6...แบ่งหุ้นทั้งตลาดออกตามประเภท
ไม่ว่าจะเล่นหุ้นสไตล์ไหน ควรจัดการแบ่งหุ้นทั้ง 500 กว่าตัวในตลาดออกเป็นกลุ่มเป็นก้อนก่อน ประโยชน์ของการแบ่งกลุ่มมีมาก และทำให้การเล่นตามสไตล์ถนัดได้ถูกทิศทุกตัวด้วย
ตัวอย่างเช่น
1..แบ่งตามการใช้คำนวณดัชนี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้แบ่งให้เราแล้ว เช่น หุ้นในกลุ่ม set 50 ถือเป็นหุ้นมาตรฐาน(จะเล่นเก็งกำไรหรือลงทุนก็น่าสนใจ) หรือจะเป็นกลุ่ม SET 100 ตัวที่เกินออกจาก set 50 อีก 50 ตัว ก็ถือเป็นหุ้น มาตรฐานกลุ่ม 2 ถือว่าเล่นเก็งกำไรได้ดี ไม่ต้องพะวงมากนัก ยังน่าเชื่อถืออยู่ นอกนั้นถือเป็นหุ้นเก็งกำไรตามภาวะกาล คือวันใดมีคนปั่นก็เล่น ไม่มีคนปั่นก็มองข้ามสายตาไป
2..แบ่งตามสถิติที่ตัวเองเก็บมาได้ทุก ๆ เดือน ตามวิธีการถอยมองข้อ 4 สถิติที่ว่า อาจเป็นหุ้นที่นิยมซื้อขายมากในรอบเดือน หรือ ติดอันดับราคาสูง 30 ตัวแรก หรือวอลุ่มมาก 50 ตัวแรกของเดือน ฯลฯ (วิธีนี้มีประโยชน์ในทางเล่นเก็งกำไรดี เพราะทันกระแสตลาด)
3..แบ่งตามหลักปัจจัยพื้นฐาน เช่น peต่ำ หรือ อัตราส่วน bv ต่อราคาต่ำ หรืออัตราปันผลเทียบต่อราคาดี ฯลฯ
4..แบ่งตามค่าสวิงตัวของกราฟในรอบเดือน ตามเครื่องมือกราฟแต่ละอย่างที่ตนเองมั่นใจใช้ (วิธีนี้ต้องคนที่แม่นกราฟ เก่งเทคนิค) หรือจะแบ่งตามกรอบราคาก็ได้
5..แบ่งตามราคาปิด หรือ ราคาเฉลี่ยต่อปี ต่อเดือน ต่อสัปดาห์ ไว้ เพื่อการเก็งกำไรตามทุนที่ตนมีต่อจำนวนหุ้นที่จะซื้อได้ (เหมาะกับผู้มีทุนเล่นจำกัด และไม่ต้องการเพิ่มทุนเมื่อหลงทางตลาด)
การแบ่งกลุ่มเล่น สามารถผสมกันได้ เช่น เอาหุ้นจาก set 50 มาแบ่งตามข้อ 4 และข้อ 5 จะแยกแยะได้ดีขึ้น
การแบ่งกลุ่ม ทำให้เราสามารถเลือกหุ้นเล่นหรือเปลี่ยนตัวหุ้นเล่น หลังการขาย หรือหุ้นเปลี่ยนแนวโน้ม หรือถึงจุดอิ่มตัวราคา เมื่อมีการแบ่งกลุ่มทำให้การวางแผนเล่นเก็งกำไรไม่สะเปะสะปะ สามรถเปลี่ยนถ่ายเทหุ้นได้รวดเร็วเมื่อคราวจำเป็น ไม่ทำให้เสียโอกาส ฯลฯ
การจัดแบ่งกลุ่มเป็นเรื่องยาก ดังนั้นแนะนำว่าควรอาศัยคอมพิวเตอร์ช่วย หรือการมีโปรแกรมช่วย
ประโยชน์ของการแบ่งหุ้นไว้ก่อน คือ สามารถควบคุมการเล่นหุ้นเพื่อแสวงกำไรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ป้องการการเปลี่ยนตัวหุ้นเล่น เมื่อคราวจำเป็นไม่หลงทางตามอารมณ์ตนเองไป เมื่อยามฉุกเฉิน สามารถมีบัญชีกันลืมในการตรวจสอบการเปลี่ยนตัวเล่นได้ง่ายขึ้น เป็นต้น การแบ่งกลุ่มหุ้นไว้ก่อน ควรทำทุก 3 เดือน เป็นอย่างน้อย หรือหากตลาดผันผวนรุนแรง อาจต้องทำทุกเดือนด้วยซ้ำ มันเป็นเทคนิคเชิงกลยุทธอย่างหนึ่งในการเก็งกำไรหุ้น
บทความสั้นๆเก่าๆ ที่มีประโยชน์ ตามคำร้องขอของเพื่อนชาวหุ้น วันละบท
ไม่ว่าจะเล่นหุ้นสไตล์ไหน ควรจัดการแบ่งหุ้นทั้ง 500 กว่าตัวในตลาดออกเป็นกลุ่มเป็นก้อนก่อน ประโยชน์ของการแบ่งกลุ่มมีมาก และทำให้การเล่นตามสไตล์ถนัดได้ถูกทิศทุกตัวด้วย
ตัวอย่างเช่น
1..แบ่งตามการใช้คำนวณดัชนี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้แบ่งให้เราแล้ว เช่น หุ้นในกลุ่ม set 50 ถือเป็นหุ้นมาตรฐาน(จะเล่นเก็งกำไรหรือลงทุนก็น่าสนใจ) หรือจะเป็นกลุ่ม SET 100 ตัวที่เกินออกจาก set 50 อีก 50 ตัว ก็ถือเป็นหุ้น มาตรฐานกลุ่ม 2 ถือว่าเล่นเก็งกำไรได้ดี ไม่ต้องพะวงมากนัก ยังน่าเชื่อถืออยู่ นอกนั้นถือเป็นหุ้นเก็งกำไรตามภาวะกาล คือวันใดมีคนปั่นก็เล่น ไม่มีคนปั่นก็มองข้ามสายตาไป
2..แบ่งตามสถิติที่ตัวเองเก็บมาได้ทุก ๆ เดือน ตามวิธีการถอยมองข้อ 4 สถิติที่ว่า อาจเป็นหุ้นที่นิยมซื้อขายมากในรอบเดือน หรือ ติดอันดับราคาสูง 30 ตัวแรก หรือวอลุ่มมาก 50 ตัวแรกของเดือน ฯลฯ (วิธีนี้มีประโยชน์ในทางเล่นเก็งกำไรดี เพราะทันกระแสตลาด)
3..แบ่งตามหลักปัจจัยพื้นฐาน เช่น peต่ำ หรือ อัตราส่วน bv ต่อราคาต่ำ หรืออัตราปันผลเทียบต่อราคาดี ฯลฯ
4..แบ่งตามค่าสวิงตัวของกราฟในรอบเดือน ตามเครื่องมือกราฟแต่ละอย่างที่ตนเองมั่นใจใช้ (วิธีนี้ต้องคนที่แม่นกราฟ เก่งเทคนิค) หรือจะแบ่งตามกรอบราคาก็ได้
5..แบ่งตามราคาปิด หรือ ราคาเฉลี่ยต่อปี ต่อเดือน ต่อสัปดาห์ ไว้ เพื่อการเก็งกำไรตามทุนที่ตนมีต่อจำนวนหุ้นที่จะซื้อได้ (เหมาะกับผู้มีทุนเล่นจำกัด และไม่ต้องการเพิ่มทุนเมื่อหลงทางตลาด)
การแบ่งกลุ่มเล่น สามารถผสมกันได้ เช่น เอาหุ้นจาก set 50 มาแบ่งตามข้อ 4 และข้อ 5 จะแยกแยะได้ดีขึ้น
การแบ่งกลุ่ม ทำให้เราสามารถเลือกหุ้นเล่นหรือเปลี่ยนตัวหุ้นเล่น หลังการขาย หรือหุ้นเปลี่ยนแนวโน้ม หรือถึงจุดอิ่มตัวราคา เมื่อมีการแบ่งกลุ่มทำให้การวางแผนเล่นเก็งกำไรไม่สะเปะสะปะ สามรถเปลี่ยนถ่ายเทหุ้นได้รวดเร็วเมื่อคราวจำเป็น ไม่ทำให้เสียโอกาส ฯลฯ
การจัดแบ่งกลุ่มเป็นเรื่องยาก ดังนั้นแนะนำว่าควรอาศัยคอมพิวเตอร์ช่วย หรือการมีโปรแกรมช่วย
ประโยชน์ของการแบ่งหุ้นไว้ก่อน คือ สามารถควบคุมการเล่นหุ้นเพื่อแสวงกำไรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ป้องการการเปลี่ยนตัวหุ้นเล่น เมื่อคราวจำเป็นไม่หลงทางตามอารมณ์ตนเองไป เมื่อยามฉุกเฉิน สามารถมีบัญชีกันลืมในการตรวจสอบการเปลี่ยนตัวเล่นได้ง่ายขึ้น เป็นต้น การแบ่งกลุ่มหุ้นไว้ก่อน ควรทำทุก 3 เดือน เป็นอย่างน้อย หรือหากตลาดผันผวนรุนแรง อาจต้องทำทุกเดือนด้วยซ้ำ มันเป็นเทคนิคเชิงกลยุทธอย่างหนึ่งในการเก็งกำไรหุ้น