วันนี้จะมาขอแบ่งปันประสบการณ์ การลดความอ้วนจากน้ำหนัก 121 กิโลกรัมเหลือ 75 กิโลกรัมครับ
ก่อนอื่นจะบอกก่อนว่าผมเป็นคนนึงที่ผ่านการลองผิดลองถูกกับการลดน้ำหนักมาหลายอย่างมาก
ทั้ง กินยาลดความอ้วน ทั้งกินอาหารเสริม(ขอไม่บอกยี่ห้อ) แต่สุดท้ายก็มาจบด้วยวิธีการธรรมชาติ
วิธีนี้ดีที่สุด ยั่งยืนที่สุด และปลอดภัยที่สุดครับ
ขอเริ่มเล่ากันเลยนะครับ
ตอนผมเรียนจบโรงเรียนทหารมาทำงาน ก็เริ่มมีความอ้วนขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่อ้วนมากที่สุดครับ
ต่อมาเราก็อยากผอม จึงเริ่มทานยาลดความอ้วน(ถามแม่ค้าแล้วนะว่าโยโย่ไหมถ้าเลิกทาน แน่นอนแม่ค้าบอกว่าไม่โยโย่แน่นอน) น้ำหนักก็ลงดีเลย ผอมลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีอาการ ใจสั่น ปากแห้ง เหงื่อออกตลอดเวลา
พอมาเรื่อยๆเราไม่มีเงินที่จะซื้อยากินต่อ และเราเห็นข่าวรายวันว่าคนตาย หรือเข้าโรงพยาบาลเพราะยาลดความอ้วนกันเยอะมาก คราวนี้เราเลยหยุดกิน ความบรรลัยจึงบังเกิด หลังจากนั้นน้ำหนักก็พุ่งพรวดขึ้นไปเรื่อยๆ จะไปถึงสูงสุด 121 กิโลกรัมนั่นเอง
และต่อมาก็ไม่ได้สนใจแล้วเรื่องหุ่น มีหลายคนเตือนมาก แต่เราก็ตอบเขาไปว่า
"เกิดมาทั้งทีก็ต้องกิน ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับการกิน"
นั่นเป็นความคิดที่ผิดมากที่สุดจริงๆ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในชีวิตของผม คืออะไรรู้ไหมครับ
นั้นคือเรื่อง ผู้หญิง ตอนนั้นเลิกกับแฟน และก่อนไปเขาได้พูดทิ้งท้ายให้กับผมไว้ว่า
"ไปตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองบ้างเถอะ"
หลังจากได้ยินคำนี้ ผมจึงส่องกระจกมองตัวเองและตั้งใจบอกกับตัวเองว่า
"ต้องลดความอ้วนให้ได้ ให้เขาเสียใจและเสียดายที่เคยดูถูกเอาไว้"
ต่อจากนั้นผมก็ลดความอ้วนอย่างหนัก อดอาหาร เร่งออกกำลังกาย งดข้าวเย็น ไม่กินหลังหกโมง ไม่ทานข้าวทานแต่สุกี้ กับผัก ไข่ต้มวันล่ะไม่กี่ฟอง โยเกริต นี่คือสิ่งที่เราๆพอจะลดความอ้วนแล้วจะทำกันใช่ไหมล่ะครับ
ตอนแรกน้ำหนักลงเร็วมาก แต่สัดท้ายล่ะ ก็มาตัน ออกเท่าไหร่ก็ไม่ลดต่ออีกคราวนี้ยิ่งเครียด จนท้อและคิดว่า
"ชะตาคงสั่งให้กูเกิดมาอ้วน กูคงต้องอ้วนตลอดชีวิตไม่มีทางผอมได้หรอกอย่าไปฝืนชะตาเลย"
จนวันนึงมีพี่ที่หวังดีอยู่คนนึง แทบเรียกได้เลยว่าเขาคือคนแรกที่ทำให้ผมมาตรงนี้ได้ เขาแนะนำให้ไปดูรายการ ของวีอาโซ นั่คือรายการ what the fat ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่ ฟ้าใส และพี่ภูมิ มาให้ความรู้มผมดูซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมากจนจำข้อมูลได้ทั้งหมด และจึงมาทำตาม จากนั้นก็ลดน้ำหนักได้มาเรื่อยๆจนถึงวันนี้ครับ
และก็มาศึกษาต่อด้วยตัวเอง เพจในเฟสบุ๊คมีมากมายที่นำความรู้เรื่องออกกำลังกาย และเรื่องโภชนาการมาลงให้เราได้ศึกษากันฟรีๆไม่เสียเงิน จนตอนนี้น้ำหนักผมเหลือ 75 กิโลกรัม และคิดว่าจะลดต่อไปอีกและจะสร้างกล้ามต่อ
จริงๆมีรูปเยอะกว่านี้มากนะครับมแต่มันเอาลงไม่ได้เพราะไฟล์ใหญ่เกิน
ลดความอ้วนจาก น้ำหนัก 121 กิโลกรัม เหลือ 75 กิโลกรัม
ก่อนอื่นจะบอกก่อนว่าผมเป็นคนนึงที่ผ่านการลองผิดลองถูกกับการลดน้ำหนักมาหลายอย่างมาก
ทั้ง กินยาลดความอ้วน ทั้งกินอาหารเสริม(ขอไม่บอกยี่ห้อ) แต่สุดท้ายก็มาจบด้วยวิธีการธรรมชาติ
วิธีนี้ดีที่สุด ยั่งยืนที่สุด และปลอดภัยที่สุดครับ
ขอเริ่มเล่ากันเลยนะครับ
ตอนผมเรียนจบโรงเรียนทหารมาทำงาน ก็เริ่มมีความอ้วนขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่อ้วนมากที่สุดครับ
ต่อมาเราก็อยากผอม จึงเริ่มทานยาลดความอ้วน(ถามแม่ค้าแล้วนะว่าโยโย่ไหมถ้าเลิกทาน แน่นอนแม่ค้าบอกว่าไม่โยโย่แน่นอน) น้ำหนักก็ลงดีเลย ผอมลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีอาการ ใจสั่น ปากแห้ง เหงื่อออกตลอดเวลา
พอมาเรื่อยๆเราไม่มีเงินที่จะซื้อยากินต่อ และเราเห็นข่าวรายวันว่าคนตาย หรือเข้าโรงพยาบาลเพราะยาลดความอ้วนกันเยอะมาก คราวนี้เราเลยหยุดกิน ความบรรลัยจึงบังเกิด หลังจากนั้นน้ำหนักก็พุ่งพรวดขึ้นไปเรื่อยๆ จะไปถึงสูงสุด 121 กิโลกรัมนั่นเอง
และต่อมาก็ไม่ได้สนใจแล้วเรื่องหุ่น มีหลายคนเตือนมาก แต่เราก็ตอบเขาไปว่า
"เกิดมาทั้งทีก็ต้องกิน ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับการกิน"
นั่นเป็นความคิดที่ผิดมากที่สุดจริงๆ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในชีวิตของผม คืออะไรรู้ไหมครับ
นั้นคือเรื่อง ผู้หญิง ตอนนั้นเลิกกับแฟน และก่อนไปเขาได้พูดทิ้งท้ายให้กับผมไว้ว่า
"ไปตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองบ้างเถอะ"
หลังจากได้ยินคำนี้ ผมจึงส่องกระจกมองตัวเองและตั้งใจบอกกับตัวเองว่า
"ต้องลดความอ้วนให้ได้ ให้เขาเสียใจและเสียดายที่เคยดูถูกเอาไว้"
ต่อจากนั้นผมก็ลดความอ้วนอย่างหนัก อดอาหาร เร่งออกกำลังกาย งดข้าวเย็น ไม่กินหลังหกโมง ไม่ทานข้าวทานแต่สุกี้ กับผัก ไข่ต้มวันล่ะไม่กี่ฟอง โยเกริต นี่คือสิ่งที่เราๆพอจะลดความอ้วนแล้วจะทำกันใช่ไหมล่ะครับ
ตอนแรกน้ำหนักลงเร็วมาก แต่สัดท้ายล่ะ ก็มาตัน ออกเท่าไหร่ก็ไม่ลดต่ออีกคราวนี้ยิ่งเครียด จนท้อและคิดว่า
"ชะตาคงสั่งให้กูเกิดมาอ้วน กูคงต้องอ้วนตลอดชีวิตไม่มีทางผอมได้หรอกอย่าไปฝืนชะตาเลย"
จนวันนึงมีพี่ที่หวังดีอยู่คนนึง แทบเรียกได้เลยว่าเขาคือคนแรกที่ทำให้ผมมาตรงนี้ได้ เขาแนะนำให้ไปดูรายการ ของวีอาโซ นั่คือรายการ what the fat ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่ ฟ้าใส และพี่ภูมิ มาให้ความรู้มผมดูซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมากจนจำข้อมูลได้ทั้งหมด และจึงมาทำตาม จากนั้นก็ลดน้ำหนักได้มาเรื่อยๆจนถึงวันนี้ครับ
และก็มาศึกษาต่อด้วยตัวเอง เพจในเฟสบุ๊คมีมากมายที่นำความรู้เรื่องออกกำลังกาย และเรื่องโภชนาการมาลงให้เราได้ศึกษากันฟรีๆไม่เสียเงิน จนตอนนี้น้ำหนักผมเหลือ 75 กิโลกรัม และคิดว่าจะลดต่อไปอีกและจะสร้างกล้ามต่อ
จริงๆมีรูปเยอะกว่านี้มากนะครับมแต่มันเอาลงไม่ได้เพราะไฟล์ใหญ่เกิน