"พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เพียงฉบับเดียวเท่านั้น ที่มีการบันทึกข้อมูลการสู้รบของชาวบ้านบางระจัน"

ไม่ปรากฏในพงศาวดารหรือบันทึกทางประวัติศาสตร์ฉบับอื่นเลย แม้แต่พงศาวดารร่วมสมัยคราวสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เช่น คำให้การชาวกรุงเก่า หรือแม้แต่ในพงศาวดารของฝ่ายพม่าเองด้วยซ้ำ

ผมจึงสมมติว่ามีจริงก็แล้วกัน
ลองมองแบบธรรมชาติทั่วไปในยุคสมัยที่ไม่มีขอบเขตแดนประเทศ เหมือนในสมัยนี้  การรบของชาวบ้านบางระจัน มีแนวโน้มว่าไม่ได้รบเพื่อปกป้องกรุงศรีฯ แต่ พวกเขาทำหน้าที่ปกป้องตัวเองต่างหาก ลักษณะคล้ายๆ กองกำลังป้องกันตนเองจากผู้รุกราน  ซึ่งทานกำลังเรือนหมื่นเรือนแสนของผู้รุกรานได้ ไม่นานเหมือนในบันทึกอย่างแน่นอน

และหากบางระจันมีความสูญเสียเหมือนในหนัง ในละคร ตามบทประพันธ์ ...

ใครเป็นผู้ต้องเป็นผู้รับคำด่า .. ถ้าไม่ใช่ผู้มีอำนาจสั่งการในกรุงศรีอยุธยา ที่ตัดสินใจไม่ส่งปืนใหญ่ไปให้ บ้านระจันได้ใช้ต่อต้านผู้รุกราน

และการทำละครส่งเสริมให้คนรักชาติ โดยขาดจิตสำนึกว่า ยุคนี้ เป็นยุคที่ต้องอาศัยกันและกันในสังคมโลก อีกทั้งชุมนุมเศรษฐกิจอาเซียน ก็ใกล้จะคลอดเต็มที ... ก็ยังมีการเอาหนังที่มีเนื้อเรื่องประเภทนี้ ออกมาให้ได้ดู และล่าสุด "พระนเรศวร" ก็กำลังจะออกภาคสุดท้าย "อวสานหงสา" มาให้คนคลั่งชาติแบบขาดสติได้ดูอีก

ตลกดีนะครับ ,, ถ้าเรารู้ว่าความจริงที่ว่า พม่าไม่ได้เผากรุงศรีฯ ในปี 2310 ตามตำรา หรือความจริงที่ว่า "พระเจ้าตากสิน" ทำไมถึงต้องถูกประหาร ทั้งๆ ที่เป็นผู้กอบกู้บ้านเมือง..

และคงจะตลกมากกว่านี้ ถ้า รัฐบาลเมียนม่าร์ สร้างหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง

"พระเจ้าอลองพญา" ภาค "อวสานกรุงศรีฯ"