สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ มี่ ค่ะ เพื่อนเรียก มีมี่ ติดตามพันทิปมานาน นานจริงๆค่ะ
ตั้งแต่สมัยขบเผาะ มาถึงตอนนี้ล่วงเลยมาเกือบทศวรรษได้แล้วละค่ะ แต่ไม่ค่อยได้โพส หรือตั้งกระทู้อะไรที่นี่หรอกค่ะ
อาจจะเพราะเมื่อก่อนก็มีเวปบอร์ดอื่นที่เล่นประจำอยู่ด้วย เล่นเยอะซะจนอีจ่าเคยเอาไปลงดราม่าก็มี =..=
เข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ วันนี้มาแชร์เรื่อง "อ้วน" และ ไขมันอันเป็นเสี้ยนหนามของชีวิตค่ะ
มาพร้อมทั้งประสบการณ์ลดน้ำหนักวิธีต่างๆ ซึ่งทั้งได้ผล ทั้งไม่ได้ผล รวมไปถึงเรื่อง ยาลดน้ำหนักค่ะ
ถ้าย้อนไปตอนสมัยเรียนมหาลัย จนถึงอายุ 24-25 ก่อนหน้าจะทำงานออฟฟิศ ช่วงนั้นน้ำหนักเราจะอยู่ที่ 48-52 ขึ้นลงไม่เคยเกินนี้
แต่แค่ 52 ก็รู้สึกว่าตัวเองอืดแล้วค่ะ รีบลดเลย อดข้าวเย็น ซิทอัพ ไปเต้นแอ เน้นทานผักผลไม้ บางวันก็จัดยาชงฟิตเน่ บ้าง
ประมาณอาทิตย์นึงก็เข้าที่ค่ะ น้ำหนักลดลงสมใจ อาจจะด้วยวัยนั้นระบบเผาผลาญของร่างกายเรายังดีอยู่ด้วยละมั้งคะ
ภาพนี้ตอนเรียน มหาลัยค่ะ มันนานมากแล้วค่ะ หาภาพไม่ค่อยได้เลย
ภาพประกอบค่ะ ใครอยากชมก็กดชมค่ะ ไม่อยากชมก็ข้ามๆไปได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตามในรูปจะเห็นว่าเราเป็นคนมีแก้มค่ะ แล้วชอบโดนล้อเรื่องแก้มบ่อยๆ เป็นที่มาของการพยายามลดแก้ม รวมไปถึงลดน้ำหนัก
อันนี้ตอนทำงานแล้วค่ะ เฟี้ยวฟ้าวนิดนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่มันมีอยู่ช่วงนึง ที่สันดานมักง่ายมันชักจูงเรา บวกกับอีพวกโฆษณาในเฟสนี้แหละ ยั่วยวนมาก คำว่า "ผอมจริง ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ต้องอดอาหาร หยุดทานแล้วไม่โยโย่"
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
โห ตาลุกเลยค่าาาา หน้ามืดเลยกับคำว่า
ผอมมมมมมแบบไม่ต้องอดอาหาร คือ อยากผอมด้วยแล้วก็อยากแดรกด้วย
ตัดสินใจแคะกระปุกเลยจ้า สั่ง
ยาลดความอ้วนที่มันโฆษณาว่าไม่ใช่ยา แต่เปน"สารสกัดจากธรรมชาติ" มากิน
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
ขออนุญาติหยาบคายนะคะ
ค่ะ ไม่มีผลข้างเคียง พ่องงงง
เอฟเฟคแรงเกิ๊น ไม่ต้องอดอาหารอะไรละคะ มันไม่หิวเลย ไม่อยากกินอะไรเลย เบื่ออาหารไปเลย บวกกับนอนไม่หลับจ้า
เอาละสิ คิดว่าเอาน่ะ มันเปนสมุนไพร ไม่เปนไรหรอกน่ะ ไม่รุ้มันหลอกเรา หรือเราหลอกตัวเองนะ อารมณ์นั้น
แต่อาจจะทั้งสองอย่างเลย มันหลอกเราแล้วเราก้อยังหลอกตัวเองด้วย แต่ทนทานได้ไม่นานค่ะ ใจสั่น ปวดหัวมาก เลิกทานไปค่ะ
ไปถามคนขาย เค้าบอกว่าอาจะเป็นที่เราไม่เคยทานอาหารเสริมพวกนี้ค่ะ ร่างกายเลยต่อต้าน บลาๆๆๆๆ ว่าแล้วนางก็ให้ลองตัวใหม่
พร้อมสรรพคุณเดิม
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
อื้อ ยี่ห้อนี้ลดจริงๆค่ะ ลงเยอะด้วย แต่ก็มีเอฟเฟคอีกเช่นกัน แต่มันต่างกับอันเดิมตรงที่ตัวนี้ลงไวมาก สามวันแรก ลด 2 กิโล
ตอนนั้นกินยาได้สามอาทิตย์กว่า น้ำหนักลง เหลือ 43 แต่ปากแห้ง คอแห้ง นอนไม่หลับ แถมจะบอกว่าช่วงทานยาลด นน.นี่
พอทานไปสักพัก จะรู้สึกได้เลยว่ากลิ่นปาก สุดพลัง อมแฮค อมฮอลล์วันละกระสอบยังเอาไม่อยุ่
คือไม่รุ้หรอกว่าคนอื่นได้กลิ่นเราไหม แต่เราอะ รุ้สึกว่ามันมีกลิ่น มาจากข้างในอะ ตัดสินใจหยุดยาค่ะ พอก่อน
บวกกับตอนนั้น นน.ลงมาเยอะละ เลยหยุดทาน จากนั้นก้อลัลล๊าค่ะ ผอมสมใจแล้วนี่คะ แต่ขอบอกว่า ผอมแบบง่อยมากค่ะ ผอมแบบซีดเซียว
หรือจะเรียกได้ว่าโทรมนั่นแหละค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนขาว ถึงดูซูบเซียวแบบเห็นได้ชัดเลย ผิวขาวซีดๆเหมือนเอาแช่ไฮเตอร์มา
พอเริ่มหยุดยาก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติค่ะ แต่ก็ระวัดระวังเรื่องกินอาหารอยู่นะคะ ถึงหยุดยาไปแล้ว ก็ควบคุมอาหารอยู่ค่ะ
เริ่มกลับมาทานอาหารตามปกติเหมือนเดิมก่อนใช้ยาลด นน. ค่ะ เวลาเหมือนผ่านไปไวมากค่ะ
ร่าเริงได้ สองเดือนกว่า รุ้สึกตัวมันหนักๆ ตันๆยังไงไม่รุ้ กลับไปชั่ง นน.อีกที ถึงกับต้องอุทานด้วยคำหยาบ
อิสัด กูตาฝาดดดดด!!!
มือล้วงกระเป๋าหาเศษตัง ควานเหรียญก้นกระเป๋ามาเป็นกำมือ หยอดเหรียญบาทลงไปใหม่แบบรัวๆเลย
แล้วก็มีเสียงกรีดร้องแบบโหยหวนของตัวอะไรซักอย่างดังขึ้นหน้า 7-11 พร้อมกับเลขบนตาชั่งหยุดสนิทที่ 62!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตอนนั้น ยอมรับว่ากรีดร้องจริงๆค่ะ เพื่อนที่ไปด้วย เดินถอยหลังออกมาเลยค่ะ เข้าใจว่ามันคงอายที่เรากรี๊ด มากกว่าตกใจค่ะ
เศร้าสลดหดหู่ เสียอกเสียใจอยุ่พักนึง ละก็กินต่อแก้ช้ำใจ ตอนนั้นไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลยค่ะ นอยด์มากค่ะ
แล้วยิ่งอ้วน แทนที่จะพยายามลดน้ำหนักเหมือนที่เคยทำ ไม่ใช่ค่ะ นี่ ยิ่งอ้วนยิ่งแดรก ยิ่งอ้วนยิ่งนอน
ใช้ชีวิตแบบนี้เลยค่ะ กิน นอน เล่นคอม เก็บตัว ไม่ทราบว่ามีใครเป็นไหม พออ้วนแล้ว ไม่อยากอกไปไหนค่ะ ไม่มีความมั่นใจเลย
ตอนนี้บรรจุไขมันลงร่าง จนน้ำหนักตัวมาถึง 68 ค่ะ จุดเปลี่ยนชีวิต ที่ทำให้กลับมาผอมได้อีกรอบ คือตอนได้งานค่ะ
หลังจากนั่งกินนอนกิน หลบเลียแผลใจกับไขมันมาซักพัก จนในที่สุดใบสมัครงานของเราก็ผ่าน ถูกเรียกนัดไปสัมภาษณ์ ละก้อได้งานค่ะ
แล้วเรื่องอ้วนๆก๊อกสองก้อตามมา ด้วยการพยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเอง
คราวนี้ลดเอง แบบไม่ใช้ยาลด ซึ่งได้ผลอยู่ค่ะ
ลดอยุ่ 3 เดือนแรก น้ำหนักจาก 68 ลดลงมาเรื่อยๆลงมาได้เป็นสิบกิโลเลยค่ะ จน 58-59 เดือนต่อมาก็ลงอีกเรื่อยๆค่ะ
แล้วก็มาอยุ่ที่ 53-54 และลงมาอยุ่ตัวที่ 49-50 อาาา ค่อยยังชั่วเนอะ นน.ตอนนี้คงที่ค่ะ
อาจจะด้วยความที่งานของเราเนี่ยแหละ เป็นแรงบันดาลใจให้เราลด น้ำหนัก และผอมลง
และก็คงเพราะเราชอบที่จะแต่งตัวเลยต้องรีด น้ำหนักเพื่อให้ได้แต่งตัวสวยๆด้วย ประกอบกันไปค่ะ
ภาพประกอบตอนเริ่มทำงาน แล้วก็เริ่มลดน้ำหนักค่ะ ภาพไม่ได้เรียงกันนะคะ แค่อยากให้ดูว่า มีตอนอ้วน แล้วก็เริ่มลดน้ำหนักค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คิดว่าจะจบแบบแฮปปี้เหรอคะ ยังค่ะ ยังไม่จบเลย ยังไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ
เริ่มต่อจากตอนที่เข้าทำงานเลยละกัน เรามีเวลาเตรียมตัวก่อนทำงานแค่เดือนเดียวค่ะ เวลาเดือนเดียวไม่พอสำหรับการลดน้ำหนักให้เหลือเท่าเดิมค่ะ
เราทำได้เต็มที่ ลดได้แค่ ห้ากิโล ในหนึ่งเดือนค่ะ เริ่มไปทำงานวันแรก ตอนนั้นพกน้ำหนักไปทำงาน 63 กก.
คำแรกที่เพื่อนในออฟฟิศทักคือ นี่คนเดียวกันกะในรูปรึปล่าวเนี่ย
(เป็นรูปเก่าตอนที่เรายื่นใบสมัครเมื่อสามเดือนก่อน แต่รูปนี่เกือบหกเดือนละค่ะ ตอนนั้นยังไม่บวมเลยค่ะ ) พอเจอทักมายังงี้ นอยด์สิคะ
พอพักเที่ยง เริ่มแนะนำตัวกัน เราเลยเปิดรูปเก่าตอนยังไม่อ้วนให้ดู ว่านี่รูปชั้นจริงๆ ดันทำหน้าตกใจกันทั้งแผนก เซ็งเลยค่ะ
แหม แบบนี้มันดูถูกความงามชั้นเกินไปนะ ตอนนั้นเลยฮึด ตั้งใจรีดไขมันแบบมุ่งมั่นมาก คือมุ่งมั่นกว่าเดิม คูณสองค่ะ
ด่านแรก งดข้าว งดน้ำหวาน
งดแต่ไม่ได้อดนะคะ กินน้อยลง จะว่าไปตอนนั้นผูกมิตรกับทาโร่เลย เช้ามาทาโร่ 1 ห่อ ชาเขียว 1 ขวด แต่ตอนนั้นยอมรับเลยว่าติดชาเขียวมาก
กินขนาดที่ว่าเอาฝาไปชั่งกิโลขายซื้อไอโฟนได้เลยแบบไม่ต้องรอคุณตันแจกอะ เมื่อก่อนกินวันนึงไม่ต่ำกว่า 5-6 ขวด (กินหรืออาบเนอะ)
พอตั้งใจลด นน. วันนึงกินไม่เกิน 3 ลดลงครึ่งต่อครึ่งละ แต่ก้อยังถือว่าเยอะนะ สำหรับคนที่ตั้งใจลด นน.
ตอนเที่ยง เราทำงานกะบ่ายค่ะ เข้างานก้อบ่ายสอง เช้า-บ่ายเลยจัดเบาๆแค่ทาโร่ ตอนเข้างานจะมีผลไม้ 2-3 ถุง พวกฝรั่ง สับปะรด พอให้ไม่เหงาปาก แล้วกินแบบนี้ประจำเลย
เย็น พักทานข้าว 17.00 เราไม่อดนะ เพราะเราทำงานถึง 23.00 เราถือว่าเวลานี้คือเที่ยงของคนทั่วไปละ เราทานข้าวค่ะ แต่จะเน้นกับข้าวมากกว่า สั่งกระเพราราดข้าวมา เราเขี่ยทานแค่พอกับที่ราดมาหมด ละพอ อิ่มค่ะ ไม่กินต่อ เราจะงดแป้งไปเลย แต่ทานบ้าง พอไม่ให้ร่างกายเราโหยค่ะ
เน้นทานเนื้อ ทานผัก ขนมหวานกินบ้างคำสองคำ พอหายอยาก แต่ไม่กินเอาสะใจเหมือนเมื่อก่อนละ
เลิกงานบางวันก้อมียกทีมไปกินหมูกะทะ ในบางวัน แต่เราก้อกินนะ เน้นกินผักต้ม หมูต้ม นานๆที
ออกกำลัง ยอมรับเลย ไม่ชอบค่ะ แต่พยายามที่จะหากิจกรรมประจำวันที่มันใช้แรงบ้าง
เดินขึ้นบันได bts เดินจาก bts ไปออฟฟิศ ประมาน กิโลนึงมั้ง ทุกวัน เดินขึ้นลงบันได ที่ออฟฟิศ พยายามเดินเยอะๆระหว่างวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่
ออกกำลังที่เราว่านี่คือไม่ใช่การออกกำลังค่ะ เราคิดผิด ออกกำลังกายของเราในข้อนี้ที่เราคิดว่าเราออกกำลังกายแล้วนี่ละค่ะ
ทำให้เราพบจุดเปลี่ยนเป็นครั้งที่สามของเรา
หาแรงบันดาลใจ เราอาศัยความชอบในแฟชั่น เมื่อก่อนชอบแต่งตัว ชอบซื้อเสื้อผ้า จะซื้อชุดสวยที่ไซส์เล็กกว่าตัวเองมาเบอร์นึงตลอด
ตอนวันหยุด จะหยุดสองวันติดกันใช่ปะ เราก้ออยุ่บ้านก้อจะเอาออกมาใส่ อันนี้ติดนิสัยโสโครกมาหน่อย ตรงที่ใส่ทั้งวัน ทั้งคืนแบบไม่ถอดนะ
แล้วพอใส่ละมันจะคับหน่อยๆ ก้อทนเอาค่ะ พอใส่เสื้อผ้าคับ เราจะรุ้สึกไม่อยากกินอะไรไปเองอัตโนมัติ
กินได้นิดเดียวจะอึดอัดละ เลยทำให้ทานน้อยลงไปในตัว พอผ่านวันไป จะรุ้สึกว่า เฮ้ย หลวมลงนิดนึงละ ไม่รุ้ผอมลงจริง หรือคิดไปเอง
แต่กลับมาคิดดูอีกที อาจจะเพราะผ้ามันยืดป่าวก้อไม่รู้ ><"
ทำอยุ่แบบนี้ประจำ มารุ้ตัวอีกที นน.ลดลงเหลือ 54 แล้ว เสื้อผ้าก้อหลวม เปลี่ยนใหม่ยกเซตเลย พอเริ่มผอมลง
เราจะชอบแต่งตัวมากขึ้น ระวังตัวเองมากขึ้นโดยอัตโนมัติค่ะ เลยติดเป็นนิสัยเลย ช่วงนี้เริ่มอยุ่ตัวที่ 50-52 ไม่ลงไปกว่านี้
แต่ก้อถือว่าโอเคค่ะ
อยุ่ในระดับคำว่า "พอดี" เอว 25 แต่นมไม่มีค่ะ คงที่อยู่เท่านี้จนกระทั่งเราลาออกจากงาน เพื่อเตรียมตัวแต่งงาน
ชีวิตเหมือนจะลงตัวแล้วค่ะ แต่เรื่องราวมันกำลังจะเริ่มต้นตะหากค่ะ
มันเริ่มที่ การแต่งงาน แพคเกจเสริมหลังแต่งงาน และน้องไขมันที่คุ้นเคยก้าวเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียง ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค ไม่จริงใช่ปะ
ตั้งแต่สมัยขบเผาะ มาถึงตอนนี้ล่วงเลยมาเกือบทศวรรษได้แล้วละค่ะ แต่ไม่ค่อยได้โพส หรือตั้งกระทู้อะไรที่นี่หรอกค่ะ
อาจจะเพราะเมื่อก่อนก็มีเวปบอร์ดอื่นที่เล่นประจำอยู่ด้วย เล่นเยอะซะจนอีจ่าเคยเอาไปลงดราม่าก็มี =..=
เข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ วันนี้มาแชร์เรื่อง "อ้วน" และ ไขมันอันเป็นเสี้ยนหนามของชีวิตค่ะ
มาพร้อมทั้งประสบการณ์ลดน้ำหนักวิธีต่างๆ ซึ่งทั้งได้ผล ทั้งไม่ได้ผล รวมไปถึงเรื่อง ยาลดน้ำหนักค่ะ
ถ้าย้อนไปตอนสมัยเรียนมหาลัย จนถึงอายุ 24-25 ก่อนหน้าจะทำงานออฟฟิศ ช่วงนั้นน้ำหนักเราจะอยู่ที่ 48-52 ขึ้นลงไม่เคยเกินนี้
แต่แค่ 52 ก็รู้สึกว่าตัวเองอืดแล้วค่ะ รีบลดเลย อดข้าวเย็น ซิทอัพ ไปเต้นแอ เน้นทานผักผลไม้ บางวันก็จัดยาชงฟิตเน่ บ้าง
ประมาณอาทิตย์นึงก็เข้าที่ค่ะ น้ำหนักลดลงสมใจ อาจจะด้วยวัยนั้นระบบเผาผลาญของร่างกายเรายังดีอยู่ด้วยละมั้งคะ
ภาพนี้ตอนเรียน มหาลัยค่ะ มันนานมากแล้วค่ะ หาภาพไม่ค่อยได้เลย
ภาพประกอบค่ะ ใครอยากชมก็กดชมค่ะ ไม่อยากชมก็ข้ามๆไปได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตามในรูปจะเห็นว่าเราเป็นคนมีแก้มค่ะ แล้วชอบโดนล้อเรื่องแก้มบ่อยๆ เป็นที่มาของการพยายามลดแก้ม รวมไปถึงลดน้ำหนัก
อันนี้ตอนทำงานแล้วค่ะ เฟี้ยวฟ้าวนิดนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่มันมีอยู่ช่วงนึง ที่สันดานมักง่ายมันชักจูงเรา บวกกับอีพวกโฆษณาในเฟสนี้แหละ ยั่วยวนมาก คำว่า "ผอมจริง ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ต้องอดอาหาร หยุดทานแล้วไม่โยโย่"
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องอดอาหาร
โห ตาลุกเลยค่าาาา หน้ามืดเลยกับคำว่า ผอมมมมมมแบบไม่ต้องอดอาหาร คือ อยากผอมด้วยแล้วก็อยากแดรกด้วย
ตัดสินใจแคะกระปุกเลยจ้า สั่ง ยาลดความอ้วนที่มันโฆษณาว่าไม่ใช่ยา แต่เปน"สารสกัดจากธรรมชาติ" มากิน
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
ขออนุญาติหยาบคายนะคะ ค่ะ ไม่มีผลข้างเคียง พ่องงงง
เอฟเฟคแรงเกิ๊น ไม่ต้องอดอาหารอะไรละคะ มันไม่หิวเลย ไม่อยากกินอะไรเลย เบื่ออาหารไปเลย บวกกับนอนไม่หลับจ้า
เอาละสิ คิดว่าเอาน่ะ มันเปนสมุนไพร ไม่เปนไรหรอกน่ะ ไม่รุ้มันหลอกเรา หรือเราหลอกตัวเองนะ อารมณ์นั้น
แต่อาจจะทั้งสองอย่างเลย มันหลอกเราแล้วเราก้อยังหลอกตัวเองด้วย แต่ทนทานได้ไม่นานค่ะ ใจสั่น ปวดหัวมาก เลิกทานไปค่ะ
ไปถามคนขาย เค้าบอกว่าอาจะเป็นที่เราไม่เคยทานอาหารเสริมพวกนี้ค่ะ ร่างกายเลยต่อต้าน บลาๆๆๆๆ ว่าแล้วนางก็ให้ลองตัวใหม่
พร้อมสรรพคุณเดิม
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
รับประกันค่ะ ผอมได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายก็เห็นผล ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ ปลอดภัย หยุดแล้วไม่มีโยโย่เอฟเฟค
อื้อ ยี่ห้อนี้ลดจริงๆค่ะ ลงเยอะด้วย แต่ก็มีเอฟเฟคอีกเช่นกัน แต่มันต่างกับอันเดิมตรงที่ตัวนี้ลงไวมาก สามวันแรก ลด 2 กิโล
ตอนนั้นกินยาได้สามอาทิตย์กว่า น้ำหนักลง เหลือ 43 แต่ปากแห้ง คอแห้ง นอนไม่หลับ แถมจะบอกว่าช่วงทานยาลด นน.นี่
พอทานไปสักพัก จะรู้สึกได้เลยว่ากลิ่นปาก สุดพลัง อมแฮค อมฮอลล์วันละกระสอบยังเอาไม่อยุ่
คือไม่รุ้หรอกว่าคนอื่นได้กลิ่นเราไหม แต่เราอะ รุ้สึกว่ามันมีกลิ่น มาจากข้างในอะ ตัดสินใจหยุดยาค่ะ พอก่อน
บวกกับตอนนั้น นน.ลงมาเยอะละ เลยหยุดทาน จากนั้นก้อลัลล๊าค่ะ ผอมสมใจแล้วนี่คะ แต่ขอบอกว่า ผอมแบบง่อยมากค่ะ ผอมแบบซีดเซียว
หรือจะเรียกได้ว่าโทรมนั่นแหละค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนขาว ถึงดูซูบเซียวแบบเห็นได้ชัดเลย ผิวขาวซีดๆเหมือนเอาแช่ไฮเตอร์มา
พอเริ่มหยุดยาก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติค่ะ แต่ก็ระวัดระวังเรื่องกินอาหารอยู่นะคะ ถึงหยุดยาไปแล้ว ก็ควบคุมอาหารอยู่ค่ะ
เริ่มกลับมาทานอาหารตามปกติเหมือนเดิมก่อนใช้ยาลด นน. ค่ะ เวลาเหมือนผ่านไปไวมากค่ะ
ร่าเริงได้ สองเดือนกว่า รุ้สึกตัวมันหนักๆ ตันๆยังไงไม่รุ้ กลับไปชั่ง นน.อีกที ถึงกับต้องอุทานด้วยคำหยาบ
อิสัด กูตาฝาดดดดด!!!
มือล้วงกระเป๋าหาเศษตัง ควานเหรียญก้นกระเป๋ามาเป็นกำมือ หยอดเหรียญบาทลงไปใหม่แบบรัวๆเลย
แล้วก็มีเสียงกรีดร้องแบบโหยหวนของตัวอะไรซักอย่างดังขึ้นหน้า 7-11 พร้อมกับเลขบนตาชั่งหยุดสนิทที่ 62!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตอนนั้น ยอมรับว่ากรีดร้องจริงๆค่ะ เพื่อนที่ไปด้วย เดินถอยหลังออกมาเลยค่ะ เข้าใจว่ามันคงอายที่เรากรี๊ด มากกว่าตกใจค่ะ
เศร้าสลดหดหู่ เสียอกเสียใจอยุ่พักนึง ละก็กินต่อแก้ช้ำใจ ตอนนั้นไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลยค่ะ นอยด์มากค่ะ
แล้วยิ่งอ้วน แทนที่จะพยายามลดน้ำหนักเหมือนที่เคยทำ ไม่ใช่ค่ะ นี่ ยิ่งอ้วนยิ่งแดรก ยิ่งอ้วนยิ่งนอน
ใช้ชีวิตแบบนี้เลยค่ะ กิน นอน เล่นคอม เก็บตัว ไม่ทราบว่ามีใครเป็นไหม พออ้วนแล้ว ไม่อยากอกไปไหนค่ะ ไม่มีความมั่นใจเลย
ตอนนี้บรรจุไขมันลงร่าง จนน้ำหนักตัวมาถึง 68 ค่ะ จุดเปลี่ยนชีวิต ที่ทำให้กลับมาผอมได้อีกรอบ คือตอนได้งานค่ะ
หลังจากนั่งกินนอนกิน หลบเลียแผลใจกับไขมันมาซักพัก จนในที่สุดใบสมัครงานของเราก็ผ่าน ถูกเรียกนัดไปสัมภาษณ์ ละก้อได้งานค่ะ
แล้วเรื่องอ้วนๆก๊อกสองก้อตามมา ด้วยการพยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเอง
คราวนี้ลดเอง แบบไม่ใช้ยาลด ซึ่งได้ผลอยู่ค่ะ
ลดอยุ่ 3 เดือนแรก น้ำหนักจาก 68 ลดลงมาเรื่อยๆลงมาได้เป็นสิบกิโลเลยค่ะ จน 58-59 เดือนต่อมาก็ลงอีกเรื่อยๆค่ะ
แล้วก็มาอยุ่ที่ 53-54 และลงมาอยุ่ตัวที่ 49-50 อาาา ค่อยยังชั่วเนอะ นน.ตอนนี้คงที่ค่ะ
อาจจะด้วยความที่งานของเราเนี่ยแหละ เป็นแรงบันดาลใจให้เราลด น้ำหนัก และผอมลง
และก็คงเพราะเราชอบที่จะแต่งตัวเลยต้องรีด น้ำหนักเพื่อให้ได้แต่งตัวสวยๆด้วย ประกอบกันไปค่ะ
ภาพประกอบตอนเริ่มทำงาน แล้วก็เริ่มลดน้ำหนักค่ะ ภาพไม่ได้เรียงกันนะคะ แค่อยากให้ดูว่า มีตอนอ้วน แล้วก็เริ่มลดน้ำหนักค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คิดว่าจะจบแบบแฮปปี้เหรอคะ ยังค่ะ ยังไม่จบเลย ยังไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ
เริ่มต่อจากตอนที่เข้าทำงานเลยละกัน เรามีเวลาเตรียมตัวก่อนทำงานแค่เดือนเดียวค่ะ เวลาเดือนเดียวไม่พอสำหรับการลดน้ำหนักให้เหลือเท่าเดิมค่ะ
เราทำได้เต็มที่ ลดได้แค่ ห้ากิโล ในหนึ่งเดือนค่ะ เริ่มไปทำงานวันแรก ตอนนั้นพกน้ำหนักไปทำงาน 63 กก.
คำแรกที่เพื่อนในออฟฟิศทักคือ นี่คนเดียวกันกะในรูปรึปล่าวเนี่ย
(เป็นรูปเก่าตอนที่เรายื่นใบสมัครเมื่อสามเดือนก่อน แต่รูปนี่เกือบหกเดือนละค่ะ ตอนนั้นยังไม่บวมเลยค่ะ ) พอเจอทักมายังงี้ นอยด์สิคะ
พอพักเที่ยง เริ่มแนะนำตัวกัน เราเลยเปิดรูปเก่าตอนยังไม่อ้วนให้ดู ว่านี่รูปชั้นจริงๆ ดันทำหน้าตกใจกันทั้งแผนก เซ็งเลยค่ะ
แหม แบบนี้มันดูถูกความงามชั้นเกินไปนะ ตอนนั้นเลยฮึด ตั้งใจรีดไขมันแบบมุ่งมั่นมาก คือมุ่งมั่นกว่าเดิม คูณสองค่ะ
ด่านแรก งดข้าว งดน้ำหวาน
งดแต่ไม่ได้อดนะคะ กินน้อยลง จะว่าไปตอนนั้นผูกมิตรกับทาโร่เลย เช้ามาทาโร่ 1 ห่อ ชาเขียว 1 ขวด แต่ตอนนั้นยอมรับเลยว่าติดชาเขียวมาก
กินขนาดที่ว่าเอาฝาไปชั่งกิโลขายซื้อไอโฟนได้เลยแบบไม่ต้องรอคุณตันแจกอะ เมื่อก่อนกินวันนึงไม่ต่ำกว่า 5-6 ขวด (กินหรืออาบเนอะ)
พอตั้งใจลด นน. วันนึงกินไม่เกิน 3 ลดลงครึ่งต่อครึ่งละ แต่ก้อยังถือว่าเยอะนะ สำหรับคนที่ตั้งใจลด นน.
ตอนเที่ยง เราทำงานกะบ่ายค่ะ เข้างานก้อบ่ายสอง เช้า-บ่ายเลยจัดเบาๆแค่ทาโร่ ตอนเข้างานจะมีผลไม้ 2-3 ถุง พวกฝรั่ง สับปะรด พอให้ไม่เหงาปาก แล้วกินแบบนี้ประจำเลย
เย็น พักทานข้าว 17.00 เราไม่อดนะ เพราะเราทำงานถึง 23.00 เราถือว่าเวลานี้คือเที่ยงของคนทั่วไปละ เราทานข้าวค่ะ แต่จะเน้นกับข้าวมากกว่า สั่งกระเพราราดข้าวมา เราเขี่ยทานแค่พอกับที่ราดมาหมด ละพอ อิ่มค่ะ ไม่กินต่อ เราจะงดแป้งไปเลย แต่ทานบ้าง พอไม่ให้ร่างกายเราโหยค่ะ
เน้นทานเนื้อ ทานผัก ขนมหวานกินบ้างคำสองคำ พอหายอยาก แต่ไม่กินเอาสะใจเหมือนเมื่อก่อนละ
เลิกงานบางวันก้อมียกทีมไปกินหมูกะทะ ในบางวัน แต่เราก้อกินนะ เน้นกินผักต้ม หมูต้ม นานๆที
ออกกำลัง ยอมรับเลย ไม่ชอบค่ะ แต่พยายามที่จะหากิจกรรมประจำวันที่มันใช้แรงบ้าง
เดินขึ้นบันได bts เดินจาก bts ไปออฟฟิศ ประมาน กิโลนึงมั้ง ทุกวัน เดินขึ้นลงบันได ที่ออฟฟิศ พยายามเดินเยอะๆระหว่างวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หาแรงบันดาลใจ เราอาศัยความชอบในแฟชั่น เมื่อก่อนชอบแต่งตัว ชอบซื้อเสื้อผ้า จะซื้อชุดสวยที่ไซส์เล็กกว่าตัวเองมาเบอร์นึงตลอด
ตอนวันหยุด จะหยุดสองวันติดกันใช่ปะ เราก้ออยุ่บ้านก้อจะเอาออกมาใส่ อันนี้ติดนิสัยโสโครกมาหน่อย ตรงที่ใส่ทั้งวัน ทั้งคืนแบบไม่ถอดนะ
แล้วพอใส่ละมันจะคับหน่อยๆ ก้อทนเอาค่ะ พอใส่เสื้อผ้าคับ เราจะรุ้สึกไม่อยากกินอะไรไปเองอัตโนมัติ
กินได้นิดเดียวจะอึดอัดละ เลยทำให้ทานน้อยลงไปในตัว พอผ่านวันไป จะรุ้สึกว่า เฮ้ย หลวมลงนิดนึงละ ไม่รุ้ผอมลงจริง หรือคิดไปเอง
แต่กลับมาคิดดูอีกที อาจจะเพราะผ้ามันยืดป่าวก้อไม่รู้ ><"
ทำอยุ่แบบนี้ประจำ มารุ้ตัวอีกที นน.ลดลงเหลือ 54 แล้ว เสื้อผ้าก้อหลวม เปลี่ยนใหม่ยกเซตเลย พอเริ่มผอมลง
เราจะชอบแต่งตัวมากขึ้น ระวังตัวเองมากขึ้นโดยอัตโนมัติค่ะ เลยติดเป็นนิสัยเลย ช่วงนี้เริ่มอยุ่ตัวที่ 50-52 ไม่ลงไปกว่านี้
แต่ก้อถือว่าโอเคค่ะ อยุ่ในระดับคำว่า "พอดี" เอว 25 แต่นมไม่มีค่ะ คงที่อยู่เท่านี้จนกระทั่งเราลาออกจากงาน เพื่อเตรียมตัวแต่งงาน
ชีวิตเหมือนจะลงตัวแล้วค่ะ แต่เรื่องราวมันกำลังจะเริ่มต้นตะหากค่ะ
มันเริ่มที่ การแต่งงาน แพคเกจเสริมหลังแต่งงาน และน้องไขมันที่คุ้นเคยก้าวเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง