บทสัมภาษณ์ติงเสีย มือเซ็ตทีมชาติจีน

กระทู้ข่าว

ภาพเวยโป๋ติงเสีย   “请叫我丁小霞”  ( โปรดเรียกฉันว่า ติงเสี่ยวเสีย)   


วันเสาร์(14พ.ย.)ที่ผ่านมา  ทีมวอลเลย์บอลหญิงเหลียวหนิงเป็นเจ้าบ้านชนะทีมเจ้อเจียง  นับเป็นชัยชนะ 5 เกมรวดติดต่อกัน  
ติงเสียมือเซ็ตเป็นกัปตันทีมเหลียวหนิงและเป็นผู้เล่นหัวใจสำคัญของทีม     เธออายุ 25 ปีแต่เพิ่งจะติดทีมชาติได้ 2 ปี   
เวิลด์คัพปีนี้เธอเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของหลางผิง   นักข่าวเหลียวเสิ่นหว่านเป้า (LiaoShen Evening News) ได้ไปสัมภาษณ์เธอ
ถึงเรื่องราวต่างๆทั้งในและนอกสนามที่เรายังไม่รู้



คิดว่าไม่มีวาสนาได้ติดทีมชาติอีกแล้ว

นักข่าว   :  คุณเสียใจที่สุดเกี่ยวกับวอลเลย์บอลคือตอนไหน?

ติงเสีย   :   เสียใจที่สุดน่าจะเป็นเมื่อปีที่แล้ว เดือนมิถุนายน  ที่ต้องออกจากทีมชาติกลับสโมสร  หลังจากเสร็จประชุมสรุปการแข่งขัน
มองโทรซ์สวิส    โค้ชหลางเรียกให้ฉันรอเดี๋ยว   ฉันก็รู้แล้วว่าตัวเองคงจะต้องไป !     เพราะตอนนั้นทีมชาติมีมือเซ็ตอยู่ถึง 5 คน   
และก็เป็นจริงตามนั้น  ฉันคือคนที่ต้องจากไป  ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด   คิดว่าคงไม่มีวาสนาได้ติดทีมชาติอีกแล้ว !   


นักข่าว  :   หลังจากที่กลับสู่สโมสรต้นสังกัดแล้ว  คุณก็น่าจะยังคิดว่าจะทำยังไงถึงกลับไปติดทีมชาติอีกใช่รึเปล่า?

ติงเสีย  :   ตอนนั้นตัวเองอยู่ในสภาพที่ไม่ดีเอาเลย  ถึงกับเคยคิดว่าไม่ฝึกซ้อมอะไรมันแล้ว   แต่โค้ชจ้าวกับโค้ชเจิ้งที่เป็นโค้ชมือเซ็ต
พูดให้กำลังใจฉันอยู่นาน  ให้การช่วยเหลือฉันเป็นอย่างมาก


นักข่าว :    อะไรคือสิ่งที่คุณได้มากที่สุดจากการคว้าแชมป์เวิลด์คัพ?   

ติงเสีย  :    ความมั่นใจ !    เมื่อก่อนเซ็ตบอลจะคิดเยอะ  แต่ตอนนี้ตัดสินใจได้เด็ดขาดมากขึ้น  การแจกจ่ายบอลก็มั่นใจมากขึ้น  
ทำให้เรามีความแน่นอนกว่าเมื่อก่อน     


นักข่าว :    ฮุ่ยรั่วฉีเคยให้สัมภาษณ์ว่าต้องขอบใจคุณที่ให้คำแนะนำกับเธอ  ตกลงว่ามีอะไรเกิดขึ้น?

ติงเสีย :     ตอนต้นปี 2014   ฉันได้เข้าแคมป์ทีมชาติ   และเรา 2 คนถูกจัดให้เป็นรูมเมทกัน   ฮุ่ยรั่วฉีเป็นกัปตันทีมชาติ  
โค้ชหลางให้ความสำคัญกับเธอและตั้งความหวังกับเธอไว้สูง   เธอเป็นคนเก่งมีความสามารถ  แต่ก็มีภาระความรับผิดชอบสูง  
ความกดดันก็เลยมีมากไปด้วย   ถึงแม้เธอจะเป็นผู้เล่นทีมชาติมานาน   แต่เธอก็ยังอายุอ่อนกว่าฉัน 1 ปี   พอตกค่ำว่างๆไม่มีอะไรทำ
เราก็มานั่งพูดคุยกัน   ช่วยให้เธอสบายใจขึ้น         






นักข่าว :  ในแวดวงวอลเลย์บอล  ใครคือคนที่คุณต้องขอบคุณเขามากที่สุด?

ติงเสีย  :  คงเป็นโค้ชหลาง !    เธอเป็นคนประเภทที่สามารถทำให้คนเชื่อฟังคำพูดของเธอ   เพราะตอนชิงแชมป์เอเชียกับ WGP  
ฉันเล่นได้ไม่ค่อยดี    ก่อนแข่งเวิลด์คัพ  โค้ชหลางเรียกฉันไปพูดคุยที่ห้อง

เธอพูดว่า  “ ฉันใช้คนต้องเชื่อใจเขา  ติงเสีย  ในเมื่อฉันใช้เธอ   เธอก็ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง  ปล่อยใจเล่นให้เต็มที่ “   
คำพูดของโค้ชทำให้ฉันกล้าที่จะเล่น  สามารถแสดงฝีมือที่มีของตัวเองออกมาได้  ฉันเป็นคนแบบนั้นที่เมื่อให้โอกาสฉัน  
ฉันก็จะพยายามเต็มที่   



ทีมชาติทดสอบสมรรถภาพร่างกายได้ที่หนึ่ง

นักข่าว :   ผู้เล่นทีมชาติส่วนใหญ่มีเส้นทางเติบโตจากการเป็นยุวชนทีมชาติ  เยาวชนทีมชาติ  แต่ครั้งแรกของคุณ
ที่มีชื่อเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติชุดใหญ่  ก็ตอนอายุ 23 ปีเข้าไปแล้ว   คิดว่าตัวเองมาช้าเกินไปรึเปล่า?

ติงเสีย :   ฉันเล่นวอลเลย์บอลค่อนข้างช้า   อายุ 12 ปีถึงได้เริ่มต้นเล่นฝึกซ้อมวอลเลย์แบบที่ฝึกซ้อมวันละ1-2ชั่วโมง  
จากโรงเรียนกีฬาก็เข้ามาอยู่ทีมเหลียวหนิงชุดใหญ่เลย   เพราะฉะนั้น เบลิคพื้นฐานของฉันเลยยังไม่ค่อยจะแน่น  และมือเซ็ตก็เป็น
ตำแหน่งที่ต้องมีเบสิคพื้นฐานดี   ดังนั้น ฉันคงไม่นับว่าช้าไปหรอก  


นักข่าว :   ช่วงไหนที่คิดว่าเป็นช่วงที่ลำบากมากที่สุด?

ติงเสีย  :   ก่อนแข่งกีฬาแห่งชาติจีน (*ปี 2013)    ปีนั้นทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดไปไว้อยู่ที่วอลเลย์บอล  คนอื่นฝึกซ้อมกัน 1 วัน 2 ช่วง
ฉัน 1 วัน 3 ช่วง  ต้องฝึกเพิ่มพิเศษกับโค้ชมือเซ็ตต่อ   ตอนนั้นแม้แต่ตอนนอนก็ยังฝันถึงเรื่องเซ็ตบอล   คิดอยากจะไประบายความกดดัน
ก็ยังไม่มีเวลาเลย  

(*** จขกท. ...  แต่การเหน็ดเหนื่อยทุ่มเทเพื่อกีฬาแห่งชาติจีนในครั้งนั้นถือว่าคุ้มค่า  เพราะทีมวอลเลย์หญิงเหลียวหนิงได้รองแชมป์  
แพ้ทีมเทียนจินในรอบชิงฯ  ก็อย่างที่เคยบอกไว้ว่ากีฬาแห่งชาติจีนมีความสำคัญมากกับคนกีฬา  หน้าที่การงานจะรุ่งเรืองหรือไม่
ก็ขึ้นกับผลงานในรายการนี้   และเหลียวหนิงก็เป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติคราวนั้นซะด้วย   ฉะนั้น ผลงานต้องมี ขายหน้าไม่ได้  
ความกดดันจึงมีสูงมากเป็นธรรมดา  เหลียวหนิงได้รองแชมป์คราวนั้นถือว่าประสบความสำเร็จ ทุกคนได้ดีกันถ้วนหน้า

ปีนั้นผู้เล่นชุดนั้นก็คงได้เงินโบนัสก้อนโตเป็นรางวัลตอบแทน  โค้ชจางเยว่หง อดีตตัวทีมชาติก็ได้ไปเป็นรองผู้อำนวยการสมาคม
วอลเลย์บอลของมณฑล  ซึ่งจริงๆก็ถึงวาระที่ต้องมีการเปลี่ยนอยู่แล้วด้วย  และได้เจ้าหย่งซึ่งเป็นโค้ชเหลียวหนิงคนปัจจุบันมาคุมทีมแทน )



นักข่าว :   ตอนอยู่แคมป์ทีมชาติที่จางโจว   มีการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย  ก็คือ การทดสอบ  yoyo  คุณเข้ามาเป็นที่ 1   
ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย

ติงเสีย :   ตอนเริ่มต้นก็ยังไม่เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่าทดสอบ yoyo   โค้ชต่างชาติบอกพวกเราว่าเป็นการทดสอบรูปแบบหนึ่ง   
ฉันเองก็รู้สึกกังวล   ตอนวิ่งไปได้ครึ่งหนึ่งก็รู้สึกไม่ไหวแล้ว  แต่ก็กัดฟันวิ่งต่อไป  จนเหลือฉันเป็นคนสุดท้าย  และก็เป็นผุ้เล่นคนเดียวที่ทำได้  100 +


นักข่าว :  เป็นเพราะสภาพร่างกายตัวเองดีใช่ไหม?

ติงเสีย :   สภาพร่างกายก็ส่วนหนึ่ง   แต่ที่สำคัญคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของจิตใจความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว   นี่ก็เป็นนิสัยฉันด้วย
ที่เป็นคนมุ่งมั่นเด็ดขาด   เมื่อฉันคิดจะทำเรื่องอะไรสักอย่างหนึ่ง  ถ้ายังไม่สำเร็จฉันก็จะมุ่งมั่นพยายามต่อไป  


นักข่าว :  ชาวเน็ตพูดถึงคุณว่าเป็น  “ มือเซ็ตสายบู๊ ”   ในเน็ตยังมีลงคลิปรวมช็อตการตบลูกของคุณด้วย   

ติงเสีย :  คงเป็นเพราะฉันเป็นคนถนัดซ้ายด้วย  เป็นข้อได้เปรียบ  พอขึ้นไปอยู่แดนหน้าก็สามารถตบได้   ที่สำคัญคือ
มือเซ็ตถนัดซ้ายมีน้อย  ฉันก็เลยดูเด่น  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่