การมีศิลปะถือว่าเป็นสิ่งมงคลในมงคล38 ประการ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ว่า สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต การมีศิลปะก็ดีการมีพระวินัยถือว่าเป็นมงคลชีวิต (คำว่า"สิปปะ" ภาษาบาลีซึ่งตรงกับภาษาสันสกฤตที่ว่า "ศิลปะ" ที่ภาษาเรายืมมาใช้นั่นเอง)
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงเคยแต่งเพลงสดๆ ให้มาณพหนุ่มไปร้องประกวดจนได้รับรางวัลมาแล้ว สมัยนั้นเรียกเขาว่า "คีตะ" ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เรียกว่า "ด้นสด" หรือจะให้วัยรุ่นขึ้นมาหน่อยจะเรียกว่า "แร็พ" คงไม่ต่างกัน (ถ้ามีโอกาสจะมาเล่ารายละเอียดในภายหลัง)
ในพระคัมภีร์อรรถกถา มีการกล่าวถึงพระพุทธเจ้าร่ายคีตะให้พรามหมณ์คนหนึ่งฟังจนเขาหันมาถือพุทธ จริงๆ แล้ว เจ้าชายสิทธัตถะเป็นพราหมณ์มาก่อน และมีชื่อเสียงในด้านสุนทรียศาสตร์ (หนึ่งในคุณสมบัติของมหาบุรุษ) ทุกแขนงรวมทั้งการร่ายคีตะหรือร่ายกวีด้วย และเมื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว วันหนึ่งขณะออกเดินบิณฑบาต พราหมณ์เฒ่าคนหนึ่งที่เอกอุด้านคีตะจำพระพุทธเจ้าว่าเคยมีชื่อเสียงด้านคีตะ จึงได้ขอให้พระองค์ทรงร่ายคีตะ และเมื่อได้ฟังคีตะของพระองค์แล้วก็ปวารณาตัวเป็นพุทธศาสนิกชน
คัมภีร์มังคลัตถทีปนี ได้เล่าถึงพระภิกษุรูปหนึ่งที่ปลีกวิเวกเร่งทำความเพียรอย่างแรงกล้าหวังจะได้วิมุตติหลุดพ้น ตลอดพรรษาก็ไม่ก้าวหน้าอะไร เมื่อออกพรรษาจึงเดินทางกลับจะไปหาพระอาจารย์เพื่อให้ช่วยแก้วัตรกัมมัฏฐานให้ ระหว่างทางท่านเดินผ่านทุ่งนา ที่มีเด็กหญิงกำลังพายเรือเก็บดอกบัวกลางสระน้ำไปและร้องเพลงไปอย่างไพเราะ เนื้อเพลงโดนใจพระคุณท่านนัก จิตดำดิ่งสู่ภวังค์แล้วบรรลุอรหันต์ ณ ตรงนั้น
เคยสงสัยกันเหมือนผมไหมครับ ว่าทำไมในวันที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สิ่งที่ดลใจให้เจ้าชายน้อมจิตเข้าสู่สมาธินั้นคือ "เสียงพิณ" สามสายจากเทวดา เทวดาที่มีอิทธิฤทธิ์มากมายก่ายกอง จะเสกจะแปลงอะไรที่มาดลจิตดลใจให้เจ้าชายสิทธัตถะน้อมสู่สมาธิอย่างไรก็ได้ แต่เทวดาท่านนั้นเลือก "ดนตรี" คือดีดพิณสามสายให้พระองค์ได้ยิน??
….พลังและอิทธิพลแห่ง "สุนทรียศาสตร์" บทเพลง/ ดนตรี/ กวี /ศิลปะ…../วัชรานนท์
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงเคยแต่งเพลงสดๆ ให้มาณพหนุ่มไปร้องประกวดจนได้รับรางวัลมาแล้ว สมัยนั้นเรียกเขาว่า "คีตะ" ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เรียกว่า "ด้นสด" หรือจะให้วัยรุ่นขึ้นมาหน่อยจะเรียกว่า "แร็พ" คงไม่ต่างกัน (ถ้ามีโอกาสจะมาเล่ารายละเอียดในภายหลัง)
ในพระคัมภีร์อรรถกถา มีการกล่าวถึงพระพุทธเจ้าร่ายคีตะให้พรามหมณ์คนหนึ่งฟังจนเขาหันมาถือพุทธ จริงๆ แล้ว เจ้าชายสิทธัตถะเป็นพราหมณ์มาก่อน และมีชื่อเสียงในด้านสุนทรียศาสตร์ (หนึ่งในคุณสมบัติของมหาบุรุษ) ทุกแขนงรวมทั้งการร่ายคีตะหรือร่ายกวีด้วย และเมื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว วันหนึ่งขณะออกเดินบิณฑบาต พราหมณ์เฒ่าคนหนึ่งที่เอกอุด้านคีตะจำพระพุทธเจ้าว่าเคยมีชื่อเสียงด้านคีตะ จึงได้ขอให้พระองค์ทรงร่ายคีตะ และเมื่อได้ฟังคีตะของพระองค์แล้วก็ปวารณาตัวเป็นพุทธศาสนิกชน
คัมภีร์มังคลัตถทีปนี ได้เล่าถึงพระภิกษุรูปหนึ่งที่ปลีกวิเวกเร่งทำความเพียรอย่างแรงกล้าหวังจะได้วิมุตติหลุดพ้น ตลอดพรรษาก็ไม่ก้าวหน้าอะไร เมื่อออกพรรษาจึงเดินทางกลับจะไปหาพระอาจารย์เพื่อให้ช่วยแก้วัตรกัมมัฏฐานให้ ระหว่างทางท่านเดินผ่านทุ่งนา ที่มีเด็กหญิงกำลังพายเรือเก็บดอกบัวกลางสระน้ำไปและร้องเพลงไปอย่างไพเราะ เนื้อเพลงโดนใจพระคุณท่านนัก จิตดำดิ่งสู่ภวังค์แล้วบรรลุอรหันต์ ณ ตรงนั้น
เคยสงสัยกันเหมือนผมไหมครับ ว่าทำไมในวันที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สิ่งที่ดลใจให้เจ้าชายน้อมจิตเข้าสู่สมาธินั้นคือ "เสียงพิณ" สามสายจากเทวดา เทวดาที่มีอิทธิฤทธิ์มากมายก่ายกอง จะเสกจะแปลงอะไรที่มาดลจิตดลใจให้เจ้าชายสิทธัตถะน้อมสู่สมาธิอย่างไรก็ได้ แต่เทวดาท่านนั้นเลือก "ดนตรี" คือดีดพิณสามสายให้พระองค์ได้ยิน??