** สวัสดีค่ะทุกคน เนื่องจากว่าการตั้งกระทู้ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเราค่ะ เพราะเพิ่งตัดสินใจสมัครเข้ามาเพื่อถามปัญหาของตัวเองที่ประสบมาสักพักและเริ่มมีความระแวงเกี่ยวกับ "โรคซึมเศร้า" โดยเฉพาะเลย หากผิดพลาดอะไรยังไง ต้องกล่าว ขอโทษ ไว้ก่อนเลยนะค่ะ
**
ขอแนะนำตัวเล็กน้อยนะค่ะ จขกท. ยังคงเป็นแค่ "เด็กวัยรุ่น" คนนึงเท่านั้นเองค่ะ และกำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีพ อยากจะขอความคิดเห็นของทุกคนที่เข้ามาอ่านและได้ข้อสรุปว่ายังไงบ้าง ขอความกรุณาด้วยนะค่ะ
เราจะขอเกริ่นในเรื่องของตัวเองก่อนนะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า.. เราก็เป็นเพียง เด็กผู้หญิง คนนึงซึ่งมีความแปลกแยกในสังคมมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อประมาณ ม.ต้น เราเป็นคนที่มีความชื่นชอบในการอ่านและดูการ์ตูนมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มาก ในขณะที่ เด็กผู้หญิง และ คนอื่นๆในห้อง ไม่ได้ชอบเหมือนเราเลยค่ะ และก็เคยถูกเพื่อนๆแบนมาสักพัก เพราะการเข้าใจผิดของเพื่อนระหว่างกลุ่มที่มีเราคั่นกลาง..
ซึ่งความแปลกแยกนั้นก็ยังคงเป็นต่อมาจนถึง ปัจจุบัน ค่ะ เราค่อนข้างเป็นคนหัวดีในห้องนั้น เพราะสายอาชีพที่เราเลือกลง และสาขาวิชาที่เลือกเรียนเรามีความชอบและสนใจมาก่อนอยู่แล้วค่ะ แล้วก็ได้ประสบการณ์ส่วนหนึ่งมาจาก โรงเรียนสมัย ประถม และ มัธยมต้น เลยดูทำให้เราเป็น คนที่เก่งมากๆ ของห้อง ทั้งๆเราเองก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แค่เพราะการจดจำมาจากเมื่อสมัยเรียนแต่ก่อนได้ก็เท่านั้นเอง เป็นที่พึ่งของคนในห้องเรื่องงานการสุดๆ ออกแนว ฉุดกระชากลากถู เพื่อให้ได้เรามาอยู่ในกลุ่มเวลาเรื่องงานน่ะนะ
ทุกคนในห้องก็ประมาณเดียวกันกับ เพื่อนร่วมห้องสมัยม.ต้น ค่ะ ก็เป็น เด็กวัยรุ่นมีรุ่นราวคราวเดียวกับเราบ้าง มีแก่กว่าเราบ้างเล็กน้อย ถึงมาก ตามปกติของพวกวิทยาลัยสายอาชีพ ก็จะมี เด็กที่หลากหลายกันมาก และ เด็กผู้หญิง รุ่นเดียวกันจะดูรักสวยรักงามกันมากกว่า ม.ปลาย จะแต่งหน้าทำผมให้ดูดีดูสวยกันทุกวัน มีความสนใจในเรื่องรักๆใคร่ๆกันแบบวัยรุ่นอย่างเปิดเผย ในขณะที่เราก็ไม่ได้แต่งหน้าหรือทำอะไรเลยค่ะ ไปสดๆกลับสดๆเลย มาเพื่อเรียนให้จบๆไปวันๆหนึ่งก็เท่านั้นเอง ที่ตั้งใจ
ชีวิตของเราดูไม่มีอะไร เอ็กไซต์ หรือ หน้าตื่นเต้นเร้าใจ เช่น การมีแฟนมาหลากหลาย การรักชอบกับคนนู่นบ้างคนนี่บ้าง พบเจอกับใครหลายๆคน ในช่วง ม.ต้น สังคมเราค่อนข้างเล็กค่ะ เพราะอยู่ในโรงเรียนที่เขากำลังจะยุบแผนกมัธยม และที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆร่วมห้องสักเท่าไหร่เลย ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงและคุณพ่อจะขี้เป็นห่วงเอามากๆ จะไปไหนก็ลำบาก ปฏิเสธเพื่อนเกือบตลอดเลยค่ะ ** แต่ก็เคยมีโกหกเพื่อไปบ้าง **
เพราะงั้นเราเลยไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนๆที่ร่วมห้องกันมากสักเท่าไหร่ ก็อาจจะมีที่สนิทกันบ้างค่อนข้างน้อยค่ะ ที่รู้ๆใจกันจริงๆ และเพื่อนที่สนิทกันมากจริงๆจะอยู่กันมากใน "อินเตอร์เน็ต" ค่ะ
เพื่อนๆที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตจะเป็นกลุ่มคนที่เราสนิทมากค่ะ จะคุยเล่นกันตลอด และส่วนมากแรกพบจะเจอกันที่ "กลุ่มสังคมคนเล่นสวมบทบาท" เช่น ยูโฟ่ หรือ บอท อะไรต่างๆตามอินเตอร์เน็ตค่ะ ** เผื่อคนไม่เข้าใจก็คือ สมมุติว่าเราชอบตัวการ์ตูนนี้มาก เราก็เข้าไปแคสบทตัวละครที่คลับที่เปิดรับสมัครเพื่อไปเป็นตัวละครนั้นๆในสังกัดคลับเขาค่ะ อะไรแบบนี้ **
พวกเพื่อนกลุ่มนี้ของเราจะเป็นเพื่อนที่เราค่อนข้างให้ความไว้วางใจสูงมากค่ะ คุยเล่น นัดไปพบปะกันตามงาน อีเว้นท์การ์ตูน คอสเพลย์ หรืออะไรต่างๆ กันค่อนข้างจะบ่อย แต่อย่างที่รู้ค่ะเราไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพราะความเป็นห่วงเป็นใยของคุณพ่อ
และถึงเรื่องสังคมรอบตัวจะเป็นแบบนั้น เราก็เป็นคนติสๆค่ะ ชอบคุย ชอบเล่น (กับคนที่เล่นด้วยได้นะค่ะ) บ้าๆ บอๆ เฮฮาไปได้กับทุกเรื่องและทุกคน มองโลกในแง่บวก เข้าขั้นเป็นคนขี้โม้ได้เลยถ้าอยู่กับเพื่อนๆที่รู้จัก เพื่อนรอบตัวและคนที่รู้จักค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่เอาจริงๆแล้วเราเป็นคนที่ค่อนข้างระวังตัวในการคบคนมาก บางคนก็เป็นเพื่อนกันด้วยก็จริง แต่ก็ไม่ได้ให้การไว้วางใจไปซะหมด จะระวังเรื่องนี้มากพอสมควร และก็มีนิสัยแย่ๆเช่น เอาแต่ใจ ดื้อหัวชนฝาในบางครั้ง เป็นคนเก็บกดเลยค่ะ คิดเล็กคิดน้อยกับคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น คิดมาก และ คิดในแง่ลบมากๆ รู้สึกว่าอยู่คนเดียวตลอด เมื่ออยู่ในมูดอารมณ์ที่แย่
มาถึงประเด็นสำคัญกันดีกว่านะค่ะ เรา..เพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมานานมากพอสมควร เลิกไปได้ 5 - 6 เดือนได้แล้วค่ะ จะไม่ขอลงรายละเอียดว่าเลิกกันเพราะอะไร แต่เอาเป็นว่า "เลิกกันไปด้วยความเข้าใจกันและกัน" นะค่ะ แต่เราก็ยังคงติดต่อกันและเป็น "เพื่อนที่ดีต่อกันอยู่" และแน่นอนค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะเลิกกันแต่ ตัว จขกท. ยังไม่ได้เลิกรักเขาเลยจนถึงวันนี้ ทุกครั้งในเวลาที่ จขกท. อยู่คนเดียว เช่น นั่งเล่นโน๊ตบุ๊ค อยู่ในห้อง หรือได้ใช้เวลาส่วนตัวด้วย "ตัวคนเดียว" จู่ๆก็จะมี มูดอารมณ์ที่แย่มากๆก่อตัวขึ้นค่ะ และหลายครั้งแล้วที่ จขกท. คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ยังดีที่มีสติอยู่ครบและคิดได้ตลอดว่า สงสารคนที่เขาเลี้ยงดูเรามาอย่างพ่อแม่บ้างนะ ไม่อยากทำให้เขาลำบากเพราะเรา เราก็ยังเด็กมาก และเรื่องที่ต้องมาฆ่าตัวตายก็ดูไร้สาระ แต่ก็กลัวตัวเองตอนที่ไม่มีสติขึ้นมามากๆเลยค่ะ ว่าจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้น ?
ระหว่าง 5 - 6 เดือนที่เราใช้ชีวิตผ่านมานั้นบอกเลยค่ะว่า "เหนื่อยและทรมานมาก" มันแย่มากๆเลยค่ะ รู้สึกหวาดระแวงไปหมดเลยทั้งการคบหาคน การพูดคุยเชิงสานสัมพันธ์ และอุปนิสัยที่ดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดด้วยตัวเอง
เรากลายเป็นคน พูดน้อยมาก ไปเลยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ หรือไม่ได้อยู่กับกลุ่มเพื่อนๆจริงๆจะไม่ค่อยพูดอะไรเลย แล้วก็จะมีสีหน้าเคร่งเครียดจนคนอื่นทักตลอดว่า เครียดอะไรอยู่รึเปล่า ? คิดมากเหรอ ? ทั้งๆที่จริงๆเราไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ อยู่ในมูดอารมณ์ปกติ แต่ในใจก็ยังคงแย่อยู่ เราพยายามหาอย่างอื่นทำเพื่อเบนตัวเองออกจากมูดอารมณ์แย่ๆ เช่น การเล่นเกม หรือ การใช้เวลากับครอบครัวมากๆ เพราะเรารู้สึกมีความสุขมากค่ะ เวลาอยู่กับครอบครัว เพราะครอบครัวเราเฮฮาและอบอุ่นมากในระดับหนึ่ง แต่..
สุดท้ายแล้วเวลาเรา "อยู่คนเดียว" เราจะคิดมาก คิดเยอะ คิดต่างๆนาๆ ร้อยแปดพันเก้า อะไรก็ไม่รู้ เต็มหัวไปหมดเลย แถมบางครั้งอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล และร้องไห้ไม่หยุด นั่งกอดตัวเองอยู่ และรู้สึกทรมานเหมือนใจจะขาดมากหลายครั้ง ถอนหายใจ เหนื่อย ท้อ ตลอดเวลาที่เป็น รู้สึกแย่ไปหมด ในหลายครั้งก็ ไม่ใช่เพราะเกิดมาจากสาเหตุดราม่าถึงแฟนคนนั้นด้วยนะค่ะ แต่เพราะการดำเนินชีวิตและการพบเจออะไรหลายๆอย่างในแต่ละวันค่ะ หรือ ไม่มีสาเหตุเลยก็มี
เราเคยเสิร์ชเข้ากูลเกิ้ลเพราะเคยรู้สึกระแวงอากาศที่เราเป็นอยู่ เพราะเราเป็นถี่และบ่อยครั้งมากจนรู้สึกว่า นี่มันกำลังเป็นโรคทางจิตอะไรรึเปล่า เราไปดูมาทั้ง ไบโพล่าห์ และ โรคซึมเศร้า อากาศมันก็ออกมาคล้ายๆเลย เราก็ปลอบใจตัวเองว่าอย่าไปคิดมากนะ มันก็แค่ช่วงแรกๆของคนกำลังอกหักล่ะมั้ง ไม่เป็นอะไรหรอก คนอื่นยังบอกว่าอย่าไปคิดมากเลย ก็พยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติที่สุดค่ะ
และถึงแม้ว่า จขทก. จะกำลังอยู่ในช่วงที่แย่ที่สุดของชีวิต แต่ก็ไม่ได้ปล่อยปะละเลยในการเรียนค่ะ ทุ่มเท ฝืนตัว และกำลังที่พอจะมี เรียนตลอด และมันก็ไม่ได้ตกหรือแย่ลงเลย นี่ก็เป็นอะไรที่ภูมิใจอยู่ไม่น้อยค่ะ ได้เห็นว่าอย่างน้อยสิ่งที่เราพยายามก็ไม่ได้เสียเปล่า
แต่แล้วทุกวันนี้ จขทก. ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยค่ะ น่าจะดูแย่ลงไปเรื่อยๆด้วยซ้ำ เมื่อช่วง 3 - 4 วันที่ผ่านมา นอนร้องไห้ตลอดเลยค่ะ อย่างไม่ทราบสาเหตุ เหนื่อย ท้อ ทรมานใจ น้ำตาไหลๆ ร้องเสร็จก็ปวดตา สภาพก็นอนดึกเข้าไปเรื่อยๆ เพราะดันร้องไห้ยาวและอารมณ์ไม่พร้อมจะนอน ช่วงนี้ จขกท. ก็มีไปช่วยเหลืองานอาจารย์ มีงานโปรเจคใหญ่ ออกไปแข่งขันให้ทางวิทยาลัย ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ การพักผ่อนไม่เคยเพียงพอมาโดยตลอด
เลยทำให้เริ่มกลัวว่าตัวเองเป็น "โรคซึมเศร้า" อยู่รึเปล่า และถ้าหากถามว่า "ทำไมไม่อยู่กับเพื่อนๆในช่วงเวลาที่แย่แบบนั้น ?" เรามาแย่เอาตอนดึกมากๆ ซึ่งมันดูจะรบกวนเวลาเพื่อนๆมากค่ะ เราก็เป็นคนขี้เกรงใจ ไม่อยากทำให้ใครลำบากใจสุดๆ เพื่อนหลายคนก็มีแฟนเป็นของตัวเองแล้ว เผื่อเดี๋ยวไปรบกวนเวลาสวี้วี๊วีของเขาเดี๋ยวจะพาลให้ทะเลาะกัน.. อินโนเซนท์ในเรื่องการปฏิบัติตัวและผลกระทบที่เราทำไปต่อคนอื่นมากๆ ดูจะสนใจคนอื่นมากกว่า ตัวเองด้วยซ้ำไปกลายๆ เลยอยากจะได้ความคิดเห็นว่าเราควรจะทำยังไงดีค่ะ เพราะพยายามระบายด้วยน้ำตา ผ่านโซเซี่ยลออนไลน์ต่างๆ หรือแม้แต่กับเพื่อนที่ไว้ใจและสนิท ก็ยังดูไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร
ป.ล. เรา..เป็น "ผู้หญิงที่ชอบผู้หญิง" ด้วยกันนะค่ะ แฟนที่เคยคบมาก็เป็น "ผู้หญิง" หมดเลยค่ะ กับคนที่เคยแอบรักหรือชอบก็ไม่ค่อยพูดออกไปให้เขารู้จนเขามีแฟนไปหมดเราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยค่ะ .. แล้วก็.. "คบกับผู้ชายได้แค่เพื่อนจริงๆ"
ขอบคุณค่ะ
ณ ตอนนี้ "ตัวเอง" กำลังเป็น "โรคซึมเศร้า" อยู่รึเปล่าค่ะ ?
ขอแนะนำตัวเล็กน้อยนะค่ะ จขกท. ยังคงเป็นแค่ "เด็กวัยรุ่น" คนนึงเท่านั้นเองค่ะ และกำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีพ อยากจะขอความคิดเห็นของทุกคนที่เข้ามาอ่านและได้ข้อสรุปว่ายังไงบ้าง ขอความกรุณาด้วยนะค่ะ
เราจะขอเกริ่นในเรื่องของตัวเองก่อนนะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า.. เราก็เป็นเพียง เด็กผู้หญิง คนนึงซึ่งมีความแปลกแยกในสังคมมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อประมาณ ม.ต้น เราเป็นคนที่มีความชื่นชอบในการอ่านและดูการ์ตูนมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มาก ในขณะที่ เด็กผู้หญิง และ คนอื่นๆในห้อง ไม่ได้ชอบเหมือนเราเลยค่ะ และก็เคยถูกเพื่อนๆแบนมาสักพัก เพราะการเข้าใจผิดของเพื่อนระหว่างกลุ่มที่มีเราคั่นกลาง..
ซึ่งความแปลกแยกนั้นก็ยังคงเป็นต่อมาจนถึง ปัจจุบัน ค่ะ เราค่อนข้างเป็นคนหัวดีในห้องนั้น เพราะสายอาชีพที่เราเลือกลง และสาขาวิชาที่เลือกเรียนเรามีความชอบและสนใจมาก่อนอยู่แล้วค่ะ แล้วก็ได้ประสบการณ์ส่วนหนึ่งมาจาก โรงเรียนสมัย ประถม และ มัธยมต้น เลยดูทำให้เราเป็น คนที่เก่งมากๆ ของห้อง ทั้งๆเราเองก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แค่เพราะการจดจำมาจากเมื่อสมัยเรียนแต่ก่อนได้ก็เท่านั้นเอง เป็นที่พึ่งของคนในห้องเรื่องงานการสุดๆ ออกแนว ฉุดกระชากลากถู เพื่อให้ได้เรามาอยู่ในกลุ่มเวลาเรื่องงานน่ะนะ
ทุกคนในห้องก็ประมาณเดียวกันกับ เพื่อนร่วมห้องสมัยม.ต้น ค่ะ ก็เป็น เด็กวัยรุ่นมีรุ่นราวคราวเดียวกับเราบ้าง มีแก่กว่าเราบ้างเล็กน้อย ถึงมาก ตามปกติของพวกวิทยาลัยสายอาชีพ ก็จะมี เด็กที่หลากหลายกันมาก และ เด็กผู้หญิง รุ่นเดียวกันจะดูรักสวยรักงามกันมากกว่า ม.ปลาย จะแต่งหน้าทำผมให้ดูดีดูสวยกันทุกวัน มีความสนใจในเรื่องรักๆใคร่ๆกันแบบวัยรุ่นอย่างเปิดเผย ในขณะที่เราก็ไม่ได้แต่งหน้าหรือทำอะไรเลยค่ะ ไปสดๆกลับสดๆเลย มาเพื่อเรียนให้จบๆไปวันๆหนึ่งก็เท่านั้นเอง ที่ตั้งใจ
ชีวิตของเราดูไม่มีอะไร เอ็กไซต์ หรือ หน้าตื่นเต้นเร้าใจ เช่น การมีแฟนมาหลากหลาย การรักชอบกับคนนู่นบ้างคนนี่บ้าง พบเจอกับใครหลายๆคน ในช่วง ม.ต้น สังคมเราค่อนข้างเล็กค่ะ เพราะอยู่ในโรงเรียนที่เขากำลังจะยุบแผนกมัธยม และที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆร่วมห้องสักเท่าไหร่เลย ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงและคุณพ่อจะขี้เป็นห่วงเอามากๆ จะไปไหนก็ลำบาก ปฏิเสธเพื่อนเกือบตลอดเลยค่ะ ** แต่ก็เคยมีโกหกเพื่อไปบ้าง **
เพราะงั้นเราเลยไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนๆที่ร่วมห้องกันมากสักเท่าไหร่ ก็อาจจะมีที่สนิทกันบ้างค่อนข้างน้อยค่ะ ที่รู้ๆใจกันจริงๆ และเพื่อนที่สนิทกันมากจริงๆจะอยู่กันมากใน "อินเตอร์เน็ต" ค่ะ
เพื่อนๆที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตจะเป็นกลุ่มคนที่เราสนิทมากค่ะ จะคุยเล่นกันตลอด และส่วนมากแรกพบจะเจอกันที่ "กลุ่มสังคมคนเล่นสวมบทบาท" เช่น ยูโฟ่ หรือ บอท อะไรต่างๆตามอินเตอร์เน็ตค่ะ ** เผื่อคนไม่เข้าใจก็คือ สมมุติว่าเราชอบตัวการ์ตูนนี้มาก เราก็เข้าไปแคสบทตัวละครที่คลับที่เปิดรับสมัครเพื่อไปเป็นตัวละครนั้นๆในสังกัดคลับเขาค่ะ อะไรแบบนี้ **
พวกเพื่อนกลุ่มนี้ของเราจะเป็นเพื่อนที่เราค่อนข้างให้ความไว้วางใจสูงมากค่ะ คุยเล่น นัดไปพบปะกันตามงาน อีเว้นท์การ์ตูน คอสเพลย์ หรืออะไรต่างๆ กันค่อนข้างจะบ่อย แต่อย่างที่รู้ค่ะเราไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพราะความเป็นห่วงเป็นใยของคุณพ่อ
และถึงเรื่องสังคมรอบตัวจะเป็นแบบนั้น เราก็เป็นคนติสๆค่ะ ชอบคุย ชอบเล่น (กับคนที่เล่นด้วยได้นะค่ะ) บ้าๆ บอๆ เฮฮาไปได้กับทุกเรื่องและทุกคน มองโลกในแง่บวก เข้าขั้นเป็นคนขี้โม้ได้เลยถ้าอยู่กับเพื่อนๆที่รู้จัก เพื่อนรอบตัวและคนที่รู้จักค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่เอาจริงๆแล้วเราเป็นคนที่ค่อนข้างระวังตัวในการคบคนมาก บางคนก็เป็นเพื่อนกันด้วยก็จริง แต่ก็ไม่ได้ให้การไว้วางใจไปซะหมด จะระวังเรื่องนี้มากพอสมควร และก็มีนิสัยแย่ๆเช่น เอาแต่ใจ ดื้อหัวชนฝาในบางครั้ง เป็นคนเก็บกดเลยค่ะ คิดเล็กคิดน้อยกับคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น คิดมาก และ คิดในแง่ลบมากๆ รู้สึกว่าอยู่คนเดียวตลอด เมื่ออยู่ในมูดอารมณ์ที่แย่
มาถึงประเด็นสำคัญกันดีกว่านะค่ะ เรา..เพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมานานมากพอสมควร เลิกไปได้ 5 - 6 เดือนได้แล้วค่ะ จะไม่ขอลงรายละเอียดว่าเลิกกันเพราะอะไร แต่เอาเป็นว่า "เลิกกันไปด้วยความเข้าใจกันและกัน" นะค่ะ แต่เราก็ยังคงติดต่อกันและเป็น "เพื่อนที่ดีต่อกันอยู่" และแน่นอนค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะเลิกกันแต่ ตัว จขกท. ยังไม่ได้เลิกรักเขาเลยจนถึงวันนี้ ทุกครั้งในเวลาที่ จขกท. อยู่คนเดียว เช่น นั่งเล่นโน๊ตบุ๊ค อยู่ในห้อง หรือได้ใช้เวลาส่วนตัวด้วย "ตัวคนเดียว" จู่ๆก็จะมี มูดอารมณ์ที่แย่มากๆก่อตัวขึ้นค่ะ และหลายครั้งแล้วที่ จขกท. คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ยังดีที่มีสติอยู่ครบและคิดได้ตลอดว่า สงสารคนที่เขาเลี้ยงดูเรามาอย่างพ่อแม่บ้างนะ ไม่อยากทำให้เขาลำบากเพราะเรา เราก็ยังเด็กมาก และเรื่องที่ต้องมาฆ่าตัวตายก็ดูไร้สาระ แต่ก็กลัวตัวเองตอนที่ไม่มีสติขึ้นมามากๆเลยค่ะ ว่าจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้น ?
ระหว่าง 5 - 6 เดือนที่เราใช้ชีวิตผ่านมานั้นบอกเลยค่ะว่า "เหนื่อยและทรมานมาก" มันแย่มากๆเลยค่ะ รู้สึกหวาดระแวงไปหมดเลยทั้งการคบหาคน การพูดคุยเชิงสานสัมพันธ์ และอุปนิสัยที่ดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดด้วยตัวเอง
เรากลายเป็นคน พูดน้อยมาก ไปเลยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ หรือไม่ได้อยู่กับกลุ่มเพื่อนๆจริงๆจะไม่ค่อยพูดอะไรเลย แล้วก็จะมีสีหน้าเคร่งเครียดจนคนอื่นทักตลอดว่า เครียดอะไรอยู่รึเปล่า ? คิดมากเหรอ ? ทั้งๆที่จริงๆเราไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ อยู่ในมูดอารมณ์ปกติ แต่ในใจก็ยังคงแย่อยู่ เราพยายามหาอย่างอื่นทำเพื่อเบนตัวเองออกจากมูดอารมณ์แย่ๆ เช่น การเล่นเกม หรือ การใช้เวลากับครอบครัวมากๆ เพราะเรารู้สึกมีความสุขมากค่ะ เวลาอยู่กับครอบครัว เพราะครอบครัวเราเฮฮาและอบอุ่นมากในระดับหนึ่ง แต่..
สุดท้ายแล้วเวลาเรา "อยู่คนเดียว" เราจะคิดมาก คิดเยอะ คิดต่างๆนาๆ ร้อยแปดพันเก้า อะไรก็ไม่รู้ เต็มหัวไปหมดเลย แถมบางครั้งอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล และร้องไห้ไม่หยุด นั่งกอดตัวเองอยู่ และรู้สึกทรมานเหมือนใจจะขาดมากหลายครั้ง ถอนหายใจ เหนื่อย ท้อ ตลอดเวลาที่เป็น รู้สึกแย่ไปหมด ในหลายครั้งก็ ไม่ใช่เพราะเกิดมาจากสาเหตุดราม่าถึงแฟนคนนั้นด้วยนะค่ะ แต่เพราะการดำเนินชีวิตและการพบเจออะไรหลายๆอย่างในแต่ละวันค่ะ หรือ ไม่มีสาเหตุเลยก็มี
เราเคยเสิร์ชเข้ากูลเกิ้ลเพราะเคยรู้สึกระแวงอากาศที่เราเป็นอยู่ เพราะเราเป็นถี่และบ่อยครั้งมากจนรู้สึกว่า นี่มันกำลังเป็นโรคทางจิตอะไรรึเปล่า เราไปดูมาทั้ง ไบโพล่าห์ และ โรคซึมเศร้า อากาศมันก็ออกมาคล้ายๆเลย เราก็ปลอบใจตัวเองว่าอย่าไปคิดมากนะ มันก็แค่ช่วงแรกๆของคนกำลังอกหักล่ะมั้ง ไม่เป็นอะไรหรอก คนอื่นยังบอกว่าอย่าไปคิดมากเลย ก็พยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติที่สุดค่ะ
และถึงแม้ว่า จขทก. จะกำลังอยู่ในช่วงที่แย่ที่สุดของชีวิต แต่ก็ไม่ได้ปล่อยปะละเลยในการเรียนค่ะ ทุ่มเท ฝืนตัว และกำลังที่พอจะมี เรียนตลอด และมันก็ไม่ได้ตกหรือแย่ลงเลย นี่ก็เป็นอะไรที่ภูมิใจอยู่ไม่น้อยค่ะ ได้เห็นว่าอย่างน้อยสิ่งที่เราพยายามก็ไม่ได้เสียเปล่า
แต่แล้วทุกวันนี้ จขทก. ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยค่ะ น่าจะดูแย่ลงไปเรื่อยๆด้วยซ้ำ เมื่อช่วง 3 - 4 วันที่ผ่านมา นอนร้องไห้ตลอดเลยค่ะ อย่างไม่ทราบสาเหตุ เหนื่อย ท้อ ทรมานใจ น้ำตาไหลๆ ร้องเสร็จก็ปวดตา สภาพก็นอนดึกเข้าไปเรื่อยๆ เพราะดันร้องไห้ยาวและอารมณ์ไม่พร้อมจะนอน ช่วงนี้ จขกท. ก็มีไปช่วยเหลืองานอาจารย์ มีงานโปรเจคใหญ่ ออกไปแข่งขันให้ทางวิทยาลัย ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ การพักผ่อนไม่เคยเพียงพอมาโดยตลอด
เลยทำให้เริ่มกลัวว่าตัวเองเป็น "โรคซึมเศร้า" อยู่รึเปล่า และถ้าหากถามว่า "ทำไมไม่อยู่กับเพื่อนๆในช่วงเวลาที่แย่แบบนั้น ?" เรามาแย่เอาตอนดึกมากๆ ซึ่งมันดูจะรบกวนเวลาเพื่อนๆมากค่ะ เราก็เป็นคนขี้เกรงใจ ไม่อยากทำให้ใครลำบากใจสุดๆ เพื่อนหลายคนก็มีแฟนเป็นของตัวเองแล้ว เผื่อเดี๋ยวไปรบกวนเวลาสวี้วี๊วีของเขาเดี๋ยวจะพาลให้ทะเลาะกัน.. อินโนเซนท์ในเรื่องการปฏิบัติตัวและผลกระทบที่เราทำไปต่อคนอื่นมากๆ ดูจะสนใจคนอื่นมากกว่า ตัวเองด้วยซ้ำไปกลายๆ เลยอยากจะได้ความคิดเห็นว่าเราควรจะทำยังไงดีค่ะ เพราะพยายามระบายด้วยน้ำตา ผ่านโซเซี่ยลออนไลน์ต่างๆ หรือแม้แต่กับเพื่อนที่ไว้ใจและสนิท ก็ยังดูไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร
ป.ล. เรา..เป็น "ผู้หญิงที่ชอบผู้หญิง" ด้วยกันนะค่ะ แฟนที่เคยคบมาก็เป็น "ผู้หญิง" หมดเลยค่ะ กับคนที่เคยแอบรักหรือชอบก็ไม่ค่อยพูดออกไปให้เขารู้จนเขามีแฟนไปหมดเราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยค่ะ .. แล้วก็.. "คบกับผู้ชายได้แค่เพื่อนจริงๆ"
ขอบคุณค่ะ