จขกทเกิดมาในครอบครัวที่ภายนอกเหมือน "ครอบครัวที่อบอุ่น" ค่ะ คุณพ่อคุณแม่เป็นคนตั้งใจทำมาหากิน ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
"พ่อ" เป็นพ่อที่ดี ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ตั้งแต่เราเกิดมาก็จะเห็นว่าชีวิตพ่อมีแต่เรื่องงานกับเรื่องครอบครัว ถึงแม้จะต้องทำงานหนัก ต้องทานข้าวนอกบ้านบ่อยครั้งด้วยหน้าที่การงาน แต่พ่อก็พยายามกลับมาบ้านเร็วตลอดเพื่อใช้เวลากับครอบครัว
"แม่" ก็คล้ายๆพ่อค่ะ คือถึงจะทำงานหนักมากแต่ทั้งชีวิตถ้าว่างจากงานเมื่อไหร่ก็จะทุ่มเทให้กับครอบครัวเต็มที่ ดูแลเรื่องในบ้านทุกเรื่องไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และใช้เวลาว่างทั้งหมดดูแลลูกๆและสามี
โดยภายนอกแล้วฟังดูเหมือนจะเป็นครอบครัวที่หลายคนคงอิจฉาใช่ไหมคะ เราก็เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเราต้องมานั่งอึดอัดใจจนต้องมาตั้งกระทู้นี้ (รู้ว่าหลายๆคนที่อ่านอยู่ก็คงด่าในใจ) เพราะเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นขนาดนี้ ในขนาดที่หลายๆคนไม่มีพ่อแม่อยู่ให้ดูแลแล้วด้วยซ้ำ
แต่ขอพื้นที่ตรงนี้นิดนึงเพื่อเล่าเรื่องในบ้านที่ทำให้เราอึดอัดใจนะคะ
เรื่องที่หนึ่ง คือ กำแพงระหว่างเรากับพ่อแม่ และความสัมพันธ์ที่เหมือนหัวหน้าลูกน้องค่ะ
ด้วยความที่พ่อแม่ทำงานหนักมาตลอด ท่านเลยกลายเป็นคนที่ซีเรียสและจริงจังกับชีวิต บทสนทนาเวลาเราทุกคนอยู่บ้านจะเกี่ยวกับเรื่องที่ทำงานของพ่อแม่ การศึกษาของลูก ลูกควรเรียนต่อที่ไหน ลูกได้เกรดเท่าไหร่ ลูกโตไปควรสมัครงานอะไร งานที่ลูกทำอยู่เป็นอย่างไง เจ้านายดีไหม นึกออกใช่ไหมคะ คือลูกบางคนสนิทกับพ่อแม่สามารถคุยปรับทุกข์กับท่านได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักเรื่องเพื่อน แต่บ้านเราไม่ใช่อย่างนั้นเลย ถึงแม้เราจะไปเที่ยวด้วยกันมีทริปครอบครัวแต่บทสนทนาเวลาไปเที่ยวก็จะเป็นเรื่องที่ซีเรียสตลอดเวลา จขกทก็มีปัญหาชีวิตแบบคนทั่วไปค่ะ มีอกหัก ทะเลาะกับเพื่อน ทะเลาะกับแฟน (ทุกวันนี้มีแฟนมาแล้วห้าปีแล้วแต่ก็ไม่กล้าบอกท่าน ท่านคิดมาตลอดว่าจขกทเป็นคนโสดตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานและไม่รู้จักเรื่องความรัก) แต่ก็ไม่กล้าคุยกับท่านเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย เพราะร็สึกไม่สนิทเหมือนมีกำแพงอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่คุยกันในบ้านเหมือนอยู่ที่ประชุมค่ะ ทำให้เรากลายเป็นคนเก็บกด ต้องเก็บเรื่องราวในชีวิตตั้งแต่เล็กไว้กับตัวเองไม่รู้จะหันไปหาใครค่ะ
เรื่องที่สอง...ไม่มีอิสรภาพหรือพื้นที่ส่วนตัว
ถึงแม้เราจะอายุสามสิบแล้ว ทุกครั้งที่ไปทานข้าวเย็นกับเพื่อนจะต้องขออนุญาติพ่อแม่ล่วงหน้า เพราะตั้งแต่เล็กพ่อแม่จะปลูกฝังไว้เสมอว่า 'ครอบครัวของเราจะต้องทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน ข้าวเย็นเป็นเวลาที่ครอบครัวจะได้อยู่ด้วยกัน' เมื่อไหร่ที่เราขอไปทานข้าวกับเพื่อน พ่อแม่จะทำสีหน้าน้อยใจ และพูดว่า 'หนูไม่คิดถึงพ่อแม่แล้วเหรอ ไปเจอแต่เพื่อนฝูง' บางทีพอเราขับรถกลับมาหลังจากทานข้าวทั้งพ่อทั้งแม่ก็จะมาเฝ้ารอเราหน้าประตูบ้าน เพื่อมากอดและบอกว่าคิดถึงจังทำไมกลับดึกอย่างนี้ จริงๆแล้วเราไม่เคยกลับไม่เกินสี่ห้าทุ่มเลยนะคะและไม่เคยเหลวไหลเมากลับมาบ้านเลย ทั้งชีวิตเคยไปเที่ยวผับไม่ถึงสามครั้งด้วยซ้ำ ทุกครั้งก็จะต้องขอเพื่อนกลับก่อนห้าทุ่มเพราะไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง โดยเพื่อนก็จะด่าว่าสามสิบแล้วนะ ทำไมจะลากแกออกมาจากบ้านมันยากอย่างงี้ จขกทออกไปกับเพื่อนหรือแฟนอย่างมากก็อาทิตย์ละครั้งค่ะ เสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่ได้ไปไหนเลย อยู่บ้านจัดของให้พ่อแม่ ไม่ก็ขับพาท่านไปทานข้าวหรือพาไปออกกำลังกาย เลยทำให้เป็นคนที่ห่างไกลเพื่อนฝูงและแทบไม่มีเพื่อนค่ะ (และยิ่งทำให้เป็นคนเก็บกดเข้าไปใหญ่เพราะไม่มีเพื่อนสนิทที่คุยด้วยได้)
อีกเรื่องคือเวลาอยู่บ้านถึงแม้จขกทจะมีห้องนอนของตัวเองแต่ก็เหมือนไม่มีค่ะ พ่อแม่จะผลัดกันมานอนกับจขกท หรือไม่ก็ขอให้จขกทนั่งอยู่กับท่านที่ห้องนั่งเล่นจนถึงเวลานอนค่อยขึ้นไปนอนจริงๆ ห้ามมีทีวีในห้องนอนส่วนตัวเพราะบอกว่าครอบครัวต้องอยู่ห้องเดียวกันใช้เวลาด้วยกัน ถ้าวันไหนจขกทอยากคุยโทรศัพท์กับแฟน แอบไปคุยกระซิบในห้องนอนนานเกิน ก็จะถูกเคาะประตูถามตลอดว่าทำอะไรอยู่และก็ต้องวางสายจากแฟนไปค่ะ
จกขทเป็นเด็กดีมาตลอดนะคะ ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เรียนได้คะแนนเกือบ 4.0 มาทั้งชีวิต เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีและมีหน้าที่การงานดี ให้เวลากับพ่อแม่มากกว่าคนทั่วไปมากๆ ยอมใช้ชีวิตในกฏเกณฑ์ของท่านมาตลอดเพราะอยากให้ท่านสบายใจ คนภายนอกและญาติๆจะชอบบอกว่าพ่อแม่โชคดีจังที่มีลูกแบบจขกท จขกทก็ทำไปเพราะรักท่านและเต็มใจทำค่ะ แต่ในอีกด้านนึงก็อึดอัดมาก อยากบอกท่านว่าเราโตแล้ว อยากได้ความพอดี อยากให้ท่านรู้ว่าเรามีแฟน อยากมีบทสนทนาแซวกันเหมือนหลายๆครอบครัวบ้างค่ะ แต่ก็พูดไม่ออก ไม่กล้าเลยจริงๆค่ะ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ทุกครั้งที่พยายามบอกว่ามีแฟน ก็เหมือนมีอะไรมาทำให้จุกอกพูดไม่ออกค่ะ
ที่เล่ามาอาจจะเป็นปัญหาน่าหมั่นไส้หรือไร้สาระสำหรับหลายๆคนนะคะ จขกทก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าถ้าหลายคนอ่านแล้วรำคาญว่าปัญหาแค่นี้เอามาถามทำไม แต่มันอึดอัดใจและไม่รู้จะคุยกับใครจริงๆค่ะ เหนื่อยกับการร้องไห้คนเดียวหลายๆครั้งเพราะไม่มีใครเข้าใจและไม่มีเพื่อนคุยไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน
ถ้าใครเคยเจออะไรคล้ายๆกัน เล่าสู่กันฟังด้วยนะคะว่าเริ่มต้นคุยกับพ่อแม่ยังไง และทำอะไรบ้างเพื่อขอพื้นที่ส่วนตัว เพื่อบอกพ่อแม่ว่ามีแฟน หรือเพื่อค่อยๆทำให้บรรยากาศในบ้านดีขึ้น (หรือจขกทควรจะยอมรับสภาพนี้และเป็นลูกที่ดีต่อไปคะ) ยินดีรับฟังคำแนะนำจากทุกคนค่ะ
รักพ่อแม่มาก แต่ก็อึดอัดใจมากเวลาอยู่กับท่าน เคยรู้สึกกันบ้างไหมคะ
"พ่อ" เป็นพ่อที่ดี ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ตั้งแต่เราเกิดมาก็จะเห็นว่าชีวิตพ่อมีแต่เรื่องงานกับเรื่องครอบครัว ถึงแม้จะต้องทำงานหนัก ต้องทานข้าวนอกบ้านบ่อยครั้งด้วยหน้าที่การงาน แต่พ่อก็พยายามกลับมาบ้านเร็วตลอดเพื่อใช้เวลากับครอบครัว
"แม่" ก็คล้ายๆพ่อค่ะ คือถึงจะทำงานหนักมากแต่ทั้งชีวิตถ้าว่างจากงานเมื่อไหร่ก็จะทุ่มเทให้กับครอบครัวเต็มที่ ดูแลเรื่องในบ้านทุกเรื่องไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และใช้เวลาว่างทั้งหมดดูแลลูกๆและสามี
โดยภายนอกแล้วฟังดูเหมือนจะเป็นครอบครัวที่หลายคนคงอิจฉาใช่ไหมคะ เราก็เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเราต้องมานั่งอึดอัดใจจนต้องมาตั้งกระทู้นี้ (รู้ว่าหลายๆคนที่อ่านอยู่ก็คงด่าในใจ) เพราะเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นขนาดนี้ ในขนาดที่หลายๆคนไม่มีพ่อแม่อยู่ให้ดูแลแล้วด้วยซ้ำ
แต่ขอพื้นที่ตรงนี้นิดนึงเพื่อเล่าเรื่องในบ้านที่ทำให้เราอึดอัดใจนะคะ
เรื่องที่หนึ่ง คือ กำแพงระหว่างเรากับพ่อแม่ และความสัมพันธ์ที่เหมือนหัวหน้าลูกน้องค่ะ
ด้วยความที่พ่อแม่ทำงานหนักมาตลอด ท่านเลยกลายเป็นคนที่ซีเรียสและจริงจังกับชีวิต บทสนทนาเวลาเราทุกคนอยู่บ้านจะเกี่ยวกับเรื่องที่ทำงานของพ่อแม่ การศึกษาของลูก ลูกควรเรียนต่อที่ไหน ลูกได้เกรดเท่าไหร่ ลูกโตไปควรสมัครงานอะไร งานที่ลูกทำอยู่เป็นอย่างไง เจ้านายดีไหม นึกออกใช่ไหมคะ คือลูกบางคนสนิทกับพ่อแม่สามารถคุยปรับทุกข์กับท่านได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักเรื่องเพื่อน แต่บ้านเราไม่ใช่อย่างนั้นเลย ถึงแม้เราจะไปเที่ยวด้วยกันมีทริปครอบครัวแต่บทสนทนาเวลาไปเที่ยวก็จะเป็นเรื่องที่ซีเรียสตลอดเวลา จขกทก็มีปัญหาชีวิตแบบคนทั่วไปค่ะ มีอกหัก ทะเลาะกับเพื่อน ทะเลาะกับแฟน (ทุกวันนี้มีแฟนมาแล้วห้าปีแล้วแต่ก็ไม่กล้าบอกท่าน ท่านคิดมาตลอดว่าจขกทเป็นคนโสดตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานและไม่รู้จักเรื่องความรัก) แต่ก็ไม่กล้าคุยกับท่านเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย เพราะร็สึกไม่สนิทเหมือนมีกำแพงอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่คุยกันในบ้านเหมือนอยู่ที่ประชุมค่ะ ทำให้เรากลายเป็นคนเก็บกด ต้องเก็บเรื่องราวในชีวิตตั้งแต่เล็กไว้กับตัวเองไม่รู้จะหันไปหาใครค่ะ
เรื่องที่สอง...ไม่มีอิสรภาพหรือพื้นที่ส่วนตัว
ถึงแม้เราจะอายุสามสิบแล้ว ทุกครั้งที่ไปทานข้าวเย็นกับเพื่อนจะต้องขออนุญาติพ่อแม่ล่วงหน้า เพราะตั้งแต่เล็กพ่อแม่จะปลูกฝังไว้เสมอว่า 'ครอบครัวของเราจะต้องทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน ข้าวเย็นเป็นเวลาที่ครอบครัวจะได้อยู่ด้วยกัน' เมื่อไหร่ที่เราขอไปทานข้าวกับเพื่อน พ่อแม่จะทำสีหน้าน้อยใจ และพูดว่า 'หนูไม่คิดถึงพ่อแม่แล้วเหรอ ไปเจอแต่เพื่อนฝูง' บางทีพอเราขับรถกลับมาหลังจากทานข้าวทั้งพ่อทั้งแม่ก็จะมาเฝ้ารอเราหน้าประตูบ้าน เพื่อมากอดและบอกว่าคิดถึงจังทำไมกลับดึกอย่างนี้ จริงๆแล้วเราไม่เคยกลับไม่เกินสี่ห้าทุ่มเลยนะคะและไม่เคยเหลวไหลเมากลับมาบ้านเลย ทั้งชีวิตเคยไปเที่ยวผับไม่ถึงสามครั้งด้วยซ้ำ ทุกครั้งก็จะต้องขอเพื่อนกลับก่อนห้าทุ่มเพราะไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง โดยเพื่อนก็จะด่าว่าสามสิบแล้วนะ ทำไมจะลากแกออกมาจากบ้านมันยากอย่างงี้ จขกทออกไปกับเพื่อนหรือแฟนอย่างมากก็อาทิตย์ละครั้งค่ะ เสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่ได้ไปไหนเลย อยู่บ้านจัดของให้พ่อแม่ ไม่ก็ขับพาท่านไปทานข้าวหรือพาไปออกกำลังกาย เลยทำให้เป็นคนที่ห่างไกลเพื่อนฝูงและแทบไม่มีเพื่อนค่ะ (และยิ่งทำให้เป็นคนเก็บกดเข้าไปใหญ่เพราะไม่มีเพื่อนสนิทที่คุยด้วยได้)
อีกเรื่องคือเวลาอยู่บ้านถึงแม้จขกทจะมีห้องนอนของตัวเองแต่ก็เหมือนไม่มีค่ะ พ่อแม่จะผลัดกันมานอนกับจขกท หรือไม่ก็ขอให้จขกทนั่งอยู่กับท่านที่ห้องนั่งเล่นจนถึงเวลานอนค่อยขึ้นไปนอนจริงๆ ห้ามมีทีวีในห้องนอนส่วนตัวเพราะบอกว่าครอบครัวต้องอยู่ห้องเดียวกันใช้เวลาด้วยกัน ถ้าวันไหนจขกทอยากคุยโทรศัพท์กับแฟน แอบไปคุยกระซิบในห้องนอนนานเกิน ก็จะถูกเคาะประตูถามตลอดว่าทำอะไรอยู่และก็ต้องวางสายจากแฟนไปค่ะ
จกขทเป็นเด็กดีมาตลอดนะคะ ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เรียนได้คะแนนเกือบ 4.0 มาทั้งชีวิต เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีและมีหน้าที่การงานดี ให้เวลากับพ่อแม่มากกว่าคนทั่วไปมากๆ ยอมใช้ชีวิตในกฏเกณฑ์ของท่านมาตลอดเพราะอยากให้ท่านสบายใจ คนภายนอกและญาติๆจะชอบบอกว่าพ่อแม่โชคดีจังที่มีลูกแบบจขกท จขกทก็ทำไปเพราะรักท่านและเต็มใจทำค่ะ แต่ในอีกด้านนึงก็อึดอัดมาก อยากบอกท่านว่าเราโตแล้ว อยากได้ความพอดี อยากให้ท่านรู้ว่าเรามีแฟน อยากมีบทสนทนาแซวกันเหมือนหลายๆครอบครัวบ้างค่ะ แต่ก็พูดไม่ออก ไม่กล้าเลยจริงๆค่ะ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ทุกครั้งที่พยายามบอกว่ามีแฟน ก็เหมือนมีอะไรมาทำให้จุกอกพูดไม่ออกค่ะ
ที่เล่ามาอาจจะเป็นปัญหาน่าหมั่นไส้หรือไร้สาระสำหรับหลายๆคนนะคะ จขกทก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าถ้าหลายคนอ่านแล้วรำคาญว่าปัญหาแค่นี้เอามาถามทำไม แต่มันอึดอัดใจและไม่รู้จะคุยกับใครจริงๆค่ะ เหนื่อยกับการร้องไห้คนเดียวหลายๆครั้งเพราะไม่มีใครเข้าใจและไม่มีเพื่อนคุยไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน
ถ้าใครเคยเจออะไรคล้ายๆกัน เล่าสู่กันฟังด้วยนะคะว่าเริ่มต้นคุยกับพ่อแม่ยังไง และทำอะไรบ้างเพื่อขอพื้นที่ส่วนตัว เพื่อบอกพ่อแม่ว่ามีแฟน หรือเพื่อค่อยๆทำให้บรรยากาศในบ้านดีขึ้น (หรือจขกทควรจะยอมรับสภาพนี้และเป็นลูกที่ดีต่อไปคะ) ยินดีรับฟังคำแนะนำจากทุกคนค่ะ