4 อสงไขย กำไรแสนกัป ที่พระองค์ทรงทำเพื่อพวกเรา แล้วเราล่ะจะทำสิ่งใดกันต่อไป

กระทู้สนทนา
นับตั้งแต่พระองค์เมื่อครั้งเป็นสุเมธดาบสได้รับ
พุทธพยากรณ์ว่าจะได้ตรัสรู้ในกาลข้างหน้า
พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน
กี่ชีวิตที่พระองค์สละเป็นทาน
กี่ภพชาติ ที่พระองค์สละบ้าน สละเรือน
สละทรัพย์ สละลูก สละเมีย
เพื่อพระโพธิญาณ
เพื่อมาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไหนจะทรงค้นคว้าหาทางอยู่อีก 6 ปี
ลำบากขนาดไหน
แล้วพวกเราชาวพุทธควรจะทำสิ่งใดเพื่อพระองค์

เราควรปฏิบัติบูชากันเถิด

แม้ในปัจจุบัน ศรัทธาจะถดถอยจากคนทั่วไป
แต่เรา เราผู้เป็นสาวก สาวิกา อุบาสก อุบาสิกา
นั่นต่างหากที่สำคัญ
คนอื่นเค้าจะทำอะไรไม่สำคัญ เราสิ เราจะทำอะไร
ในฐานะสาวก สาวิกา
ในฐานะผู้ถือรัตนตรัยเป็นสรณะ
มิได้ถือสิ่งอื่นเป็นสรณะ
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ทำสิ่งใด เราทำสิ่งนั้น
ท่านสอนไม่ให้ทำสิ่งใด เราไม่ทำสิ่งนั้น
นั่นแล จึงสมกับชื่อว่าเป็นสาวก เป็นศิษย์ มิใช่หรือ

ทาน เรามีใจในทาน ในบุญ ในกุศลพอหรือไม่
เราเห็น ทาน เป็นใหญ่ เห็นความเอื้อเฟื้อเมตตาเป็นใหญ่
หรือเห็นความตระหนี่ เห็นแก่ตัวเป็นใหญ่ ถามตัวเองดู

ศีล เราก้าวล่วงศีลหรือไม่ ศีล 5 ตามฐานะของอุบาสก
อุบาสิกา เรามีหรือไม่
เรื่องศีล บางคนอาจมองว่าเล็กน้อย ทำบ้างไม่ทำบ้าง
มันไม่เล็กน้อยหรอกครับ
มันไม่เล็กน้อย เพราะ เราปฏิญาณแล้ว
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ถ้าเราผู้เป็นสาวก สาวิกา ไม่ทำ ผู้ใดเล่าจะทำ

ภาวนา เรารู้จักหรือยัง เราทำหรือยัง
นี้แลเป็นแก่นของศาสนา
ที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมา
เพื่อมาบอกสอนพวกเรา
เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์
พบพระพุทธศาสนา
เป็นบุญขนาดไหน กว่าจะได้มา
ใช้เวลาให้คุ้มค่าเถิดครับ

ใครเค้าจะไม่เชื่อ ไม่เลื่อมใส เรื่องของเขาๆ
สำคัญที่ตัวเราต่างหาก
อาจจะมีข่าวแย่ๆ ภาพแย่ๆ ของพระในปัจจุบัน
นั่นก็กรรมของเค้า
แต่มันไม่ได้เปลี่ยนความหมายของ
สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
เลยแม้แต่นิดเดียว จะอย่างไร
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้ายังคงมีอยู่อีกมากมาน อย่าท้อ อย่าคลอนแคลน จงเชื่อมั่น

เราชาวพุทธ เราดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง สำคัญที่สุด
ลองคิดดู คนเป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าเห็นลูกเกเร
ลูกไม่เชื่อฟัง ยังเจ็บปวดใจขนาดไหน
แล้วนี่
เราผู้เป็นอุบาสก อุบาสิกา
ถ้าไม่ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของ
พระพุทธองค์ คงจะไม่ดีแน่
เราเป็นอุบาสก อุบาสิกา
ถ้าเรานี้ ตัวพวกเรานี่
ไม่ช่วยกันค้ำยันพระศาสนาไว้
ผู้ใดเล่าจะมาค้ำยัน มาสืบต่อพระศาสนา

4 อสงไขย แสนมหากัป นานมากนะ
ลำบากมากนะ ที่พระองค์ทำเพื่อพวกเรา
แม้แต่ตอนที่ส่งสาวกออกไปเผยแผ่ศาสนา ดูสิ
“พวกเธอทั้งหลาย พ้นจากบ่วงที่เป็นโลก และเป็นทิพย์
จงจาริกไปเพื่อประโยชน์แก่มหาชน อย่าไปทางเดียวกันสองรูป..... แม้ตถาคตเองก็ไปยังอุรุเวลาเสนานิคมเพื่อแสดงธรรม“
ดูสิ พวกท่านทั้งหลายหมดกิเลสกันทั้งสิ้นแล้ว
แต่ยังไปเผยแผ่ ทำกิจพระศาสนา เพื่ออะไร
ก็เพื่อพวกเราทุกคนนี่ไง

สองพันกว่าปีในหน้าประวัติศาสตร์
พระสงฆ์เอย พระศาสนาเอย
โดนฆ่า โดนทำลายมากี่หมื่นกี่แสน
กว่าจะถ่ายทอดมาถึงยุคพวกเรา
ท่านเอย กว่าจะสร้างวัดแต่ละวัด
กว่าจะบวชพระแต่ละรูป
ลำบากกันมาขนาดไหน

ใครเขาจะว่ายังไง
บุญ บาป นรก สวรรค์ กรรม มรรคผล นิพพาน
ก็ยังคงมีอยู่ของมันอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

ผมจะไม่ถามว่าโลกจะทำสิ่งใด
ผมจะไม่ถามว่าสังคมจะทำสิ่งใด
ผมจะไม่ถามว่าคนอื่น ลัทธิอื่นจะทำสิ่งใด
แต่ผมขอถามว่า เราชาวพุทธจะทำสิ่งใด
ถึงจะสมกับที่เปล่งวาจาว่า
นโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่