อยรู้สึกผิดมาก จึงไปบอกพราหมณ์เฒ่าให้จุดไฟ
เมื่อพราหมณ์จุดไฟ กระต่ายน้อยจึงโดดลงกองไฟเพื่อเอาตัวเองสังเวยเป็นอาหารแทน
การเสีลสละของกระต่าย ทำให้พราหมณ์เฒ่าและหมีกับจิ้งจอกตกใจยิ่งนัก
พราหมณ์เฒ่าหลังน้ำตาออกมาและเชิดชูกระต่ายที่มีใจยิ่งใหญ่
เรื่องนี้กลายเป็นที่เล่าขานกันในหมู่พราหมณ์ต่อมา
"แต่ท่านอาจารย์อสิตา นี่จะเป็นเรื่องจริงได้อย่างไร กระต่ายน่ะหรือจะสังเวยตัวเองเป็นอาหารแก่มนุษย์?"
พราหมณ์คนหนึ่งถามขึ้น อสิตาตอบว่า
"ผู้เล่าเรื่องนี้คืออาจารย์ของข้าเอง นามว่าอาจารย์โกศาลา ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นอาจารย์โกศาลาได้เดินทางลงจากภูเขาและได้เข้าใจถึงวัฏจักรอันยิ่งใหญ่ของโลก อาจารย์เล่าเรื่องนี้ให้ข้าฟัง แต่ข้าก็ไม่อาจเข้าใจได้อย่างเช่นท่านอาจารย์"
เหล่าศิษย์ต่างสงสัยว่าทำไมกระต่ายจึงกระโดดลงกองไฟ แต่ปริศนานี้แม้แต่อ.อสิตายังไม่เข้าใจ แล้วใครจะเข้าใจ
อ.อสิตาบอกว่า มีคนคนหนึ่งที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้ เขาเป็นผู้มีอำนาจที่จะกลายเป็นเทพเจ้า หรือไม่ก็ครองโลกได้
อ.อสิตา ใช้ให้ลูกศิษย์คนหนึ่งชื่อนาราธัตถะเดินทางไปทางใต้เพื่อค้นหาชายผู้นั้น
ชายผู้วันหนึ่งจะกลายเป็นเทพเจ้า ไม่ก็เป็นกษัตริย์ (One who would be a God or A King)
พราหมณ์นาราธัตถะออกเดินทางไปทางใต้ด้วยความตื่นเต้นว่าเขาอาจจะได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ๋คนนั้น
ระหว่างทางมีเสือป่าโจมตีนาราธัตถะ นาราธัตถะบอกกับเสือว่า เชิญกินได้เลย ตนเตรียมใจมาแล้ว
ปรากฏว่า เสือล่าถอยไป พราหมณ์หนุ่มแปลกใจ แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้
เขาเดินทางต่อไปเรื่อยๆจนเข้าเขตชุมชน เมื่อสอบถามไปเรื่อยๆ ก็ได้ความว่า
"มีเด็กชายคนหนึ่ง ทั้งๆที่ไม่ใช่นักเวทย์ แต่กลับมีพลังวิเศษยิ่งกว่าพราหมณ์เสียอีก เด็กชายคนนั้นชื่อว่า ธัตถะ แต่เขาเกิดในวรรณะจัณฑาล"
(จัณฑาล คือ ลูกที่เกิดจากการสมรสข้ามวรรณะของพ่อแม่ ลูกที่เกิดมาจะวรรณะต่ำยิ่งกว่าทาส)
กล่าวถึงอีกมุมหนึ่งของเมือง จาปรา เด็กชายทาสคนหนึ่งกำลังแบกสินค้ากลับไปให้เจ้านาย
แต่โดนเด็กเปลือยคนหนึ่งผลักตกน้ำ และแย่งชิงสินค้าไป เมื่อจาปรากลับมาถึงบ้านเจ้านาย
เจ้านายโมโหมากและลงโทษเด็กชายอย่างหนัก แม่เขาของร้องให้เจ้านายลงโทษตนเองแทนลูก
เจ้านาย "ถ้าร่างกายเจ้า มีแผลเป็นจะขายไม่ได้ราคาเปล่าๆ"
หลังจากเฆี่ยนตีจาปราจนพอใจ เจ้านายก็สั่งให้ไปหาสินค้ามาคืนภายใน 3 วัน ไม่งั้นจะขายแม่ไปแทน
จาปราที่บาดเจ็บ ออกเดินทางเพื่อหาสินค้ามาคืนเจ้านาย เขาถูกคนดูถูกรังเกียจเหยียดหยามตลอด
จาปราคิดในใจว่า ทำไมเราจึงเกิดมาน่าสมเพชเช่นนี้ ทำไมจึงต้องเกิดมาเป็นทาส
ทำไมถึงไม่เกิดมาเป็นนักรบหรือเป็นพราหมณ์ คงจะดีไม่น้อยถ้าทำให้พวกพ่อค้าเหล่านั้นมากราบกรานที่แทบเท้าได้
จาปรานั่งร้องไห้กับตัวเองอย่างสิ้นหวัง
"ร้องไห้ทำไม?"
แก๊งเด็กจัณฑาล ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ จาปราจำได้ว่าหัวหน้าแก๊งคือคนที่ขโมยของไป
"ใครๆเรียกข้าว่า ธัตถะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
จาปราโมโหมาก ตลกอะไรกันนักหนา ตามหาหัวขโมยมาถึงสามวัน หากไม่ได้สินค้ากลับไป แม่ของเขาจะต้องถูกขาย
เมื่อขอให้ธัตถะคืนของมา ก็ถูกแก๊งเด็กจัณฑาลหัวเราะเยาะและรุมปัสสาวะใส่ แต่จาปรามีความสามารถพิเศษ
เขาปาหินได้แม่นยำมาก เพราะฝึกปาหินเพื่อเก็บกระดองเต่ามาตลอด พวกเด็กจัณฑาลถูกปาหินใส่ก็ล่าถอยไป
ธัตถะประทับใจ ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน แต่จาปราไม่เอาด้วย เขาต้องการแค่สินค้าคืนเพื่อไปช่วยแม่
แก๊งเด็กจัณฑาลมีกำลังมากกว่าก็รุมจาปราจนสลบไป
เมื่อลืมตาขึ้นมา จาปราอยู่ที่บ้านธัตถะ เป็นเพิงที่สภาพความเป็นอยู่แย่ยิ่งกว่าคอกหมูเสียอีก
จาปราตื่นมาได้ยินเสียงพี่สาวและแม่ของธัตถะคุยกันเรื่องผ้า(สินค้าที่ขโมยมาได้) ทั้งสองไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะใส่
จาปรารีบคลานไปจะเอาผ้าคืน และด่าทอว่าพวกนางเป็นหัวขโมย
พี่สาวธัตถะกับจาปราทะเลาะกันเสียงดัง จนธัตถะเข้ามาบอกให้จาปราหุบปาก ไม่งั้นจะจับย่างกิน
จาปราหมดหวังจึงนั่งร้องไห้
"แม่ของข้ากำลังจะถูกขายคืนนี้ ถ้าข้าไม่มีสินค้าไปคืน พวกเจ้าไม่มีทางรู้หรอกว่าชีวิตทาสมันเป็นยังไง"
"พวกเจ้าอาจเกิดมาต่ำต้อย และได้รับการปฏิบัติต่ำทรามเช่นกัน แต่อย่างน้อยเจ้าก็สามารถอยู่กับแม่ได้
ลองจินตนาการดูว่าถ้าแม่ของพวกเจ้าถูกขายเหมือนกับวัวหรือหมู จะรู้สึกยังไง"
จาปราด่ากราดแล้วก็ร้องไห้ ธัตถะจึงเสนอว่า พวกเราไปช่วยแม่เจ้ากันดีไหม
จาปรา : เจ้าบอกว่าจะช่วยงั้นเหรอ เจ้าไม่คนสินค้าที่ขโมยไป แต่กลับบอกว่าจะช่วยแม่ข้างั้นเหรอ?
ธัตถะ : ไม่ดีหรือไง เจ้าทั้งสองจะได้ไม่ต้องกลับไปเป็นทาสอีก
จาปรา : ปาฏิหาริย์เท่านั้นแหละที่จะช่วยแม่ของข้าได้...
*** จบ chapter 1 ***
สิทธัตถะยังไม่มา 55+
เอาการ์ตูน BUDDHA by Tezuka Osamu มาเล่าให้ฟัง :3
อภิมหาปรมาจารย์ก็อดฟาเธอร์แห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่นได้เขียนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
เท่าที่ทราบไม่มีตีพิมพ์เป็นภาษาไทย อาจจะเพราะเนื้อหามีการตีความหลายอย่าง แตกต่างจากพุทธศาสนาที่คนไทยเคยเรียนๆกันมา
แต่เราได้อ่านก็รู้สึกว่ามันมีความงดงามไม่ว่าในการเล่าถึงศาสดาของศาสนา และ ในแง่ของความเป็นการ์ตูนในตัวเอง
มีหลายเหตุการณ์ หลายตัวละครที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนจากตำราหรือหนังสือธรรมะเล่มไหนแต่ก็เกิดเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไปอีกแบบ
สไตล์อ.แกจะเล่าคล้ายๆภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ยาวๆ ที่อาจจะตัดสลับกับเหตุการณ์นั้นนี้
แล้วเดี๋ยวตัวละครจะมาเจอกันทีหลัง ความยาวทั้งหมด 8 เล่มจบแน่ะ =v=''
ตอนนี้ที่คิโนะคุนิยะมีวางขายอยู่ที่เล่มละประมาณ 4-500 บาท เราสอยมาแล้วสองเล่มแรก
ถ้าใครมีแหล่งที่ถูกกว่านี้กรุณาชี้ทางด้วยค่ะ (ไปส่องในอเมซอนแล้วแพงคือกัน...)
หมายเห็ด * - รุปภาพประกอบการเล่ากระทู้อาจจะไม่สวยงามนัก เพราะอาศัยถ่ายเองด้วยมือถือ และไม่กล้าแหกหนังสือมาก แพง
จุดประสงค์กระทู้เพื่อเล่าสนุกๆ เพราะว่าไม่มีตีพิมพ์ภาษาไทย ถือเป็นทางเลือกให้คนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษได้รับทราบเรื่องราวกันซะมากกว่า
จขกท.ไม่ต้องการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด เลยอาศัยแหกหนังสือ และถ่ายเอาเองมาประกอบกระทู้ก็พอแล้วกันนะคะ
ใครพอมีทักษะด้านภาษา (อ่านง่ายนะ ไม่ยากรหอก ภาพก็เล่าเรื่องอยู่แล้ว) หรือชื่นชอบลายเส้น ก็ไปอุดหนุนของจริงได้ค่ะ
ถ้าใครเห็นว่ากระทู้นี้ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งลบได้ค่ะ
* ปล. เราอาจจะแปลผิดๆถูกๆบ้าง ภาษาบางส่วนมาจากภาษาฮินดูสันสกฤตบาลีฯลฯ ใครรู้จริงแนะนำได้นะคะ *
เอาล่ะ ยืดยาวมาแล้ว ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน
BUDDHA by Tezuka Osamu Vol.1 "กบิลพัสดุ์"
chapter 1 พราหมณ์
ที่ตีนภูเขาหิมาลัย หลังคาโลก ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของแม่น้ำหลายสาย มีคนอาศัยอยู่ที่นั่นมานานกว่า 3500 ปีแล้ว รู้จักกันในนามชนเผ่า "อารยัน" พวกเขาได้เผชิญกับภัยธรรมชาติหลากรูปแบบ จนในที่สุดก็ก่อตั้งเป็นอารยธรรมขึ้นมาได้ ซึ่งภายหลังก็กลายมาเป็นประเทศอินเดีย คนเหล่านี้มีการแบ่งชั้นวรรณะกัน ผู้ที่อยู่สูงสุดของระบบวรรณะเรียกตัวเองว่า "พราหมณ์" รองลงมาได้แก่ นักรบ , คนทั่วไป, และ ทาส ในยุคหนึ่งที่พราหมณ์ที่ควรจะเป็นผู้นำทางใจของประชาชน ได้ปล่อยตัวให้ตกต่ำไปกับสิ่งไร้สาระฟุ่มเฟือยทั้งหลาย ผู้คนต่างไม่พอใจและพยายามหาที่พึ่งทางใจใหม่ๆ พวกเขาต่างกำลังเฝ้ารอใครสักคนที่จะมานำทาง
เรื่องเล่าถึงพราหมณ์เฒ่าคนหนึ่ง เดินทางอยู่กลางหุบเขาและหมดแรงล้มลง
หมีป่า, จิ้งจอก, และกระต่ายได้มาพบเข้า ทั้งสามตกลงกันว่าจะออกไปหาอะไรมาให้พราหมณ์เฒ่ากิน
หมีไปหาปลามาได้ จิ้งจอกไปเอาผลไม้ที่เก็บเอาไว้ในรังมาให้ แต่กระต่ายจะทำยังไงก็หาอาหารมาไม่ได้เลย
พอกลับมาหาพราหมณ์เฒ่า ก็ถูกหมีกับจิ้งจอกตำหนิ กระต่ายน้อยรู้สึกผิดมาก จึงไปบอกพราหมณ์เฒ่าให้จุดไฟ
เมื่อพราหมณ์จุดไฟ กระต่ายน้อยจึงโดดลงกองไฟเพื่อเอาตัวเองสังเวยเป็นอาหารแทน
การเสีลสละของกระต่าย ทำให้พราหมณ์เฒ่าและหมีกับจิ้งจอกตกใจยิ่งนัก
พราหมณ์เฒ่าหลังน้ำตาออกมาและเชิดชูกระต่ายที่มีใจยิ่งใหญ่
เรื่องนี้กลายเป็นที่เล่าขานกันในหมู่พราหมณ์ต่อมา
"แต่ท่านอาจารย์อสิตา นี่จะเป็นเรื่องจริงได้อย่างไร กระต่ายน่ะหรือจะสังเวยตัวเองเป็นอาหารแก่มนุษย์?"
พราหมณ์คนหนึ่งถามขึ้น อสิตาตอบว่า
"ผู้เล่าเรื่องนี้คืออาจารย์ของข้าเอง นามว่าอาจารย์โกศาลา ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นอาจารย์โกศาลาได้เดินทางลงจากภูเขาและได้เข้าใจถึงวัฏจักรอันยิ่งใหญ่ของโลก อาจารย์เล่าเรื่องนี้ให้ข้าฟัง แต่ข้าก็ไม่อาจเข้าใจได้อย่างเช่นท่านอาจารย์"
เหล่าศิษย์ต่างสงสัยว่าทำไมกระต่ายจึงกระโดดลงกองไฟ แต่ปริศนานี้แม้แต่อ.อสิตายังไม่เข้าใจ แล้วใครจะเข้าใจ
อ.อสิตาบอกว่า มีคนคนหนึ่งที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้ เขาเป็นผู้มีอำนาจที่จะกลายเป็นเทพเจ้า หรือไม่ก็ครองโลกได้
อ.อสิตา ใช้ให้ลูกศิษย์คนหนึ่งชื่อนาราธัตถะเดินทางไปทางใต้เพื่อค้นหาชายผู้นั้น
ชายผู้วันหนึ่งจะกลายเป็นเทพเจ้า ไม่ก็เป็นกษัตริย์ (One who would be a God or A King)
พราหมณ์นาราธัตถะออกเดินทางไปทางใต้ด้วยความตื่นเต้นว่าเขาอาจจะได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ๋คนนั้น
ระหว่างทางมีเสือป่าโจมตีนาราธัตถะ นาราธัตถะบอกกับเสือว่า เชิญกินได้เลย ตนเตรียมใจมาแล้ว
ปรากฏว่า เสือล่าถอยไป พราหมณ์หนุ่มแปลกใจ แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้
เขาเดินทางต่อไปเรื่อยๆจนเข้าเขตชุมชน เมื่อสอบถามไปเรื่อยๆ ก็ได้ความว่า
"มีเด็กชายคนหนึ่ง ทั้งๆที่ไม่ใช่นักเวทย์ แต่กลับมีพลังวิเศษยิ่งกว่าพราหมณ์เสียอีก เด็กชายคนนั้นชื่อว่า ธัตถะ แต่เขาเกิดในวรรณะจัณฑาล"
(จัณฑาล คือ ลูกที่เกิดจากการสมรสข้ามวรรณะของพ่อแม่ ลูกที่เกิดมาจะวรรณะต่ำยิ่งกว่าทาส)
กล่าวถึงอีกมุมหนึ่งของเมือง จาปรา เด็กชายทาสคนหนึ่งกำลังแบกสินค้ากลับไปให้เจ้านาย
แต่โดนเด็กเปลือยคนหนึ่งผลักตกน้ำ และแย่งชิงสินค้าไป เมื่อจาปรากลับมาถึงบ้านเจ้านาย
เจ้านายโมโหมากและลงโทษเด็กชายอย่างหนัก แม่เขาของร้องให้เจ้านายลงโทษตนเองแทนลูก
เจ้านาย "ถ้าร่างกายเจ้า มีแผลเป็นจะขายไม่ได้ราคาเปล่าๆ"
หลังจากเฆี่ยนตีจาปราจนพอใจ เจ้านายก็สั่งให้ไปหาสินค้ามาคืนภายใน 3 วัน ไม่งั้นจะขายแม่ไปแทน
จาปราที่บาดเจ็บ ออกเดินทางเพื่อหาสินค้ามาคืนเจ้านาย เขาถูกคนดูถูกรังเกียจเหยียดหยามตลอด
จาปราคิดในใจว่า ทำไมเราจึงเกิดมาน่าสมเพชเช่นนี้ ทำไมจึงต้องเกิดมาเป็นทาส
ทำไมถึงไม่เกิดมาเป็นนักรบหรือเป็นพราหมณ์ คงจะดีไม่น้อยถ้าทำให้พวกพ่อค้าเหล่านั้นมากราบกรานที่แทบเท้าได้
จาปรานั่งร้องไห้กับตัวเองอย่างสิ้นหวัง
"ร้องไห้ทำไม?"
แก๊งเด็กจัณฑาล ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ จาปราจำได้ว่าหัวหน้าแก๊งคือคนที่ขโมยของไป
"ใครๆเรียกข้าว่า ธัตถะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
จาปราโมโหมาก ตลกอะไรกันนักหนา ตามหาหัวขโมยมาถึงสามวัน หากไม่ได้สินค้ากลับไป แม่ของเขาจะต้องถูกขาย
เมื่อขอให้ธัตถะคืนของมา ก็ถูกแก๊งเด็กจัณฑาลหัวเราะเยาะและรุมปัสสาวะใส่ แต่จาปรามีความสามารถพิเศษ
เขาปาหินได้แม่นยำมาก เพราะฝึกปาหินเพื่อเก็บกระดองเต่ามาตลอด พวกเด็กจัณฑาลถูกปาหินใส่ก็ล่าถอยไป
ธัตถะประทับใจ ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน แต่จาปราไม่เอาด้วย เขาต้องการแค่สินค้าคืนเพื่อไปช่วยแม่
แก๊งเด็กจัณฑาลมีกำลังมากกว่าก็รุมจาปราจนสลบไป
เมื่อลืมตาขึ้นมา จาปราอยู่ที่บ้านธัตถะ เป็นเพิงที่สภาพความเป็นอยู่แย่ยิ่งกว่าคอกหมูเสียอีก
จาปราตื่นมาได้ยินเสียงพี่สาวและแม่ของธัตถะคุยกันเรื่องผ้า(สินค้าที่ขโมยมาได้) ทั้งสองไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะใส่
จาปรารีบคลานไปจะเอาผ้าคืน และด่าทอว่าพวกนางเป็นหัวขโมย
พี่สาวธัตถะกับจาปราทะเลาะกันเสียงดัง จนธัตถะเข้ามาบอกให้จาปราหุบปาก ไม่งั้นจะจับย่างกิน
จาปราหมดหวังจึงนั่งร้องไห้
"แม่ของข้ากำลังจะถูกขายคืนนี้ ถ้าข้าไม่มีสินค้าไปคืน พวกเจ้าไม่มีทางรู้หรอกว่าชีวิตทาสมันเป็นยังไง"
"พวกเจ้าอาจเกิดมาต่ำต้อย และได้รับการปฏิบัติต่ำทรามเช่นกัน แต่อย่างน้อยเจ้าก็สามารถอยู่กับแม่ได้
ลองจินตนาการดูว่าถ้าแม่ของพวกเจ้าถูกขายเหมือนกับวัวหรือหมู จะรู้สึกยังไง"
จาปราด่ากราดแล้วก็ร้องไห้ ธัตถะจึงเสนอว่า พวกเราไปช่วยแม่เจ้ากันดีไหม
จาปรา : เจ้าบอกว่าจะช่วยงั้นเหรอ เจ้าไม่คนสินค้าที่ขโมยไป แต่กลับบอกว่าจะช่วยแม่ข้างั้นเหรอ?
ธัตถะ : ไม่ดีหรือไง เจ้าทั้งสองจะได้ไม่ต้องกลับไปเป็นทาสอีก
จาปรา : ปาฏิหาริย์เท่านั้นแหละที่จะช่วยแม่ของข้าได้...
*** จบ chapter 1 ***
สิทธัตถะยังไม่มา 55+