หยุดยาวปีใหม่หลายวัน ลูกหลานที่อยู่ไกลต่างถือโอกาสมาเยี่ยมบ้าน ยิ่งมาบวกกับพวกที่อยู่ที่บ้าน
น่าจะเข้าข่ายที่ว่า ลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง พวกนี้จับกลุ่มกันได้สร้างข้อเรียกร้องขึ้นมาทันที
มีการลงมติแล้วเสนอขึ้มาว่าขอเป็น ข้าวซอยเนื้อ ด้วยเหตุผลว่าหากินยาก ร้านข้าวซอยน้ำเนื้อ มีไม่
ค่อยแพร่หลาย อาจเป็นเพราะคนนิยมกินน้อยและต้นทุนการทำแพงกว่าไก่หรือหมูเท่าตัว ขายถูกก็
ไม่ได้ ขายแพงก็หาว่าแพงไป
ลองมาดูข้าวซอยฉบับจัดเต็มเป็นอย่างไร
หลาย ๆ ครั้งที่สล่าปู่ทำข้าวซอยกินกันเองในบ้าน มักจะขาดเครื่องประกอบนั่น ๆ นี่ ๆ ไม่ค่อยจะครบสักครั้ง
มาครั้งนี้พยายามให้เต็มที่สุดเท่าที่จะทำได้
เนื้อ ไปตลาดค่อนข้างบ่ายเนื้อน่องหมดแต่ยังดีที่มีสามชั้น เนื้อที่ใช้ตุ๋นเป็นเนื้อเปื่อย ถือว่าพอทน จัดมา 2 ก.ก.
อันดับแรกจัดการต้มกับตะไคร้ ข่า เพื่อดับกลิ่น ต้มแค่พอเนื้อหดตัวเพื่อความสะดวกในการกะขนาดตอนหั่นมันจะ
ไม่หดตัวทีหลัง
อันดับแรก นำเนื้อไปต้มกับน้ำหางกะทิ ตุ๋นไฟอ่อนใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ให้เนื้อเปื่อยนุ่ม
เตรียมน้ำพริก น้ำพริกข้าวซอยสล่าปู่ใช้แค่ พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำจนนุ่ม หอมแดง (เยอะหน่อย)
กระทียม ขิงแก่ กะปิ ขมิ้นผง ปั่นละเอียด ยิ่งละเอียดเท่าใดเหมือนว่าจะช่วยให้น้ำแกงเนียนสวย
เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมัน แล้วเอาน้ำพริกลงผัดจนหอม ใส่มะส่าหล่าลงไปผัดด้วย 1 ซอง นำไปเท
ลงหม้อแกงที่ตุ๋นเนื้อเตรียมไว้
ผัดในน้ำขลุกขลิกให้เข้าเนื้ออีกครั้ง เติมน้ำแกงปริมาณพอเหมาะ ปรุงรสให้มี หวานเค็ม
วันนี้ใช้กะทิแค่ครึ่งก.ก. แยกหางไปตุ๋นเนื้อ หลังจากแกงได้ที่ใส่หัวกะทิที่เหลือและแอบ
ห่วงใยสุขภาพ งานนี้ใช้นมสดสำหรับปรุงอาหารช่วย 1 กระป๋อง ถือว่าเข้มข้นใช้ได้เลย
ปิดท้ายรายการด้วย มะส่าหล่า (เรียกทับศัพท์ตามภาษาท้องถิ่น) ปรุงกลิ่นปิดท้ายแบบชวนยั่วน้ำลายมากมาย
จบรายการทำน้ำข้าวซอย ซึ่งค่อนข้างจะใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากต้องเคี่ยวเนื้อให้เปื่อยนุ่ม
โปรดติดตามตอนที่ 2 ตอนอวสานนะครับ
ฉลองหยุดยาวด้วย "ข้าวซอยเนื้อ" ฉบับจัดเต็ม
น่าจะเข้าข่ายที่ว่า ลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง พวกนี้จับกลุ่มกันได้สร้างข้อเรียกร้องขึ้นมาทันที
มีการลงมติแล้วเสนอขึ้มาว่าขอเป็น ข้าวซอยเนื้อ ด้วยเหตุผลว่าหากินยาก ร้านข้าวซอยน้ำเนื้อ มีไม่
ค่อยแพร่หลาย อาจเป็นเพราะคนนิยมกินน้อยและต้นทุนการทำแพงกว่าไก่หรือหมูเท่าตัว ขายถูกก็
ไม่ได้ ขายแพงก็หาว่าแพงไป
ลองมาดูข้าวซอยฉบับจัดเต็มเป็นอย่างไร
หลาย ๆ ครั้งที่สล่าปู่ทำข้าวซอยกินกันเองในบ้าน มักจะขาดเครื่องประกอบนั่น ๆ นี่ ๆ ไม่ค่อยจะครบสักครั้ง
มาครั้งนี้พยายามให้เต็มที่สุดเท่าที่จะทำได้
เนื้อ ไปตลาดค่อนข้างบ่ายเนื้อน่องหมดแต่ยังดีที่มีสามชั้น เนื้อที่ใช้ตุ๋นเป็นเนื้อเปื่อย ถือว่าพอทน จัดมา 2 ก.ก.
อันดับแรกจัดการต้มกับตะไคร้ ข่า เพื่อดับกลิ่น ต้มแค่พอเนื้อหดตัวเพื่อความสะดวกในการกะขนาดตอนหั่นมันจะ
ไม่หดตัวทีหลัง
อันดับแรก นำเนื้อไปต้มกับน้ำหางกะทิ ตุ๋นไฟอ่อนใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ให้เนื้อเปื่อยนุ่ม
เตรียมน้ำพริก น้ำพริกข้าวซอยสล่าปู่ใช้แค่ พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำจนนุ่ม หอมแดง (เยอะหน่อย)
กระทียม ขิงแก่ กะปิ ขมิ้นผง ปั่นละเอียด ยิ่งละเอียดเท่าใดเหมือนว่าจะช่วยให้น้ำแกงเนียนสวย
เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมัน แล้วเอาน้ำพริกลงผัดจนหอม ใส่มะส่าหล่าลงไปผัดด้วย 1 ซอง นำไปเท
ลงหม้อแกงที่ตุ๋นเนื้อเตรียมไว้
ผัดในน้ำขลุกขลิกให้เข้าเนื้ออีกครั้ง เติมน้ำแกงปริมาณพอเหมาะ ปรุงรสให้มี หวานเค็ม
วันนี้ใช้กะทิแค่ครึ่งก.ก. แยกหางไปตุ๋นเนื้อ หลังจากแกงได้ที่ใส่หัวกะทิที่เหลือและแอบ
ห่วงใยสุขภาพ งานนี้ใช้นมสดสำหรับปรุงอาหารช่วย 1 กระป๋อง ถือว่าเข้มข้นใช้ได้เลย
ปิดท้ายรายการด้วย มะส่าหล่า (เรียกทับศัพท์ตามภาษาท้องถิ่น) ปรุงกลิ่นปิดท้ายแบบชวนยั่วน้ำลายมากมาย
จบรายการทำน้ำข้าวซอย ซึ่งค่อนข้างจะใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากต้องเคี่ยวเนื้อให้เปื่อยนุ่ม
โปรดติดตามตอนที่ 2 ตอนอวสานนะครับ