[บทความ] ฮุ่ยรั่วฉีกับด่านทดสอบที่ยากลำบาก

กระทู้ข่าว



เลือกสัมภาษณ์ฮุ่ยรั่วฉีตอนท้ายปี 2014  ด้วยความอยากรู้มากว่า 1 ปีมานี้เธอได้หาเจอสิ่งของสำคัญนั้นกลับคืนมาแล้วหรือยัง? ....  
พลังแห่งความสุขจากการเล่นวอลเลย์บอล


ปีที่แล้วเธอถือถุงเกาลัดคั่วน้ำตาลวิ่งมาให้ฉันสัมภาษณ์ด้วยท่าทางที่เบิกบานใจ แต่พูดไปได้ไม่เท่าไรก็ร่ำไห้ออกมา  เป็นภาพที่ฉันไม่มีวันลืม  ไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้มาก่อน  และทำให้ฉันเข้าใจตัวเธอมากขึ้น ....

เด็กสาวคนหนึ่งที่วิ่งหาความสุขกับวอลเลย์บอลที่ตัวเองรัก  ยากที่เธอจะลืมเลือนความสุขประทับใจแรกที่มีต่อวอลเลย์และยิ่งเป็นการยากที่จะเอาความรู้สึกแบบนั้นกลับคืนมา  แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ปลดปล่อยสิ่งที่เป็นพันธนาการออกไปได้  


หลังจบภารกิจทีมชาติเมื่อปีที่แล้วได้ไม่นาน  เธอก็เก็บสัมภาระใส่กระเป๋าติดตามโค้ชหลางไปเล่นให้กับสโมสรเหิงต้า

จากทีมชาติจนมาถึงลีกจีน  มีเธอเพียงคนเดียวที่ได้อยู่ติดตามโค้ชหลางมาตลอด  และยังเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในสโมสรเหิงต้าที่อยู่ในช่วงวัยกำลังเหมาะ   ได้ยินว่าได้รับค่าจ้างสูงลิ่ว  ได้รับการดูแลชี้แนะจากโค้ชหลาง  เป็นที่อิจฉาอย่างยิ่ง  หลายคนมองว่าเธอเป็นผู้เล่นรุ่นปัจจุบันที่โชคดีที่สุด  

แต่นั่นก็เป็นเหมือนดาบ 2 คม  ยิ่งเธอได้รับมาก คนที่ไม่ชอบเธอก็จะส่งเสียงออกมามากตามไปด้วย  และที่ทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจที่สุดก็คือเสียงที่บอกว่า ฝีมือฮุ่ยรัวฉีไม่ไหวเลย  อยู่กับหลางผิงมาก็มากกว่าใครเพื่อนแต่ไม่เห็นจะมีอะไรก้าวหน้าขึ้นเลย  

เธอยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกอะไรสะกิดหน่อยก็จะอ่อนไหว  เสียงวิจารณ์เหล่านั้น  หลายครั้งที่เธอเอามันมาขยายซะใหญ่โต โชคดีที่มีคนรอบข้างคอยให้กำลังใจ  บอกเธอว่าอุปสรรคบางอย่างก็เป็นเรื่องที่เราต้องประสบเจอ



ความสำเร็จคือผลของความเพียรพยายามยืนหยัดต่อสู้ในยามที่พบเจออุปสรรคปัญหา

ฮุ่ยรั่วฉีชอบอ่านหนังสือ “Chicken Soup” เวอร์ชั่นต่างๆ   และมักเอาคำพูดในหนังสือมากระตุ้นให้กำลังใจตัวเองให้ยืนหยัดสู้ต่อไป  มองเห็นถึงแสงสว่างไสวอยู่เบื้องหน้า  แต่โชคชะตาก็ยังล้อเล่นกับเธออย่างต่อเนื่อง  มาทดสอบถึงความตั้งใจจริงที่เธอมีให้กับวอลเลย์บอล  


ตรุษจีน  ปีมะเมีย  วันที่สอง  

พี่ชายและพี่สะใภ้กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน  หลังจากมากว่างโจวเพื่อร่วมฉลองตรุษจีนกับฮุ่ยรั่วฉี   และขณะที่เธอกำลังช่วยพี่ชายพี่สะใภ้เก็บกระเป๋าสัมภาระ  จู่ๆเธอก็รู้สึกหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ   ถามพี่ชายว่าตัวเองเป็นอะไร  พี่เธอคิดว่าอาจเป็นเพราะเธอฝึกซ้อมจนเหนื่อย  จึงบอกเธอให้ใช้วันหยุดช่วงตรุษจีน2วันนี้พักผ่อน   ปากเธอก็พูดรับคำไปแต่ในใจกลับรู้สึกกังวล  หลังจากส่งพี่ชายและพี่สะใภ้แล้ว  ขากลับก็มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติขึ้นอีก เธอตัดสินใจเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆให้ช่วยทำการตรวจ  

หมอเวรได้ทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จอภาพแสดงการเต้นเร็วผิดปกติ  จึงแนะให้เธอหลังตรุษจีนกลับมาตรวจทั้งระบบดูอีกที  เพราะแม้ว่าจะพบมีการเต้นผิดปกติแต่ก็ยังไม่อาจระบุชี้ชัดได้  แต่ในกรณีของเธอหัวใจเต้นเร็วถี่ครั้งมาก


ระหว่างทางกลับหอพักเหิงต้า  เธอคิดไปมาแล้วก็คิดว่าอย่าเพิ่งโทรศัพท์บอกพ่อแม่เรื่องนี้ก่อนดีกว่า  แต่ก็คิดว่าน่าจะบอกโค้ชหลาง  แต่ว่าก่อนที่ยังไม่รู้ให้กระจ่างชัด  เธอไม่มีความคิดที่จะหยุดพักการฝึกซ้อม

ระหว่างทางกลับหัวใจเธอเต้นเร็วผิดปกติอยู่ตลอด   ตอนที่หนักหัวใจจะเต้นๆหยุดๆ   ทางขึ้นห้องพักเธอต้องผ่านชั้นที่โค้ชหลางพักอยู่   เธอลังเลอยู่นานกว่าจะตัดสินใจไปเคาะประตูห้องโค้ชหลาง


“โค้ชหลางบอกฉันว่าอย่าเพิ่งตกใจกลัว  พูดว่าตอนที่เธอเล่นก็เคยประสบปัญหาพวกนี้   และแนะให้ฉันไปตรวจเลือดเพื่อตรวจดูระดับ Cardiac enzymes ว่าเป็นปกติหรือไม่?  จากนั้นเธอก็จะช่วยหาหมอที่ปักกิ่งให้

“ ได้ฟังโค้ชหลางพูดแล้ว  ฮุ่ยรั่วฉีรู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะ  แต่ก็เป็นไปตามที่เธอคาดการซ้อมในวันรุ่งขึ้น  โค้ชหลางไม่ได้จัดให้เธอลงซ้อมตามปกติ  แต่เป็นไปในลักษณะกึ่งซ้อมกึ่งพัก  

“นั่งมองดูคนอื่นเตรียมตัวสำหรับการเล่นนัดต่อไป  ฉันได้แต่เพียงรอคอยผลการตรวจเลือด   ตอนนั้นรู้สึกร้อนรุ่มใจมาก    อยากจะไปหาหมอเก่งๆเพื่อให้มาบอกฉันว่าหัวใจไม่เป็นอะไร  สามารถลงฝึกซ้อมได้   ลงแข่งได้ “


ทุกครั้งที่โทรศัพท์กลับบ้าน เธอจะบอกให้พ่อช่วยหาหมอเก่งๆที่กว่างโจวให้หน่อย  ต่อมาก็มีเพื่อนคุณพ่อช่วยแนะนำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งให้   แต่เมื่อไปเช็คทางอินเตอร์เน็ตก็พบว่าโรงพยาบาลที่เก่งเรื่องโรคหัวใจในกว่างโจวคือโรงพยาบาลเหรินหมิน  ซึ่งเพื่อนพ่อแนะนำให้ไม่ใช่ที่นี่จึงได้แต่ฝากขอบคุณเพื่อนของพ่อไป    ตัวเองบึ่งไปที่โรงพยาบาลเหรินหมินและขอลงทะเบียนตรวจกับหมอที่มีชื่อคนนั้น  

“แต่พอมาถึงโรงพยาบาลก็ถึงกับอึ้งเลย  ปกติพวกเราวันวันได้แต่ฝึกซ้อมวอลเลย์  ติดต่อกับสังคมภายนอกน้อยมาก  คิดไม่ถึงว่าโรงพยาบาลจะมีคนมากมายเช่นนี้  ฉันไปถึงโรงพยาบาลตอน 9 โมงเช้า  หมอคนที่ฉันต้องการให้ตรวจมีคนมาลงทะเบียนไว้จนเต็มหมดแล้ว  มีคนบอกให้ลองรอถึงช่วงบ่ายดูอีกทีว่าหมอคนนั้นเขาจะยอมเพิ่มให้หรือเปล่า? “  หอพักของเหิงต้าอยู่ห่างไกลจากเขตเมือง  กว่าตัวเองจะมาได้ก็ไม่ใช่ง่าย  เธอจึงหาที่นั่งรอในสวนหย่อมโรงพยาบาล  ซื้อขนมปังกับน้ำดื่มกินเป็นอาหารมื้อกลางวัน  


เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้  นั่งไปก็แทบอยากจะร้องไห้  รอจนถึงช่วงบ่ายก็ได้พบหมอ  หมอส่งใบตรวจหัวใจให้ถือไปยื่นขอรับบัตรคิวนัด  และในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวต้องร้องโฮออกมา  เพราะว่าต้องรอไปถึงเดือนหน้าถึงได้คิวนัดตรวจ !!  




เสี่ยวฮุ่ยอายุ 16 ปี ติดเยาวชนทีมชาติ


ยังมีต่อ ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่