ไปแอ่วปารีสมาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนครับ กะไปลองร้านที่เคยได้ยินตั้งแต่สมัยเด็กๆ2ร้านคือ ร้านที่อยู่บนหอไอเฟล ซึ่งปัจจุบันคือ Le Jules Verne และ La Tour d'Argent หรือร้านเป็ดอัดซอสเลือดที่เป็นตำนานมากว่า400ปีที่ร.5ก็เคยทรงเสด็จมาเสวยสมัยเสด็จประพาสยุโรปครับ(รีวิวถัดไป)
สำหรับร้าน Le Jules Verne นั้นเป็นร้านอาหารเดียวที่อยู่บน Level2 ของหอไอเฟล ดำเนินการโดยเชฟ Alain Ducasse ซึ่งเป็นเชฟที่ได้รับดาวมิชลินจากร้านอาหารทั่วโลกของเขามากเป็นอันดับ2ของโลก(21ดวง)รองจาก Joel Robuchon(28ดวง) เท่านั้น
ร้านนี้ผมจองในเวปล่วงหน้าไป2เดือนก่อนไป ทางร้านแค่ต้องการข้อมูลบัตรเครดิตไว้การันตีเราเฉยๆ ถ้าเบี้ยวไม่มาแล้วไม่บอกเค้าภายใน24ชั่วโมง ทางร้านจะชารจ์บัตรเรา180ยูโรเป็นค่าปรับครับ
เวปของทางร้าน
http://www.lejulesverne-paris.com/en
ทางเข้าร้านครับ เป็นทางขึ้นลิฟท์ส่วนตัวของร้านอยู่ที่เสาทางด้านใต้ของหอไอเฟลครับ
เข้ามาแล้วเช็คชื่อจองกันแล้วเข้าเครื่องแสกนครับ
ทางขึ้นลิฟท์ของร้านครับ
วิวจากที่นั่งผมครับ เนื่องจากร้านมีขนาดไม่ใหญ่มากถ้าจะมาควรระบุว่าขอโต๊ะริมหน้าต่างดีๆหน่อยไม่งั้นเจอบางโต๊ะอยู่ตรงเสาพอดีหรือด้านในครับ ผมก็ใช้มุขฮันนีมูนรอบ2มาอ้อนตลอดก็ได้โต๊ะค่อนข้างโอเคครับ
เข้ามานั่งโต๊ะจะมีsettingจานแบบนี้มารอก่อนครับ
เมนูครับ มันมีความอึ้งนิดนึงคือผมกะมาทาน 3 course ตอนกลางวันซึ่งราคาอยู่แถวๆ90ยูโรแต่ตอนจองดันจองมาวันอาทิตย์ ฉะนั้นชุดกลางวันไม่มีครับ กลายเป็น Menu Experience 5 course ซึ่งราคา185ยูโรต่อคน T-T แน่นอนตามธรรมเนียมร้านที่ฝรั่งเศส เมนูที่ให้ฝ่ายหญิงดูจะไม่มีราคาบอก ส่วนผมก็นั่งเก๊กๆสั่งไปซึ่งแฟนก็งงๆอยู่ว่าทำไมมันได้หลายจานจัง3courseเนี่ย
ในรูปเป็นเมนูแบบที่เค้าให้เป็นที่ระลึกกลับบ้านครับ เมนูของจริงนี่สยองกว่านี้เยอะ...
เนื่องจากว่าไม่มีchoiceให้เลย อาหารก็เลยมาตามเมนูเลยนะครับ
เริ่มจากเนยพร้อมสัญลักษณ์ JV ก่อนครับ ขนมปังมีให้เลือก4แบบ ครัวซองท์กับพวกขนมปังแข็งทำจากข้าวไรน์ข้าวบาร์เลย์กับอะไรอีกอย่างจำไม่ได้ เพราะมันธรรมดามากถึงขั้นแข็งเลยครับก็เลยไม่ได้ถ่ายมา
จานแรกครับ Half smoke back of salmon, gold caviar
เป็นจานstarterที่รสชาติค่อนข้างแปลกมากสำหรับผม ปลาแซลมอนรมควันเค็มเล็กน้อย คาร์เวียร์ข้างบนเค็ม แอปเปิ้ล ส้ม ไข่ แล้วก็ เสาวรสเพียวเร่...มั้งนะครับ กับเยลลี่น่าจะวอดก้าข้างล่าง คือองค์ประกอบมันเยอะมากแล้วคนเสริฟก็เฟรนช์ซะจนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยบอกโอเคๆแล้วลองเลยล่ะกัน
สรุป มันเป็นจานที่มีรสเปรี้ยวจัดจากเสาวรสกับขมจัดกับเยลลี่ข้างล่างบวกกับหวานเค็มอ่อนๆจากแซลมอนคาร์เวียร์แล้วก็ไข่ พอมารวมกันก็...ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับแต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ผ่านไป
จาน2ครับ Lucien Tendret style pate en croute, crunchy pickled vegetables
เป็นปาเต้พวกแฮมกับตับนำไปอบในแป้งพายทานกับพวกผักดองทั้งหลายครับ ปาเต้เค็มนิดๆกับแป้งพายกรอบกินกับผักดองเปรี้ยวหวานนิดๆอร่อยดีครับ
จาน3ครับ Sauteed scallop, raw/cooked cauliflower
เป็นหอยเชลล์นาบกับกะทะพอให้มีสีทานกับดอกกะหล่ำหลากสีในซอสครีมดอกกะหล่ำสีขาวครับ ตอนมาเสริฟเค้าจะมาราดซอสให้ที่โต๊ะก่อนราดจะเห็นกะหล่ำหลากสีสวยทีเดียวครับ พอจะยกกล้องขึ้นถ่ายพี่แกก็ราดพรวดเลย ก็ได้ฟะ อร่อยมากเลยครับหอยเชล์หวานหอมซอสครีมกะหล่ำหวานเค็มกับกะหล่ำหลากสีนุ่มแต่กรึบ ชอบที่สุดในมื้อนี้เลยครับ
จาน4ครับ Truffled saddle of hare, shoulder stuffed with foie gras
จานหลักครับ เป็นกระต่ายป่านำไปผสมกับเลือดกระต่ายเองแล้วผสมฟัวกราส์ออกมาเป็นงี้อ่ะครับ จานนี้ส่วนประกอบมันคงเยอะมากมั้งอีตาคนเสริฟมันพูดเหมือนกันทุกโต๊ะว่า "มันคอมพลิเคทมากครัชอธิบายไม่ได้หรอกแต่ถ้าคุณไม่เคยทานกระต่ายมาก่อนนี่ก็เป็นโอกาสดีเพราะมันหากินยากมากฉะนั้นสั่งซะ" โอเค ถ้าจะให้อธิบายรสชาติมันก็เหมือนเอานวลๆเค็มนิดๆหวานหน่อยๆทานกับฟัวกราส์ในนั้นก็...โอเคนะครับ คิดซะว่าไม่เคยทานอาหารแบบนี้มาก่อนก็ใช้ได้ทีเดียว แท่งสีเหลืองๆนั่นกัดออกมาเป็นครีมอะไรซักอย่างอร่อยสุดๆครับ
จาน5 เข้าของหวานครับ Citrus Salad, gentian granite
เป็นฟรุตสลัดส้มทานกับน้ำแข็งใสใส่เหล้าซักอย่างครับ ไม่มีอะไรมากนอกจาก ส้มหวานน้ำแข็งขมครับ ผมไม่ค่อยอะไรกับจานนี้
จาน6 ขบวนช็อคโกแลตครับ Crispy Tower Nut and praline
เป็นชอคโกแลตเคลือบเวเฟอร์หรืออะไรซักอย่างที่ทำจากเฮเซลนัทกรอบๆเป็นชั้นๆ บอกได้คำเดียวว่า อร่อยโคตรๆครับ ทานกับไอศกรีมพราลีนที่มาด้วยกันนี้ยิ่งฟิน
บรรดาช็อคโกแลตปิดท้ายกับกาแฟครับ อร่อยทุกแบบเลย
ถึงเวลาแห่งความเป็นจริงครับ เพิ่งมารู้ด้วยว่ากาแฟไม่ได้อยู่ในชุด T-T
สรุปความ
เป็นร้านที่สมกับการรอคอยครับ ได้ประสบการณ์ดีมากแม้ว่าอาหารจะไม่ได้อร่อยมากจนน้ำตาไหลและราคาไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ แต่มีความสุขมากที่ได้มาครับ แต่ถ้าให้มาอีกคงขอทิ้งยาวๆเป็นฮันนีมูนรอบ3เลยล่ะกันครับ
อ้อ ถ้ามาทานร้านนี้สามารถออกไปชมวิวที่ observation deck level2 ของหอไอเฟลผ่านทางประตูของร้านได้เลยไม่ต้องไปต่อคิวข้างล่างนะครับ
ลากันด้วยภาพยามค่ำคืนตอนเปิดไฟกะพริบครับ เปิดแค่5นาทีต่อชั่วโมงตั้งแต่6โมงเย็นเป็นต้นไปครับ
ขอบคุณมากครับที่รับชม เจอกันรีวิวหน้า La Tour d'argent ครับ
[CR] ทานข้าวบนหอไอเฟล - Le Jules Verne [1 Michelin Star]
สำหรับร้าน Le Jules Verne นั้นเป็นร้านอาหารเดียวที่อยู่บน Level2 ของหอไอเฟล ดำเนินการโดยเชฟ Alain Ducasse ซึ่งเป็นเชฟที่ได้รับดาวมิชลินจากร้านอาหารทั่วโลกของเขามากเป็นอันดับ2ของโลก(21ดวง)รองจาก Joel Robuchon(28ดวง) เท่านั้น
ร้านนี้ผมจองในเวปล่วงหน้าไป2เดือนก่อนไป ทางร้านแค่ต้องการข้อมูลบัตรเครดิตไว้การันตีเราเฉยๆ ถ้าเบี้ยวไม่มาแล้วไม่บอกเค้าภายใน24ชั่วโมง ทางร้านจะชารจ์บัตรเรา180ยูโรเป็นค่าปรับครับ
เวปของทางร้าน
http://www.lejulesverne-paris.com/en
ทางเข้าร้านครับ เป็นทางขึ้นลิฟท์ส่วนตัวของร้านอยู่ที่เสาทางด้านใต้ของหอไอเฟลครับ
เข้ามาแล้วเช็คชื่อจองกันแล้วเข้าเครื่องแสกนครับ
ทางขึ้นลิฟท์ของร้านครับ
วิวจากที่นั่งผมครับ เนื่องจากร้านมีขนาดไม่ใหญ่มากถ้าจะมาควรระบุว่าขอโต๊ะริมหน้าต่างดีๆหน่อยไม่งั้นเจอบางโต๊ะอยู่ตรงเสาพอดีหรือด้านในครับ ผมก็ใช้มุขฮันนีมูนรอบ2มาอ้อนตลอดก็ได้โต๊ะค่อนข้างโอเคครับ
เข้ามานั่งโต๊ะจะมีsettingจานแบบนี้มารอก่อนครับ
เมนูครับ มันมีความอึ้งนิดนึงคือผมกะมาทาน 3 course ตอนกลางวันซึ่งราคาอยู่แถวๆ90ยูโรแต่ตอนจองดันจองมาวันอาทิตย์ ฉะนั้นชุดกลางวันไม่มีครับ กลายเป็น Menu Experience 5 course ซึ่งราคา185ยูโรต่อคน T-T แน่นอนตามธรรมเนียมร้านที่ฝรั่งเศส เมนูที่ให้ฝ่ายหญิงดูจะไม่มีราคาบอก ส่วนผมก็นั่งเก๊กๆสั่งไปซึ่งแฟนก็งงๆอยู่ว่าทำไมมันได้หลายจานจัง3courseเนี่ย
ในรูปเป็นเมนูแบบที่เค้าให้เป็นที่ระลึกกลับบ้านครับ เมนูของจริงนี่สยองกว่านี้เยอะ...
เนื่องจากว่าไม่มีchoiceให้เลย อาหารก็เลยมาตามเมนูเลยนะครับ
เริ่มจากเนยพร้อมสัญลักษณ์ JV ก่อนครับ ขนมปังมีให้เลือก4แบบ ครัวซองท์กับพวกขนมปังแข็งทำจากข้าวไรน์ข้าวบาร์เลย์กับอะไรอีกอย่างจำไม่ได้ เพราะมันธรรมดามากถึงขั้นแข็งเลยครับก็เลยไม่ได้ถ่ายมา
จานแรกครับ Half smoke back of salmon, gold caviar
เป็นจานstarterที่รสชาติค่อนข้างแปลกมากสำหรับผม ปลาแซลมอนรมควันเค็มเล็กน้อย คาร์เวียร์ข้างบนเค็ม แอปเปิ้ล ส้ม ไข่ แล้วก็ เสาวรสเพียวเร่...มั้งนะครับ กับเยลลี่น่าจะวอดก้าข้างล่าง คือองค์ประกอบมันเยอะมากแล้วคนเสริฟก็เฟรนช์ซะจนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยบอกโอเคๆแล้วลองเลยล่ะกัน
สรุป มันเป็นจานที่มีรสเปรี้ยวจัดจากเสาวรสกับขมจัดกับเยลลี่ข้างล่างบวกกับหวานเค็มอ่อนๆจากแซลมอนคาร์เวียร์แล้วก็ไข่ พอมารวมกันก็...ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับแต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ผ่านไป
จาน2ครับ Lucien Tendret style pate en croute, crunchy pickled vegetables
เป็นปาเต้พวกแฮมกับตับนำไปอบในแป้งพายทานกับพวกผักดองทั้งหลายครับ ปาเต้เค็มนิดๆกับแป้งพายกรอบกินกับผักดองเปรี้ยวหวานนิดๆอร่อยดีครับ
จาน3ครับ Sauteed scallop, raw/cooked cauliflower
เป็นหอยเชลล์นาบกับกะทะพอให้มีสีทานกับดอกกะหล่ำหลากสีในซอสครีมดอกกะหล่ำสีขาวครับ ตอนมาเสริฟเค้าจะมาราดซอสให้ที่โต๊ะก่อนราดจะเห็นกะหล่ำหลากสีสวยทีเดียวครับ พอจะยกกล้องขึ้นถ่ายพี่แกก็ราดพรวดเลย ก็ได้ฟะ อร่อยมากเลยครับหอยเชล์หวานหอมซอสครีมกะหล่ำหวานเค็มกับกะหล่ำหลากสีนุ่มแต่กรึบ ชอบที่สุดในมื้อนี้เลยครับ
จาน4ครับ Truffled saddle of hare, shoulder stuffed with foie gras
จานหลักครับ เป็นกระต่ายป่านำไปผสมกับเลือดกระต่ายเองแล้วผสมฟัวกราส์ออกมาเป็นงี้อ่ะครับ จานนี้ส่วนประกอบมันคงเยอะมากมั้งอีตาคนเสริฟมันพูดเหมือนกันทุกโต๊ะว่า "มันคอมพลิเคทมากครัชอธิบายไม่ได้หรอกแต่ถ้าคุณไม่เคยทานกระต่ายมาก่อนนี่ก็เป็นโอกาสดีเพราะมันหากินยากมากฉะนั้นสั่งซะ" โอเค ถ้าจะให้อธิบายรสชาติมันก็เหมือนเอานวลๆเค็มนิดๆหวานหน่อยๆทานกับฟัวกราส์ในนั้นก็...โอเคนะครับ คิดซะว่าไม่เคยทานอาหารแบบนี้มาก่อนก็ใช้ได้ทีเดียว แท่งสีเหลืองๆนั่นกัดออกมาเป็นครีมอะไรซักอย่างอร่อยสุดๆครับ
จาน5 เข้าของหวานครับ Citrus Salad, gentian granite
เป็นฟรุตสลัดส้มทานกับน้ำแข็งใสใส่เหล้าซักอย่างครับ ไม่มีอะไรมากนอกจาก ส้มหวานน้ำแข็งขมครับ ผมไม่ค่อยอะไรกับจานนี้
จาน6 ขบวนช็อคโกแลตครับ Crispy Tower Nut and praline
เป็นชอคโกแลตเคลือบเวเฟอร์หรืออะไรซักอย่างที่ทำจากเฮเซลนัทกรอบๆเป็นชั้นๆ บอกได้คำเดียวว่า อร่อยโคตรๆครับ ทานกับไอศกรีมพราลีนที่มาด้วยกันนี้ยิ่งฟิน
บรรดาช็อคโกแลตปิดท้ายกับกาแฟครับ อร่อยทุกแบบเลย
ถึงเวลาแห่งความเป็นจริงครับ เพิ่งมารู้ด้วยว่ากาแฟไม่ได้อยู่ในชุด T-T
สรุปความ
เป็นร้านที่สมกับการรอคอยครับ ได้ประสบการณ์ดีมากแม้ว่าอาหารจะไม่ได้อร่อยมากจนน้ำตาไหลและราคาไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ แต่มีความสุขมากที่ได้มาครับ แต่ถ้าให้มาอีกคงขอทิ้งยาวๆเป็นฮันนีมูนรอบ3เลยล่ะกันครับ
อ้อ ถ้ามาทานร้านนี้สามารถออกไปชมวิวที่ observation deck level2 ของหอไอเฟลผ่านทางประตูของร้านได้เลยไม่ต้องไปต่อคิวข้างล่างนะครับ
ลากันด้วยภาพยามค่ำคืนตอนเปิดไฟกะพริบครับ เปิดแค่5นาทีต่อชั่วโมงตั้งแต่6โมงเย็นเป็นต้นไปครับ
ขอบคุณมากครับที่รับชม เจอกันรีวิวหน้า La Tour d'argent ครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น