ตั้งหัวข้อแบบนี้เพราะต้องการจะถกเถียงและพูดคุยเรื่องเหตุและผลในพระไตรปิฏกนะครับ (ความเห็นส่วนตัวและความเชื่อส่วนตัวไม่เกี่ยว เหตุผลล้วนๆ)
เนื่องจากลองเข้าไปอ่านดูวิชาธรรมกายจากในหลายๆที่เพื่อจะหาเหตุผลและหลักฐานมาประกอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ้างอิงจากของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ www.watpaknam.org/meditation/page_01.php
แต่ปรากฏว่าที่กล่าวไว้ในวัดปากน้ำนั้นไม่ได้เป็นแนวทางปฏิบัติที่มีกล่าวถึงในพระไตรปิฏก หลวงพ่อสดอ้างเพียงว่า
“...พระสิทธัตถะ ทรงกระทำความเพียรอยู่ถึง ๖ พรรษา จึงพบรัตนะอันลี้ลับซับซ้อน อยู่ในองค์พระคือพระธรรมกาย มีสัณฐานเหมือนพระปฏิมากร เกตุดอกบัวตูม มีสีใสเหมือนกระจก ปรากฏอยู่ในศูนย์กลางกาย ที่ว่านี้มีหลักฐานอยู่ในอัคคัญญสูตร ที่พระองค์ตรัสแก่วาเสฎฐสามเณรว่า
ตถาคตสฺส เหตํ วาเสฎฺฐา อธิวจนํ ธมฺมกาโย อิติปิ ในพระสุตตันตปิฎก ฑีฆนิกาย ปาฎิกวรรค ยืนยันความว่าดูกรวาเสฎฐสามเณร “คำว่าธรรมกายนี้ เป็นชื่อของพระตถาคตโดยแท้
และสูตรต่างๆที่ยกมานั้นก็เป็นเพียงการเอาคำตรัสบางคำของพระพุทธเจ้ามากล่าวอ้างให้เข้ากับวิชชาธรรมกาย โดยไม่มีการกล่าวถึงวิธีปฏิบัติในนั้นเลยแม้แต่น้อย
และด้วยเพียงเหตุนี้ หากเราลองไปอ่านดูในเรื่องกรรมฐาน 40อย่างก็จะเห็นได้ว่า ในจำนวนนั้นไม่มีกรรมฐานที่ชื่อว่า "ธรรมกาย"
แล้วสาวกเอาการปฏิบัติแบบนี้มาจากไหน ถ้าจะบอกว่าปฏิบัติเองจนสำเร็จแล้วนำมาเผยแพร่เองก็กระไรอยู่ เพราะผู้ได้ชื่อว่าตรัสรู้โดยชอบด้วยตนเองนั้นคือพระพุทธเจ้า ไม่มีสาวกคนใดที่ไม่ได้ศึกษาคำสอนแล้วบรรลุธรรมเองได้
จากข้อที่กล่าวมานั้นอยากให้ลองคิดและพูดคุย (ด้วยเหตุผล)กันดูครับ
[พลีชีพ] หรือวิชาธรรมกายจะไม่มีจริง...
เนื่องจากลองเข้าไปอ่านดูวิชาธรรมกายจากในหลายๆที่เพื่อจะหาเหตุผลและหลักฐานมาประกอบ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ปรากฏว่าที่กล่าวไว้ในวัดปากน้ำนั้นไม่ได้เป็นแนวทางปฏิบัติที่มีกล่าวถึงในพระไตรปิฏก หลวงพ่อสดอ้างเพียงว่า
“...พระสิทธัตถะ ทรงกระทำความเพียรอยู่ถึง ๖ พรรษา จึงพบรัตนะอันลี้ลับซับซ้อน อยู่ในองค์พระคือพระธรรมกาย มีสัณฐานเหมือนพระปฏิมากร เกตุดอกบัวตูม มีสีใสเหมือนกระจก ปรากฏอยู่ในศูนย์กลางกาย ที่ว่านี้มีหลักฐานอยู่ในอัคคัญญสูตร ที่พระองค์ตรัสแก่วาเสฎฐสามเณรว่า ตถาคตสฺส เหตํ วาเสฎฺฐา อธิวจนํ ธมฺมกาโย อิติปิ ในพระสุตตันตปิฎก ฑีฆนิกาย ปาฎิกวรรค ยืนยันความว่าดูกรวาเสฎฐสามเณร “คำว่าธรรมกายนี้ เป็นชื่อของพระตถาคตโดยแท้
และสูตรต่างๆที่ยกมานั้นก็เป็นเพียงการเอาคำตรัสบางคำของพระพุทธเจ้ามากล่าวอ้างให้เข้ากับวิชชาธรรมกาย โดยไม่มีการกล่าวถึงวิธีปฏิบัติในนั้นเลยแม้แต่น้อย
และด้วยเพียงเหตุนี้ หากเราลองไปอ่านดูในเรื่องกรรมฐาน 40อย่างก็จะเห็นได้ว่า ในจำนวนนั้นไม่มีกรรมฐานที่ชื่อว่า "ธรรมกาย"
แล้วสาวกเอาการปฏิบัติแบบนี้มาจากไหน ถ้าจะบอกว่าปฏิบัติเองจนสำเร็จแล้วนำมาเผยแพร่เองก็กระไรอยู่ เพราะผู้ได้ชื่อว่าตรัสรู้โดยชอบด้วยตนเองนั้นคือพระพุทธเจ้า ไม่มีสาวกคนใดที่ไม่ได้ศึกษาคำสอนแล้วบรรลุธรรมเองได้
จากข้อที่กล่าวมานั้นอยากให้ลองคิดและพูดคุย (ด้วยเหตุผล)กันดูครับ