เรื่องของพระอริยะ ปุถุชนไม่ควรรู้ เพราะจะเกิดโทษแก่ปุถุชนเอง

เรื่องพุทธวิสัย คือ เรื่องของพระอริยะ (ผู้ที่มีกิเลสน้อย ตลอดจนไม่มีเลย) นั้น ไม่ควรบอกให้ปุถุชน (คนที่ยังมีกิเลสหน่าแน่น) รู้ เพราะมันเป็นเรื่องที่สูงเกินกว่าสติปัญญาของปุถุชนจะเข้าใจได้และรับไม่ได้ เพราะถ้าบอกไปจะมีแต่ผลเสียแก่ปุถุชนเอง คือทั้งทำให้เสื่อมศรัทธาและไม่ทำความดีแต่จะทำความชั่ว ซึ่งก็จะสร้างความเดือดร้อนแก่ปุถุชนนั่นเอง

อย่างเช่น ถ้าบอกว่า "ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตา คือไม่ใช่ตัวตน หรือไม่ใช่ตัวเรา มีแต่สิ่งประกอบขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น จึงเท่ากับไม่มีตัวตนมาเวียนว่ายตายเกิดทางร่างกาย" ปุถุชนก็จะแย้งว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ฆ่าคนไม่บาปซิ เพราะไม่ต้องไปรับผลเมื่อตายไปแล้ว" หรือถ้าบอกว่า "ทำดีก็สุขใจ ทำชั่วร้อนใจ หรือสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ นรกสวรรค์ภายนอกไม่มีอยู่จริง" ปุถุชนก็จะแย้งว่า "อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำดีเพราะไม่ได้ขึ้นสวรรค์บนฟ้า แต่จะทำชั่วเพราะไม่ต้องกลัวตกนรกใต้ดิน" เป็นต้น แต่ถ้าบอกว่า "พระอริยะเป็นผู้วิเศษ ถ้าทำบุญกับพระอริยะจะได้บุญมาก จะได้ขึ้นสวรรค์นานแสนนาน" เป็นต้น อย่างนี้ก็จะสนองกิเลสของปุถุชน ทำให้ปุถุชนชื่นชอบ แล้วปุถุชนก็จะแห่กันไปทำบุญกับพระที่อุปโลกกันขึ้นมาว่าเป็นพระอริยะ แม้มันจะไม่เป็นความจริงเลยก็ตาม

แต่สำหรับปุถุชนที่ดีและพอจะมีสติปัญญาอยู่บ้าง ที่สนใจจะศึกษาเรื่องการดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน พระพุทธเจ้าก็จะสอนให้เขารู้จักพิจารณาขันธ์ ๕ ตามที่เป็นอยู่จริงๆว่ามันเกิดขึ้นมาจากเหตุปัจจัยอะไร? ตั้งอยู่ได้เพราะมีเหตุปัจจัยอะไร? รวมทั้งมันดับหายไปเพราะขาดเหตุปัจจัยอะไร? เป็นต้น เขาก็จะเกิดความเข้าใจและเห็นแจ้งเรื่องขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาได้ด้วยสติปัญญาของเขาเอง และเขาก็จะกลายเป็นพระอริยะขั้นต้นขึ้นมาทันที

นี่คืออันตรายสำหรับปุถุชนถ้าไปรู้เรื่องของพระอริยะ คือนอกจากจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนและเป็นทุกข์แล้ว ยังจะทำให้สังคมเดือดร้ออีกด้วย ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้วางระบบเอาไว้ว่า อย่าไปสนใจเรื่องอจินไตย ๔ เรื่อง คือเรื่องของพระอริยะ เรื่องฌาณ เรื่องกรรมและผลของกรรม และเรื่องโลกๆ แต่ให้สนใจเฉพาะเรื่องการดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบันเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่