ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดกับการฉ้อโกงของบริษัทประกันนะครับ เพื่อเป็นข้อมูลแก่ทุกคนหาเกิดปัญหาขึ้นและจะได้ระวังตัวไว้ และเป็นแนวทางในการแก้
ปัญหาหากเกิดปัญหาขึ้นจริง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนครับ คือเพื่อนผมได้ทำประกันโรคร้ายกับบริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด ตามรูปที่แนบไป (คงเอ่ยชื่อได้เพราะกรณีนี้ประกาศอย่างเป็นทางการในเว็บไซต์ของ คปภ.) ปรากฏว่าวันหนึ่งเกิดตรวจพบอาการโรคดังกล่าวที่ทำประกันไว้ จึงคาดหวังว่าจะนำเงินค่าสินไหมนี้มาใช้รักษาตัวในโรคร้ายที่กำลังประสบอยู่ จึงทำการติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอเคลมค่าสินไหม สิ่งที่พบคือบริษัทประกันเพิกเฉย เหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เราติดต่อ เหมือนคุยกับคนหูหนวกยังไงยังงั้นเลย
จนสุดท้ายเพื่อนได้ทำการขอรับค่าสินไหมผ่านทางไปรษณีย์ เพราะต้องการให้มีหลักฐานจากไปรษณีย์ตอบรับ โดยทำการส่งเอกสารตั้งแต่ ธ.ค.56 แต่ปัญหาคือบริษัทประกันนอกจากหูหนวกแล้วยังตาบอดอีก เหมือนไม่ได้รับเอกสาร ติดต่อไปก็บอกไม่ได้รับเอกสารอะไร ทั้ง ๆ ที่เรามีหลักฐานว่ามีการเซ็นรับอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาผมไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วยและได้รับรู้ในปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนผมซึ่งป่วยอยู่ก็ไม่ค่อยมีแรงจะร้องเรียนอะไรมากจึงได้แต่รอ ผมเลยช่วยเพื่อนทำเรื่องร้องเรียนไปยัง คปภ. ผ่านเว็บไซต์ของ คปภ. ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ คปภ. ที่ได้รับเรื่องและช่วยประสานงานให้ โดยทาง คปภ. ได้นัดให้ทั้งสองฝ่ายเข้าไปคุยกันในวันพฤหัสบดีที่ 24 เม.ย. 57 (จำวันแน่นอนไม่ได้นะครับ แต่เป็นในช่วงนั้นและจำได้ว่านัดวันพฤหัสบดี) ดูนะครับทำเรื่องตั้งแต่ ธ.ค. 56 ไม่ได้ผล ต้องให้ คปภ. เรียกเข้ามาคุยถึงจะหายจากอาการหูหนวกตาบอด โดยผมเป็นผู้รับมอบอำนาจจากเพื่อนในการเข้าไปพบกับตัวแทนจากบริษัทประกันที่ คปภ. ในครั้งนี้ แต่วันพุธที่ 23 เม.ย. ตอนเย็น ๆ ได้มีโทรศัพท์จากบริษัทประกันเข้ามา
รายละเอียดการสนทนาตามนี้ครับ
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "ได้รับทราบคำร้องแล้ว และยินดีจ่ายค่าสินไหมให้ตามที่เรียกร้องทุกอย่าง"
ผม : "ครับ"
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "เช็คจะออกให้วันศุกร์นะครับ"
ผม : "ครับ"
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "วันพฤหัสยังออกเช็คไม่ทันนะครับ"
ผม : "ไม่เป็นไรวันศุกร์ก็ได้ครับ"
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ที่จะนัดกันที่ คปภ. ก็ยกเลิกไปเลยนะครับ เพราะเช็คออกไม่ทัน"
ผม : "ไม่ยกเลิกครับ ผมยอมรับข้อเสนอของคุณ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีการตกลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ให้เป็นพยานรับรองด้วย การคุยกันทางโทรศัพท์อย่างนี้ผมยังไม่ยอมรับ"
โดยตัวแทนจากบริษัทประกันพยายามขอให้ยกเลิกการประชุมที่ คปภ. แต่ผมปฏิเสธลูกเดียว โดยบอกว่าผมจะไปรอที่สำนักงาน คปภ. หากคุณเลือกที่จะไม่ไปก็ถือว่าคุณผิดนัดเจ้าหน้าที่เอง
สุดท้ายในวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย. 56 ก็ได้เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่พร้อมกันก็ได้เห็นเล่ห์เหลี่ยมของบริษัทประกันอีกครั้ง โดยตัวแทนบอกว่าเช็คจะออกวันศุกร์ที่ 2 พ.ค. 56 ผมก็
ผม : "อ้าว ไม่ใช่ศุกร์นี้เหรอ"
บริษัทประกัน : "เช็คกับทางการเงินแล้ววันเดียวเตรียมเช็คไม่ทันครับ ขอศุกร์หน้าละกัน"
แม้จะมีข้อสงสัยว่าเช็คบ้าอะไรต้องใช้เวลาตั้งสัปดาห์ แต่เห็นว่าเป็นการเจรจาต่อหน้าเจ้าหน้าที่แล้ว ผมก็เลยยอมรับ คิดว่าช้าอีกแค่สัปดาห์เดียวคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ด้วยความที่รำลึก
อยู่เสมอว่าคนที่กำลังเจรจากับผมอยู่คือโจรที่มีสันดานขี้โกง ผมจึงถามไปว่าในเมื่อบอกวันศุกร์ ต้องบอกด้วยว่ากี่โมง มันบอกไม่เกินสิบโมงเช้าและมีการบันทึกลงไปในคำให้การด้วย
ปรากฏว่าระหว่างสัปดาห์มันโทรมาบอกว่า เช็คออกสิบโมงเช้าไม่ทันครับ ขอเลื่อนเป็นเที่ยง ผมเห็นว่ายังเคลียริ่งได้ทันก็เลยยอมรับเงื่อนไข ปรากฏว่าเช้าวันศุกร์มันยังตุกติกอีก โทร
มาบอกตามนี้ครับ
บริษัทประกัน : "เช็คออกเที่ยงไม่ทันครับ ขอเป็นช่วงบ่าย"
ผม : "คุณบอกเที่ยงก็คือเที่ยง ผมจะไปหาคุณตอนเที่ยง และต้องได้เช็คไม่เกินเที่ยง" (เหลืออดแล้วครับกับการตุกติกของมัน)
บริษัทประกัน : "เดี๋ยวผมเช็คกับทางการเงินก่อนนะครับ ว่าเช็คออกตอนเที่ยงทันไหม"
ผม : "ผมไม่สนใจว่าการเงินของคุณจะตอบว่ายังไง ถ้าตอนเที่ยงไม่ได้เช็ค เจอกันอีกครั้งที่ คปภ. เพราะคุณไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่ได้"
สุดท้ายผมไปหามันและก็ได้เช็คตอนเที่ยงครับ จากพฤติกรรมของบริษัทประกันที่เกิดขึ้นจึงได้ปรึกษากับทาง คปภ. ว่าจะขอให้มีการจัดการกับบริษัทประกันที่ตุกติกเอาเปรียบผู้ทำประกัน จึงได้ร้องเรียนบริษัทประกันไปในข้อหา "ประวิงการจ่ายค่าสินไหม" และก็ได้ผลตามเอกสารข้างล่างครับ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนที่เจอปัญหาลักษณะดังกล่าวอย่าคิดว่าถ้ามีปัญหาก็ร้องเรียนแล้วก็ได้เงินคืนแล้วก็จบ มันจะกลายเป็นสร้างนิสัยให้โจรว่าโขมยเงินเราแล้วพอเราจับได้ ร้องเรียนไปก็คืนเงินแล้วโจรก็ลอยนวล จึงกลายเป็นปัญหาว่าบริษัทประกันพวกนี้คิดว่าเบี้ยวไว้ก่อน เดี๋ยวเขาร้องเรียนค่อยคืนก็ได้ แต่ควรจะมีบทลงโทษว่าถ้าเบี้ยวเงินแล้ว หากผิดจริงนอกจากจะต้องคืนเงินแล้ว ควรมีบทลงโทษอีกด้วย
===========================================================================
(เพิ่มเติม)
ระหว่างที่ คปภ. กำลังพิจารณากรณี "ประวิงการจ่ายค่าสินไหม" ผมได้สอบถามไปยัง จนท. ที่ดูแลเรื่องร้องเรียนดังกล่าวว่าบริษัทประกันแก้ตัวว่าอย่างไร ทาง จนท. บอกว่า "เขาบอกว่าเขาทำเอกสารที่ร้องเรียนหาย ทำให้การจ่ายค่าสินไหมล่าช้า" เออดี เอกสารหายเลยถือโอกาสไม่จ่ายค่าสินไหม เสียดายค่าปรับน้อยไปหน่อย น่าจะโดนหนักกว่านี้จะได้เข็ดหลาบและไม่ทำกับคนอื่นอย่างนี้อีก
เมื่อมีปัญหากับบริษัทประกันเรื่องค่าสินไหม ถ้าได้เงินแล้วให้ช่วยกันร้องเรียนให้มีการลงโทษด้วย
ปัญหาหากเกิดปัญหาขึ้นจริง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนครับ คือเพื่อนผมได้ทำประกันโรคร้ายกับบริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด ตามรูปที่แนบไป (คงเอ่ยชื่อได้เพราะกรณีนี้ประกาศอย่างเป็นทางการในเว็บไซต์ของ คปภ.) ปรากฏว่าวันหนึ่งเกิดตรวจพบอาการโรคดังกล่าวที่ทำประกันไว้ จึงคาดหวังว่าจะนำเงินค่าสินไหมนี้มาใช้รักษาตัวในโรคร้ายที่กำลังประสบอยู่ จึงทำการติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอเคลมค่าสินไหม สิ่งที่พบคือบริษัทประกันเพิกเฉย เหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เราติดต่อ เหมือนคุยกับคนหูหนวกยังไงยังงั้นเลย
จนสุดท้ายเพื่อนได้ทำการขอรับค่าสินไหมผ่านทางไปรษณีย์ เพราะต้องการให้มีหลักฐานจากไปรษณีย์ตอบรับ โดยทำการส่งเอกสารตั้งแต่ ธ.ค.56 แต่ปัญหาคือบริษัทประกันนอกจากหูหนวกแล้วยังตาบอดอีก เหมือนไม่ได้รับเอกสาร ติดต่อไปก็บอกไม่ได้รับเอกสารอะไร ทั้ง ๆ ที่เรามีหลักฐานว่ามีการเซ็นรับอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาผมไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วยและได้รับรู้ในปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนผมซึ่งป่วยอยู่ก็ไม่ค่อยมีแรงจะร้องเรียนอะไรมากจึงได้แต่รอ ผมเลยช่วยเพื่อนทำเรื่องร้องเรียนไปยัง คปภ. ผ่านเว็บไซต์ของ คปภ. ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ คปภ. ที่ได้รับเรื่องและช่วยประสานงานให้ โดยทาง คปภ. ได้นัดให้ทั้งสองฝ่ายเข้าไปคุยกันในวันพฤหัสบดีที่ 24 เม.ย. 57 (จำวันแน่นอนไม่ได้นะครับ แต่เป็นในช่วงนั้นและจำได้ว่านัดวันพฤหัสบดี) ดูนะครับทำเรื่องตั้งแต่ ธ.ค. 56 ไม่ได้ผล ต้องให้ คปภ. เรียกเข้ามาคุยถึงจะหายจากอาการหูหนวกตาบอด โดยผมเป็นผู้รับมอบอำนาจจากเพื่อนในการเข้าไปพบกับตัวแทนจากบริษัทประกันที่ คปภ. ในครั้งนี้ แต่วันพุธที่ 23 เม.ย. ตอนเย็น ๆ ได้มีโทรศัพท์จากบริษัทประกันเข้ามา
รายละเอียดการสนทนาตามนี้ครับ
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "ได้รับทราบคำร้องแล้ว และยินดีจ่ายค่าสินไหมให้ตามที่เรียกร้องทุกอย่าง"
ผม : "ครับ"
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "เช็คจะออกให้วันศุกร์นะครับ"
ผม : "ครับ"
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "วันพฤหัสยังออกเช็คไม่ทันนะครับ"
ผม : "ไม่เป็นไรวันศุกร์ก็ได้ครับ"
ตัวแทนจากบริษัทประกัน : "ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ที่จะนัดกันที่ คปภ. ก็ยกเลิกไปเลยนะครับ เพราะเช็คออกไม่ทัน"
ผม : "ไม่ยกเลิกครับ ผมยอมรับข้อเสนอของคุณ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีการตกลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ให้เป็นพยานรับรองด้วย การคุยกันทางโทรศัพท์อย่างนี้ผมยังไม่ยอมรับ"
โดยตัวแทนจากบริษัทประกันพยายามขอให้ยกเลิกการประชุมที่ คปภ. แต่ผมปฏิเสธลูกเดียว โดยบอกว่าผมจะไปรอที่สำนักงาน คปภ. หากคุณเลือกที่จะไม่ไปก็ถือว่าคุณผิดนัดเจ้าหน้าที่เอง
สุดท้ายในวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย. 56 ก็ได้เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่พร้อมกันก็ได้เห็นเล่ห์เหลี่ยมของบริษัทประกันอีกครั้ง โดยตัวแทนบอกว่าเช็คจะออกวันศุกร์ที่ 2 พ.ค. 56 ผมก็
ผม : "อ้าว ไม่ใช่ศุกร์นี้เหรอ"
บริษัทประกัน : "เช็คกับทางการเงินแล้ววันเดียวเตรียมเช็คไม่ทันครับ ขอศุกร์หน้าละกัน"
แม้จะมีข้อสงสัยว่าเช็คบ้าอะไรต้องใช้เวลาตั้งสัปดาห์ แต่เห็นว่าเป็นการเจรจาต่อหน้าเจ้าหน้าที่แล้ว ผมก็เลยยอมรับ คิดว่าช้าอีกแค่สัปดาห์เดียวคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ด้วยความที่รำลึก
อยู่เสมอว่าคนที่กำลังเจรจากับผมอยู่คือโจรที่มีสันดานขี้โกง ผมจึงถามไปว่าในเมื่อบอกวันศุกร์ ต้องบอกด้วยว่ากี่โมง มันบอกไม่เกินสิบโมงเช้าและมีการบันทึกลงไปในคำให้การด้วย
ปรากฏว่าระหว่างสัปดาห์มันโทรมาบอกว่า เช็คออกสิบโมงเช้าไม่ทันครับ ขอเลื่อนเป็นเที่ยง ผมเห็นว่ายังเคลียริ่งได้ทันก็เลยยอมรับเงื่อนไข ปรากฏว่าเช้าวันศุกร์มันยังตุกติกอีก โทร
มาบอกตามนี้ครับ
บริษัทประกัน : "เช็คออกเที่ยงไม่ทันครับ ขอเป็นช่วงบ่าย"
ผม : "คุณบอกเที่ยงก็คือเที่ยง ผมจะไปหาคุณตอนเที่ยง และต้องได้เช็คไม่เกินเที่ยง" (เหลืออดแล้วครับกับการตุกติกของมัน)
บริษัทประกัน : "เดี๋ยวผมเช็คกับทางการเงินก่อนนะครับ ว่าเช็คออกตอนเที่ยงทันไหม"
ผม : "ผมไม่สนใจว่าการเงินของคุณจะตอบว่ายังไง ถ้าตอนเที่ยงไม่ได้เช็ค เจอกันอีกครั้งที่ คปภ. เพราะคุณไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่ได้"
สุดท้ายผมไปหามันและก็ได้เช็คตอนเที่ยงครับ จากพฤติกรรมของบริษัทประกันที่เกิดขึ้นจึงได้ปรึกษากับทาง คปภ. ว่าจะขอให้มีการจัดการกับบริษัทประกันที่ตุกติกเอาเปรียบผู้ทำประกัน จึงได้ร้องเรียนบริษัทประกันไปในข้อหา "ประวิงการจ่ายค่าสินไหม" และก็ได้ผลตามเอกสารข้างล่างครับ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนที่เจอปัญหาลักษณะดังกล่าวอย่าคิดว่าถ้ามีปัญหาก็ร้องเรียนแล้วก็ได้เงินคืนแล้วก็จบ มันจะกลายเป็นสร้างนิสัยให้โจรว่าโขมยเงินเราแล้วพอเราจับได้ ร้องเรียนไปก็คืนเงินแล้วโจรก็ลอยนวล จึงกลายเป็นปัญหาว่าบริษัทประกันพวกนี้คิดว่าเบี้ยวไว้ก่อน เดี๋ยวเขาร้องเรียนค่อยคืนก็ได้ แต่ควรจะมีบทลงโทษว่าถ้าเบี้ยวเงินแล้ว หากผิดจริงนอกจากจะต้องคืนเงินแล้ว ควรมีบทลงโทษอีกด้วย
===========================================================================
(เพิ่มเติม)
ระหว่างที่ คปภ. กำลังพิจารณากรณี "ประวิงการจ่ายค่าสินไหม" ผมได้สอบถามไปยัง จนท. ที่ดูแลเรื่องร้องเรียนดังกล่าวว่าบริษัทประกันแก้ตัวว่าอย่างไร ทาง จนท. บอกว่า "เขาบอกว่าเขาทำเอกสารที่ร้องเรียนหาย ทำให้การจ่ายค่าสินไหมล่าช้า" เออดี เอกสารหายเลยถือโอกาสไม่จ่ายค่าสินไหม เสียดายค่าปรับน้อยไปหน่อย น่าจะโดนหนักกว่านี้จะได้เข็ดหลาบและไม่ทำกับคนอื่นอย่างนี้อีก