เราอยู่ในบ้านแล้วไม่ค่อยมีอิสระเลยค่ะ เพราะว่าเราไม่เคยมีห้องส่วนตัว ไม่เคยมีพื้นที่ส่วนตัวเลยตั้งแต่เกิดมา จนมีช่วงนึงที่ได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งอยู่คนละภาคกับบ้านเกิดค่ะ เราจึงได้มีห้อง มีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตนเอง เราชอบความรู้สึกอิสระแบบนั้นมาก ตัวเราเองก็รับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ทั้งหมดนะคะในตอนนั้น ทั้งการเรียนและงานบ้าน เราทำเองได้หมดค่ะ
แต่ตอนนี้เรียนจบ กลับบ้านมาทำงานแล้ว รู้สึกอึดอัดค่ะ ไม่มีห้องส่วนตัวให้คิด/อยู่เงียบๆ ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวในการทำงานเลย บางครั้งเวลาเราอยากมีสมาธิในการทำงานมากๆ เรามักจะต้องรอเวลาตี1-2 ให้ทุกคนในบ้านเงียบๆให้หมดก่อน เราถึงเปิดคอมทำงานได้อย่างไม่ติดขัดค่ะ แต่บางทีก็มีบ้างที่อยู่ๆพ่อหรือแม่ก็เปิดประตูมุ้งลวดเข้ามา ถาม(เสียงดังๆ)ว่าทำไมยังไม่นอน แอบมาทำอะไร? ซึ่งบางทีเราก็ตกใจค่ะ เหมือนเค้าแอบมาจับผิดเราเลย พอเราบอกว่าทำงาน พ่อหรือแม่จะต้องบอกว่า ตอนเช้า/เย็นทำไมไม่ทำ มาทำอะไรตอนนี้ เราก็ได้แต่เงียบๆค่ะ เราไม่อยากบอกว่าเราไม่มีสมาธิเวลาคนในบ้านจอแจมากๆ เพราะเคยพูดแล้ว แต่ไล่เราออกไปตากยุงพิมพ์งานในครัวแทน บ้านเราคับแคบค่ะ (ภาษาชาวบ่านเรียกว่า ไม่มีที่จะอยู่)
เราอยากย้ายออกไปอยู่หอพักของตัวเองค่ะ แต่กลัวที่บ้านจะไม่ให้ย้ายออก เพราะ...........
1.ที่ทำงานของเราใกล้บ้านมากกกกก ประมาณ 3-5 กิโลเท่านั้นเองค่ะ
2.แม่เราเคยเปรยๆไว้ตั้งแต่ตอนเรายังไม่ได้มีงานทำ ว่า ถ้าเรามีงานทำ ก็ให้ช่วยค่าใช้จ่าย และช่วยใช้หนี้พ่อกับแม่ด้วย ซึ่งข้อนั้นเราก็ช่วยแหละค่ะ แต่เวลาเราจะซื้ออะไร หรืออยากได้อะไร แม่จะต้องบอกว่าให้เก็บเงินไว้ เปลือง แต่พอเราเก็บเงินไว้ แม่ก็ทราบว่าเรามีเงินเก็บค่ะ บัญชีธ.อยู่ที่แม่หมดเลยแต่ไหนแต่ไรแล้ว และแม่ก็จะต้องมาขอเงินเราไปใช้หนี้ตลอด (หนี้บัตรเครดิต หนี้จำนำทองที่ต้องไปส่งดอก บางทีเงินเดือนพ่อแม่ไม่พอใช้ก็มาเอาที่เราด้วย) เราเลยคิดว่าพ่อแม่ต้องไม่ให้เราย้ายออกแน่ๆ เพราะคิดว่าเปลือง อยากให้ช่วยท่านใช้หนี้มากกว่า
3.เคยคุยๆเรื่องกั้นห้องเป็นเรื่องเป็นราวแล้วตั้งแต่ตอน้รียนจบกลับมาใหม่ๆ แม่บอกไม่มีตังค์ค่ะ พอเราจะทำเองก็บอกเปลืองตังค์ (จริงๆเราทำได้ค่ะ แต่อยากทำให้น้องชายด้วย แต่ยังไม่มีเงินถึงขนาดทำทีเดียวสองห้อง)
เพิ่มเติม จุดที่เราใช้นอน จะเป็นเตียงไม้เก่าๆกับฟูกที่นอนยางพาราแบบขนาด 3 ฟุตค่ะ ตั้งไว้มุมบ้านฝั่งประตูมุ้งลวด(แต่ไม่มีประตูปิด เป็นวงกบประตูที่เอามุ้งลวดมาติดทีหลังเฉยๆ) ใช้ตู้เสื้อผ้ากับตู้โชว์แบบที่วางทีวีได้กั้นปิดฝั่งหัวเตียงเอาไว้เฉยๆค่ะ ไม่ได้มีอะไรเป็นส่วนตัวเลยสักนิด บางทีเหนื่ิอยๆมา อยากนอนงีบเอาแรงตอนหัวค่ำ คนที่บ้านก็มาเปิดทีวีที่อยู่บนหัวเตียงดูซะอย่างนั้น คนเดินเข้าเดินออกกันทั้งวันค่ะ เพราะต้องเป็นทางผ่านเดินไปดูทีวี ซึ่งจุดนั้นถือเป็นแลนมาร์กของบ้านค่ะ จะย้ายที่นอนไปตรงอื่นก็ไม่มีที่แล้วค่ะ บ้านมีแค่นี้ อีกส่วนเป็นห้องนอนพ่อกับแม่ค่ะ ห้องน้ำรวม อีกข้างนึกเป็นครัวและส่วนของที่นอนน้องชายเรา ซึ่งสภาพที่นินน้องชายเราก็เป็นตู้กั้นๆไว้แบบเรานี่ละค่ะ น้องก็ไม่เคยมีห้องเหมือนกัน
คำถามคือ เราจะทำยังไง จะพูดยังไงให้ที่บ้านเข้าใจดีคะ ให้เราสามารถย้ายออกได้โดยไม่ผิดใจกับคริบครัวและไม่ดูเห็นแก่ตัวหรือเนรคุณ หรือแค่ช่วยปลอบใจเราก็ได้ค่ะ เพื่อให้เรามีกำลังใจและอดทนมากขึ้น TT_TT
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบและพื้นที่สำหรับระบายค่ะ
ขออภัยถ้าหากเว้นวรรคตอน หรือย่อหน้าแปลกๆนะคะ พิมพ์ในมือถือ ตอนคนในบ้านเงียบหมดแล้วค่ะ
อึดอัดเวลาอยู่กับครอบครัวค่ะ จะออกอย่างไรให้ไม่ผิดใจกับคนในบ้าน?
แต่ตอนนี้เรียนจบ กลับบ้านมาทำงานแล้ว รู้สึกอึดอัดค่ะ ไม่มีห้องส่วนตัวให้คิด/อยู่เงียบๆ ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวในการทำงานเลย บางครั้งเวลาเราอยากมีสมาธิในการทำงานมากๆ เรามักจะต้องรอเวลาตี1-2 ให้ทุกคนในบ้านเงียบๆให้หมดก่อน เราถึงเปิดคอมทำงานได้อย่างไม่ติดขัดค่ะ แต่บางทีก็มีบ้างที่อยู่ๆพ่อหรือแม่ก็เปิดประตูมุ้งลวดเข้ามา ถาม(เสียงดังๆ)ว่าทำไมยังไม่นอน แอบมาทำอะไร? ซึ่งบางทีเราก็ตกใจค่ะ เหมือนเค้าแอบมาจับผิดเราเลย พอเราบอกว่าทำงาน พ่อหรือแม่จะต้องบอกว่า ตอนเช้า/เย็นทำไมไม่ทำ มาทำอะไรตอนนี้ เราก็ได้แต่เงียบๆค่ะ เราไม่อยากบอกว่าเราไม่มีสมาธิเวลาคนในบ้านจอแจมากๆ เพราะเคยพูดแล้ว แต่ไล่เราออกไปตากยุงพิมพ์งานในครัวแทน บ้านเราคับแคบค่ะ (ภาษาชาวบ่านเรียกว่า ไม่มีที่จะอยู่)
เราอยากย้ายออกไปอยู่หอพักของตัวเองค่ะ แต่กลัวที่บ้านจะไม่ให้ย้ายออก เพราะ...........
1.ที่ทำงานของเราใกล้บ้านมากกกกก ประมาณ 3-5 กิโลเท่านั้นเองค่ะ
2.แม่เราเคยเปรยๆไว้ตั้งแต่ตอนเรายังไม่ได้มีงานทำ ว่า ถ้าเรามีงานทำ ก็ให้ช่วยค่าใช้จ่าย และช่วยใช้หนี้พ่อกับแม่ด้วย ซึ่งข้อนั้นเราก็ช่วยแหละค่ะ แต่เวลาเราจะซื้ออะไร หรืออยากได้อะไร แม่จะต้องบอกว่าให้เก็บเงินไว้ เปลือง แต่พอเราเก็บเงินไว้ แม่ก็ทราบว่าเรามีเงินเก็บค่ะ บัญชีธ.อยู่ที่แม่หมดเลยแต่ไหนแต่ไรแล้ว และแม่ก็จะต้องมาขอเงินเราไปใช้หนี้ตลอด (หนี้บัตรเครดิต หนี้จำนำทองที่ต้องไปส่งดอก บางทีเงินเดือนพ่อแม่ไม่พอใช้ก็มาเอาที่เราด้วย) เราเลยคิดว่าพ่อแม่ต้องไม่ให้เราย้ายออกแน่ๆ เพราะคิดว่าเปลือง อยากให้ช่วยท่านใช้หนี้มากกว่า
3.เคยคุยๆเรื่องกั้นห้องเป็นเรื่องเป็นราวแล้วตั้งแต่ตอน้รียนจบกลับมาใหม่ๆ แม่บอกไม่มีตังค์ค่ะ พอเราจะทำเองก็บอกเปลืองตังค์ (จริงๆเราทำได้ค่ะ แต่อยากทำให้น้องชายด้วย แต่ยังไม่มีเงินถึงขนาดทำทีเดียวสองห้อง)
เพิ่มเติม จุดที่เราใช้นอน จะเป็นเตียงไม้เก่าๆกับฟูกที่นอนยางพาราแบบขนาด 3 ฟุตค่ะ ตั้งไว้มุมบ้านฝั่งประตูมุ้งลวด(แต่ไม่มีประตูปิด เป็นวงกบประตูที่เอามุ้งลวดมาติดทีหลังเฉยๆ) ใช้ตู้เสื้อผ้ากับตู้โชว์แบบที่วางทีวีได้กั้นปิดฝั่งหัวเตียงเอาไว้เฉยๆค่ะ ไม่ได้มีอะไรเป็นส่วนตัวเลยสักนิด บางทีเหนื่ิอยๆมา อยากนอนงีบเอาแรงตอนหัวค่ำ คนที่บ้านก็มาเปิดทีวีที่อยู่บนหัวเตียงดูซะอย่างนั้น คนเดินเข้าเดินออกกันทั้งวันค่ะ เพราะต้องเป็นทางผ่านเดินไปดูทีวี ซึ่งจุดนั้นถือเป็นแลนมาร์กของบ้านค่ะ จะย้ายที่นอนไปตรงอื่นก็ไม่มีที่แล้วค่ะ บ้านมีแค่นี้ อีกส่วนเป็นห้องนอนพ่อกับแม่ค่ะ ห้องน้ำรวม อีกข้างนึกเป็นครัวและส่วนของที่นอนน้องชายเรา ซึ่งสภาพที่นินน้องชายเราก็เป็นตู้กั้นๆไว้แบบเรานี่ละค่ะ น้องก็ไม่เคยมีห้องเหมือนกัน
คำถามคือ เราจะทำยังไง จะพูดยังไงให้ที่บ้านเข้าใจดีคะ ให้เราสามารถย้ายออกได้โดยไม่ผิดใจกับคริบครัวและไม่ดูเห็นแก่ตัวหรือเนรคุณ หรือแค่ช่วยปลอบใจเราก็ได้ค่ะ เพื่อให้เรามีกำลังใจและอดทนมากขึ้น TT_TT
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบและพื้นที่สำหรับระบายค่ะ
ขออภัยถ้าหากเว้นวรรคตอน หรือย่อหน้าแปลกๆนะคะ พิมพ์ในมือถือ ตอนคนในบ้านเงียบหมดแล้วค่ะ