จากกระทู้  http://ppantip.com/topic/32815486








--------------------------------


หลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 49    
คมช. ก็แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ทำหน้าที่ ส.ส.   ส.ว.  เหมือนทุกวันนี้แหละครับ

ถึง 24 ส.ค. 50   มีรัฐธรรมนูญ 50   ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.   เลือกตั้งและลากตั้ง ส.ว.
แต่ขณะนั้น  การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น  ยังไม่มี ส.ส. และ ส.ว.    การลากตั้งยังไม่เกิดขึ้น  ยังไม่มีพวก ส.ว.ลากตั้ง

สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติก็ต้องสิ้นสภาพไป  เพราะรัฐธรรมนูญ 50  ให้มี ส.ส.  ส.ว. ไม่ได้ให้มี สนช.
  
รัฐธรรมนูญ 50  เขาเลยมีบทเฉพาะกาล  มาตรา 293  ว่าให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ส.  ส.ว. ไปพลางก่อน
จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง-ลากตั้ง ส.ส.   ส.ว. เข้ามาเรียบร้อย


ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอำนาจการถอดถอนใด ๆ ครับ   เป็นการทำหน้าที่ทางนิติบัญญัติและทั่วไปเท่านั้นเอง

ทีนี้  พอเขาจะถอดถอนนายจรัล  ดิษฐาอภิชัย   เขาก็อาศัยมาตรา 271 ในรัฐธรรมนูญ 50


เข้าชื่อกันเสนอต่อประธานวุฒิสภา  ให้ถอดถอน
แล้วก็ใช้อำนาจ ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญ 50  มาตรา 270  ถอดถอนนายจรัลออกจากตำแหน่ง



ชัดนะครับ   ว่า สนช.49 (ที่บทเฉพาะกาล รธน.50  มาตรา 293 ให้ทำหน้าที่ ส.ส.  ส.ว.)  
อาศัยอำนาจรัฐธรรมนูญ 50  มาตรา 270-274  ถอดถอนนายจรัล

ที่คุณไปเข้าใจผิด   คิดว่า สนช.49  อาศัยรัฐธรรมนูญ 50  มาตรา 293  
ที่บอกว่าให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ส.  ส.ว.  ไปถอดถอนนายจรัล  นั้น   จึงเป็นการเข้าใจผิด



มันจึงโยงมาถึงเหตุการณ์ปัจจุบันได้ครับ   ว่า สนช.57  ไม่มีอำนาจถอดถอนใคร  ไม่ว่าอดีต หรือปัจจุบัน
ด้วยเหตุรัฐธรรมนูญ 50  ยกเลิกไปแล้ว   เรื่องถอดถอนตามมาตรา 270-274  ไม่มีแล้ว
ไม่มีเรื่องถอดถอน  ไม่มีเรื่องเข้าชื่อ  ไม่มีเรื่องตัดสิทธิห้าปี

สนช.57  จะถอดถอนใคร  ต้องอาศัยรัฐธรรมนูญ 50  มาตรา 270   แต่ถูกยกเลิกไปแล้ว  ไม่มีแล้ว
และรัฐธรรมนูญ 57   ก็ไม่ได้มีบทบัญญัติใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องถอดถอนไว้เลย


ทีนี้  หาก สนช.57  จะอ้างกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 58  ว่าสามารถดำเนินการถอดถอนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อ้างข้อบังคับการประชุมของ สนช.57   ว่าเมื่อได้รับเรื่องจาก ป.ป.ช. แล้วก็ต้องดำเนินการถอดถอนตามข้อบังคับ

มันก็เป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญรองรับ
เป็นการกระทำโดยการสร้างอำนาจลอย ๆ ขึ้นมา  ไม่มีกฎหมายข้อใดรองรับเลย

หากจะอ้างว่า  กฎหมาย ป.ป.ช. ทำได้
สนุกครับ

เพราะถ้ากฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 58  มีผล     ก็ย่อมทำให้กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 59  มีผลด้วย



สนุกยังไง  ก็สนุกสิครับ  เพราะประชาชนก็สามารถเข้าชื่อกันถอดถอนได้
สนช. ก็สามารถเข้าชื่อกันถอดถอน ครม.ประยุทธ์ได้

เน่ากันไปหนักครับ  
เพราะหากประชาชนเข้าชื่อกันร้องขอให้ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง
(เรื่องจะไปหาวุฒิแล้ววุฒิส่งต่อให้ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง)
ไม่ว่าเรื่องไมค์ทองคำฝังเพชร  เรื่องบัญชีเงินฝาก  เรื่องบริษัทรับงาน  ฯลฯ
แล้ว ป.ป.ช. แน่ซะยิ่งกว่าแน่  ต้องบอกว่า  ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วไม่มีมูล  การขอถอดถอนให้ตกไป
เละครับ

เพราะความขัดแย้ง  แตกแยก  ยิ่งจะลุกลามบานปลาย



วันนี้  สนช. มีมติรับเรื่องถอดถอนประธาน-อดีตประธานรัฐสภา
มันชัดครับ  ว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายรองรับ   อ้างข้อบังคับ  และสร้างอำนาจเถื่อนให้ตัวเอง

งั้น  พรุ่งนี้   ประชาชนก็สามารถเข้าชื่อกันร้องให้ถอดถอนได้เหมือนกันครับ




ตอนนี้ได้ข่าวว่า  พี่สาวเหลือน้อย กับน้องมะปราง  กำลังร่วมมือกันวางแผนทำแคมเปญรณรงค์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อ
ใครอยากลงชื่อถอดถอน   หลังไมค์ไปแจ้งชื่อกับพี่สาวเหลือน้อยและน้องมะปรางได้เลยครับ



  

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เอือมกับพวกฉ้อฉลกฎหมายเพื่อมุ่งทำลายล้างทางการเมือง   ทำเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องทั้งนั้น
บ้านเมืองจะขัดแย้งแตกแยก  พวกมันไม่สน  ถือว่ามีอำนาจนอกระบบอุ้ม  ไม่มีใครทำอะไรได้
เว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...  ตุลาการดี ๆ ในบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีแล้วหรือไงวะ)