ปกติเป็นมนุษย์ซุ่ม คอยส่องคอยเผือกตามห้องนู้นห้องนี้เรื่อยๆตามประสาเด็กช่างสงสัยมานานแล้ว พอดีอยากลองแชร์ประสบการณ์ทำงานเล็กๆน้อยๆ (ง่ายๆคืออยากบ่นแต่ไม่มีเพื่อนเม้าท์มอย555)
ดิฉันอายุ22ปีค่ะ (ไม่เรยคิดว่าจะขึ้นเลขสองสักที) ก่อนหน้านี้ ดิฉันเคยทำงานมาค่อนข้างพอสมควรค่ะ ส่วนมากจะเป็นพาร์ทไทม์เพราะดิฉันต้องเรียนหนังสือด้วย ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ดีอะไรนัก งานที่เคยทำก็อย่างเช่น เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร เป็นคนคุมร้านอินเทอร์เน็ต เป็นดีเจ(สถานีวิทยุของจังหวัด) เป็นพนง.บัญชีอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมฯ. ทำงานเป็นสต๊าฟงานอีเว้นท์ ( พวกรับลงทะเบียน อะไรแบบนั้นอะค่ะ ) งานเชียร์ขายของ (PC)ที่ตจว.ก็ไป พนง.ร้านขายเสื้อผ้าในห้างฯ และอีกมากมายเอฟเวอรี่ติงจิงเกอเบลค่ะ เหนื่อยๆจริงๆยอมรับ
อย่างที่เกริ่นนามหัวข้อกระทู้เลยนะคะ ณ ตอนนี้ดิฉันทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ของอาหารบริษัทหนึ่ง (มิกล้าเอ่ยนามตรงๆ ด้วยอันเกรงว่าหัวหน้าจะบันดลมาพบกระทู้นี้แล้ว ... ค่ะ งานงอก เอาเป็นว่า)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดส่งภายใน30นาที จริงๆคงงอกตั้งแต่คิดตั้งกระทู้มั้งคะ งั้น .. ไม่เป็นไร เรื่องอนาคตไว้เป็นภาระของวันพรุ่งนี้แล้วกัน
ค่ะ ตอนเด็กๆ ดิฉันวาดฝันไว้มากค่ะเมื่อได้ยินอาชีพคอลเซ็นเตอร์ โอ้ย ผู้หญิงอะไรวะ? เสียงงดงามมาก ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ จริงค่ะ ถ้าเป็นพนง.ผู้ชายคือดิฉันคงฝากตัวเป็นแม่ยกเลยแหล่ะนะคะ มโนไปถึงตัวจริงของพวกเขาทั้งหลายว่าจะเป็นภาพแสนสวยน่าประทับใจอะไรทำนองนั้น แต่ หลังจากดิฉันได้เข้ามาสัมผัสในบริษัทแล้ว
....
ปรากฏคือ
....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คุณหลอกดาว!!!
ฮ่าๆ ค่ะ งานนี้อาศัยเสียงล้วนๆค่ะ ย้ำค่ะว่าเสียงสวยมีชัยไปเกินล้านดวงค่ะ เพื่อนๆพี่ๆร่วมอาชีพอย่าเพิ่งส่งสายตาประหัตประหารดิฉันนะคะ ได้โปรดเมตตาเด็กตาดำๆสักนิด
แรกๆดิฉันคิดว่างานประเภทนี้ไม่น่ามึอะไรมาก กะอีแค่รับสายลูกค้า ตอบข้อมูล จบปิ๊ง! นั่งเก๋ๆไป จริงๆคือไม่เลยง่า. TT ยิ่งทำของทางอาหาร สิ่งที่ต้องเจอคือคำชมและสรรเสริญ(ทั้งดีไม่ดี) จากลูกค้าค่ะ. อย่างแรกคือเมื่อเราถามที่อยู่ลูกค้า รับรายการอาหารต่างๆนาๆ ก็ไม่น่ามีเหตุอันใด แต่ส่วนมากจะเจอเคสคล้ายๆกันค่ะ เช่น เด็กโทรเล่น ลูกค้าโมโหหิว ลูกค้าวีน เหวี่ยง ด่า บลาๆๆ เบสิคขั้นพื้นฐานเลยค่ะ เป็นสกิลที่เรา เรา เรา ต้องเจอ
จริงๆ ปัญหาเหล่านี้ ดิฉันและท่านๆเข้าใจได้ค่ะ ในแง่พนง.บริการ กับลูกค้า ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องบริการให้ดีที่สุด เรามักจะถูกสอนเสมอว่าทำงานบริการต้องอดทนค่ะ ดิฉันไม่ได้จะกล่าวหาหรือต้องการว่าลูกค้าแต่อย่างใดนะคะอย่าเข้าใจเจตนาของดิฉันผิด แต่ในบางครั้งอาจจะมีบางเคสที่ทำเอาพนง.อย่างเราๆ จุก น้ำตาซึมหน่อยก็มีบ้าง (หลายบ้างเลยค่ะ) ก็เช่น ใช้ภาษาพ่อขุนสมัยก่อนสั่งอาหารกับเรา พาสิงสาราสัตว์ในเขาดินและถิ่นพงไพรมาพบเราเมื่อไม่ได้ดั่งใจ บางท่านก็เอ่ยถึงบุพการีกันบ้าง ดิฉันเคยเจอชนิดยกมาทั้งบรรพบุรุษเลยล่ะค่ะ 555 (เจ็บTT)
**********ณ จุดๆนี้ ดิฉันแค่อยากขอสักเสี้ยวใจ มอบความน่ารักและเอ็นดูให้แก่พนง.อย่างเราๆ ด้วยนะคะ บางครั้ง พนง.เราพูดจารุนแรง น้ำเสียงดุเกินไป อันนี้ยอมรับค่ะ ว่าจะต้องมีหนึ่งในทั้งหมดบ้าง ลูกค้าคอมเพลนเราได้ค่ะ แต่พนง.ไม่มีสิทธิ์กระทำกับลูกค้าเพราะคุณคือลูกค้าของเรา
เพียงแต่ในบางครั้งง ดิฉันนั้นนนน ก็อดน้อยใจเหมือนนางเอกงอนพระเอกในละครไม่ได้ ว่าเพราะเหตุอันใดไซร้~ ใยคุณพูดจาแค้นเคืองตัดสัมพันธ์เช่นนี้ ฉันทำอะไรให้คุณเคืองขุ่น TT
*********จริงๆ นี่เป็นบางส่วนบางตอนของการทำงานค่ะ ดิฉันเข้าใจนะคะ ว่าทุกอาชีพ ย่อมมีความเหนื่อย ความยากง่าย และใช้ความอดทนในการทำงานแตกต่างกันไป ไม่มีอะไรสูงหรือต่ำ ทุกอย่างทุกอาชีพคือความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันไป ถึงแม้ดิฉันเพิ่งอายุเลขหลักสอง แต่ด้วยความที่ดิฉัน เคยพอมีประสบการณ์ในการทำงานมาบ้างกับงานหลากหลายด้าน ประสบการณ์การปรับตัวกับสภาพแวดล้อม การอยู่ในสังคมกับเพื่อนร่วมงานซึ่งล้วนมีหลายวุฒิภาวะ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยเป็นบทเรียน เป็นเหมือนแนวทางที่ช่วยให้เราสามารถวางแผนตัวของเราได้ว่าควรจะวางตัวแบบไหน ควรเอาความรู้หรือประสบการณ์จากงานเดิมมาปรับและต่อยอดกับงานปัจจุบันอย่างไร
*********สุดท้ายนี้ ดิฉันคงเรียนอยู่ค่ะ แม้เพื่อนร่วมรุ่นจะทยอยจบไปเป็นโขยงแล้วดิฉันก็ไม่หวั่นแม้วันมามากค่ะ จะดื้อด้านเรียนต่อไปเพื่อเอาปริญญาไปฝากที่บ้านให้ได้ และจะยังคงทำงานต่อไปไม่ว่าจะยังเป็นที่นี่ฟรือที่ใหม่ต่อไป ดิฉันให้กำลังใจเพื่อนๆและทุกๆคน ที่ยังต้องดิ้นรนและสู้เพื่ออนาคตนะคะ พระอาทิตย์ยังคงขี้นทางทิศตะวันออกทุกวันเรายังคงมีแสงสว่างที่สดใสในทุกๆวันเช่นกัน
ขอบคุณที่รับฟังดิฉันนะคะ อิอิ สวัสดีค่ะ^^
จากใจดวงน้อยๆ ของสาวคอลเซ็นเตอร์*-*
ดิฉันอายุ22ปีค่ะ (ไม่เรยคิดว่าจะขึ้นเลขสองสักที) ก่อนหน้านี้ ดิฉันเคยทำงานมาค่อนข้างพอสมควรค่ะ ส่วนมากจะเป็นพาร์ทไทม์เพราะดิฉันต้องเรียนหนังสือด้วย ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ดีอะไรนัก งานที่เคยทำก็อย่างเช่น เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร เป็นคนคุมร้านอินเทอร์เน็ต เป็นดีเจ(สถานีวิทยุของจังหวัด) เป็นพนง.บัญชีอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมฯ. ทำงานเป็นสต๊าฟงานอีเว้นท์ ( พวกรับลงทะเบียน อะไรแบบนั้นอะค่ะ ) งานเชียร์ขายของ (PC)ที่ตจว.ก็ไป พนง.ร้านขายเสื้อผ้าในห้างฯ และอีกมากมายเอฟเวอรี่ติงจิงเกอเบลค่ะ เหนื่อยๆจริงๆยอมรับ
อย่างที่เกริ่นนามหัวข้อกระทู้เลยนะคะ ณ ตอนนี้ดิฉันทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ของอาหารบริษัทหนึ่ง (มิกล้าเอ่ยนามตรงๆ ด้วยอันเกรงว่าหัวหน้าจะบันดลมาพบกระทู้นี้แล้ว ... ค่ะ งานงอก เอาเป็นว่า) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จริงๆคงงอกตั้งแต่คิดตั้งกระทู้มั้งคะ งั้น .. ไม่เป็นไร เรื่องอนาคตไว้เป็นภาระของวันพรุ่งนี้แล้วกัน
ค่ะ ตอนเด็กๆ ดิฉันวาดฝันไว้มากค่ะเมื่อได้ยินอาชีพคอลเซ็นเตอร์ โอ้ย ผู้หญิงอะไรวะ? เสียงงดงามมาก ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ จริงค่ะ ถ้าเป็นพนง.ผู้ชายคือดิฉันคงฝากตัวเป็นแม่ยกเลยแหล่ะนะคะ มโนไปถึงตัวจริงของพวกเขาทั้งหลายว่าจะเป็นภาพแสนสวยน่าประทับใจอะไรทำนองนั้น แต่ หลังจากดิฉันได้เข้ามาสัมผัสในบริษัทแล้ว
....
ปรากฏคือ
....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฮ่าๆ ค่ะ งานนี้อาศัยเสียงล้วนๆค่ะ ย้ำค่ะว่าเสียงสวยมีชัยไปเกินล้านดวงค่ะ เพื่อนๆพี่ๆร่วมอาชีพอย่าเพิ่งส่งสายตาประหัตประหารดิฉันนะคะ ได้โปรดเมตตาเด็กตาดำๆสักนิด
แรกๆดิฉันคิดว่างานประเภทนี้ไม่น่ามึอะไรมาก กะอีแค่รับสายลูกค้า ตอบข้อมูล จบปิ๊ง! นั่งเก๋ๆไป จริงๆคือไม่เลยง่า. TT ยิ่งทำของทางอาหาร สิ่งที่ต้องเจอคือคำชมและสรรเสริญ(ทั้งดีไม่ดี) จากลูกค้าค่ะ. อย่างแรกคือเมื่อเราถามที่อยู่ลูกค้า รับรายการอาหารต่างๆนาๆ ก็ไม่น่ามีเหตุอันใด แต่ส่วนมากจะเจอเคสคล้ายๆกันค่ะ เช่น เด็กโทรเล่น ลูกค้าโมโหหิว ลูกค้าวีน เหวี่ยง ด่า บลาๆๆ เบสิคขั้นพื้นฐานเลยค่ะ เป็นสกิลที่เรา เรา เรา ต้องเจอ
จริงๆ ปัญหาเหล่านี้ ดิฉันและท่านๆเข้าใจได้ค่ะ ในแง่พนง.บริการ กับลูกค้า ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องบริการให้ดีที่สุด เรามักจะถูกสอนเสมอว่าทำงานบริการต้องอดทนค่ะ ดิฉันไม่ได้จะกล่าวหาหรือต้องการว่าลูกค้าแต่อย่างใดนะคะอย่าเข้าใจเจตนาของดิฉันผิด แต่ในบางครั้งอาจจะมีบางเคสที่ทำเอาพนง.อย่างเราๆ จุก น้ำตาซึมหน่อยก็มีบ้าง (หลายบ้างเลยค่ะ) ก็เช่น ใช้ภาษาพ่อขุนสมัยก่อนสั่งอาหารกับเรา พาสิงสาราสัตว์ในเขาดินและถิ่นพงไพรมาพบเราเมื่อไม่ได้ดั่งใจ บางท่านก็เอ่ยถึงบุพการีกันบ้าง ดิฉันเคยเจอชนิดยกมาทั้งบรรพบุรุษเลยล่ะค่ะ 555 (เจ็บTT)
**********ณ จุดๆนี้ ดิฉันแค่อยากขอสักเสี้ยวใจ มอบความน่ารักและเอ็นดูให้แก่พนง.อย่างเราๆ ด้วยนะคะ บางครั้ง พนง.เราพูดจารุนแรง น้ำเสียงดุเกินไป อันนี้ยอมรับค่ะ ว่าจะต้องมีหนึ่งในทั้งหมดบ้าง ลูกค้าคอมเพลนเราได้ค่ะ แต่พนง.ไม่มีสิทธิ์กระทำกับลูกค้าเพราะคุณคือลูกค้าของเรา
เพียงแต่ในบางครั้งง ดิฉันนั้นนนน ก็อดน้อยใจเหมือนนางเอกงอนพระเอกในละครไม่ได้ ว่าเพราะเหตุอันใดไซร้~ ใยคุณพูดจาแค้นเคืองตัดสัมพันธ์เช่นนี้ ฉันทำอะไรให้คุณเคืองขุ่น TT
*********จริงๆ นี่เป็นบางส่วนบางตอนของการทำงานค่ะ ดิฉันเข้าใจนะคะ ว่าทุกอาชีพ ย่อมมีความเหนื่อย ความยากง่าย และใช้ความอดทนในการทำงานแตกต่างกันไป ไม่มีอะไรสูงหรือต่ำ ทุกอย่างทุกอาชีพคือความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันไป ถึงแม้ดิฉันเพิ่งอายุเลขหลักสอง แต่ด้วยความที่ดิฉัน เคยพอมีประสบการณ์ในการทำงานมาบ้างกับงานหลากหลายด้าน ประสบการณ์การปรับตัวกับสภาพแวดล้อม การอยู่ในสังคมกับเพื่อนร่วมงานซึ่งล้วนมีหลายวุฒิภาวะ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยเป็นบทเรียน เป็นเหมือนแนวทางที่ช่วยให้เราสามารถวางแผนตัวของเราได้ว่าควรจะวางตัวแบบไหน ควรเอาความรู้หรือประสบการณ์จากงานเดิมมาปรับและต่อยอดกับงานปัจจุบันอย่างไร
*********สุดท้ายนี้ ดิฉันคงเรียนอยู่ค่ะ แม้เพื่อนร่วมรุ่นจะทยอยจบไปเป็นโขยงแล้วดิฉันก็ไม่หวั่นแม้วันมามากค่ะ จะดื้อด้านเรียนต่อไปเพื่อเอาปริญญาไปฝากที่บ้านให้ได้ และจะยังคงทำงานต่อไปไม่ว่าจะยังเป็นที่นี่ฟรือที่ใหม่ต่อไป ดิฉันให้กำลังใจเพื่อนๆและทุกๆคน ที่ยังต้องดิ้นรนและสู้เพื่ออนาคตนะคะ พระอาทิตย์ยังคงขี้นทางทิศตะวันออกทุกวันเรายังคงมีแสงสว่างที่สดใสในทุกๆวันเช่นกัน
ขอบคุณที่รับฟังดิฉันนะคะ อิอิ สวัสดีค่ะ^^