เรื่องปวดหัวกับประกันอักษรย่อ 3 ตัว

กระทู้สนทนา
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ตอนสมัยยังเด็กแฟนผมเธอทำกรมธรรม์ไว้กับบริษัทประกันชื่อดังแห่งหนึ่ง สาเหตุที่ทำเพราะแม่ของเธอจะทำการกู้เงินจากธนาคารแล้วเขาบังคับให้ทำประกันไว้ซึ่งค่าเบี้ยประกันหลายหมื่นครับ พอดีปีนี้แม่ของแฟนเขาไปเข็คเกี่ยวกับกรมธรรม์ของแฟนปรากฏว่ามันหาย พอเช็คกับทางบริษัทประกันก็หมดอายุไปนานโขแล้ว ทางบริษัทประกันไม่มีการแจ้งเตือนมาตอนปีที่ประกันจะหมดอายุเงียบหายไปไม่มีการแจ้ง แล้วกรมธรรม์เธอดันหายอีกตอนย้ายบ้าน (จากการคาดเดาของแม่แฟน) ต้องไปแจ้งความขอเอกสารจากตำรวจมายืนยัน พอมาเช็คอีกทีปรากฏว่าโดนหักค่าปรับอะไรผมก็ไม่ทราบ จนเงินกรมธรรม์เป็นแสนเหลือไม่กี่หมื่น คงโดนหักตามเงื่อนไขของเขา แม่ของแฟนเลยบอกให้ทางผมกับแฟนไปที่บริษัทประกันเพื่อเอาเงินกรมธรรม์ ปรากฏว่าชื่อของเธอผิด ชื่อจริงของเธอกับชื่อเจ้าของกรมธรรม์พิมพ์ผิดตัวอักษรตกไป 1 ตัว ต้องเตรียมเอกสารกันเพียบ พร้อมกับจดหมายแจงเหตุผลว่าทำไมชื่อถึงไม่ตรงกัน เรื่องชื่อผิดก็ไม่ขอโทษใครเพราะอาจผิดที่ทางพ่อแม่ของเธอไม่ตรวจเช็คให้ดีและไม่รีบทำการเปลี่ยนให้ถูกต้องตั้งแต่แรกเพราะคงคิดว่าตกตัวอักษรไปตัวเดียวคงไม่เป็นอะไรมาก แต่เวลาทางบริษัทประกันเขาออกเช็คมา เขาจะออกชื่อตามกรมธรรม์ ถ้าไปเอาเช็คไปขึ้นเงินแล้วชื่อไม่ตรงกันก็อดเงินอะครับ กว่าจะเคลียร์เอกสารเสร็จก็วิ่งไปกับบริษัทประกันอยู่ 3 วัน ที่จริงน่าจะเสร็จวันเดียวนี่แหละแต่เพราะตอนแรกคิดว่าแม่แฟนเป็นคนทำประกันและต้องใช้ลายเซ็นของคุณแม่ เลยต้องขับรถกลับมาให้แม่เซ็นเอกสาร พออีกวันเลยกลับไปใหม่ปรากฏว่าพอเช็คชื่อคนทำประกันดันเป็นคุณพ่อแฟนผมคิดในใจว่าในเมื่อมีตัวก๊อปปี้อยู่ที่บริษัทอยู่แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่าพ่อเป็นทำ เพราะวันนั้นเจ้าหน้าที่มันก็คือเอกสารอยู่ก่อนให้กลับไปแม่เซ็นหนังสือ เทียวไปเทียวมาจนเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย ทางเจ้าหน้าที่ให้รออีก 2 อาทิตย์ทางบริษัทประกันจะติดต่อให้มาเอาเช็ค ผ่านไป 1 อาทิตย์บริษัทประกันโทรมาให้มาเอาเช็คคิดว่าเร็วดีนะ แฟนเซ็นรับเช็คเสร็จปรากฏว่า ชื่อยังผิดเหมือนเดิม(แล้วจะทำเอกสารชี้แจงไปทำไม) เลยต้องรอไปอีก 2 อาทิตย์แล้วทางบริษัทประกันจะแจ้งมาให้รับเช็คอีกที พอออกมาจากบริษัทประกันก็โทรกลับไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามว่าที่เซ็นรับเช็คไปแล้วนี่มีปัญหาอะไรไหม ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าขีดค่าไปแล้วค่ะ ทางผมก็โล่งใจไม่น่าจะมีอะไร ตอนนี้ก็แค่รอทางนั้นติดต่อมา


เรื่องยังไม่จบนะครับอันนี้เป็นเรื่องปวดหัวเรื่องที่ 2 ในช่วงเวลาเดียวกันนี่แหละครับ แม่ของผมประสบอุบัติเหตุ ไหล่หัก 1 ตำแหน่ง ข้อเท้าหัก 2 ตำแหน่งสาหัสพอควรครับ ตอนที่แม่กำลังผ่าตัดอยู่ คุณพ่อเป็นคนเช็คประกันอุบัติเหตุของคุณแม่ ปรากฏว่าหมดอายุ คำถามคือหมดอายุได้ยังไงในเมื่อแม่ผมเธอทำการต่อทุกปีแบบอัตโนมัติ คือทุกๆ ปีทางตัวแทนจะต่ออายุให้ตลอดทุกครั้ง และมาเก็บเงินทีหลังแต่ปีนี้ดันไม่ได้ต่อให้เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ พอเช็คไปหาตัวแทนที่ดูแลคุณแม่ เธอบอกว่าเธอสั่งลูกน้องต่อให้แล้วแต่คงเกิดเหตุผิดพลาดอะไรก็ไม่รู้ กดผิดปุ่มผิดอะไรเนี่ยแหละ ทำให้ไม่ได้ต่อประกัน เหอะๆ มีด้วยโว้ย

ทางตัวแทนบอกว่าจะทำการรับผิดชอบแก้ไขเรื่องนี้ให้ ผมคิดในใจว่า 12 เหรียญทองไม่น่าจะเกิดปัญหาแบบนี้ หลังจากที่แม่ผ่าตัดเสร็จก็สอบถามทางตัวแทนประกันของแม่ คำถามแรกถามว่าจะมีปัญหาอะไรไหม ทางตัวแทนก็บอกว่าไม่เป็นอะไรเดี๋ยวจัดการให้ ทีนี้ก็ถามเรื่องเงินประกันว่าจะให้ทางบริษัทประกันรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลถึงแม้จะไม่ครอบคุมทั้งหมดแต่จะไล่หักจาก พรบ.รถยนต์ก่อนถึงจะมาหักกับประกันของตัวเองและเอาส่วนที่ยังขาดไปหักกับประกันของคู่กรณีแทน เพราะต้องการเงินของประกันคู่กรณีมาจ่ายในส่วนของค่าสินไหม แต่ดูเหมือนว่าตัวแทนจะเงียบอารมณ์ประมาณว่าไม่อยากจ่ายให้อยากให้หักจากประกันของคู่กรณีให้หมดเลย เพราะเนื่องจากคู่กรณีเป็นฝ่ายผิดควรเอาเงินของประกันคู่กรณี ซึ่งประกันของคู่กรณีนั้นครอบคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็จริง แต่ถ้าหักเงินในประกันคู่กรณีนั้น เงินที่ใช้ได้จะเหลือนิดเดียวทำให้ได้ค่าสินไหมน้อยมาก ซึ่งแม่ก็ไม่อยากให้ทางคู่กรณีควักเงินส่วนตนมาช่วยซักเท่าไร เพราะถือว่าก็ซวยเหมือนกันยางดันแตกและมากระแทกแม่ แถมแฟนของคู่กรณีก็ท้องได้ 4 เดือนกว่า แค่เห็นเขารับผิดชอบเต็มที่เลยไม่อยากเอาความอะไรมากนัก ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป แม่เลยถามตัวแทนอีกคำถามว่าถ้าไม่สามารถเอาประกันอุบัติเหตุของตัวเองจ่ายค่ารักษาพยายาลได้ แล้วทางบริษัทประกันจะช่วยเหลือเงินค่าสินไหมทดแทนได้ไหม ประกันเป็นไบ้ครับพี่ท่านไม่พูดอะไร หลังจากที่ถามเสร็จก็นัดกันมาเจรจาเรื่องประกันกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดอีกครั้ง ทางตัวแทนประกันอุบัติเหตุของแม่ก็ไบ้รับประทานเหมือนเดิมครับ ไม่รับผิดชอบอะไร


เรื่องทั้งหมดก็มีแค่นี้แหละครับกับประกันบริษัทอักษรย่อ 3 ตัว แถมตัวแทนก็ดูแลกันมานานเป็นเพื่อนพี่น้องกันมาอยู่อันดับ 12 เหรียญทองของบริษัทนั้น ไอ้ตัวผมก็ไม่รู้ว่าใหญ่แค่ไหน แค่รู้สึกว่าน่าจะช่วยอะไรบ้าง แม่ผมกว่าจะเริ่มเดินได้ปกติใช้เวลาเกิน 6 เดือน ท้ายที่สุดแม่ก็ไม่อยากจะพูดถึงมันอีก แม่บอกว่าคงต้องหาคนที่ดีกว่านี้หรืออาจย้ายบริษัท แต่ถึงจะย้ายไป ผมว่าบริษัทประกันส่วนมากก็คงเป็นแบบนี้หมดละมั้งครับ


ยาวหน่อยแต่อยากให้อ่านครับ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาสังคม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่