ผมติดตาม พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก ทางช่องเวิร์คพ้อยท์ มาตั้งแต่ต้น
ยอมรับว่าตอนนี้ติดมากๆเลยครับ แทบจะทนรอไม่ไหวอยากให้ถึงเสาร์ อาทิตย์เร็วๆ จริงๆ
ผมชอบหลายๆอย่างของ ซีรีย์นี้ แม้ในครั้งแรกก่อนดู รู้สึกเฉยๆ เพราะเคยดูทั้งหนัง little budda ,สารคดี bbc ,การ์ตูนพระพุทธเจ้า
คิดว่าคงจะคล้ายๆกัน แต่อาจแตกต่างในเรื่องของฉากถ่ายทำ นักแสดง(ซึ่งเป็นชาวอินเดียโดยตรง) แต่กลับผิดคาดเลยครับ
ทำออกมาได้ดีมาก
สิ่งที่ผมชอบในซีรีย์ พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก นี้นะครับ
1.นักแสดงเป็นชาวอินเดียโดยตรง ทำให้เห็นภาพลักษณะหน้าตาของคน ในยุคสมัยพระพุทธเจ้าได้ตรงขึ้น นักแสดงเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นแขกทั้งหมดยิ่งเหมือนพาเราไปยืนอยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์เมื่อสองพันหกร้อยปีก่อน
2.การแต่งกายของแต่ละวรรณะในยุคนั้น ทำให้ผมเห็นภาพวรรณะกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ว่าเป็นอย่างไร (ในเรื่องนึกไม่ออกว่ามีจัณฑาลด้วยรึเปล่า)
แต่บอกเลยว่าชุดสวยมากๆครับ เพราะบางทีถ้าเราดูเวอร์ชั่นคนไทยทำ ก็จะออกแนว จักรๆวงศ์ๆไปเลย
3.สถาปัตยกรรมในยุคนั้น ได้เห็นว้งของกษัตริย์ บ้านเรือน พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ว่าเป็นยังไง
4.เนื่องจากมีระยะเวลาให้เล่าเรื่องเลยลง detail บางเรื่อง ที่เราไม่เคยรู้แต่เคยสงสัย เช่น เรื่องยุคนั้นน่าจะมีการทำสงครามระหว่างอาณาจักรกันอยู่
แล้วพระพุทธเจ้าไม่ต้องออกรบด้วยเลยเหรอ ซึ่งก็ต้องมีการฆ่าคน แล้วพระพุทธเจ้าเคยฆ่าคนไหม ในซีรีย์มีคำตอบเรื่องนี้ บอกอยู่ด้วย
5.ชีวิตของพระพุทธเจ้า แม้เกิดมาเป็นเจ้าชาย แต่ก็ไม่ได้ราบรื่นสะดวกสบายไปทุกอย่าง มีเรื่องคอยให้แก้ปัญหา ต้องใช้สมอง และ ต้องเรียนรู้ ฝึกฝน กว่าจะเก่งได้
6.เหมือนชีวิตจริงทั่วไป ได้เห็นการอิจฉากัน มีการทะเลาะกัน (พระนางมังคลา แม่ของพระเทวท้ต พยายามทุกวิธีทางจะให้ลูกได้เป็นกษัตยริย์ แม้วิธีที่จะต้องทำให้เจ้าชายสิทธัตถะตาย ตั้งแต่ยังอยู่ในพระครรภ์ก็ตาม)
ึ7.การเมือง เป็นปัญหามาตั้งแต่สมัย พระพุทธเจ้า จะเห็นได้จาก ฉากท้องพระโรง ที่มีการขัดแย้งกัน มีผลประโยชน์ในเรื่องอำนาจ การทะเลาะกัน มีการฆ่าปิดปากด้วย
8.ความมีเหตุมีผล ของเรื่องที่ดำเนินมา ทำให้เราเข้าใจชีวิตก่อนบวชของพระพุทธเจ้าได้ดี
9.แสดงความเป็นคนช่างสงสัยของ เจ้าชายสิทธัตถะ มีการตั้งคำถาม คำตอบ การตอบโต้กับพราหมณ์ หลายๆครั้งทำเอาผมทึ่งจริงๆ
10.จะลืมชมไม่ได้เลยครับ ในส่วนของเพลงประกอบ "พระพุทธเจ้า"
เพลงประกอบละครซีรีส์ พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก
แต่งโดย พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ เห็นว่าเอาท่อนเสียงทำนองช่วงนึงในฉบับอินเดียก่อนพากษ์ไทยมาแต่งเพลงนี้
เนื้อร้องผมว่าเป็นอะไรที่มห้ศจรรย์มาก ต้องเป็นคนที่อ่านและเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าลึกซึ้ง ถึงได้แต่งและถ่ายทอดออกมาได้เช่นนี้
ดูมาจนถึงอาทิตย์นี้ผมเริ่มเห็น แรงจูงใจในการออกบวช ของพระพุทธเจ้าแล้วครับ สรุปเป็นข้อๆที่ผมสังเกตเองนะครับ
1.พระเจ้าสุทโธทนะ จำกัดขอบเขต ของเจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ให้เห็นสิ่งที่อยู่นอกวัง ให้เห็นแต่สิ่งที่สร้างสรรค์ให้สวยงาม เมื่อออกไปเห็น สิ่งที่อยู่ข้างนอก เป็นทั้งที่เป็นสิ่งที่ถ้าคนที่เคยเห็นมาตั้งแต่เด็กคงชิน แต่เจ้าชายสิทธัตถะไม่เคยเห็นมาก่อน เลยทำให้เป็นเรื่องแปลก ทั้งความยากจน ความอดอยาก อาหารการกินที่ชาวบ้านนำมาถวายแต่เจ้าชายสิทธัตถะ ยังรู้สึกลำบากใจที่จะรับเลย ยังต้องกินด้วยความเกรงใจแบบไม่เต็มคำ
2 ตั้งแต่เยาว์วัย และชอบตั้งสมมติฐาน และคอยหาคำตอบเรื่อยมา เป็นคนฉลาดคิด ฉลาดพูด ตรรกะสุดยอดมากๆครับ
3.ได้อาจารย์ดี พราหมณ์ที่เป็นอาจารย์ของเจ้าชาย มีความรอบรู้จริงในหลายวิชา และสอนเจ้าชายสิทธัตถะ ในเรื่องสมาธิ และธรรมชาติ สุดท้ายอาจารย์ก็ถูกไล่ออก และต้องออกไปค้นหาชีวิตในป่า
3 มีความเมตตาต่อคน สัตว์ มีชอบการฆ่าคน และสัตว์ เมื่อเห็นการฆ่า เจ้าชายสิทธัตถะ จะรู้สึกเสียใจและหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง
4.ชีวิตโดยรอบ มีแต่การแก่งแย่ง ชิงดีกันภายในวัง และนอกวัง มีแต่ปัญหา เป็นโลกที่วุ่นวาย เริ่มมองเห็นทุกข์
5.เจ้าชายสิทธัตถะ รู้สึกแปลกใจ เมื่อเห็นนักบวช ที่รู้สีกสุขใจ ทั้งที่มักน้อย และสันโดษ อยู่กับธรรมชาติ ต่างกับชาวบ้าน ที่อดอยากและไม่พอ
6.การต่อต้าน พราหมณ์ อยู่ลึกๆ ได้เห็นการ วิวาทะในหลายๆฉาก ทำเอาพราหมณ์จนปัญญาไม่สามารถตอบเจ้าชายสิทธัตถะ ในสิ่งที่ถามกลับได้
7. เจ้าชายสิทธัตถะ anti เทพพระเจ้าของพราหมณ์ อยู่ลึกๆ สังเกตุจาก เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่เคยสวดอ้อนวอนขอเทพเจ้าเลย เหมือนจะไม่เชื่อว่าเทพเจ้าจะมาช่วยจริง
8.พระนางมังคลา วางแผนอยากให้พระพุทธเจ้าออกบวช จึงพาไปพบกับ นักบวช หรือ มุนี ที่ทำให้พระพุทธเจ้าเห็นแล้ว รู้สึกประทับใจ มีคำถามหลายเรื่อง เช่นเรื่องให้ถอดเครื่องประดับก่อนเข้าหา นักบวชตอบว่า ความรู้ต่างๆมีอยู่ในความเรียบง่าย เสื้อผ้าอาภรณ์ของแพงเป็นสัญลักษณืของความอวดดี
เจ้าชายถามว่าทำไม ท่านถึงนุ่งสีส้ม นักบวชตอบ นี่คือสัญลักษณ์ของการปฎิวัติ เจ้าชายเข้าใจเลยตอบว่า งั้นความรู้ก็คือการปฎิวัติทางความคิด
เจ้าชายดูมีความสุขมากๆเวลาอยู่กับ นักบวชที่รักสมถะและสันโดษแบบนี้
9.ในเรื่องยังไม่เห็นฉากที่เราเข้าใจว่า เจ้าชายออกบวชเพราะตื่นขึ้นมาเห็นนางคนิกา นอนอุจจาดตา แบบที่เราเข้าใจ ดูในเรื่องเจ้าชายจะเป็นคนรักเดียวใจเดียว รักครอบครัว ไม่ได้หมกมุ่นอยู่แต่ในโลกิยะที่พระเจ้าสุทโธทนะ จัดไว้ให้
สรุปก็รอติดตามต่ออยู่ครับ ท่านใดดูไม่ทันก็ไปติดตามดูย้อนหลังในยูทูปได้นะครับ
ขอบคุณ บ.เวิร์คพ้อยท์ ด้วยนะครับ ที่นำรายการดีๆแบบนี้มาให้คนไทยได้ชม
ซีรีย์ "พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก" ติดตามมาจนถึงตอนปัจจุบัน เริ่มเห็นแรงจูงใจในการออกบวช ของพระพุทธเจ้าแล้วครับ
ยอมรับว่าตอนนี้ติดมากๆเลยครับ แทบจะทนรอไม่ไหวอยากให้ถึงเสาร์ อาทิตย์เร็วๆ จริงๆ
ผมชอบหลายๆอย่างของ ซีรีย์นี้ แม้ในครั้งแรกก่อนดู รู้สึกเฉยๆ เพราะเคยดูทั้งหนัง little budda ,สารคดี bbc ,การ์ตูนพระพุทธเจ้า
คิดว่าคงจะคล้ายๆกัน แต่อาจแตกต่างในเรื่องของฉากถ่ายทำ นักแสดง(ซึ่งเป็นชาวอินเดียโดยตรง) แต่กลับผิดคาดเลยครับ
ทำออกมาได้ดีมาก
สิ่งที่ผมชอบในซีรีย์ พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก นี้นะครับ
1.นักแสดงเป็นชาวอินเดียโดยตรง ทำให้เห็นภาพลักษณะหน้าตาของคน ในยุคสมัยพระพุทธเจ้าได้ตรงขึ้น นักแสดงเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นแขกทั้งหมดยิ่งเหมือนพาเราไปยืนอยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์เมื่อสองพันหกร้อยปีก่อน
2.การแต่งกายของแต่ละวรรณะในยุคนั้น ทำให้ผมเห็นภาพวรรณะกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ว่าเป็นอย่างไร (ในเรื่องนึกไม่ออกว่ามีจัณฑาลด้วยรึเปล่า)
แต่บอกเลยว่าชุดสวยมากๆครับ เพราะบางทีถ้าเราดูเวอร์ชั่นคนไทยทำ ก็จะออกแนว จักรๆวงศ์ๆไปเลย
3.สถาปัตยกรรมในยุคนั้น ได้เห็นว้งของกษัตริย์ บ้านเรือน พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ว่าเป็นยังไง
4.เนื่องจากมีระยะเวลาให้เล่าเรื่องเลยลง detail บางเรื่อง ที่เราไม่เคยรู้แต่เคยสงสัย เช่น เรื่องยุคนั้นน่าจะมีการทำสงครามระหว่างอาณาจักรกันอยู่
แล้วพระพุทธเจ้าไม่ต้องออกรบด้วยเลยเหรอ ซึ่งก็ต้องมีการฆ่าคน แล้วพระพุทธเจ้าเคยฆ่าคนไหม ในซีรีย์มีคำตอบเรื่องนี้ บอกอยู่ด้วย
5.ชีวิตของพระพุทธเจ้า แม้เกิดมาเป็นเจ้าชาย แต่ก็ไม่ได้ราบรื่นสะดวกสบายไปทุกอย่าง มีเรื่องคอยให้แก้ปัญหา ต้องใช้สมอง และ ต้องเรียนรู้ ฝึกฝน กว่าจะเก่งได้
6.เหมือนชีวิตจริงทั่วไป ได้เห็นการอิจฉากัน มีการทะเลาะกัน (พระนางมังคลา แม่ของพระเทวท้ต พยายามทุกวิธีทางจะให้ลูกได้เป็นกษัตยริย์ แม้วิธีที่จะต้องทำให้เจ้าชายสิทธัตถะตาย ตั้งแต่ยังอยู่ในพระครรภ์ก็ตาม)
ึ7.การเมือง เป็นปัญหามาตั้งแต่สมัย พระพุทธเจ้า จะเห็นได้จาก ฉากท้องพระโรง ที่มีการขัดแย้งกัน มีผลประโยชน์ในเรื่องอำนาจ การทะเลาะกัน มีการฆ่าปิดปากด้วย
8.ความมีเหตุมีผล ของเรื่องที่ดำเนินมา ทำให้เราเข้าใจชีวิตก่อนบวชของพระพุทธเจ้าได้ดี
9.แสดงความเป็นคนช่างสงสัยของ เจ้าชายสิทธัตถะ มีการตั้งคำถาม คำตอบ การตอบโต้กับพราหมณ์ หลายๆครั้งทำเอาผมทึ่งจริงๆ
10.จะลืมชมไม่ได้เลยครับ ในส่วนของเพลงประกอบ "พระพุทธเจ้า"
เพลงประกอบละครซีรีส์ พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก
แต่งโดย พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ เห็นว่าเอาท่อนเสียงทำนองช่วงนึงในฉบับอินเดียก่อนพากษ์ไทยมาแต่งเพลงนี้
เนื้อร้องผมว่าเป็นอะไรที่มห้ศจรรย์มาก ต้องเป็นคนที่อ่านและเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าลึกซึ้ง ถึงได้แต่งและถ่ายทอดออกมาได้เช่นนี้
ดูมาจนถึงอาทิตย์นี้ผมเริ่มเห็น แรงจูงใจในการออกบวช ของพระพุทธเจ้าแล้วครับ สรุปเป็นข้อๆที่ผมสังเกตเองนะครับ
1.พระเจ้าสุทโธทนะ จำกัดขอบเขต ของเจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ให้เห็นสิ่งที่อยู่นอกวัง ให้เห็นแต่สิ่งที่สร้างสรรค์ให้สวยงาม เมื่อออกไปเห็น สิ่งที่อยู่ข้างนอก เป็นทั้งที่เป็นสิ่งที่ถ้าคนที่เคยเห็นมาตั้งแต่เด็กคงชิน แต่เจ้าชายสิทธัตถะไม่เคยเห็นมาก่อน เลยทำให้เป็นเรื่องแปลก ทั้งความยากจน ความอดอยาก อาหารการกินที่ชาวบ้านนำมาถวายแต่เจ้าชายสิทธัตถะ ยังรู้สึกลำบากใจที่จะรับเลย ยังต้องกินด้วยความเกรงใจแบบไม่เต็มคำ
2 ตั้งแต่เยาว์วัย และชอบตั้งสมมติฐาน และคอยหาคำตอบเรื่อยมา เป็นคนฉลาดคิด ฉลาดพูด ตรรกะสุดยอดมากๆครับ
3.ได้อาจารย์ดี พราหมณ์ที่เป็นอาจารย์ของเจ้าชาย มีความรอบรู้จริงในหลายวิชา และสอนเจ้าชายสิทธัตถะ ในเรื่องสมาธิ และธรรมชาติ สุดท้ายอาจารย์ก็ถูกไล่ออก และต้องออกไปค้นหาชีวิตในป่า
3 มีความเมตตาต่อคน สัตว์ มีชอบการฆ่าคน และสัตว์ เมื่อเห็นการฆ่า เจ้าชายสิทธัตถะ จะรู้สึกเสียใจและหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง
4.ชีวิตโดยรอบ มีแต่การแก่งแย่ง ชิงดีกันภายในวัง และนอกวัง มีแต่ปัญหา เป็นโลกที่วุ่นวาย เริ่มมองเห็นทุกข์
5.เจ้าชายสิทธัตถะ รู้สึกแปลกใจ เมื่อเห็นนักบวช ที่รู้สีกสุขใจ ทั้งที่มักน้อย และสันโดษ อยู่กับธรรมชาติ ต่างกับชาวบ้าน ที่อดอยากและไม่พอ
6.การต่อต้าน พราหมณ์ อยู่ลึกๆ ได้เห็นการ วิวาทะในหลายๆฉาก ทำเอาพราหมณ์จนปัญญาไม่สามารถตอบเจ้าชายสิทธัตถะ ในสิ่งที่ถามกลับได้
7. เจ้าชายสิทธัตถะ anti เทพพระเจ้าของพราหมณ์ อยู่ลึกๆ สังเกตุจาก เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่เคยสวดอ้อนวอนขอเทพเจ้าเลย เหมือนจะไม่เชื่อว่าเทพเจ้าจะมาช่วยจริง
8.พระนางมังคลา วางแผนอยากให้พระพุทธเจ้าออกบวช จึงพาไปพบกับ นักบวช หรือ มุนี ที่ทำให้พระพุทธเจ้าเห็นแล้ว รู้สึกประทับใจ มีคำถามหลายเรื่อง เช่นเรื่องให้ถอดเครื่องประดับก่อนเข้าหา นักบวชตอบว่า ความรู้ต่างๆมีอยู่ในความเรียบง่าย เสื้อผ้าอาภรณ์ของแพงเป็นสัญลักษณืของความอวดดี
เจ้าชายถามว่าทำไม ท่านถึงนุ่งสีส้ม นักบวชตอบ นี่คือสัญลักษณ์ของการปฎิวัติ เจ้าชายเข้าใจเลยตอบว่า งั้นความรู้ก็คือการปฎิวัติทางความคิด
เจ้าชายดูมีความสุขมากๆเวลาอยู่กับ นักบวชที่รักสมถะและสันโดษแบบนี้
9.ในเรื่องยังไม่เห็นฉากที่เราเข้าใจว่า เจ้าชายออกบวชเพราะตื่นขึ้นมาเห็นนางคนิกา นอนอุจจาดตา แบบที่เราเข้าใจ ดูในเรื่องเจ้าชายจะเป็นคนรักเดียวใจเดียว รักครอบครัว ไม่ได้หมกมุ่นอยู่แต่ในโลกิยะที่พระเจ้าสุทโธทนะ จัดไว้ให้
สรุปก็รอติดตามต่ออยู่ครับ ท่านใดดูไม่ทันก็ไปติดตามดูย้อนหลังในยูทูปได้นะครับ
ขอบคุณ บ.เวิร์คพ้อยท์ ด้วยนะครับ ที่นำรายการดีๆแบบนี้มาให้คนไทยได้ชม