ชีวิตเด็กกำพร้าขาดพ่อ ไร้แม่ แต่เราต้อไม่สิ้นหวัง

วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์จริงของเราที่อาจไม่ได้สวยงามอะไร ดูน่าเศร้าด้วยซ้ำ
และเราอยากให้กำลังใจคนที่กำลังท้อ หรือต้องเจอกับปัญหาในชีวิต ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน
เรามองว่าการที่เรามีชีวิตอยู่นั้นถือว่าดีแล้ว
การคิดสั้นไม่ใช่ทางออกของปัญหา ปัญหามันมีไว้แก้ หาทางแก้ปัญหา แต่ถ้าแก้ไม่ได้ละ!!
เราก็ต้องหาทางเผชิญกับปัญหานั้นและอดทนกับมันให้มากที่สุด จนกว่าจะผ่านมากได้
สำหรับเราในตอนเด็กมีครอบครัวที่อบอุ่น จำได้ในช่วงอนุบาล พ่อจะคอยไปรับไปส่งเราที่โรงเรียน
เราไม่เคยร้องไห้เหมือนเด็กคนอื่น
ที่เวลาไปเรียนจะร้องไห้เพราะอยากอยู่กับพ่อแม่ ถามว่าเราอยากอยู่กับพ่อแม่ไหม? แน่นอน เป็นเด็กก็ต้องอยู่แล้ว
แต่เราคิดว่ายังไงพ่อแม่ก็ไม่ทิ้งเรา เราไม่เคยกลัวเลยว่าพ่อแม่จะทอดทิ้งเราไป
เวลาเลิกเรียนพ่อมารับเราและไปหาแม่ เรามีความสุขมากตอนนั้น มันเป็นช่วงที่ดีที่สุด ได้อยู่กันพร้อมหน้า 
พ่อแม่จะพาไปเดินห้าง ไปกินขนม ซื้อของเล่น ให้เรา  เวลาเราป่วยพ่ออุ้มเราไปหาหมอ เรายังจำวันนั้นได้
เวลาแม่จะตีเรา พ่อเคยเข้ามาห้าม หรือถ้าเราทำเรื่องที่พ่อจะโกรธแต่แม่รู้ แม่ก็บอกว่าเราผิดยังไง และจะไม่บอกพ่อ
แม่เราบอกกับเราตลอดว่า มีอะไรให้บอกแม่ ไม่ให้ปิดบังกัน เราจะไม่มีความลับต่อกัน เราจำคำนั้นได้เสมอ

พอขึ้นป.1 พ่อเริ่มไม่มารับ แม่จ้างวินมอไซต์มารับเรา หลังๆพ่อไม่กลับบ้าน เราไม่เคยรู้เลยว่าพ่อเป็นอะไร
วันต่อมาแม่พาไปหาพ่อ เหมือนเป็นบ้านเช่า แม่เข้าไปคุยกับพ่อ แล้วเรียกเราเข้าไป บอกกับเราประมานว่า
พ่อจะไม่ได้อยู่ด้วยแล้วนะ
เราจะได้อยู่กับแม่สองคน เราก็ถามว่าพ่อจะไปไหน พ่อบอกว่าพ่อมีเรื่องต้องไปทำ แล้วแม่ก็บอกว่าพ่อกับแม่จะแยกทางกัน
เราถามว่าทำไม ทำไมไม่อยู่เหมือนเดิม แล้วเราก็ก้มหน้า น้ำตาก็ไหลลงพื้น แม่เห็นก็ลูบหัวเรา บอกว่าไม่เป็นไรนะ
ปกติเราเป็นเด็กไม่ร้องไห้ง่ายๆ เราเข็มแข็งมากๆ แต่เราเสียใจ เหมือนจะเสียวันดีๆที่มีพ่อ แม่ ลูกด้วยกัน
เราก็คิดว่าพ่อ แม่คงมีเหตุผล ได้แต่คิดอย่างงั้น เราก็อยู่กับแม่มาตลอด  แม่เลี้ยงเรามาอย่างเข้มแข็ง
เรามองว่าแม่เราเป็นคนที่สวยที่สุดในโลก
เวลาทะเลาะกัน ถึงแม่จะตี สุดท้ายแม่ก็มานั่งร้องไห้ทายาให้เรา จนมีวันหนึ่ง เราอยู่ป. 5 แม่ป่วย ช่วงนั้นแม่มีแฟนใหม่ เป็นทอม
มาอยู่ดูแลเราเค้าดีกับเรานะคอยดูแลเรา วันเกิดก็พาไปเลี้ยง
เซอร์ไพร์เค้กวันเกิด  เขาบอกกับเราว่าแม่เราไม่สบายนอนโรงบาลคืนนึงก็กลับ 
เราถามว่าแม่เป็นอะไร เค้าก็บอกว่าแค่ไม่สบาย พอผ่านไปอีกวัน แม่ไม่กลับ เราก็ถาม เค้าก็บอกเดี๋ยวก็กลับ
จนเราเริ่มรู้ว่าแม่ไม่ได้ไม่สบายเฉยๆ
เพราะมันนานเกินไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่กลับมาซักที ก่อนนอนเราสวดมนต์ขอให้แม่หายทุกคืน อยากให้แม่กลับมา
ประมานอาทิตย์นึงเราได้ไปเยี่ยมแม่ แม่โทรมมาก กินอะไรไม่ได้ อ้วกออก เราไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร ไม่มีใครบอกเราเลย
จนวันนึงเราอยู่ที่โรงเรียน มีญาติมารับบอกจะพาไปรับแม่กลับบ้าน เราก็ดีใจ
เราลงไปเห็นครูคุยกับญาติเรา ถามว่าจะเผาเมื่อไร ในใจพยายามคิดว่าไม่ใช่ ไม่ใช่ เผาอะไรกัน
พอไปถึงเราเห็นเม่นอนนิ่ง หน้าซีด สำลียัดจมูกแล้ว เชื่อมั้ยเราไม่ร้องไห้ แต่อึ้งไม่เชื่อคิดว่านี่มันต้องเป็นฝัน
เราได้แต่ร้องไห้ในใจ พยายามเป็นคนเข้มแข็ง เราต้องอยู่ได้ แต่ทุกครั้งเราจะหลบมาร้องไห้คนเดียวตลอด
เราจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นเลย  มันทำให้เราเศร้ามากที่สุดในชีวิต เสียใจมากคนที่เรารักจากไป
ยังไม่พร้อมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ ยังเด็กไป แต่ในเมื่อมันเกิด เราก็ต้องทำใจ พยายามคิดว่า เกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา
หลายครั้งดูรูปแม่แล้วนั่งร้องไห้ คนเดียว เหมือนไม่เหลือใครทั้งพ่อ และแม่
ชีวิตเราเปลี่ยนจากที่อบอุ่น ต้องย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด เพราะไม่เหลือใครแล้ว มีแต่ญาติ
เราคิดถึงแม่มาก คิดถึงทุกครั้งจริงๆ

จากนั้นเริ่มปรับตัวใช้ชีวิตปกติ จนช่วงเริ่มเข้า ม.1 จะต้องมีเอกสารการเข้าเรียน
ซึ่งเราก็ได้เห็นใบเกิดตัวเอง และเห็นว่าชื่อพ่อไม่เหมือนที่เรารู้จัก คือพ่อที่เคยอยู่ด้วยแล้วจากแม่ไป ไม่ใช่พ่อแท้ๆของเรา
เราอึ้งเลยอ่ะ พ่อที่แท้จริงเราไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก
แต่เราไม่เคยโกรธแม่ที่ไม่บอกเรา เราเข้าใจว่ามีเหตุผล ยังไงสักวันแม่คงบอกเราในตอนที่เราโต
แต่แม่ดันจากเราไปก่อน

ตอนนี้เราทำใจทุกอย่าง เข้าใจชีวิต เราอาจไม่มีพ่อแม่เหมือน เพื่อนคนอื่น แต่เราพยายามทำให้ดีที่สุด
ไม่เกเรเพียงแค่คิดว่าครอบครัวแตกแยก เราตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตตัวเอง ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน



ชอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่