ผู้ที่ปฎิบัติธรรม จนจิตหลุดเข้าสู่กระแสนิพพานแล้ว เกิดญาณรู้ปรากฎขึ้นมา เมื่อตาเนื้อมองร่างกายตัวเองหรือร่างกายคนอื่น
มักจะเห็นเป็นธาตุขันแตกสลายไปหมด ตัวรู้แยกให้เห็นดินน้ำลมไฟ สภาพเน่าเปื่อยเป็นธาตุดิน บวมขึ้นอืดแสดงความไม่จีรังยั่งยืนให้ปรากฎ
นี่คือสิ่งบ่งบอกได้ไหมครับ ว่าจิตนั้นหลุดจากการต้องตกนรกแล้ว เข้าสู่โลกกุตรภูมิ โลกที่มุ่งไปสู่นิพพาน สถานเดียว
แต่ถ้าปฎิบัติธรรมแล้วยังไม่เห็น ก็แสดงว่าจิตเรายังไม่ผ่านเข้าไปในยังจิตโสดาบัน เป็นเบื้องต้น มีสิทธิลงนรกได้ตลอด
แม้ผู้นั้นจะปราถณา พุทธภูมิ บำเพ็ญแบบพระโพธิสัตว์ ก็ยังมีสิทธิตกนรกได้เช่นกัน เช่นพระโมคัลลานะ ที่ตอนนั้นชื่อ ศิริวัตร ได้ลา อดีตพระสารีบุตร ไปรับกรรมใน"อเวจีมหานรก" เพราะได้ทุบตีพ่อแม่เอาไว้
ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่ากลัวนะครับ
คนที่มองร่างกายมนุษย์ แล้วเห็นเป็นดินน้ำลมไฟ สภาพเน่าขึ้นอืด ถือว่าจิตหลุดเข้า"โลกุตรภูมิ"แล้วใช่ไหมคับ
มักจะเห็นเป็นธาตุขันแตกสลายไปหมด ตัวรู้แยกให้เห็นดินน้ำลมไฟ สภาพเน่าเปื่อยเป็นธาตุดิน บวมขึ้นอืดแสดงความไม่จีรังยั่งยืนให้ปรากฎ
นี่คือสิ่งบ่งบอกได้ไหมครับ ว่าจิตนั้นหลุดจากการต้องตกนรกแล้ว เข้าสู่โลกกุตรภูมิ โลกที่มุ่งไปสู่นิพพาน สถานเดียว
แต่ถ้าปฎิบัติธรรมแล้วยังไม่เห็น ก็แสดงว่าจิตเรายังไม่ผ่านเข้าไปในยังจิตโสดาบัน เป็นเบื้องต้น มีสิทธิลงนรกได้ตลอด
แม้ผู้นั้นจะปราถณา พุทธภูมิ บำเพ็ญแบบพระโพธิสัตว์ ก็ยังมีสิทธิตกนรกได้เช่นกัน เช่นพระโมคัลลานะ ที่ตอนนั้นชื่อ ศิริวัตร ได้ลา อดีตพระสารีบุตร ไปรับกรรมใน"อเวจีมหานรก" เพราะได้ทุบตีพ่อแม่เอาไว้
ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่ากลัวนะครับ